ตอนที่ 288 หลินฟาน ลงทุนให้โครงการนี้ (RE)

ระบบลงชื่อเข้าใช้ระดับพระเจ้า เริ่มต้นจาก 100 พันล้าน

ตอนที่ 288 หลินฟาน ลงทุนให้โครงการนี้ (RE)

หลินฟาน ยิ้ม แล้วพูดว่า“อืม.. มันน่าจะเกินสามปีแล้วครับ”

เมื่อสามปีที่แล้ว หลินฟาน และซูจินจินถูกหญิงชราซูบังคับให้แยกจากกันซูจินจินถูกส่งไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตั้งแต่นั้นมาหลินฟานไม่เคยกลับมาที่ร้านนี้อีกเลยเขาพยายามที่จะหลีกเลี่ยงกับสถานที่ที่เขาเคยไปด้วยกันกับซูจินจินเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจ็บ

แน่นอนว่า เจ้าของร้านไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขา และคิดว่าพวกเขายังอยู่ด้วยกันตลอดเวลาที่ผ่านมา

เจ้าของร้าน ยิ้มแล้วพูดว่า “ฉันไม่คิดว่าฉันจะได้เจอกับพวกเธออีก พวกเธอควรที่จะแต่งงานกันแล้ว ใช่ไหม?”

ซู จินจิน หน้าแดง ถ้าเธอแต่งงานกับหลินฟานก็คงจะดีแต่น่าเสียดายที่ไม่ใช่ “ไม่คะ!” ซูจินจินปฏิเสธ

เจ้าของร้านยิ้มแล้วพูดว่า“อย่างที่ป้าเพิ่งพูดไปมันถึงเวลาที่พวกเธอจะต้องแต่งงานและมีลูกได้แล้วในสายตาของป้าพวกเธอทั้งสองคนเป็นคู่ที่เหมาะสมกันอย่างมากและพวกเธอก็อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปีแล้วป้าก็แค่เห็นว่าพวกเธอก็ยังคงรักกันดี

ใบหน้าของ ซู จินจิน กลายเป็นสีแดงมากขึ้น แต่ภายในหัวใจของเธอกับหวานขึ้นอย่างมากป้าเจ้าของร้านพูดเก่งเกินไปเธอบอกว่าเธอกับหลินฟานเหมาะสมกัน…

หลินฟาน หัวเราะ แต่ไม่ได้ชี้แจงอะไร

เรื่องระหว่างพวกเขาไม่จําเป็นต้องอธิบายให้ ป้าเจ้าของร้านรู้

หลินฟาน ก้มลงกัดไข่เจียวและจงใจที่จะเปลี่ยนเรื่อง:“คุณป้าไข่เจียวที่คุณทํายังคงอร่อยเหมือนเดิมก่อนหน้านี้เมื่อคุณเห็นว่าผมไม่มีเงินคุณมักจะปฏิเสธเงินค่าไข่เจียวของผมต่อมาผมรู้สึกอาย เลยจงใจที่จะไม่สั่งไข่เจียวแต่คุณก็ยังจะให้ผมอยู่”

ป้าเจ้าของร้านเป็นคนดีจริง ๆ และหลินฟานไม่เคยลืมที่ป้าเคยให้ไข่เจียวกับเขามาเสมอ

ป้าเจ้าของร้านยิ้มแล้วพูดว่า“ป้าแค่คิดว่าเธอนะผอมเกิดไปแล้ว ป้าก็แค่สงสารเธอนะ”ทั้งสามอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

ป้าเจ้าของร้านพูดว่า “ใช่แล้วว่าแต่ทําไมจู่ๆพวกเธอถึงได้กลับมาที่นี่กัน?”

ซู จินจิน กล่าวว่า “บังเอิญว่าพวกเราอยู่ใกล้ ๆ และทันใดนั้น หนูก็นึกขึ้นมาได้ว่าพวกเราไม่ได้มากินที่นี่ตั้งนานแล้ว พวกเราเลยคิดจะมาทานอาหารที่นี่ถ้ามีเวลาว่างในอนาคตพวกเราก็จะมาทานที่นี่ บ่อยๆค่ะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของป้าเจ้าของร้านก็มืดลง “ฉันเกรงว่า…..จะไม่มีโอกาสอีกแล้วในอนาคต”

หลินฟาน และซู จินจิน อยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย

“คุณป้าคะ คุณป้าจะไม่ขายต่ออีกแล้วเหรอ” ซู จินจิน ถาม

ป้าเจ้าของร้าน กล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าป้าไม่อยากขายต่อแต่เป็นเพราะป้าได้ยินมาว่าตึกนี้จะถูกรื้อถอนในเร็วๆนี้และในตอนนี้ธุรกิจเล็กๆนี้ มันยากที่จะทําต่อป้ายังคงยืนกรานนะเพราะค่าเช่าของที่นี่ถูกแต่ถ้ามันถูกรื้อถอนไปจริงๆป้าคงไม่คิดที่จะเปิดร้านอีกแล้วตอนนี้ป้ามีความคิดที่จะย้ายกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัดนะ”

หลินฟาน ถอนหายใจ : “ไม่จริงน่า ตึกนี้กําลังจะถูกรื้อถอน”

ป้าเจ้าของร้าน กล่าวว่า : “ป๋าเองก็ได้ยินมาแบบนั้น แต่ป้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”

ซู จินจิน กล่าวอย่างเสียใจว่า : “ตึกนี้ก็ยังดีอยู่ ทําไมต้องถูกรื้อถอน? ถ้าฉันหวนคิดถึงมันอีก ครั้ง มันคงเป็นไปไม่ได้ อีกแล้ว”

ป้าเจ้าของร้านพูดขึ้นว่า:“ก็ยังโชคดีที่พวกเธอมาที่นี่ในคืนนี้ถ้าพวกเธอมาช้าสักหนึ่งเดือนให้หลังป้าเกรงว่าที่นี่จะถูกรื้อถอนไปแล้ว”

ในขณะที่พวกเขากําลังพูดคุยกันอยู่

ทันใดนั้น เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็วิ่งเข้ามาจากข้างนอก

“ไม่ดีแล้ว แม่คะ มีบางอย่างเกิดขึ้น!”

เด็กหญิงตัวน้อยดูกังวล ขณะพูดกับ ป้าเจ้าของร้าน

ป้าเจ้าของร้าน กล่าวว่า “ลูกพูดอะไรเกิดอะไรขึ้น?”

เด็กหญิงตัวน้อยพูดว่า “คือพ่อ รถของพ่อพลิกคว่ำ!”

ป้าเจ้าของร้านดูตกใจ และรีบพูดว่า “ขอโทษนะป้าต้องรีบไปดูก่อน”

หลินฟาน ลุกขึ้นยืน : “คุณป้าครับ เดี๋ยวพวกเราขอไปดูด้วยเผื่อว่าเราสามารถช่วยอะไรได้”ดังนั้นทุกคนจึงออกจากร้านไปที่ถนน
บนถนน

เห็นรถสามล้อที่พลิกคว่ำบนพื้นถนนส่วนผสมที่ถูกทิ้งกระจุยกระจายกับพื้นถนน

เฟิง เทียนหมิง ก้าวร้าว ขอให้คนขับรถสามล้อคุกเข่าขอโทษไม่เช่นนั้นเขาจะต้องจ่ายให้เฟิงเทียนหมิง 100,000 หยวน

คนขับรถสามล้อไม่เต็มใจที่จะคุกเข่ามันเป็นการดูถูกแต่เขาก็ไม่มีปัญญาที่จะจ่ายเงินได้มากถึงขนาดนั้น

“แกยังลังเลอะไรอยู่ รีบคุกเข่าขอโทษแล้วรีบย้ายรถเก่าๆ ของแกออกไปเราจะได้ออกไปจากที่นี่เสียที!”เฟิงเทียนหมิงพูดอย่างหมดความอดทน

ในรถ เฟิง ว่านซาน ไม่ได้หยุด เฟิง เทียนหมิง เฟิง ว่านซาน กําลังพิจารณาว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้และเขาจะดูว่าเฟิงเทียนหมิง สามารถจัดการกับปัญหาตรงหน้าได้หรือไม่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้คงเพื่อที่จะไม่ให้เกิดการรื้อถอนถึงกลับกล้ายั่วยุครอบครัวเฟิง ของพวกเขา นี่ไม่ใช้ครั้งแรกที่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้

ในมุมมองของเฟิงว่านซานพวกคนเหล่านี้เป็นเพียงแค่มดสําหรับเขา

คนขับรถสามล้อตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเขากัดฟันในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะคุกเข่าให้เฟิงเทียนหมิง

การคุกเข่าเพื่อแลกกับ 100,000 หยวนแม้ว่ามันจะน่าอับอาย แต่มันก็คุ้มค่าที่จะแลก

ก่อนที่คนขับรถสามล้อจะคุกเข่าลง

ทันใดนั้น มีมือใหญ่ได้ยื่นออกมาจากด้านข้างเขาพยุงข้อศอกของคนขับรถสามล้อและพยุงคนขับรถสามล้อให้ลุกขึ้น

“ทําไมต้องคุกเข่าให้เขาคุณไม่ได้ทําอะไรผิด”

เสียงที่ราวกับสายลมที่บางเบาเอ่ยขึ้น

หลิน ฟาน!

ทันใดนั้น สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หลินฟาน

ทุกคนที่อยู่ที่นี่เพราะกลัวครอบครัวเฟิงเลยไม่มีใครกล้าออกไป แม้ว่าพวกเขาจะไม่พอใจที่เฟิงเทียนหมิงหยิ่งผยองแต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะเข้ามาพูดเพื่อช่วยเหลือคนขับรถสามล้อแต่หลินฟาน กลับยืนขึ้นจริงๆ ซึ่งดึงดูดความสนใจของทุกคน

เมื่อทุกคนเห็นว่าหลินฟานสวมใส่เสื้อผ้าธรรมดาๆไปทั่วและเขาก็ยังเป็นคนจนแต่เขากลับกล้าต่อสู้กับครอบครัวเฟิงพวกเขาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมหลินฟาน มากเด็กหนุ่มคนนี่ช่างกล้าหาญจริงๆ

และแม้ว่าเด็กหนุ่มจะใส่เสื้อผ้าเก่าๆ โทรมๆ แต่เขาก็ยังดูหล่อมาก!

คนขับรถสามล้อดูประหลาดใจที่เห็นหลินฟานและได้เห็นซูจินจินที่อยู่ด้านหลังหลินฟานทั่งเจ้าของร้านและเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ

คนขับรถสามล้อเป็นสามีของป้าเจ้าของร้านเป็นพ่อของเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ และเป็นเจ้าของซาเซียน!

วันนี้ เขาเพิ่งกลับมาจากซื้อเครื่องปรุง และกําลังขับรถอยู่ จู่ๆ ก็มีเด็กคนหนึ่งวิ่งเล่นอยู่บนถนนข้างหน้าเขาเขารีบหักหลบอย่างรวดเร็วและเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆที่เขาเกือบจะชนกับรถ Bentley อีกครั้ง

ค่าใช้จ่ายในการบํารุงรักษารถหรูทําให้เขาเลือกที่จะพลิกรถของเขาเอง

แต่สิ่งที่เขาไม่ได้คาดหวังก็คือ ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ชนรถ Bentley แต่เขากลับยังคงถูกเฟิงเทียนหมิง จับอยู่

เมื่อ เฟิง เทียนหมิงเห็นหลินฟานเขาก็โพล่งออกมา“น้องแกสิ ทําไมฉันถึงต้องมาพบเจอ
กับแกทุกที่ด้วยฮะ!”

ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันต้องมาเจอกับหลินฟานที่นี่อีกครั้ง!

ไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเขามีปัญหากับหลินฟานในโรงภาพยนตร์และสุดท้ายเพราะหลินฟานเป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์ทําให้เขาพ่ายแพ้และต้องเดินจากไปอย่างสิ้นหวัง

นี่มันเป็นการพบกันของศัตรูบนทางแคบเสียจริงและมันเกิดอะไรขึ้นกับฉันในครั้งนี้ทําไมฉันถึงต้องมาเจอกับพวกเขาอีกครั้ง..

หลินฟาน หัวเราะแล้วกล่าวว่า“ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าทําไมฉันถึงต้องมาเจอกับคุณทุกที่แต่แล้วทําไมคุณถึงขับรถ Bentley มาที่นี่กัน?”

เฟิงเทียนหมิงหัวเราะแล้วพูดว่า“คุณไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหมล่ะถนนเส้นนี้รวมทั้งตึกทั้งหมดนี้เป็นของครอบครัวเฟิงของฉันฉันก็แค่มาที่นี่เพื่อตรวจสอบมันก็เท่านั้น..”

หลินฟาน ขมวดคิ้ว“คุณต้องการรื้อถอนทําลายสถานที่..แห่งนี้?”

เฟิง เทียนหมิง กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า : “ถูกต้อง!หลินฟานวันนี้ฉันได้พ่ายแพ้ให้แกในโรงภาพยนตร์เพราะโรงภาพยนตร์มันเป็นของแกแต่ตอนนี้เมื่อแกก้าวเข้ามาในอาณาเขตของฉันฮ่าฮ่า.. มันเป็นตาของแกแล้วออกไปซะหรือแกต้องการให้ฉันแสดงอะไรให้เห็น หรือจะออกไป
จากที่นี่แต่โดยดีเพราะว่ามันเป็นที่ของฉัน..”

เฟิงเทียนหมิงเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงภาพยนตร์ และสาบานว่าจะต่อสู้กับ

หลินฟาน

โอกาสมาถึงเร็วโดยไม่คาดคิดเมื่อหลินฟานก้าวเข้ามาในอาณาเขตของฉัน และในที่สุดก็ถึงคราวของฉันเสียที

เขาต้องการที่จะทําให้หลินฟานอับอายอย่างรุนแรงต่อหน้าผู้คนมากมาย

ในอาณาเขตของฉันไม่ใช่คราวของหลินฟานที่จะพูด!

แต่ในขณะเดียวกันโทรศัพท์ของหลินฟานก็ดังขึ้น

หลินฟาน หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเห็นว่าเป็นเฮอเฉินที่โทรมาหาเขา

ตอนเที่ยงของวันนี้หลินพยายามเกลี้ยกล่อม เฮอเฉิน ให้เข้าร่วมกับบริษัทของเขาและทิ้งเบอร์ติดต่อของเขาไว้กับเฮอเฉินหากเขาคิดหรือตัดสินใจได้แล้วให้โทรกลับมาหาเขาได้ตลอดเวลาดังนั้นเขาจึงโทรเข้ามาในตอนนี้

สายที่โทรเข้ามานี้มีความสําคัญอย่างมากและหลินฟานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับสาย

“คุณหลิน คุณต้องการที่จะสร้างจรวดจริง ๆ?” อีกด้านหนึ่งเฮอเฉิน ได้ถามคําถามออกมาอย่างเอาจริงเอาจัง

หลินฟาน ยิ้ม แล้วพูดว่า “ใช่ ผมสัญญาว่า ผมจะไม่ทําให้ คุณเฮอ ผิดหวัง”

เฮอเฉิน เงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ตกลง ฉันจะเข้าร่วมกับคุณ”

หลินฟาน มีความสุขมาก : “เยี่ยมมาก คุณเหอ แล้วผมจะโทรหาคุณและขอนัดพบกับคุณอีกครั้ง”

การโทรสิ้นสุดลง

ทันใดนั้น เสียงของระบบก็ดังขึ้นในใจของเขา
“ตึงง!”

“ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ คุณสําเร็จภารกิจปราบอัจฉริยะด้านจรวด เฮอเฉิน แล้ว!”
“ติ้ง!”

“ทําภารกิจสําเร็จ โฮสต์จะได้รับรางวัลเป็นที่ดินของถนนสายนี้ทั้งหมด บนถนนที่โฮสต์ยืนอยู่ ในขณะนี้เป็นของโฮสต์แล้ว โปรดใส่ใจกับการตรวจสอบ”

อะไรนะ?

หลินฟาน ทั้งประหลาดใจและยินดี รางวัลของระบบในครั้งนี้ ค่อนข้างทรงพลัง!

หลินฟาน เงยหน้าขึ้นมอง เฟิง เทียนหมิง ผู้หยิ่งผยอง และยิ้มออกมาเล็กน้อย “คุณบอกว่าถนนสายนี้เป็นของครอบครัวเฟิง ของคุณ? แต่ผมกลับไม่คิดอย่างนั้นตอนนี้ผมกําลังจะประกาศว่า ผม หลินฟาน ผมได้ลงทุนในโครงการนี้”

อะไรกัน?

นี่มันไม่ใช่คําพูดสุดคลาสสิกในภาพยนตร์เรื่อง “The Richest Man in Xihong City (PHAIrj

)” ไม่ใช่เหรอ!

ฉัน หวัง โต๋วหยู ฉันได้ลงทุนให้กับโครงการนี้

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนที่อยู่ในที่นี่ ถึงกับ ตกตะลึง