คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 426
ที่ไหนสักแห่งใต้หน้าผา ฟลอเรียนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาตัวเขาปกคลุมไปด้วยเลือด

“ฉันยังไม่ตาย?” ฟลอเรียนอยากจะร้องไห้ เขานั้นโชคดี เมื่อตอนที่เขาตกจากหน้าผา เขาคิดว่าเขานั้นตายทันที ใครจะไปรู้ว่าต้นไม้จะช่วยเขาไว้?

นั้นเป็นต้นไม้ต้นเดียวบนหน้าผา เขาคงจะตกถ้าเขาขยับตัวแม้แต่นิดเดียว

“ช่วยด้วย…”

ฟลอเรียนกระวนกระวาย เขาเริ่มร้องตะโกน เขาพยายามจับยึดตั้งตัวอยู่บนต้นไม้

ต้นไม้ได้เติบโตยื่นออกมาจากหน้าผา หน้าผาลาดลื่นเขาจึงไม่สามารถปีนขึ้นไปที่ปลอดภัยได้ ทะเลนั้นอยู่ด้านล่างของเขา มันไม่มีทางให้เขาขยับขึ้นหรือลงไป

ในที่สุดฟลอเรียนก็หยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาเพื่อโทรขอความช่วยเหลือ

เขาอยากจะร้องไห้เมื่อเขารู้ตัวว่ามันไม่มีสัญญาณโทรศัพท์บนมือถือของเขา

‘ซวย! ฉันไม่ได้ข่มขืนสาวน้อยคนนั้น และฉันเกือบจะต้องมาตายเพราะเธอ’ ฟลอเรียนคิด

สักพักหนึ่ง ฟลอเรียนรู้ตัวว่าต้นไม้คงไม่สารถจะรองรับน้ำหนักเขาต่อไปได้อีก เขาไม่มีทางเลือกที่จะต้องกระโดนลงไปในทะเลเดือด

มันอันตรายที่จะกระโดดจากความสูงขนาดนั้น ถึงอย่างไรฟลอเรียนนั้นก็อยู่ระดับปรมาจารย์อาวุโสขั้นที่ห้า และเขาสามารถจะลงจอดได้อย่างปลอดภัยบนชายหาด อย่างไรก็ตามเท้าของเขานั้นชาไร้ความรู้สึก

ฟลอเรียนถอนหายใจเมื่อเขาลงมาอยู่บนชายหาด ถึงอย่างไรเขาก็ไม่รู้ว่าเขาจะสามารถกลับขึ้นไปข้างบนหน้าผาได้อย่างไร และโทรศัพท์ของเขานั้นก็ไม่มีสัญญาณ

เขาวิ่งไปข้างหน้าเพื่อหาทางออกทางอื่น หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็มาเจอเข้ากับถ้ำ มันมืดและชวนขนลุก เขาจึงกลัวเกินไปที่จะเข้าไปในถ้ำ ถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีที่อื่นให้ไป ฉะนั้นเขาจึงกลั้นหายใจและเดินเข้าไป

ถ้ำไม่ได้ใหญ่อย่างที่คิด เขาได้ยินเสียงกระทบจากพื้นเมื่อเขาเข้ามา เขาตะลึงตกใจสุดชีวิตเมื่อก้มมอง มันคือกระดูกมนุษย์ “ซวย!” เขาเตะกระดูกปลิวออกไป

ทันใดนั้นท่ามกลางโครงกระดูก มีคัมภีร์สีเหลืองปรากฏอยู่ตรงหน้าของฟลอเรียน เขาหยิบมันขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และปลาบปลื้มกับการค้นพบของเขา คำที่อยู่บนหน้าปกเขียนว่า คัมภัร์อาถรรพ์เทวะ

ที่คฤหาสน์ตระกูลลินดัน

พวกเขาอยู่ในห้องนอนและแดร์ริลนอนอยู่บนเตียงดวงตาเขาปิดสนิท เขาไม่ขยับเขยื้อน ลมหายใจของเขาโรยริน และมันอาจจะหยุดไปเลยเมื่อไหร่ก็ได้ ในตอนกลางวัน ผู้อำนวยการใหญ่เกรแฮมและผู้อาวุโสบางคนมาที่นี่เพื่อถ่ายโอนกำลังภายในไปให้แดร์ริล ทำไปก็เพื่อให้เขาสามารถยื้อชีวิตต่อไปได้อีกนิดหน่อย

ถึงอย่างไรมันก็เป็นเพียงแค่การประคับประครอง ทองน้อยของเขานั้นบาดเจ็บ!

ลิลี่พาแพทย์มาประมาณแปดคนเพื่อรักษาแดร์ริล แต่พวกเขาก็ตอบเป็นเสียงเดียวกัน ว่าเธอควรเตรียมจัดงานศพให้กับเขา

ลิลี่และอิวอนนั่งอยู่ข้างเตียง พวกเธอสิ้นหวัง

“อีวอนทำไมเธอไม่ไปพักผ่อนก่อน? เดี๋ยวฉันดูแลเขาเอง” ลิลี่กล่าวอย่างอ่อนล้า

อีวอนกัดริมฝีปาก หัวใจของเธอแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ เพราะเธอรู้ว่าแดร์ริลคงจะต้องตาย เธอพยายามฝืนยิ้ม “ไม่เป็นไร ฉันจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเธอ”

เมื่อถึงตอนเช้า ซาแมนธาเดินออกมาจากห้องนอนในชุดนอนของเธอ และบอกกับลิลี่ “ลิลี่น้อย อีวอนที่รัก พวกเธอควรจะนอนหลับบ้าง มีประโยชน์อะไรที่มานั่งอยู่ตรงนี้? หมอก็บอกแล้วว่าเขาคงไม่รอดชีวิต”

เมื่อพวกเขาได้นำตัวแดร์ริลกลับมาบ้านร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยเลือด ซาแมนธานั้นตกใจ

มันจะมีประโยชน์อะไรกับการอยู่เป็นเพื่อนเขา ถ้าหากเขาจะไม่มีทางรอดกับความเจ็บปวด?

ซาแมนธาขมวดคิ้ว “ลิลี่น้อย อย่าโง่ไปหน่อยเลย เธอจะต้องดูแลตัวเอง ปล่อยให้ไอ้คนไร้ค่านี่ตายไปซะ”

‘ลิลี่ได้เสียเวลาชีวิตที่ล้ำค่าไปสามปีกับการแต่งงานกับเขา ถ้าลิลี่ได้แต่งงานกับตระกูลที่ร่ำรวย เธอคงจะมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ’ ซาแมนธาคิด

“แม่!” ลิลี่ร้องไห้ด้วยความโกรธขณะตัวของเธอสั่นเทา “แม่พูดแบบนั้นได้ยังไง? เขาเป็นลูกเขยของแม่นะ!” คำพูดของซาแมนธาทำให้ลิลี่ไม่พอใจ

เมื่อเธอเห็นว่าลิลี่สะเทือนอารมณ์ ซาแมนธาส่ายหัวและกล่าว “เธอหมายความว่าไงว่าลูกเขย? ฉันไม่เคยยอมรับว่าเขาเป็น”

จากนั้นเธอก็เดินจากไปเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า คุณยายได้แจ้งไว้ว่าทุกคนควรจะไปที่คฤหาสน์สำหรับการประกาศสำคัญ

หลังจากเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้าเสร็จ ซาแมนธามองไปที่กระจกและพยักหน้า

เธอดูยั่วยวนและมีเสน่ห์ เธอสวมรองเท้าส้นสูงและออกเดินทาง ขณะเธอก้าวออกไปจากประตูเธอกล่าว “กำจัดเขาทิ้งซะเดียวนี้! คนใกล้ตายในบ้าน? นั่นมันดวงซวย! เอาเขาออกไปจากที่นี่ ได้ยินฉันไหม?”

“แม่!”

ลิลี่อดกลั้นต่อไปไว้ไม่ไหว เธอเริ่มร้องไห้เสียงดัง “แม่ หยุดพูดแบบนั้นสักที! หนูรักแดร์ริล! ต่อให้เขาตาย หนูก็จะรักเขาไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของหนู!”