“ปาฏิหาริย์! พลังของข้าเริ่มกลับคืนมาแล้วฮ่าฮ่าฮ่า!” ท่านหญิงเฟิงเต้นไปรอบๆเหมือนเด็กหญิงตัวเล็กๆที่ตื่นเต้นหลังจากเห็นดวงตาสีทองของเธอในกระจก

ในขณะเดียวกันหยวนและเด็กผู้หญิงอีกสองคนกำลังจ้องมองเธอด้วยสีหน้างุนงง

เธอตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น? ‘พลังของเธอกลับมาแล้ว’ หมายความว่าอย่างไรเมื่อเธออยู่ที่ระดับปรมาจารย์แล้ว?

“อืม…สบายดีมั้ย?” จู่ๆหยวนก็ถามเธอ

“หื้ม?” ท่านหญิงเฟิงหันไปมองหยวนทันที แต่การจ้องมองของเธอที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ เธอกำลังมองเขาในแง่ใหม่

เธอหันกลับมาและเดินไปหาเขาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหยุดห่างออกไปหนึ่งเมตรแล้วย่อตัวลงจนเข่าทั้งสองข้างติดพื้นแล้วเธอก็กดหน้าผากลงบนพื้นหินอ่อนไปยังหยวน

“แขกผู้มีเกียริ…ไม่สิอาจารย์หนุ่ม…ขอบคุณมากสำหรับการฟื้นฟูพลังของข้าแม้ว่ามันจะเป็นเพียงเล็กน้อยก็ตาม!” ท่านหญิงเฟิงพูดกับเขา

“ขะ…ข้าไม่เข้าใจจริงๆ” หยวนพูดขณะเกาหัว

ท่านหญิงเฟิงจึงกล่าวว่า

“ข้าจะบอกความจริงกับท่านว่าข้าไม่ใช่มนุษย์ จริงๆแล้วข้าเป็นเทพอสูรฟีนิกซ์สีเลือด”

“เจ้าเป็นฟีนิกซ์งั้นหรอ?!” หยวนอุทานด้วยน้ำเสียงตกใจ

“ไม่มีทาง…” แม้แต่หยูรู่และเสี่ยวฮัวก็ยังตกใจกับการเปิดเผยของท่านหญิงเฟิง

“เนื่องจากสถานการณ์บางอย่างสายเลือดของข้าถูกสาป พลังของข้าถูกปิดผนึกและข้าถูกบังคับให้ใช้ชีวิตในฐานะมนุษย์ ข้าใช้ชีวิตแบบนี้มานานกว่า 10,000 ปีแล้ว” ท่านหญิงเฟิงยังคงเปิดเผยความลับเกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น เธอเก็บเป็นความลับมานานกว่า 10,000 ปีแล้ว

“10,000 ปี!” หยวนนึกไม่ถึงว่าจะมีชีวิตอยู่ได้นานขนาดนี้และรู้สึกตกใจมากที่ได้ยินว่าท่านหญิงเฟิงมีประสบการณ์มากขนาดนี้

“ถ้าอย่างนั้นพลังของเจ้ากลับมาแล้วใช่มั้ย ยินดีด้วยนะ” หยวนพูดด้วยรอยยิ้ม

“ใช่… แต่มันเป็นเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น และข้ายังรู้สึกได้ถึงคำสาปที่ยังจำกัดร่างกายของข้าอยู่” ท่านหญิงเฟิงถอนหายใจ

จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมองหยวนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังและพูดต่อ

“นายน้อย … ข้าเชื่อว่าเลือดของท่านสามารถช่วยข้าลบคำสาปนี้และปล่อยให้ข้าเป็นอิสระอีกครั้ง”

“เลือดของข้า?” หยวนเลิกคิ้วด้วยท่าทางประหลาดใจ

“ใช่แล้วด้วยเหตุผลบางอย่างข้าติดใจเลือดของท่าน และหลังจากดื่มมันคำสาปของข้าก็อ่อนแอลง ดังนั้นข้าจึงสามารถสันนิษฐานได้ว่าเลือดของท่านมีความสามารถในการลบคำสาปของข้าได้” ท่านหญิงเฟิงกล่าว

“เพราะฉะนั้นข้าขอความช่วยเหลือจากนายน้อย! โปรดช่วยข้ากำจัดคำสาปนี้ที่ขังข้าไว้ในสวรรค์ชั้นล่างมานานกว่า 10,000 ปี! ข้าจะทำทุกอย่างเป็นการตอบแทน!”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งหยวนก็พูดด้วยน้ำเสียงสงบๆ

“ถ้าเลือดของข้าสามารถช่วยเจ้าลบคำสาปได้จริงๆ ข้ายินดีช่วยโดยให้เลือดเจ้ามากเท่าที่เจ้าต้องการ แต่เลือดของข้าต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว และข้าไม่มีเวลารออยู่ที่นี่ ใครจะรู้ว่าเจ้าต้องใช้เลือดมากแค่ไหนในการลบคำสาปนั้นให้หมด

“ถูกต้องพี่หยวนจะต้องปีนบันไดสู่สวรรค์ในไม่ช้าจนกว่าเขาจะไปถึงจุดสูงสุดเขาไม่มีเวลาที่จะอยู่ในสถานที่เล็กๆแห่งนี้” เสี่ยวฮัวยังพูดด้วย

“บันไดสู่สวรรค์…?” ท่านหญิงเฟิงมองเขาด้วยความประหลาดใจและเธอก็เงียบลง

“เจ้าสบายดีไหม?” หยวนถามเธอหลังจากที่เธอนิ่งเงียบไปหนึ่งนาที

หลังจากกระพริบตาด้วยท่าทางงุนงงสองสามครั้งท่านหญิงเฟิงก็พูดกับหยวนว่า

“นายน้อย … ถ้าท่านอยู่ที่นี่ไม่ได้ข้าจะตามท่านไปจนกว่าข้าจะพ้นคำสาปแน่นอนข้าจะไม่เห็นแก่ตัว ขอความช่วยเหลือจากท่านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย! ทุกอย่างในร้านนี้ รวมถึงตัวข้าด้วย ข้าจะมอบให้กับท่าน! ตราบใดที่ท่านปล่อยให้ข้าติดตามท่านและกินเลือดของท่านเป็นครั้งคราว ท่านสามารถทำอะไรก็ได้ที่ท่านต้องการด้วยสมบัติเหล่านี้ หรือจะร่างกายของข้าก็ตาม! “

“ทุกอย่างในร้านนี้?” หยวนมองเธอด้วยสีหน้าขบขัน เขานึกไม่ถึงว่าจะได้รับสมบัติราคาแพงมากมายในคราวเดียวและสิ่งที่เขาต้องทำคือแบ่งปันเลือดของเขา

“ข้าจะไม่ขอให้เจ้าให้สมบัติของเจ้าเพราะข้าไม่ต้องการสมบัติมากมาย ที่ข้าใช้ไม่ได้และข้าไม่อยากรู้สึกโลภ เหมือนข้าเอาเปรียบเจ้าที่กำลังถูกผูกมัดอยู่ เพราะคำสาป ข้าพอใจแค่เลือดฟีนิกซ์นี่” หยวนพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าของเขา

“…”

เมื่อเห็นรอยยิ้มอันเจิดจ้าของหยวนท่านหญิงเฟิงก็หรี่ตาก่อนจะก้มหัวให้เขาอีกครั้ง

“ขอบคุณท่านมาก!”

ท่านหญิงเฟิงจึงกล่าวว่า

“นายน้อย ข้าขอเลือดของท่านอีกสักครั้งได้ไหม เพียงแค่หยดเดียว”

หยวนพยักหน้าและยื่นแขนออกไป

มาดามเฟิงเงยหน้าขึ้นและเลียบาดแผลบนฝ่ามือของหยวน

หนึ่งวินาทีต่อมาบาดแผลก็หายไปทันที และอีกไม่กี่วินาทีต่อมาก็มีการแจ้งเตือนปรากฏต่อหน้าหยวน

<ฟินิกส์สีเลือด เริ่มทำสัญญารับใช้ชั่วคราวกับคุณ!>

“นายน้อยข้าคนนี้ชื่อเต็มว่าเฟิงยู่เชียงหรือเรียกสั้นๆว่า เฟิงเฟิง จนกว่าคำสาปของข้าจะหมดไป ข้าจะสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อนายน้อยและเชื่อฟังทุกคำสั่งของนายน้อยโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ และนายน้อยสามารถใช้ร่างกายของข้าตามที่นายน้อยจะพอใจ นายน้อยจะยอมให้ข้าอยู่เคียงข้างไหม”

“ได้สิ ข้าไม่รังเกียจ” หยวนพยักหน้า มันจะเป็นประโยชน์ต่อเขาที่จะมีพันธมิตรที่ทรงพลังอีกคนอยู่เคียงข้างเขา

<คุณได้ยอมรับฟินิกซ์สีเลือดเป็นผู้รับใช้ของคุณ!>

ชื่อ: เฟิงยู่เชียง

ชั้นรับใช้: เทพ

อาจารย์: หยวน

การฝึกฝน: ปรมาจารย์วิญญาณระดับเก้า

มรดก: ไม่มี

สายเลือด: สายเลือดฟีนิกซ์โบราณ

ร่างกาย: ไฟอมตะที่ไม่มีวันมอดดับ

<ไฟฟีนิกซ์>

<ระดับ: สวรรค์>

<ระดับความเชี่ยวชาญ: 5>

<สัมผัสขั้นสูง>

<ระดับ: สวรรค์>

<การสำแดงของฉี>

<ระดับ: โลก>

<บิน>

<อันดับ: โลก>

<เปลวเพลิงอมตะ>

<ระดับ: เทพ>

<การป้องกันเพลิง>

<ระดับ: เทพ>

<สายเลือดต้องสาป>

<ระดับ: ???>

<ยินดีด้วย! เนื่องจากคุณได้รับเทพอสูรมาเป็นผู้รับใช้คุณจึงได้รับฉายาเฉพาะ ‘ผู้ฝึกเทพอสูร’!>

หลังจากที่หยวนยอมรับเฟิงยู่เชียงเป็นผู้รับใช้ของเขาก็มีประกาศปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าให้ผู้เล่นทุกคนได้เห็น

<ยินดีด้วย! ผู้เล่นหยวน กลายเป็นผู้เล่นคนแรกที่ได้รับผู้รับใช้ เทพอสูร!>

การประกาศดังกล่าวทำให้เกิดความโกลาหลภายในหมู่ผู้เล่นทันทีและก่อให้เกิดไฟป่าบนอินเทอร์เน็ตในเวลาต่อมาไม่นาน

“เทพอสูร…?”

ผู้เล่นดอกบัวขาวพึมพำกับตัวเองขณะที่เธอจ้องไปที่การประกาศบนท้องฟ้าด้วยสีหน้างุนงง และเธอก็หันไปมองแมวดำสองหางของเธอ ในฐานะผู้เล่นคนแรกที่ได้รับผู้รับใช้เธอรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองโดยธรรมชาติ แต่หลังจากผู้เล่นหยวน โผล่ออกมาและได้รับผู้รับใช้ระดับเทพ ความสำเร็จของเธอก็ถูกบดบังในทันที ตอนนี้ผู้เล่นหยวนได้รับเทพอสูรเป็นผู้รับใช้อีก ความสำเร็จที่เคยเกิดขึ้นของเธอแทบจะไม่มีความหมายเลย

ในขณะเดียวกันกลับเข้าไปในห้องของเฟิงยู่เชียง หยูรู่ และเสี่ยวฮัว กำลังจ้องมองไปที่เฟิงยู่เชียงด้วยสีหน้าตกใจ

“พี่ชาย…เพิ่งได้ฟีนิกซ์มาเป็นผู้รับใช้?”

หยูรู่พึมพำด้วยเสียงต่ำ แม้ว่าเธออดที่จะอิจฉาไม่ได้ แต่เธอก็ภูมิใจในตัวเขาเช่นกัน สำหรับความสำเร็จที่น่าทึ่งอีกครั้งที่จะเขย่าโลกทั้งใบอย่างไม่ต้องสงสัย

ในทางกลับกันเสี่ยวฮัวมีความรู้สึกอึดอัด และไม่สามารถอธิบายได้ในอกของเธอราวกับว่ามีบางสิ่งที่สำคัญและพิเศษถูกพรากไปจากเธอ

“ขอบคุณมากนายน้อย” เฟิงยู่เชียงกล่าวในขณะที่เธอลุกขึ้นยืนและจูบหยวนที่แก้ม

“อา!” หยูรู่ตะโกนเสียงดัง หลังจากเห็นสิ่งนี้ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ

หลังจากนั้นหยวนก็ถาม เฟิงยู่เชียงว่า

“ข้าจะเรียกเจ้าว่าเฟิงเฟิงได้ใช่ไหม แล้วเจ้าจะทำยังไงกับกับสถานที่นี้ถ้าเจ้าจะตามข้าไป”

“ได้เลย นายน้อยสามารถพูดกับข้าได้ตามที่ต้องการ ส่วนฟินิกซ์สวรรค์ เนื่องจากข้าไม่มีใครที่ข้าไว้ใจพอที่จะมอบความไว้วางใจให้พวกเขาที่นี่ ข้าจะปิดร้านเพราะข้าไม่มีเวลาที่จะจัดการมันอีกต่อไป” เธอตอบ

“ข้าเข้าใจแล้ว…” หยวนพยักหน้าและพูดต่อครู่ต่อมา

“…เลือดฟีนิกซ์…”

“นี่คือเลือดฟีนิกซ์” จากนั้นเฟิงซู่เชียงก็ยื่นใบหยกที่มีเลือดฟินิกซ์ให้เขา

“โอ้ใช่…เนื่องจากเจ้าเป็นฟีนิกซ์สีเลือดจริงๆแล้วนี่ก็หมายความว่าเลือดนี้เป็นของเจ้าหรือเปล่า?” จู่ๆหยวนก็ถามเธอ

“ถูกต้องนายน้อย” เฟิงยู่เชียงพยักหน้าและเธอพูดต่อ

“อย่างไรก็ตามเลือดในใบหยกนั้นถูกดึงออกมาจากร่างกายของข้าก่อนที่ข้าจะถูกสาป ดังนั้นท่านสามารถพูดได้ว่ามันไม่ใช่เลือดของข้าอีกต่อไปแล้ว”

“คำสาปทำงานยังไงหรอ?” หยวนจึงถามเธอ

“มันปิดผนึกฐานการฝึกพลังของข้าและยับยั้งมันไว้ไม่ให้ข้าขึ้นไปสู่ดินแดนต่อไปไม่ว่าข้าจะฝึกพลังมากแค่ไหน นั่นเป็นสาเหตุที่ข้าติดอยู่ในดินแดนปรมาจารย์วิญญาณมานานกว่า 10,000 ปีแล้ว”

“นอกจากนี้มันยังมีข้อจำกัด เกี่ยวกับสายเลือดของข้า มันบังคับให้ข้าอยู่ในร่างมนุษย์ และข้าไม่สามารถแปลงร่างกลับไปเป็นร่างนกฟีนิกซ์ของข้าได้จนกว่าคำสาปจะอ่อนลงพอ”

“นี่หมายความว่าจริงๆแล้วเจ้าแข็งแกร่งกว่าตัวเองในปัจจุบันมากเลยใช่ไหม” หยวนยังคงถามต่อไป

“ถูกต้องนายน้อยฐานการฝึกพลังที่แท้จริงของข้าสูงกว่ามากนี้ เพราะข้าเกิดในดินแดนที่สูงขึ้น ตอนนี้ข้าติดอยู่ในที่แห่งนี้ เพราะถ้าข้าขึ้นไปดินแดนที่สูงกว่านี้ ข้าจะไม่สามารถมีชีวิตรอดได้ด้วยฐานพลังเพียงแค่นี้” เฟิงซู่เชียง พยักหน้า

“พลังของข้าควรจะกลับคืนมา เมื่อคำสาปอ่อนลง ดังนั้นในขณะนี้ข้าไม่สามารถช่วยเหลือนายน้อยได้มากนักในสถานะปัจจุบัน แต่เมื่อคำสาปของข้าอ่อนแอลง และพลังของข้ากลับคืนมาอย่างช้าๆนั้น ข้าจะมีประโยชน์มากขึ้น สำหรับนายน้อยในอนาคต” เธอกล่าว