เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1157 กวาดล้าง

แปลโดย iPAT

อีกฝ่ายมองมาที่ฟางหยวน ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล เส้นผมยุ่งเหยิงและแสดงออกด้วยความรู้สึกที่โศกเศร้า

ความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นในใจของฟางหยวน ‘ติงฉี’

หลายวันก่อนผู้อมตะฮวาตี้เตือนฟางหยวนเกี่ยวกับปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดติงฉีที่มายังทะเลไหลเชี่ยว ติงเยี่ยนเป็นน้องชายของเขาที่ตายด้วยน้ำมือของหลิวชิงหยู

เมื่อฟางหยวนเห็นคนผู้นี้ เขาจึงสามารถคาดเดาได้โดยธรรมชาติ

จากนั้นผู้อมตะอีกกลุ่มก็พุ่งตามเข้ามาในฟองอากาศใบนี้

มีสองคนที่ฟางหยวนคุ้นหน้า

หนึ่งคือถังซ่ง อีกหนึ่งคือเจาลี่

ถังซ่งตะโกน “ติงฉี เจ้าพยายามไปที่ใด? หนึ่งปีหลังจากนี้จะเป็นวันครบรอบการตายของเจ้า! น่าเสียดายที่น้องชายของเจ้าตายไปแล้ว ไม่มีผู้ใดส่งเครื่องเซ่นไหว้ให้เจ้า ฮ่าฮ่าฮ่า”

ติงฉีราวกับไม่ได้ยินสิ่งใด เขามองฟางหยวนและกัดฟันแน่น “มันคือเจ้า! เจ้าพึ่งได้รับมรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูลที่น้องชายข้าพยายามค้นหา ดังนั้นเจ้าก็เป็นฆาตกรที่ฆ่าน้องชายของข้า!”

“อันใด!?” ผู้อมตะที่ติดตามติงฉีมาหันหน้าไปทางฟางหยวนด้วยความประหลาดใจ

ฟางหยวนยิ้ม “น่าสนใจ เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าได้รับมรดก”

ติงฉีเผยรอยยิ้มเย็นชา “เพราะข้ามีวิญญาณอมตะร่องรอยโลหิต”

หลังกล่าวจบคำ เขากระตุ้นใช้วิญญาณอมตะดวงนี้ทันที

แสงสีเลือดส่องประกายขึ้นบนเกาะและแสดงภาพที่ฟางหยวนรับสืบทอดมรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูล

เจาลี่และถังซ่งกรีดร้องด้วยความโกรธ “เขาขโมยมรดกของเรา!”

“เจ้าคือผู้ใด?”

“มอบมรดกมา!”

ฟางหยวนยิ้มกว้าง เขาไม่สนใจผู้อมตะทั้งสองแต่มองไปที่ติงฉีด้วยความอยากรู้อยากเห็น “วิญญาณอมตะร่องรอยโลหิต นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินชื่อนี้”

“นี่เป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดที่ข้ากับน้องชายสร้างขึ้น นอกจากนี้เรายังสร้างวิญญาณอมตะคำสาบานเลือดอีกด้วย!” ติงฉีกล่าวด้วยความโกรธและโศกเศร้า

เจาลี่ ถังซ่ง และผู้อมตะคนอื่นๆโกรธมากเช่นกัน

หลิวชิงหยูรวบรวมผู้คนและเดินทางมายังทะเลไหลเชี่ยว เรื่องนี้ทำให้ติงฉีปรากฏตัวขึ้น

ข้อมูลนี้หลุดออกไปทำให้เจาลี่และถังซ่งรวบรวมกลุ่มผู้อมตะเดินทางมาที่นี่ แรกเริ่มพวกเขาสงสัยว่าหลิวชิงหยูได้รับเบาะแสเกี่ยวกับมรดกบนเส้นทางแห่งข้อมูล

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเดินทางมาที่นี่แต่สุดท้ายกลับพบติงฉี

ติงฉีมาที่นี่นานแล้วและใช้วิญญาณอมตะร่องรอยโลหิตเพื่อเตรียมการบางอย่าง

สองฝ่ายต่อสู้กันแต่ติงฉีเพียงผู้เดียวไม่สามารถต่อสู้กับศัตรูจำนวนมาก เขาต้องหลบหนีพร้อมกับต่อสู้ ระหว่างนั้นฟางหยวนเข้ามาและรับมรดก ติงฉีรู้สึกถึงบางสิ่งและรีบวิ่งมาที่นี่โดยไม่สนใจสิ่งใด

‘วิญญาณอมตะร่องรอยโลหิต น่าสนใจ’ ฟางหยวนมองติงฉีด้วยคยวามชื่นชนและถอนหายใจ ‘อัจฉริยะมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง พวกเขามีพรสวรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง’

พี่น้องคู่นี้ได้ค้นคว้าและสร้างวิญญาณอมตะร่องรอยโลหิตและวิญญาณอมตะคำสาบานเลือด นี่เป็นความสามารถที่หาได้ยากอย่างแท้จริง

“จะถอนหายใจเพื่อสิ่งใด? มอบมรดกมา!”

“ถูกต้อง มรดกของข้า เจ้ากล้าแยกมันจากเรางั้นหรือ?”

เจาลี่และถังซ่งกรีดร้อง

พวกเขาทำงานอย่างหนักและใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อให้ได้รับมรดกนี้แต่คนนอกที่ไม่รู้จักกลับฉกชิงมันไป

เจาลี่และถังซ่งถือว่ามรดกนี้เป็นของพวกเขาไปแล้ว เมื่อฟางหยวนฉกชิงมันไป แล้วพวกเขาจะทนได้อย่างไร?

เจาลี่และถังซ่งเลิกสนใจติงฉีและหันไปหาฟางหยวน

แต่ติงฉีเร็วกว่า เขาโจมตีฟางหยวนโดยตรง “ฆาตกร มอบชีวิตของเจ้ามา!”

ฟางหยวนเผยรอยยิ้มบาง “เจ้าต้องการชีวิตของข้าแต่ข้าจะไม่เล่นกับเจ้า มรดกเป็นของข้าแล้ว”

หลังกล่าวจบคำฟางหยวนพุ่งออกจากฟองอากาศและเข้าไปในกระแสน้ำ

“ตาม!”

“เราต้องจับเขาไม่ว่าจะตายหรือมีชีวิต!”

เจาลี่และถังซ่งตะโกนด้วยความโกรธ พวกเขาปฏิเสธที่จะยอมแพ้โดยเฉพาะเมื่อได้ยินคำกล่าวสุดท้ายของฟางหยวนที่ทำให้พวกเขายิ่งโกรธมากขึ้น

กลุ่มผู้อมตะออกไปและไล่ล่า

ในสภาพแวดล้อมพิเศษ กลุ่มผู้อมตะสามารถเคลื่อนที่ไปตามกระแสน้ำเท่านั้น ระหว่างกระบวนการนี้การโจมตีนับไม่ถ้วนพุ่งไปที่ฟางหยวน

ฟางหยวนใช้วิญญาณอมตะเพื่อปกป้องตนเองขณะเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว

วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติไม่สามารถมองข้าม ในไม่ช้ากลุ่มผู้อมตะก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

“โอ้ การเคลื่อนไหวของคนผู้นี้ช่างคุ้นเคยนัก!” เจาลี่รู้สึกงุนงง

ดวงตาของถังซ่งเบิกกว้าง เขาต้องการรับมรดกและไม่ได้คิดสิ่งอื่นใด

ระหว่างทั้งสองฝ่ายมีปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดติงฉีอยู่ตรงกลาง

ดวงตาของเขาเป็นสีแดงเลือดและเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร “ตาย ตาย น้องชายของข้าตายและเจ้าฉกชิงผลประโยชน์จากเขา เจ้าต้องตาย ข้าจะฉีกร่างเจ้าออกเป็นชิ้นๆ!”

ความโกรธทำให้เขาสูญเสียเหตุผลและอยู่ในสภาวะบ้าคลั่ง

ฟางหยวนหันหลังกลับและหลบการโจมตีเป็นครั้งคราว

กลุ่มผู้อมตะไล่ล่าฟางหยวนอยู่เป็นเวลานานแต่ยังไร้ประโยชน์และสูญเสียพลังงานอมตะไปเป็นจำนวนมาก

ที่นี่ไม่เหมือนที่อื่น มันเป็นสถานที่พิเศษ

ฟองอากาศปรากฏขึ้นด้านหน้าทำให้พวกเขาคิดว่าฟางหยวนเข้าไปภายใน

“ตามเข้าไป!”

“เร็ว ล้อมมันไว้!”

“มีบางสิ่งผิดปกติ เหตุใดเขาถึงเข้าไปในฟองอากาศแทนที่จะหลบหนี?”

กลุ่มผู้อมตะปิดล้อมฟองอากาศใบนี้เอาไว้แต่พวกเขาไม่ได้เข้าไปและยังรู้สึกสงสัย

ร่างสีแดงเลือดพุ่งเข้าไปในฟองอากาศราวกับลูกศร

มันคือปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดติงฉี เขาเด็ดเดี่ยวมากกว่าผู้อมตะเหล่านั้น

กลุ่มผู้อมตะเริ่มกระสับกระส่าย หลังจากชั่วครู่พวกเขาไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป ถังซ่งพุ่งเข้าไปตามด้วยเจาลี่และคนอื่นๆ

“แปลก ที่นี่ที่ใด?”

“เมือง?”

กลุ่มผู้อมตะพบเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแต่มันพังทลายราวกับเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นที่นี่

นอกจากนั้นมันยังเต็มไปด้วยหยากไย่และฝุ่น ดูเหมือนมันจะถูกทิ้งร้างมานานหลายปี

“แปลก ที่นี่คือทะเลไหลเชี่ยว แต่ดูเหมือนจะมีผู้คนอาศัยอยู่ที่นี่มาก่อน”

“พวกเขาไม่ควรเป็นผู้อมตะแต่มนุษย์ธรรมดาสามารถอาศัยอยู่ที่นี่งั้นหรือ?”

กลุ่มผู้อมตะวิพากษ์วิจารณ์

“แล้วคนผู้นั้นอยู่ที่ใด?”

“ติงฉีก็หายตัวไปเช่นกัน”

“ไม่ ติงฉีอยู่ที่นั่นและกำลังเผชิญหน้ากับท่านถังซ่ง”

“ผู้อมตะที่รับมรดกหายไปจริงๆ ดูเหมือนเขาจะซ่อนตัวอยู่ด้านใน”

“ค้นหาเขาและบังคับให้เขาส่งมอบมรดก!”

ขณะที่กลุ่มผู้อมตะกำลังจะเคลื่อนไหว พวกเขากลับได้ยินเสียงของฟางหยวนดังลงมาจากท้องฟ้า “พวกเจ้าจงสนุกกับสิ่งนี้เพราะมันจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่พวกเจ้าจะตาย”

หลังสิ้นเสียง ท้องฟ้ากลายเป็นมืดครึ้ม

กลุ่มผู้อมตะเงยหน้าขึ้นและแสดงออกด้วยความตกใจ

เพราะพวกเขาเห็นมือขนาดใหญ่จำนวนมหาศาลปกคลุมท้องฟ้าเอาไว้ทั้งหมด

กลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่แผ่กระจายออกไปทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวและไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร

“เป็นไปไม่ได้! นี่เป็นภาพลวงตา หากเขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เหตุใดเขาต้องวิ่งหนี!?” เจาลี่ตะโกน

ขวัญกำลังใจของกลุ่มผู้อมตะเพิ่มสูงขึ้น พวกเขารู้สึกว่าเจาลี่กล่าวได้ถูกต้อง

พวกเขาเริ่มโจมตี

“บึม!”

ด้วยเสียงที่ดังสนั่น กำปั้นยักษ์พุ่งลงมาบดขยี้กลุ่มผู้อมตะและทำให้พวกเขากลายเป็นเศษเนื้อในเสี้ยวพริบตา

“นี่เป็นไปได้อย่างไร?” เจาลี่ปีนขึ้นมาจากหลุมและกวาดตามองไปรอบๆด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

เมืองทั้งเมืองกลายเป็นซากปรักหักหัง

ผู้อมตะที่รอดชีวิตรู้สึกตกใจและหวาดกลัวมาก

แม้พวกเขาจะมีจำนวนมากกว่าแต่พวกเขากลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์

‘กับดักของนิกายเงามีประโยชน์จริงๆ ฮ่าฮ่า’ ฟางหยวนคิดและกระตุ้นใช้กำปั้นยักษ์หมื่นตัวตนต่อไป

ดวงตาของกลุ่มผู้อมตะเบิกกว้างขึ้นเมื่อเห็นกำปั้นยักษ์จำนวนมากปกคลุมท้องฟ้าเอาไว้อีกครั้ง

“มันมาอีกแล้ว!”

“อดทนไว้ พวกเราต้องรอด!”

“ในช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย นำไพ่ตายของทุกคนออกมา พวกเราต้องรอดไปจากที่นี่”

กลุ่มผู้อมตะตะโกนด้วยความกังวล การแสดงออกของพวกเขาแตกต่างจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง

“บึม!”

กำปั้นยักษ์ทั้งหมดทิ้งตัวลงมา ครั้งนี้มีเพียงสามคนที่รอดชีวิต

เจาลี่ ถังซ่ง และปีศาจอมตะบนเส้นทางแห่งเลือดติงฉี

กำปั้นยักษ์ถูกใช้เป็นครั้งที่สาม ผู้อมตะทั้งสามตกอยู่ในความสิ้นหวัง

“ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ามีช่วงเวลาที่ง่ายดายแม้ข้าจะตายก็ตาม!” ติงฉีระเบิดตัวเอง

เจาลี่และถังซ่งพยายามต่อต้านแต่ยังไร้ประโยชน์

ในที่สุดพวกเขาก็ตายภายใต้น้ำมือของฟางหยวน

“แดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ เมืองจิ๋ว ชางยอดเยี่ยมสมคำล่ำลือ” ฟางหยวนยกย่องและถอนหายใจ

มีบ่อน้ำอยู่ด้านหน้าเขา

ผิวน้ำด้านในแสดงภาพเมืองที่ถูกทำลายโดยกำปั้นยักษ์หมื่นตัวตนสามครั้ง

มีคราบเลือดและเศษเนื้อของกลุ่มผู้อมตะกระจัดกระจายอยู่รอบๆ