บทที่ 156 เมลท์ดาวน์เนอร์ ยิงแบบปูพรมล่ะ!
เมลท์ดาวน์เนอร์ มีพลังทำลายมากอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าตัด แอคเซราเรเตอร์ ที่
สามารถหยุดแกนโลกได้กับ คาคิเนะ เทย์โทคุ ที่สามารถสร้างสสารชนิดใหม่ขึ้นมา
ได้ มุกิโนะก็สามารถคุยโม้ได้เลยว่าเธอมีพลังโจมตีมากที่สุดในบรรดาเลเวล5
แต่ว่า พลังนี้ก็ยังมีจุดอ่อนร้ายแรงอยู่!
เพราะมันมีพลังมากเกินไป ทำให้ เมลท์ดาวน์เนอร์ ไม่เสถียรยังไงล่ะ จึง
จำเป็นต้องจัดการเรื่องยิบย่อยเต็มไปหมดเพื่อทำให้มันเสถียรก่อนจะยิงออกไป!
ผลลัพธ์ของจุดอ่อนนี้คือ เธอจำเป็นต้องใช่เวลาจำนวนหนึ่งเพื่อเตรียมการก่อนยิง
นี่จึงเป็นเหตุว่าทำไมมันถึงมีช่องว่างในการยิงแต่ล่ะครั้ง
และการเล็งเป้าก็ต้องใช้การคำนวณอย่างมาก พูดง่ายๆก็คือ เธอไม่เก่งด้านการ
โดนโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว ถ้าเกิดมีการโจมตีมาจากที่ลับ เธอจะตั้วตัวไม่ทันทีไง
ล่ะ!
ดังนั้น การโจมตีแบบทีเผลอนี้แหละ คือวิธีการจัดการ มุกิโนะ ได้ดีที่สุด!
ด้วยแววตาเย็นชา เสือกแทงดาบทรายเหล็กเข้าไปอย่างไร้เมตตา เสียง
สั่นสะเทือนดัง ‘ฮึม ฮึม’ ทำขนทั่วทั้งตัวมุกิโนะลุก มองดูดาบทรายเหล็กใกล้เข้า
มา นัยน์ตาเธอหดตัวลงเท่ารูเข็ม!
“ฮ่า!”
ชั่วขณะที่ใบดาบจะสัมผัสตัวมุกิโนะ เสียงอ่อนโยนก็ดังขึ้น มิสไซล์4อันราวกับ
จรวดขนาดเล็กบินมาจากด้านข้างใส่วู่หยาน!
มองดู มุกิโนะ ที่เกือบจะดายโดนแทง วู่หยานก็ถอนมือกลับมาอย่างหมดหนทาง
แล้วเคลื่อนไหวไปด้านข้างหลบมิสไซล์ทั้ง4อัน
หลังจากหลบได้ มิสไซล์ก็ระเบิดเกิดเป็นคลื่นลมแรงชนิดที่ไม่คิดว่ามิสไซล์อัน
เล็กๆนี้จะทำได้ ทำวู่หยานเสียสมดุล!
และในขณะที่เท้าเขายังไม่มั่นคง ลูกตาวู่หยานก็หดตัวลง มีร่างเล็กปรากฏจึ้นมา
ตรงหน้าเขา อยู่ในท่าง้างหมัดก่อนจะชกใส่ท้องเขาอย่างไม่ลังเล!
เป็น คินุฮาตะ ไซไอ!
“เปรี๊ยะๆ!”
กระแสไฟฟ้าปะทุขึ้นปกคลุมทั่วตัวเขา แต่วู่หยานรู้ว่าไฟฟ้าแค่นี้มันไม่สามารถทำ
อะไรเธอได้ เพราะตอนนี้หมัดของคินุฮาตะห่อหุ้มด้วยเกราะไนโตรเจนอยู่ เธอจึง
สามารถเมินเฉยไฟฟ้าแล้วชกใส่เขาโดยได้!
ถูกชกด้วย เกราะไนโตรเจน มันไม่ใช่เรื่องตลก!
คำนวณในสมอง กระแสไฟฟ้ารอบตัวเขาก็ยืดขยายออก ไฟฟ้าได้โจมตีใส่คินุฮาตะ
และส่งเธอกระเด็นไป!
แต่คินุฮาตะที่กำลังลอยกลางอากาศกลับยิ้มเล็กๆขึ้นที่มุมปาก เธอปรับเปลี่ยน
เกราะไนโตรเจน จากนั้นเธอก็เปลี่ยนทิศกระเด็นไปอีกทาง จากนั้น มิสไซล์ที่
เหมือนเมื่อกี้ก็บินออกมาจากด้านหลังคินุฮาตะ บินมาทางวู่หยาน ทำเขาหน้า
เปลี่ยนสีเล็กน้อย
ตอนนี้วู่หยานก็เข้าใจซักทีว่าทำไมทั้งสี่คนถึงเป็นสมาชิกITEMด้านออกปฏิบัติงาน
เกราะไนโตรเจน ของ คินุฮาตะ ระเบิดที่มักมาอย่างไม่ทันตั้งตัวของ เฟรนด้า ตรว
ขบอกตำแหน่งศัตรู ทาคิสึโบะ และ มุกิโนะ ที่ยิงลำแสงเป็นว่าเล่น เชี่ย โครตลง
ตัวมีทั้งคนโจมตีใกล้ไกล นี่มันสามารถลงดันเจี้ยนได้เลยนะเนี่ย……
ด้วยฝ่ามือ วู่หยานกลับมาควบคุมสมดุลได้อีกครั้งโดยเอามือจับพื้น ก่อนที่มิสไซล์
จะได้ทันถึงตัวเขา วู่หยานส่งแรงไปที่ฝ่ามือก่อนจะผลักตัวขึ้นไปบนอากาศแล้ว
หมุนตัวตีลังกากลับหลังด้วยความเร็วสูง!
หยุดหมุนตัว ในเวลาเดียวกัน มิสไซล์ขนาดเล็กก็บินมาถึงเขาแล้ว!
มือทั้งสองสร้างดาบทรายเหล็กขึ้นมาทันที วู่หยานเหวี่ยงมันไปมาอย่างเกรี้ยว
กราดตัดมิสไซลจนมันเปลี่ยนเป็นเศษซากนับไม่ถ้วน จากนั้นวู่หยานใช้
แม่เหล็กไฟฟ้าส่งเศษซากนี้กลับไปให้เหล่าITEMราวกับอาวุธลับ!!
บางทีอาจเป็นเพราะการเคลื่อนไหวอันงดงามของวู่หยานทำ ITEMทั้งสี่คนตก
ตะลึง พวกเธอเบิกตากว้างมองมาที่เขา จนถึงชั่วขณะที่เศษชิ้นส่วนยิงเข้ามาพวก
เธอถึงดึงสติกลับมาได้ คินุฮาตะรีบเปิดใช้เกราะไนโตรเจน ป้องกันเศษชิ้นส่วน
ทั้งหมด
หลังจากป้องกันจนหมด เฟรนด้าก็พูดบางอย่างที่เกือบทำให้วู่หยานสะดุดล้ม
“สุดท้ายแล้ว นายไม่ใช่หนู แต่เป็นนักแสดงในโรงละครสัตว์งั้นหรอกเหรอ?”
วู่หยานพูดไม่ออก มองดูสาวผมทองตัวน้อยที่ขนาดเวลาต่อสู้ยังมีมาทำตัวโมเอะ
อีก เขาเรียกกระแสไฟฟ้าออกมา ก่อนจะส่งพวกมันนับไม่ถ้วนไปให้เหล่าITEMดุจ
ดังแส้ ด้วยความเร็วสูงอย่างมาก!
คินุฮาตะกำลังจะเข้าไปป้องกันมัน ทันใดนั้นฃำแสงก็พุ่งออกมาจากด้านหลังเธอ
เข้าไปทำลายแส้สายฟ้าจนหมด
คินุฮาตะ ทาคิสึโบะ และ เฟรนด้า ตัวสั่นหนัก มุกิโนะค่อยๆเดินมาจากด้านหลัง
พวกเธออย่างช้าๆ และมาถึงด้านหน้าพวกเธอด้วยศีรษะที่ก้มอยู่ทำให้ไม่อาจเห็น
สีหน้าได้
“โครตน่ากลัวค่ะ!” คินุฮาะตัวแข็งทื่อ มองแผ่นหลังของมุกิโนะ ทำเธออดพูด
คำพูดนี้ไม่ได้
“สุดท้าย มุกิโนะก็ฟิวส์ขาดจนได้ เจ้านั่นเละแน่…..” หางตาเฟรนด้าเจือไปหยาด
น้ำตา เธออดไม่ได้ที่จะก้าวถอยไปด้านหลัง ตามสัญชาติญาณ นี่ทำให้เห็นได้เลย
ว่ามุกิโนะตอนนี้ดูน่ากลัวขนาดไหน
เงยหน้าขึ้น สีหน้ามุกิโนะมืดครึ้มทั่วทั้งใบหน้า และดวงตาเธอก็ดูค่อนข้างแดง ยิ่ง
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าหน้าเธอบิดเบี้ยวมากขนาดไหน
“เมื่อกี้ ฉันคิดว่าตัวเองต้องตายซะแล้ว…….” มุกิโนะพูดด้วยน้ำเสียงไร้ความรู้สึก
ทำให้บรรยากาศเย็นยะเยือก
จากตอนที่วู่หยานสลาย เมลท์ดาวน์เนอร์ ไปจนถึงตอนฝ่า เมลท์ดาวน์เนอร์ เข้า
ไปฟันมุกิโนะ และคินุฮาตะกับเฟรนด้าก็เข้ามาโจมตี ทั้งหมดที่ว่ามานี้รวมแล้วใช้
เวลาน้อยกว่า30วิ!
ใน30วินาทีก่อนหน้านี้ มุกิโนะกำลังจมไปกับการกลัวความตาย และ30วินาทีหลัง
นั้น เธอก็เรียกสติกลับคืนมาความหวาดผวาได้
“ไม่คิดเลยว่าแกจะกล้าทำให้ฉันรู้สึกกลัว! เป็นแค่ขยะเลเวล4แท้ๆ! แต่กลับทำให้
ฉันคนนี้หวาดกลัว! ไอ้หนูโสโครก!”
เสียงกรีดร้องแหลมดังก้องเข้ามาในหูทุกคน ด้วยท่าทางบ้าคลั่ง มุกิโนะหยิบแผ่น
คริสตัลทรงแปลกๆออกมา นี่แผ่นคริสตัลนี่ทำ คินุฮาตะ เฟรนด้า และ
ทาคิสึโบะช็อค
“Silicon Burns (แผ่นการ์ดซิลิโคน)!!” ทั้งสามคนร้องออกมาพร้อมกัน ก่อนจะ
เป็นเฟรนด้าที่ตะโกนออกมาอีกรอบ
“หนีเร็ว!!”
ได้ยินแบบนี้ คินุฮาตะก็หันหลังวิ่งอย่างไม่ลังเล ส่วนนั้นเฟรนด้าวิ่งเปิดไปก่อนแล้ว
ทาคิสึโบะเวลานี้ก็ราวกับเรียกคืนแรงกายที่ขาดหายไปได้ เธอรีบวิ่งหน้าตั้ง
เมื่อเขาเห็น ซิลิคอน เบิร์น หัวใจวู่หยานก็จมดิ่งทันที แต่เขาไม่ได้วิ่งหนีเหมือย
พวกเธอ แต่เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วหันไปเผชิญหน้ากับมุกิโนะที่คลั่งไปแล้ว
“ตาย! เจ้าหนู!” มุกิโนะพูดด้วยรอยยิ้มฉีกกว้าง ก่อนจะโยนแผ่นซิลิโคนออกไป!
สายตาจับจ้องแผ่นซิลิ จนถึงช่วงที่มันลอยขึ้นไปกลางอากาศ เมลท์ดาวน์เนอร์ ก็
ถูกยิงออกมาจากฝ่ามือมุกิโเข้าใส่ แผ่นซิลิคอน!
พร้อมกับเสียงแตกหักของ ซิลิคอน เบิร์น มันระบิดแตกเป็นชิ้นๆในขณะเดียวกัน
เมื่อ เมลท์ดาวน์เนอร์ ยิงถูกเศษชิ้นส่วนเหล่านี้ ลำแสงมันก็แตกตัวออกกลายเป็น
ลำแสงนับไม่ถ้วนปกคลุมท้องฟ้าด้วยรัศมี20เมตร ราวเม็ดฝนพุ่งเข้าหาวู่หยาน!
โจมตีแบบปูพรมอย่างที่คิดเลย!
วู่หยานก้าวเท้าไปด้านหน้าแล้วเริ่มหลบลำแสงที่จะเข้ามาย่างสดเขา เมื่อ เมลท์
ดาวน์เนอร์ ตกลงพื้นก็เกิดหลุมขึ้น ไม่พูดเกินจริงเลยที่จะบอกว่า ตอนนี้วู่หยาน
กำลังหลบห่าฝนลำแสงด้วยความคล่องที่มีมากอย่างไม่น่าเชื่อ!
“ตูม! ตูม! ตูม!” เสียงระเบิดดังขึ้นไม่หยุด!
หลบ! หลบ! หลบแล้วก็หลบ!
วู่หยานราวกับต้นหญ้าอ่อนที่ลู่ไปตามแรงลม ภายใต้คลื่นห่าลำแสง เขากลับไม่
เป็นอะไรเลย!
ภายใต้สเต็ปเท้าของวู่หยาน เมื่อมีลำแสงกำลังจะเข้ามาโดนตัว เขาก็จะอาศัย
แรงลมที่เกิดจากการระเบิดเข้ามาช่วยหลบการโจมตีลูกแล้วลูกเล่า!
พายุมาเร็ว และก็ไปเร็วเช่นกัน ภายใต้การสนับสนุนของ ให้ ซิลิคอน เบิร์น ใน
ที่สุดห่าฝนนรกก็หยุด เหลือไว้เพียงแต่หลุมบนพื้น…….
ส่วน วู่หยาน นั่นไร้รอยขีดข่วน!
“เป็นไปไม่ได้!” มุกิโนะตะโกนออกมาด้วยความเหม่อลอย