ทว่าเสียงคำว่าหยุดนี้ เหมือนกับว่าเป็นเสียงที่ถ่ายทอดออกไปในความว่างเปล่า กระจายออกไปทั่วทั้งดาวเคราะห์อย่างกะทันหัน บนอากาศเกิดการสั่นสะเทือนที่ลึกลับขึ้น ทำให้ยอดฝีมือจำนวนนับไม่ถ้วนรับรู้ได้
โดยเฉพาะเหล่าผู้อาวุโสของนิกายพยัคฆ์เดือด นิกายแรดทมิฬ นิกายสายวารี นิกายหวงเหอ นิกายกระทิงเขียวและนิกายอื่นๆ พวกเขาต่างก็ได้ยินเสียงตะโกนนี้
พวกเขาต่างก็สะดุ้งขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไม่ว่าจะทำการบ่มเพาะอยู่ พูดคุยอยู่หรือว่าฝึกฝนวิทยายุทธอยู่ แต่ละคนต่างก็ตาสว่างขึ้นมา คิดว่านี่เป็นสถานการณ์วิกฤติบางอย่าง
“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมเสียงนี้ถึงดูเหมือนเสียงของเจ้าเฉียนต้า ใครกันที่ก่อปัญหาจนเจ้าเฉียนต้าคลุ้มคลั่งเช่นนี้?” ผู้อาวุโสของนิกายพยัคฆ์เดือดรู้สึกสงสัยอย่างมาก เขานั้นคุ้นเคยกับพลังเวทมนตร์ที่ผันผวนนี้เป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าเป็นพลังอำนาจของเฉียนต้าผู้นำตระกูลเฉียน
ทั่วทั้งดาวกวางน้อยนั้น นอกจากเฉียนต้าแล้ว ก็ไม่มีใครที่จะกล้าแสดงพลังอำนาจในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าออกมาอย่างบ้าระห่ำเช่นนี้ อีกทั้งก็ไม่มีใครที่จะสามารถทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงภัยคุกคามเช่นนี้ได้
“ฟังจากเสียงดูเหมือนว่าจะโมโหอย่างมาก ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องที่ร้ายแรงเกิดขึ้น” ผู้อาวุโสของนิกายแรดทมิฬมีสายตาเป็นประกาย เขาสามารถที่จะรับรู้ได้ถึงอารมณ์ของเฉียนต้าผ่านทางเสียงนี้
ผู้อาวุโสเหล่านี้ก็ได้ส่งกองกำลังออกไปทันที ต้องการที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็มีบางคนก็ได้กลับมารายงานอย่างรวดเร็ว
“เป็นอย่างนี้นี่เอง เฉียนซานนายน้อยของตระกูลเฉียนได้ลอบจู่โจมเจ้าเด็กหนุ่มที่มีบัตรวีไอพีของธนาคารจักรวาล เดิมทีคิดว่าจะล้างแค้นกับความบาดหมางที่เกิดขึ้นในงานประมูล ไม่คาดคิดว่าจะเด็กหนุ่มบัตรวีไอพีนั่นจะทรงอำนาจอย่างถึงที่สุด ไม่คาดคิดว่าจะสังหารผู้คุ้มกันทั้งหมดของเฉียนซานและแม้แต่ตัวเขาเองก็เกือบที่จะเอาชีวิตรอดไม่ได้ ในที่สุดก็ส่งผลให้เฉียนต้าเดือดระอุขึ้นมา รีบเข้ามาช่วยเหลือลูกชายอย่างรวดเร็ว”
ผู้อาวุโสจำนวนมากต่างก็ล่วงรู้ถึงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้
“เจ้าเฉียนซานนี่ช่างโง่เขลาจริงๆ อีกฝ่ายเป็นผู้ที่มีบัตรวีไอพีของธนาคารจักรวาล มีสถานะสูงส่ง บางทีอาจจะเทียบได้กับตระกูลเฉียน ร่างกายมีสมบัติลับจำนวนนับไม่ถ้วน ไม่คาดคิดว่าจะกล้าริเริ่มกระทำการล้างแค้นกับบุคคลเช่นนี้ นี่ไม่ใช่การกระทำของคนโง่เขลาหรือ?”
“ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ เจ้าเฉียนซานนี่เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของเฉียนต้า เป็นเหมือนกับแก้วตาดวงใจของเขา ตั้งแต่เด็กจนโตใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ยโสโอหังและอวดดีมาตลอด ต้องการที่จะได้ลมก็ต้องได้ลม ต้องการที่จะได้ฝนก็ต้องได้ฝน อาละวาดไปทั่วทั้งดาวกวางน้อยโดยที่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา”
“ตอนนี้ไม่คาดคิดว่าจะมีบางคนที่ไม่ไว้หน้าเขา อีกทั้งยังทำให้เขาอับอายต่อหน้าทุกๆคน มีที่ไหนที่เขาจะอดทนอดกลั้นได้ การที่ไม่ได้คลุ้มคลั่งออกมาในงานประมูลเพราะเห็นแก่บริษัทมหาสมุทรแห่งจักรวาลนั้นก็ถือว่าควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดีมากแล้ว”
“ไม่คาดคิดว่าแม้กระทั่งเจ้าเฉียนต้าก็จะเคลื่อนไหวออกมาด้วยตนเอง คาดการณ์ได้ว่าเจ้าเด็กบัตรวีไอพีนั่นคงจะเผชิญกับความโชคร้ายมากกว่าความโชคดี”
“เป็นจริงอย่างที่ว่า เฉียนต้านั้นไม่ใช่เฉียนซาน เขาเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง เป็นว่าที่เซนต์ในอนาคต การที่บุคคลเช่นนี้เคลื่อนไหวออกมานั้น นั่นแปลว่าเขาได้ตัดสินใจดีแล้ว ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถที่จะขัดขวางได้”
“ไม่จำเป็นต้องคิดให้มากมาย เจ้าเด็กหนุ่มบัตรวีไอพีนั่นจะต้องตาย ไม่มีทางรอด”
“น่าสงสารจริงๆ ไม่รู้ว่าเจ้าเด็กนั่นเป็นทายาทของตระกูลใด ไม่คาดคิดว่าวันนี้จะต้องมาตายที่นี่”
“เฮ้เฮ้ นี่ไม่ใช่เรื่องของพวกเรา แต่มันจะเป็นการดีที่สุดหากเฉียนต้าสังหารเจ้าเด็กหนุ่มบัตรวีไอพีนั่น ทำให้ตระกูลของฝ่ายตรงข้ามส่งกองทัพออกมา จากนั้นทั้งสองฝ่ายก็จะกัดกินกันเอง นี่จะกลายเป็นเรื่องที่สนุกสนานให้พวกเราดูชม”
ผู้อาวุโสของนิกายจำนวนมากต่างก็พูดคุยกันด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม พวกเขาคิดว่าเซี่ยปิงจะต้องจบสิ้น การที่ถูกเพ่งเล็งโดยเฉียนต้า ยอดฝีมือระดับลงทัณฑ์สายฟ้าลงมือด้วยตนเองนั้น ต่อให้มีสิบชีวิตก็ไม่เพียงพอ เป็นไปได้ยากมากที่รอดออกมาจากสถานการณ์เช่นนี้
อย่าพูดถึงว่าเฉียนต้านั้นก็เป็นผู้ที่เห็นตนเองเป็นใหญ่ เป็นผู้ที่มีความยโสโอหังและทะนงตัวอย่างมาก มักที่จะก่อกรรมทำชั่วต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าล้างเมือง สังหารผู้คนทั้งตระกูลและสิ่งอื่นๆ เรียกได้ว่าจิตวิญญาณผู้บริสุทธิ์ในมือของเขานั้น มีเป็นจำนวนนับพันล้านดวง
บุคคลที่โหดเหี้ยมและไร้ความปราณีเช่นนี้ เป็นไปได้อย่างไรที่จะเกรงกลัวกลุ่มอิทธิพลที่หนุนหลังเจ้าเด็กหนุ่มบัตรวีไอพีนั่น ซึ่งการกระทำนี้ในครั้งนี้จะต้องเป็นบ่อเกิดของทะเลเลือดอย่างแน่นอน
…………..
ในช่วงเวลานี้ ณ ฝั่งของเซี่ยปิง เมื่อสนามพลังฉีของเสาจองจำมังกรได้หายไปนั้น ก็เห็นสภาพของโกดังแห่งนี้ที่พังทลายและเผยให้เห็นพื้นที่เปิดโล่งขึ้นมา
ฉั่ว ฉั่ว ฉั่ว!!!
ภาพเงาจำนวนมากได้ลงเหยียบพื้นจากบนอากาศ
ทว่าผู้นำของพวกเขานั้นก็คือชายวัยกลางคนที่สวมใส่ชุดคลุมสีดำ บนชุดคลุมสีดำนั้นก็เย็บปักถักร้อยด้วยลวดลายมังกรน้ำสีทอง เขามีลักษณะหน้าตาที่คล้ายคลึงกับเฉียนซานอย่างมาก ออร่าของเขาเป็นเหมือนกับหลุมดำ ยืนอยู่อย่างยิ่งเฉย ก็เหมือนกับว่าจะดูดกลืนพลังงานของทุกสรรพสิ่งเข้าไป
เขาดูเหมือนว่าเป็นผู้ปกครองของโลกก็ว่าได้ ควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง
อย่างไม่ต้องสงสัย นี่คือเฉียนต้าผู้นำตระกูลเฉียน เป็นผู้ที่มีสถานะอันดับหนึ่งของตระกูลเฉียน เป็นผู้ปกครองที่แท้จริงตระกูลเฉียนและเป็นยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าที่ขาดอีกเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้นในการก้าวเข้าสู่ระดับเซนต์
ต่อให้เป็นภายในจักรวาล เขาก็ยังเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและเป็นที่เคารพ เป็นตัวตนที่รองลงมาจากเซนต์เพียงเท่านั้น
ทว่าข้างกายของเขา ติดตามมาด้วยชายชราจำนวน5-6 ถึงแม้ว่าออร่าของพวกเขาจะอ่อนแอหากเทียบกับเฉียนต้า ทว่าอย่างน้อยพวกมันก็อยู่ในระดับแกนทอง อีกทั้งยังมีผู้ที่อยู่ในระดับกฎเทวรูปเช่นกัน พวกเขานั้นก็คือบรรดาผู้อาวุโสระดับสูงสุดของตระกูลเฉียนนั่นเอง
“เจ้าเป็นใคร?”
ทันทีที่เฉียนต้าปรากฏตัวขึ้นมา เขาก็จ้องมองเซี่ยปิงตาเขม็ง “ไม่คาดคิดว่าจะกล้าฆาตกรรมผู้อื่นในอาณาเขตของตระกูลเฉียนของข้า สังหารยอดฝีมือของตระกูลเฉียน อีกทั้งยังคิดที่จะสังหารแม้กระทั่งเฉียนซานลูกชายของข้า”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่านี่เป็นความผิดที่ยิ่งใหญ่ มีโทษเทียบเท่ากับการประหารบรรพบุรุษเก้าชั่วโคตร!”
เสียงของเขาเป็นเหมือนกับเสียงของเทพเจ้าสายฟ้า เหมือนกับว่าควบคุมพลังอำนาจที่เหนือธรรมชาติ มีแรงกดดันที่มหาศาล เหมือนกับเป็นจ้าวเหนือหัว สามารถที่จะควบคุมความเป็นความตายของผู้คนนับล้านได้
ภายใต้การคำราม ไม่ว่าศัตรูใดๆก็จะต้องสูญเสียความกล้าหาญจนทรุดล้มลงไป
เฉียนต้าผู้นำของตระกูลเฉียนก็เหมือนกับว่าจะต้องการใช้พลังอำนาจทางจิตวิญญาณของตนเองในการแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างพลังอำนาจของทั้งสองฝ่าย ทำให้เซี่ยปิงรู้จักสถานะของตนเอง อีกทั้งยังต้องการที่จะทำให้เขาคุกเข่าลงกับพื้นและอ้อนวอนขอความเมตตา เผชิญกับความอัปยศอดสูอย่างแท้จริง
“เหอะ!”
ทว่าเซี่ยปิงกลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวใดๆ เมื่อพลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเฉียนต้ากดดันลงมานั้น ทันใดนั้นก็ถูกต้นไม้โลกของเขาต้านทานไว้ แสงสีเขียวล้อมรอบอาณาเขตจิตใต้สำนึกของเขา อยู่ในขอบเขตที่กฎใดๆก็ไม่สามารถกล้ำกรายได้
ไม่ว่าเฉียนต้าจะถ่ายทอดแรงกดดันมามากแค่ไหน เขาก็ยังคงยืนหยัดเหมือนกับเทือกเขาไท่ซาน
อะไรกัน?!
เฉียนต้าและคนอื่นๆต่างก็ช็อกไปตามๆกัน ตามพลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ในระดับลงทัณฑ์สายฟ้านั้น ผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิไม่ควรที่จะยืนอยู่ได้ถึงจะถูก ทว่าเจ้าเด็กนี่กลับไร้รอยขีดข่วนและไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เหมือนกับว่าไม่ได้รู้สึกถึงแรงกดดันใดๆก็ว่าได้
อย่างไม่ต้องสงสัย บนตัวของเจ้าเด็กนี่จะต้องมีสมบัติลับบางอย่างที่มีพลังอำนาจในการป้องกันพลังวิญญาณอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นสมบัติที่ทรงอำนาจอย่างมาก ไม่อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่จะต้านทานพลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้
คิดได้แบบนี้ ดวงตาของเฉียนต้าก็เผยให้เห็นถึงความละโมบ สมบัติลับที่สามารถต้านทานพลังวิญญาณของยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้านั้น เป็นสมบัติที่หายากจริงๆ บางทีอาจจะไม่ได้ด้อยค่าไปกว่าสิ่งประดิษฐ์เซนต์
หากสังหารเจ้าเด็กนี่และปล้นชิงทรัพย์สมบัติมา เขาก็จะสามารถครอบครองสมบัติระดับสุดยอดได้อย่างแน่นอน
ทว่าเขาก็ไม่ได้เปิดเผยความคิดนี้ออกมา เพียงแค่เก็บไว้ในใจเท่านั้น
“คิดที่จะตัดสินโทษของข้า ทว่าก็ไม่ถามว่าลูกชายของตนเองได้ทำเรื่องอะไรไว้”
เซี่ยปิงแสยะออกมา “เขาได้ส่งกองกำลังจำนวนมากออกมา คิดที่จะลอบซุ่มโจมตีข้าที่นี่ ลอบสังหารข้า นี่เป็นความผิดฐานพยายามฆ่า ตามกฎหมายของดาวกวางน้อยนั้น นี่คือความผิดทางอาญา เป็นการกระทำที่ชั่วร้าย จะต้องทำการประหาร”
“ซึ่งท้ายที่สุดแล้วการที่ผู้คนในตระกูลเฉียนของเจ้าถูกข้าสังหารไปนั้น มันก็เป็นเพียงแค่การป้องกันตัวของข้า นั่นเป็นความตายที่พวกเขาสมควรได้รับ ความผิดของข้าคืออะไรกัน?”
ได้ยินเช่นนี้ เฉียนซานก็ตะโกนออกมาทันที “พ่อ อย่าไปฟังคำพูดของเขา เจ้านี่เป็นโจรขโมย ก่อนหน้านี้ข้าต้องการที่จะทำความรู้จักกับเขา แต่ก็ไม่คาดคิดว่าเขานั้นจะเป็นอาชญากร ลักลอบเข้าไปในตระกูลเฉียนและขโมยสมบัติของตระกูลเฉียนไป”
“ท้ายที่สุดพฤติกรรมการขโมยนี้ก็ถูกค้นพบโดยข้า ดังนั้นข้าจึงได้ส่งลูกน้องออกไปตามล่าเขา ต้องการที่จะนำสมบัติกลับคืนมา”
“ไม่คาดคิดว่าเขาจะปากแข็งเช่นนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ไม่ยอมรับความผิดของตนเอง ทว่ายังต้องการที่จะกุเรื่องกล่าวหาข้า ก่อหน้านี้ยังพยายามที่จะสังหารข้าและคนอื่นๆเพื่อขโมยสมบัติและหลบหนีออกไปอย่างไร้ร่องรอย เขานั้นเป็นอาชญากรที่ไร้หัวใจและโหดเหี้ยมอย่างถึงที่สุด ทุกๆคนมีสิทธิ์ที่จะลงโทษเขา”
เขาได้พูดแก้ตัวออกไปอย่างมีเหตุมีผล อีกทั้งยังได้ใส่ร้ายป้ายสีเซี่ยปิงเช่นกัน