“สมบัตินี้คืออะไรกัน ไม่คาดคิดว่าจะสามารถยับยั้งแกนพลังฉีของข้าและคนอื่นๆได้?!”

เฟิงซานและผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติคนอื่นๆต่างก็สะดุ้งตกใจ ดวงตากระพริบอย่างสับสน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบเจอกับสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ที่ลึกลับเช่นนี้ ทำให้แกนพลังฉีของพวกเขาตกลงมาอยู่ในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว

“เป็นสมบัติที่ดี”

เฉียนซานเลียริมฝีปากของตนเอง ดวงตาเผยให้เห็นถึงความโหดเหี้ยม “เป็นเพียงแค่สิ่งประดิษฐ์สมบัติขั้นสุดยอด แม้แต่วิญญาณของสิ่งประดิษฐ์ก็ไม่มีด้วยซ้ำ ไม่คาดคิดว่าจะสามารถสร้างสนามพลังฉีที่ยับยั้งระดับให้เท่าเทียมได้ ช่างเป็นสมบัติที่ลึกลับและมีศักยภาพที่ไร้จุดสิ้นสุดจริงๆ”

“หากทำการปลูกฝังวิญญาณ บางทีอาจจะสามารถพัฒนากลายเป็นสิ่งประดิษฐ์วิญญาณได้ อีกทั้งยังอาจจะพัฒนาไปถึงระดับสิ่งประดิษฐ์วิญญาณขั้นสูงเช่นกัน”

เขามองสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์ของเซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่ละโมบ หากครั้งนี้ได้สังหารเซี่ยปิง จากนั้นสมบัติที่เซี่ยปิงได้จากการประมูลทั้งหมดก็จะตกมาอยู่ในมือของเขาเช่นกัน เขาจะทำการปล้นชิงมันไปทั้งหมด

นอกจากนี้เขาก็สามารถที่จะครอบครองสิ่งประดิษฐ์เวทมนตร์จำนวนมากของเจ้าเด็กนี่ เพราะว่าท้ายที่สุดแล้วฝ่ายตรงข้ามก็เป็นผู้ที่มีต้นกำเนิดมาจากตระกูลที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน จะต้องพกพาสมบัติมาเป็นจำนวนมาก

ทว่าอีกไม่นานสิ่งเหล่านี้ก็จะตกเป็นของเขาเฉียนซาน

“แม้ว่าสมบัติชิ้นนี้จะดูลึกลับและมีปริศนา สามารถที่จะยับยั้งแกนพลังฉีของข้าและคนอื่นๆได้ ทว่าท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นเพียงแค่สิ่งประดิษฐ์สมบัติขั้นสุดยอด ไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์วิญญาณ ไม่ได้มีพลังอำนาจที่มากนัก อย่างมากก็คงจะยับยั้งพลังอำนาจของพวกเราได้เพียงแค่15นาทีเท่านั้น”

เฉียนซานมองไปที่เซี่ยปิงด้วยสีหน้าที่เหยียดหยาม “ด้วยช่วงเวลาเพียงแค่15นาทีนั้น เจ้าต้องการที่จะหลบหนีขึ้นสวรรค์อย่างนั้นหรือ? นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ รีบมัดมือมัดเท้าและยอมจำนนซะโดยดี เจ้าไม่มีทางรอดออกไปได้”

เขาไม่ได้สนใจถึงลูกไม้เล็กๆที่เซี่ยปิงได้เผยออกมา

ลูกน้องคนอื่นๆของตระกูลเฉียนรวมถึงผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน ต่อให้จะยับยั้งพลังอำนาจของพวกเขาได้ในระดับหนึ่ง ทว่าพวกเขาก็มีความได้เปรียบในด้านจำนวน สามารถที่จะสังหารเจ้าเด็กนี่ได้อย่างง่ายดาย

อย่าพูดถึงการที่พวกเขานั้นได้ทำการบ่มเพาะมานานหลายร้อยหลายพันปี มีประสบการณ์การต่อสู้และการฆ่าฟันนับไม่ถ้วน ต่อให้พลังอำนาจของตนเองจะตกลงมาในระดับนี้ พวกเขาก็ยังคงสามารถที่จะสังหารคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย

เรียกได้ว่าการกระทำของเจ้าเด็กนี่นั้นเป็นการกระทำที่เปล่าประโยชน์

“หลบหนีขึ้นสวรรค์? ไม่จำเป็น เพราะว่าวันนี้เจ้าจะต้องตายอยู่ที่นี่”

ออร่าที่ยิ่งใหญ่ได้แผ่ออกมาจากร่างกายของเซี่ยปิง ข้างหลังของเขามีนกศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน นั่นก็คืออีกานรกทองคำ มันได้ข้ามผ่านท้องฟ้าออกไป แสงสีทองได้ส่องสว่างออกไปรอบๆ ส่องสว่างเจิดจ้าออกไป เจาะทะลวงห้วงมิติ

ลูกน้องของตระกูลเฉียนเหล่านี้ก็รู้สึกว่าร่างกายของตนเองกำลังแบกภูเขาไว้บนหลังอย่างกะทันหัน เป็นเหมือนกับว่าซุนหงอคงที่ใช้พลังอำนาจห้านิ้วกำราบภูเขา เกือบที่จะถูกกดลงไปจนนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น

แม้แต่ที่พื้นเองก็ไม่สามารถที่จะรับมือกับแรงโน้มถ่วงที่น่าสะพรึงกลัวนี้ได้ ทันใดนั้นก็แตกออกมา ปรากฏเป็นรอยแตกร้าวจำนวนมากและลุกลามออกไปหลายกิโลเมตร ส่งเสียงดังออกมา คาช่า คาช่า

อะไรกัน?!

ปัง เฉียนซานคุกเข่าอยู่ที่พื้น ความกดดันมหาศาลกดทับร่างกาย กระดูกแต่ละชิ้นแตกหักและปรากฏเป็นรอยแตกร้าว ความเจ็บปวดลวดร้าวลามไปทั่วทั้งร่างกาย

เขามีอาการแตกตื่นอย่างมาก ต้องรู้ด้วยว่าเขาเฉียนซานนั้นเป็นถึงผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ เป็นผู้สืบทอดโดยตรงของตระกูลเฉียนและเป็นผู้ที่บ่มเพาะทักษะระดับเซนต์ อีกทั้งยังได้กินสมุนไพรวิญญาณที่ล้ำค่าเป็นประจำ มีพรสวรรค์ที่โดดเด่นอย่างมาก

ต่อให้จะไม่กล้าพูดว่าพลังการต่อสู้ของเขาอยู่ในจุดที่ไร้เทียมทานสำหรับผู้บ่มเพาะในระดับเดียวกัน ทว่าเขาก็ยังคงถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่เอาชนะได้ยาก

ทว่าเมื่อเผชิญกับความกดดันนี้ ไม่คาดคิดว่าเขาจะไม่สามารถต้านทานได้ ถูกกดทับจนทรุดลงไปกับพื้น คุกเข่าต่อหน้าเจ้าเด็กนี่ เหมือนกับเป็นการคุกเข่าบูชาบรรพบุรุษก็ว่าได้ เป็นความอัปยศอดสูครั้งยิ่งใหญ่

“สังหารเขาซะ สังหารเจ้าเด็กนี่ทันที ฉีกร่างกายของเขาให้เป็นพันๆชิ้น!”

เฉียนซานคำรามออกมา ในตอนนี้เขาไม่คิดที่จะให้เจ้าเด็กนี่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป จะต้องสังหารให้สิ้นซาก ลบล้างความโกรธแค้นข้างในหัวใจของตนเองทันที

“ตายซะ!”

ได้ยินเช่นนี้ เฟิงซานผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติก็เคลื่อนไหวในทันที เพราะว่าเขานั้นก็รู้สึกได้ถึงภัยอันตรายที่ยิ่งใหญ่ที่ถ่ายทอดออกมาจากร่างกายของเซี่ยปิง เหมือนกับว่าหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

เขาได้ยกสิ่งประดิษฐ์วิญญาณขั้นต่ำดาบเลเซอร์แห่งความมืดขึ้นมา จากนั้นก็ฟันออกไปสู่เซี่ยปิง

ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ ทักษะคมมีดพันชั้น!

ภายในพริบตา ดาบพลังฉีสีดำจำนวนมากก็ปะทุออกมาจากเฟิงซาน มันทับซ้อนกันจนกลายเป็นตาข่ายที่ไม่สามารถหลบหนีได้ ครอบคลุมร่างของเซี่ยปิงอย่างกะทันหันและหดตัวไปข้างในอย่างรวดเร็ว

เมื่อใดที่ตาข่ายนี้หดตัวจนสมบูรณ์นั้น เซี่ยปิงที่อยู่ภายในจุดศูนย์กลางของมันก็จะต้องถูกตัดกลายเป็นชิ้นๆจำนวนนับไม่ถ้วนอย่างแน่นอน

ครั้งหนึ่งในอดีตเฟิงซานได้ใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์คมมีดพันชั้นออกมา ซึ่งเพียงแค่กระบวนท่านี้กระบวนท่าเดียวเท่านั้น มันก็ครอบคลุมเมืองขนาดเล็กที่มีประชากรนับแสนคนทันที ฆ่าล้างผู้คนทั้งเมืองอย่างกะทันหัน แม้แต่หมูหมากาไก่ก็ไม่มีเหลือ

อย่างไรก็ตาม กระบวนท่านี้สำหรับเซี่ยปิงนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ต้องคำนึงถึง

เซี่ยปิงประเคนหมัดออกมาทันที ส่งเสียงร้องเหมือนกับอีกานรกทองคำ หมัดที่ถูกประเคนหมัดออกไปเหมือนกับว่าออกมาจากส่วนลึกของขุมนรก มีเปลวไฟที่แผดเผาอย่างร้อนระอุ จะต้องแผดเผาทุกสรรพสิ่งในโลกนี้จนหมดจด

ตึบ!

เพียงแค่การโจมตีนี้ ตาข่ายก็แตกกระจายไปอย่างกะทันหัน ถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านโดยเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัว อีกทั้งพลังหมัดนี้ก็ได้ถ่ายทอดไปสู่เฟิงซานเช่นกัน

“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน? ทำไมถึงมีพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวจนถึงขั้นนี้?!”

เดิมทีเฟิงซานนั้นก็มีความคิดที่ดูถูกเหยียดหยามเซี่ยปิง คิดว่าเพียงแค่กระบวนท่าเดียวนั้น ก็สามารถที่จะตัดเจ้าทายาทของตระกูลที่ยิ่งใหญ่นี่ให้กลายเป็นชิ้นๆได้ สังหารได้อย่างกะทันหัน

ทว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้กลับเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเกินไป ฝ่ายตรงข้ามเพียงแค่ประเคนหมัดออกมาหมัดเดียวก็สามารถที่จะเอาชนะความสามารถศักดิ์สิทธิ์คมมีดพันชั้นของเขาได้ อีกทั้งพลังหมัดก็ได้เจาะทะลวงผ่านเข้ามา มาถึงที่ร่างกายของเขาโดยตรง

ปัง!

ทันใดนั้นเฟิงซานก็ไม่สามารถที่จะต้านทานหมดนี้ได้ พลังหมัดได้อัดเข้าไปที่หน้าอกของเขาอย่างจัง แม้ว่าเขาจะเป็นผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติ พลังเวทมนตร์ผสมผสานเข้ากับพลังอำนาจของสวรรค์และโลก พลังชีวิตทรหดอย่างถึงที่สุด

ทว่าหมัดนี้เพียงหมัดเดียวก็ยังคงทำให้เขาแตกตื่นอย่างมาก เพราะว่ามันมีพลังอำนาจของเปลวไฟแห่งสวรรค์ ลุกลามเข้าไปสู่ส่วนลึกของหัวใจ ทันใดนั้นก็ได้แผดเผาและทำลายล้างทุกอย่าง ใช้พลังเวทมนตร์ในร่างกายของเขาเป็นเชื้อเพลิง เผาไหม้ทั่วทั้งร่าง

“อ๊ากก!!!”

เฟิงซานอดที่จะส่งเสียงร้องตะโกนออกมาอย่างน่าสมเพชไม่ได้ เขาไม่เคยรู้สึกถึงความเจ็บปวดเช่นนี้มาก่อน ร่างกายของเขาเป็นเหมือนกับถังน้ำมันที่ถูกจุดไฟก็ว่าได้ ผิวหนัง กล้ามเนื้อและส่วนอื่นๆของร่างกายต่างก็ถูกเปลวไฟนี้แผดเผา

ภายในหนึ่งลมหายใจ ทั่วทั้งร่างกายของเขาก็มีไฟลุกท่วม ล้มลงไปและกระตุกอย่างต่อเนื่อง แต่เพราะว่ามีพลังชีวิตที่ทรงอำนาจของระดับหล่อหลอมสมบัติอยู่นั้น เขาจึงสามารถที่จะยื้อชีวิตของตนเองได้เป็นระยะเวลาชั่วครู่หนึ่ง

ทว่าต่อให้จะไม่ตายเป็นการชั่วคราว ก็ไม่สามารถที่จะกลับมีชีวิตได้อีกเช่นกัน ความเจ็บปวดเช่นนี้เป็นเหมือนกับการตายทั้งเป็น

“ข้าขอสาปแช่งเจ้า ข้าขอสาปแช่งเจ้า อ๊าก!”

เฟิงซานคำรามออกสู่ท้องฟ้าและรู้สึกผิดอย่างถึงที่สุด หากก่อนหน้านี้เขารีบเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ให้โอกาสเซี่ยปิงได้ใช้เสาจองจำมังกรนั้น ด้วยพลังอำนาจในระดับหล่อหลอมสมบัติของเขา ก็สามารถที่จะสังหารเจ้าลูกเศรษฐีนี่ได้เหมือนกับการเชือดไก่

ทว่าเมื่อมีเสาจองจำมังกรยับยั้งแกนพลังฉีของเขานั้น เขาก็ไม่มีทางที่จะแสดงพลังอำนาจทั้งหมดออกมาได้ หลงเหลือพลังอำนาจในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์เพียงเท่านั้น

ในที่สุดก็เห็นได้ชัดว่าเขานั้นกลายเป็นซากศพที่ไหม้เกรียมโดยเซี่ยปิง ได้เพียงแค่ส่งเสียงตะโกนออกมาก่อนตายเท่านั้น

ไม่ว่าเขาจะเกลียดชังแค่ไหนและไม่ว่าเขาจะไม่เต็มใจแค่ไหน ก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนผลลัพธ์ความตายของตนเองได้

“พี่เฟิงซาน!”

ผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติอีกสองคนก็กรีดร้องออกมา พวกเขาไม่คาดคิดว่าการโจมตีเพียงครั้งเดียวจะส่งเฟิงซานไปอีกโลกหนึ่ง ถูกแผดเผาไปจนตาย

“บัดซบ เจ้าทำอะไรกับพี่เฟิงซาน ไม่คาดคิดว่าจะกล้าสังหารพี่เฟิงซานเช่นนี้ เชื่อเถอะว่าพวกเราจะฆ่าล้างบรรพบุรุษทั้งเก้าชั่วโคตรของเจ้า พ่อแม่ของเจ้า เพื่อนและครอบครัวทั้งหมด พวกเราจะสังหารให้หมดสิ้น สังหารไปจนถึงคนสุดท้าย!” ผู้บ่มเพาะในระดับหล่อหลอมสมบัติคนนั้นได้ทำการข่มขู่อย่างโหดร้าย ต้องการที่จะฆ่าล้างบรรพบุรุษทั้งเก้าชั่วโคตรของเซี่ยปิง สังหารพวกพ้องและครอบครัวทั้งหมด

“ไม่ต้องเสียเวลาทำเช่นนั้น เพราะว่าพวกเจ้าทั้งหมดจะต้องตาย”

ได้ยินเช่นนี้ จิตสังหารของเซี่ยปิงก็แผ่ออกมาอย่างรุนแรง เขาได้ไหลเวียนทักษะจักรพรรดิพงไพรออกมา ข้างหลังของเขามีภาพเงาของต้นไม้ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา นี่คือต้นไม้โลก รากขุกลงไปในความว่างเปล่า ท้องฟ้าอยู่เหนือศีรษะ เท้ายึดมั่นอยู่ที่พื้น เหมือนกับว่าจะยกจักรวาลขึ้นมา