บทที่ 51 เอาใจใส่อดีตพี่สะใภ้ขนาดนี้ ตกหลุมรักเธอแล้วใช่ไหม

รักหวานอมเปรี้ยว

“……” บรรดาผู้ปกครองโมโหจนพูดไม่ออก

“ผมชนะแล้ว! ผมชนะแล้ว!” ปีโป้วิ่งมาหามายมิ้นท์ ในขณะที่ยังคงหายใจหอบอยู่ แต่กลับมีความตื่นตระหนกและความตื่นเต้นที่ไม่อาจเก็บซ้อนเอาไว้ได้อยู่ในน้ำเสียงด้วย “เมื่อกี้ผมเพิ่งจะ strikeลูกแบบหล่อระเบิดไปเลย! พี่เห็นหรือเปล่า ได้ถ่ายเอาไว้หรือเปล่า?”

“เปล่า” มายมิ้นท์ลูบผมลง ทำสีหน้านิ่งเฉยและไม่ตื่นเต้นดีใจเลย ราวกับว่าคนที่ปรบมือให้ปีโป้คนนั้นไม่ใช่ตัวเองเลย

“พี่ พี่……พี่พูดมั่วๆแล้ว ผมเห็นชัดๆว่าพี่น่ะ……”

“ถ้าแพ้แล้วนายกับพี่ชายของนายก็จะเสียหน้า ไม่ใช่ฉัน ฉันมีอะไรน่าดูงั้นเหรอ? เลิกขวางทางฉันได้แล้ว ฉันจะไปช่วยนายเซ็นสัญญา” มายมิ้นท์ผลักปีโป้ออกไป ในขณะที่กำลังเดินไปหาโค้ชที่อยู่ด้านนั้น

เวลาที่พูดคุยกับโค้ช เธอก็พูดด้วยความเกรงใจและมีมารยาทว่า “ขอโทษค่ะ ต้องขอรบกวนเวลาของคุณแล้ว”

ปีโป้ “……”

ทามทอยถ่ายภาพท่าทางที่ตื่นตระหนกตกใจนั้นของปีโป้เอาไว้ ต่อมา ก็โอบไหล่ของเขาและถามด้วยรอยยิ้มว่า “ได้ยินมาว่าตอนที่มายมิ้นท์อยู่ที่ตระกูลนวบดินทร์ นายแกล้งเธอทุกวันเลยนี่ ตอนนี้โลกหมุนเวียนเปลี่ยนผันซะแล้ว รสชาติที่ถูกเธอแกล้งเป็นยังไงบ้างล่ะ?”

“ผมเป็นผู้ชาย ก็เลยไม่คิดที่จะไปต่อล้อต่อเถียงกับเธอต่างหาก!” ปีโป้ทำเสียงฮึดฮัด

“มัวทำอะไรอยู่!” มายมิ้นท์หันหน้ากลับมา แล้วเหลือบมองปีโป้ด้วยสายตาที่ไม่พอใจ “ไม่อยากเล่นบาสเก็ตบอลแล้วใช่ไหม รีบมาลงชื่อสิ!”

เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของตนเอง ปีโป้จึงรีบวิ่งไปเซ็นชื่อในสัญญาอย่างรวดเร็ว

โค้ชบอกกับนักเรียนและบรรดาผู้ปกครองว่า เมื่อถึงเวลานั้นจะส่งรถมารับพวกเขาไปที่ฐานฝึก หลังจากที่พูดคุยกันเล็กน้อย โค้ชก็พาคนเดินออกไปแล้ว

และบรรดาผู้ปกครองก็ทยอยนำลูกของตัวเองเดินจากไปเช่นกัน

หลังจากที่ปีโป้กับมายมิ้นท์เดินออกมาจากสนามบาสเก็ตบอล พวกเขาก็ดูสัญญาในมือซ้ำไปซ้ำมา และมีความรู้สึกว่ามันไม่เป็นความจริง

อันที่จริงตอนที่มายมิ้นท์ไม่รับโทรศัพท์ในตอนบ่าย เขาได้โทรหาส้มเปรี้ยว เพราะอยากจะให้เธอช่วยเหลือตัวเองสักหน่อย

แต่ส้มเปรี้ยวกลับพูดอ้อมค้อมว่าเธอกำลังพักฟื้นในโรงพยาบาล จึงไม่สะดวกที่จะช่วย และยังพูดอีกว่า “ปีโป้ เชื่อฟังคำพูดของพี่ชายนายเถอะ อย่าทำให้เขาโกรธเลย”

เขารู้สึกสิ้นหวังไปหมด แต่ทว่าต่อมา มายมิ้นท์ก็เป็นคนที่มาช่วยเขา

มายมิ้นท์ไม่เพียงแต่จะช่วยสั่งสอนผู้ปกครองเหล่านั้นให้เขา เธอยังคงยืนอยู่เคียงข้างเขาอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ และไม่ได้ทำให้เขากลัวเปปเปอร์อีกด้วย เธอเอาแต่พูดว่า “เล่นให้ดีๆนะ” เท่านั้น

ปีโป้เงยหน้าขึ้นไปมองมายมิ้นท์ที่อยู่ข้างหน้า

สีของท้องฟ้าค่อยๆมืดลง แสงสายันต์ในยามตะวันรอนก็ไม่มีแล้ว แต่ทว่ามายมิ้นท์ที่อยู่ในดวงตาของเขากลับถูกปกคลุมไปด้วยแสงสีทองเหลืองอร่าม และประกายสีทองระยิบระยับ เต็มไปด้วยความสง่างามน่าเกรงขาม

ราวกับเป็นพระผู้ช่วยชีวิตของเขา!

ปีโป้ยัดสัญญาลงในกระเป๋านักเรียน แล้วรีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และเดินเคียงข้างไปพร้อมกับมายมิ้นท์ “พี่สะใภ้ วันนี้คุณสวมชุดนี้แล้วดูดีจริงๆ รูปร่างก็เฉียบขาดมากเลย ถ้าซูเปอร์โมเดลอยู่ต่อหน้าคุณจะต้องหม่นหมองไร้สีสันไปเลยแน่ๆ!”

“……” พอมายมิ้นท์หันศีรษะไปเห็นดวงตาที่จริงใจและน่ารักของเด็กหนุ่มเข้า เธอก็รู้สึกขนลุกขนพองไปทั่วร่างกาย

มายมิ้นท์ลูบแขนไปมา แล้วพูดว่า “ฉันไม่ใช่พี่สะใภ้ของนายแล้วนะ เรียกพี่สาวเถอะ”

“ครับ พี่สาว” ปีโป้เปลี่ยนคำพูดใหม่อย่างรวดเร็ว

มายมิ้นท์ช่วยเหลือเขามากขนาดนี้ ด้วยเหตุนี้แม้ว่าเธอจะให้เขาเรียกว่าบรรพบุรุษ เขาก็สามารถเรียกออกมาได้โดยไม่ลังเลเลยสักนิด

ในระหว่างที่เดินมาถึงรถ ปีโป้ก้าวไปเปิดประตูด้านหลังอย่างรวดเร็ว “พี่สาวขึ้นรถครับ ระวังอย่าให้ชนศีรษะนะครับ”

มายมิ้นท์รู้สึกไม่สบายไปทั้งตัว จึงรีบขึ้นรถอย่างรวดเร็ว

“นายทำอะไร?” หลังจากที่ทามทอยเดินเข้ามา เขาก็ใช้มือผลักชายหนุ่ม แล้วถามด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง “เอาใจใส่อดีตพี่สะใภ้ขนาดนี้ ตกหลุมรักเธอเข้าแล้วใช่ไหม?”

“พี่ทามทอยพี่กำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่เนี่ย ผมเพิ่งสิบแปดเองนะ!”

“งั้นก็ดี” ทามทอยดีดขี้บุหรี่ลง แล้วพูดหยอกเย้าว่า “นายอายุยังน้อย มีกำลังวังชา อีกทั้งยังดีกว่าพี่ชายของนาย กระตือรือร้นและอบอุ่นด้วย ไม่แน่ว่าเธออาจจะชอบก็ได้นะ”

ปีโป้ถูกเขาหยอกล้อจนสีหน้าแดงก่ำ เขาพูดอะไรไม่ออกสักคำสักพักใหญ่ แล้วจึงขึ้นไปนั่งตำแหน่งผู้ช่วยคนขับรถด้วยความโกรธ

ในขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน มายมิ้นท์ได้ลดหน้าต่างรถลงเพื่อสูดอากาศพอดี จึงได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดทั้งหมดโดยไม่พลาดแม้แต่คำเดียว และถูกคำพูดที่แพรวพราวของทามทอยทำให้ยอมเลื่อมใสเข้าเสียแล้ว

เธออยากที่จะเชื่อเป็นอย่างมากว่าเปปเปอร์ที่เย็นชาและนิ่งเฉยจะมีเพื่อนสนิทอย่าง ทามทอยและทั้งสองยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเป็นอย่างมากอีกด้วย

เยี่ยมไปเลย!

มายมิ้นท์นวดขมับไปมาด้วยความปวดหัว แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเพราะอยากจะดูว่ามีเรื่องอะไรต้องจัดการหรือไม่ จึงพบว่ามีข้อความ WeChat ใหม่ๆหลายข้อความ

ในจำนวนนั้นมีอยู่หนึ่งข้อความ เป็นข้อความที่ Z-H ส่งมา

มายมิ้นท์ยังคงสงสัยว่าคนคนนี้เป็นใคร ทำไมเธอถึงไม่ได้ตั้งหมายเหตุเอาไว้ หลังจากที่คลิกเข้าไป ก็เหลือบมองที่การโอนเงิน 88888 นั้นที่อยู่ด้านบนสุด และเธอก็รู้สึกประหม่าไปหมด

หลังจากที่รอข้อความของผู้ชายคนนั้นตอบกับมาในวันนั้น คาดว่าน่าจะเป็นเพราะว่ามีเรื่องมากมาย เธอจึงลืมลบเขาไปเสียแล้ว

ในขณะที่มายมิ้นท์กำลังจะลบเขา เธอกลับเห็นข้อความใหม่ที่ส่งมาจากชายผู้นี้เมื่อสามสิบนาทีที่แล้วว่า: เถ้าแก่ของบริษัทดีย์คูเปอร์กำลังเล่นสกีอยู่ในยาบูลี่ สกีรีสอร์ท

Z-Hได้แชร์แผนที่ให้กับคุณ

ผู้ชายคนนี้รู้ได้อย่างไรว่าเถ้าแก่ของบริษัทดีย์คูเปอร์อยู่ที่ไหน?

มายมิ้นท์จึงส่งข้อความไปหาผู้ชายคนนั้นว่า: คุณเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงรู้ว่าฉันกำลังสืบข่าวเรื่องที่อยู่ของเถ้าแก่ของบริษัทดีย์คูเปอร์คุณกำลังตรวจสอบฉันอยู่ใช่ไหม?

หลังจากที่เปปเปอร์ที่อยู่ไกลถึงสำนักงานของบริษัทตระกูลนวบดินทร์เห็นข้อความเข้า ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

มายมิ้นท์จำเขาในคืนนั้นไม่ได้งั้นเหรอ?

เขาจำได้ว่าคืนนั้นมายมิ้นท์ดื่มจนเมามาก คาดว่าคงจะเมาหัวราน้ำไปเสียแล้ว ดังนั้นพอตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น เธอก็เลยจำฉากต่างๆ ในคืนนั้นไม่ได้เลย

เปปเปอร์เพิ่งจะพิมพ์คำว่า “เปปเปอร์” ลงในช่องป้อนข้อมูลและกำลังจะส่งออกไป แต่จู่ๆเขากลับนึกขึ้นได้ว่าเขาหย่ากับมายมิ้นท์ไปแล้ว ถ้ามายมิ้นท์รู้เรื่องในคืนนั้น เธอจะต้องอาย แล้วก็ไม่รับความช่วยเหลือใดๆจากเขาอย่างแน่นอน

ท้ายที่สุด เปปเปอร์ก็เลยลบตัวอักษรสองสามคำนั้น แล้วส่งข้อความที่แก้ไขใหม่ออกไปแทน

Z-H: ผมเป็นเพื่อนของทามทอยแล้วก็รู้จักคุณด้วย ทามทอยบอกว่าเขามีการติดต่อทางธุรกิจกับคุณ และอยากจะช่วยให้คุณได้ครอบครองบริษัทดีย์คูเปอร์ด้วยครับ

Z-H: ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่งตอนที่เขาไปเที่ยวที่ยาบูลี่ สกีรีสอร์ท บังเอิญเห็นเถ้าแก่ของบริษัทดีย์คูเปอร์อยู่ที่นี่ด้วย เขาก็เลยมาพร่ำบ่นอยู่ในกลุ่มเล็กน้อย เงินจำนวนมากที่คุณโอนให้ครั้งก่อน ข้อมูลนี้ก็ถือว่าเป็นข้อมูลที่ผมส่งไปให้คุณฟรีๆก็แล้วกันนะครับ

มายมิ้นท์อ่านข้อความที่ชายคนนั้นตอบกลับอย่างละเอียดถี่ถ้วน แล้วปล่อยวางความระแวดระวังตัวลงมา

ที่แท้ก็เป็นเพื่อนของทามทอยนี่เอง

พอมายมิ้นท์ตอบขอบคุณกลับไปแล้ว ก็เงยหน้าขึ้นมองทามทอยที่กำลังขับรถอยู่อย่างรวดเร็วด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

เพื่อนของทามทอย มาปรากฏตัวต่อหน้าเธอในคืนนั้นเข้าพอดีและเธอก็พุ่งเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายคนนี้โดยบังเอิญอย่างนั้นได้อย่างไร แถมยัง……

ราวกับว่าเขาจะสังเกตเห็นว่ามายมิ้นท์กำลังมองดูตัวเองอยู่ ทามทอยจึงหยุดพูดกับปีโป้ แล้วเหลือบมองมายมิ้นท์ผ่านกระจกมองหลัง “มายมิ้นท์สายตานี้ของคุณมันอันตรายจัง หรือว่าคำพูดที่ผมพูด มันทำให้คุณหวั่นไหวหรือเปล่าครับ?”

“คำพูดอะไรเหรอ?” ปีโป้ซักถามทามทอยทันที “พี่พูดอะไรกับเธอ ทำไมเธอจะต้องหวั่นไหวด้วยล่ะ?”

“นายอยากรู้เหรอ?” ทามทอยเลิกคิ้วขึ้น แล้วตั้งใจพูดอย่างช้าๆ “ตอนที่เพิ่งมาฉันพูดกับประธานมายมิ้นท์ว่า ฉันดีกว่าและหล่อกว่าพี่ชายนายไง……”

“คนขับรถทามทอย” มายมิ้นท์เหลืออดเหลือทน “ไม่อยากขับรถก็ไสหัวไปซะ ฉันจะขับเอง!”

ทามทอยทำเสียงไม่พอใจ และไม่ได้พูดประโยคนั้นให้จบ แต่พูดกับปีโป้ว่า “ว่ากันว่าอยู่ใกล้หมึกสีดำก็จะเปื้อนสีดำ คุณมายมิ้นท์อยู่กับพี่ชายของนายมาหกปี อารมณ์ก็เลยใกล้เคียงกับพี่ชายของนายมาก นายว่าใช่ไหม?”

ปีโป้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพยักหน้าและพูดว่า “มันก็ใช่จริงๆนะ”

“……”มายมิ้นท์อยากจะควานหาเทปกาวออกมาจากใต้เบาะรถสักม้วนหนึ่ง เพื่อที่จะมาปิดปากของทามทอยเอาไว้จริงๆ!