บทที่ 1317+1318

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 1317+1318 โดย Ink Stone_Romance

บทที่ 1317 ช่วยชีวิต 3

แต่กู้ซีจิ่วไม่ยอม นางไม่อยากให้ผู้ใดแตะต้องร่างกายของตี้ฝูอี ยิ่งไปกว่านั้นการผ่าตัดที่แม่นยำเช่นนี้ หลัวจั่นอวี่เข้ามาแทรกไม่ได้จริงๆ เธอทำคนเดียวได้

หลัวจั่นอวี่ทำได้แค่ถอยไปด้านข้างอย่างเงียบๆ คอยยื่นพวกกรรไกรหรือปากคีบให้นางเป็นครั้งคราว

กู้ซีจิ่วไม่พูดจาอันใด และไม่ได้ถามไถ่อาการไป๋หลี่เช่อ นางลืมคนคนนั้นไปเสียสนิทแล้ว…

ความจริงวันนี้กู้ซีจิ่วเหนื่อยล้ายิ่งนัก ต่อสู้กับสัตว์ร้ายมาทั้งวัน โดยเฉพาะรอบสุดท้ายที่ตั้งกระบวนพลสู้กับมังกรปีศาจยิ่งเหนื่อยไม่เบา

เมื่อสักครู่ผ่าตัดให้ไป๋หลี่เช่อหนึ่งชั่วยามกว่า ตอนนี้ก็มาผ่าตัดให้ตี้ฝูอีอีก ยืนมาเกือบจะสองชั่วยามแล้ว…

หนึ่งชั่วยามเท่ากับสองชั่วโมง สามชั่วยามก็คือหกชั่วโมง

เที่ยงคืนแล้ว นางยังคงยุ่งอยู่

ถึงแม้นางใจเย็นมาตลอด ทว่าใบหน้าซีดเผือดและหน้าผากที่มีเหงื่อออกเผยให้เห็นสภาพที่แท้จริงของนาง

ในระหว่างนั้นหลัวจั่นอวี่คิดอยากจะเปลี่ยนตำแหน่งกับนาง แต่ก็ถูกนางปฏิเสธ

การผ่าตัดครั้งนี้ยาวนานเกือบสามชั่วยาม ถึงจะเสร็จสมบูรณ์อย่างแท้จริง

ห้องหัวใจที่ถูกแทงทะลุเข้าไปได้รับการรักษาเรียบร้อยแล้ว กระดูกซี่โครงที่หักก็ต่อติดแล้ว อวัยวะภายในอื่นๆ ซึ่งถูกกระแทกบุบสลายนางก็ใช้พลังวิญญาณรักษาให้หายแล้ว…

ถึงแม้การผ่าตัดจะเสร็จสิ้น แต่ตี้ฝูอียังไม่ฟื้นขึ้นมา ไม่มีการตอบสนองใดๆ

หลัวจั่นอวี่เห็นสีหน้ากู้ซีจิ่วไม่สู้ดีจริงๆ จึงบังคับนางไปพักผ่อน เขาจะอยู่ดูแลตี้ฝูอีตรงนี้เอง

กู้ซีจิ่วส่ายหน้าปฏิเสธอีกครั้ง นางดื่มน้ำอึกหนึ่งแล้วดึงเก้าอี้มานั่งลงข้างกายตี้ฝูอี ท่าทางประหนึ่งต้องการหยั่งรากอยู่ข้างกายเขา

หลัวจั่นอวี่หมดหนทาง ทำได้เพียงออกไปทำอาหารให้นางด้วยตัวเอง เมื่อทำเสร็จและยกเข้ามา ก็พบว่ากู้ซีจิ่วนั่งกุมมือตี้ฝูอีอยู่ตรงนั้น วางใบหน้าของตัวเองไว้กลางฝ่ามือข้างหนึ่งของเขา กำลังกระซิบว่า “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย อย่านอนหลับอีกเลยได้หรือไม่? ท่านฟื้นขึ้นมาก่อน ฟื้นขึ้นมาก่อน…ท่านนอนหลับแบบนี้ ข้ากลัว…”

เสียงของนางสะอึกสะอื้นเล็กน้อย “ตี้ฝูอี ข้ากลัว! ข้ากลัวจริงๆ…”

มือของเขาเย็นเฉียบตลอดเวลา สองมือกู้ซีจิ่วกุมมือเขาไว้ พยายามใช้อุณหภูมิของร่างกายตัวเองทำให้เขาอบอุ่น ใบหน้าของนางแนบชิดอยู่กับฝ่ามือของเขา หยาดน้ำตาก็ไหลรินลงบนผ่ามือเขาเช่นกัน

ดึกดื่นค่ำคืนที่เดียวดายเช่นนี้ ในที่สุดนางก็ทนดูแลเขาไม่ไหวแล้ว เผยให้เห็นความอ่อนแอของนาง…

หลัวจั่นอวี่จิตใจเป็นทุกข์เช่นกัน

น้องสาวคนนี้เข้ามาได้สิบกว่าวันแล้ว ทำการสิ่งใดแข็งแกร่งเด็ดขาด เขาไม่เคยเห็นนางกลัวอะไรมาก่อน ทว่าตอนนี้เขารับรู้ได้ถึงความกลัวของนาง!

นางกลัวตี้ฝูอีมีอันเป็นไป กลัวอย่างสุดชีวิต!

ยามนี้แม้แต่เจ้าหอยยักษ์กับลู่อู๋น้อยต่างก็เชื่อฟัง หลบอยู่ที่มุมหนึ่งไม่กล้าย่างกรายเข้ามารบกวน

หลัวจั่นอวี่ก้าวมาจับชีพจรของตี้ฝูอี ชีพจรเขายังคงไม่สม่ำเสมอ เต้นช้ายิ่งนัก คนปกติเต้นเจ็ดสิบถึงแปดสิบครั้งต่อนาที ของเขาเต้นสี่สิบครั้งโดยประมาณ เคราะห์ดีที่เต้นมีกำลังกว่าเมื่อสักครู่มากแล้ว เป็นข้อพิสูจน์ว่าการผ่าตัดของกู้ซีจิ่วสำเร็จลุล่วงด้วยดี

เขาปลอบใจกู้ซีจิ่ว “ซีจิ่ว ไม่ต้องกลัวไป ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแข็งแกร่งยิ่งนัก น่าจะใกล้เป็นเทพแล้ว ชีวิตนี้เขาผ่านร้อนผ่านหนาวและความทนทุกข์ทรมานมากมาย ไม่ตายง่ายๆ หรอก…ตอนเขาเพิ่งเข้ามาก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็ยังใช้ความสามารถของตัวเองคนเดียวจัดการทุกอย่างได้…”

ความจริงแล้วเมื่อสักครู่กู้ซีจิ่วเอาแต่สาละวนจะช่วยชีวิตคน จึงไม่ได้คิดว่าตี้ฝูอีเข้ามาเมื่อใด เข้ามาได้อย่างไรกันแน่ ยามนี้เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้จึงอดไม่ได้ที่จะถามออกมา

หลัวจั่นอวี่จึงเล่าเหตุการณ์ตอนที่ตี้ฝูอีเข้ามาให้นางฟังคร่าวๆ

————————————————————-

บทที่ 1318 ช่วยชีวิต 4

หลัวจั่นอวี่จึงเล่าเหตุการณ์ตอนที่ตี้ฝูอีเข้ามาให้นางฟังคร่าวๆ กู้ซีจิ่วมองไปทางเจ้าหอยยักษ์ที่อยู่ตรงมุมห้อง เจ้าหอยยักษ์หดตัว “เจ้านาย ข้าพยายามอย่างที่สุดแล้ว…”

“ตอนเจ้าเจอข้าเหตุใดไม่บอกในทันทีว่าเขามาหาข้าโดยได้รับบาดเจ็บ กลับมัวแต่พูดจาไร้สาระก่อน!”

หากเจ้าหอยยักษ์พูดออกมาในตอนนั้น เธอต้องช่วยเขาก่อนแน่นอน…

บางทีอาจจะช่วยรักษาได้เร็วกว่านี้หน่อย

เจ้าหอยยักษ์ไม่มีคำใดมาโต้แย้ง หดหัวเข้าไปในเปลือกหอย ดูเหมือนคำพูดแรกที่มันพูดตอนเจอเจ้านายคือชื่นชมความกล้าหาญของนาง เพียงแต่ยังไม่ทันรอให้มันพูดต่อ เจ้านายก็พาคนเคลื่อนย้ายในพริบตาหนีไปแล้ว…

ยามนี้ไม่ใช่เวลาตามหาว่าเป็นความรับผิดชอบของผู้ใด กู้ซีจิ่วสูดลมหายใจเข้าเบาๆ ให้หลัวจั่นอวี่กลับไปพักผ่อนก่อน ตอนนี้ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่ยอมห่างจากกายตี้ฝูอีอย่างแน่นอน

หลัวจั่นอวี่เกลี้ยกล่อมนางไม่ได้ จึงทำได้แค่บังคับให้นางกินอาหารที่ช่วยบำรุงนั้นลงไป ไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง คิดว่าตี้ฝูอีทางนี้ไม่เป็นอะไรแล้ว เขาจึงอยากให้กู้ซีจิ่วไปดูไป๋หลี่เช่อสักหน่อย

กู้ซีจิ่วส่ายหน้า “ไม่จำเป็นต้องดูอีก ถึงแม้ข้าไม่ได้ผ่าตัดเขาให้เสร็จเรียบร้อย แต่ข้าเชื่อมต่อกล้ามเนื้อและเส้นเลือดหลักที่สำคัญอย่างเช่นเส้นประสาทและกระดูกให้แล้ว ท่านให้ยาเขาอีกหน่อย…” เธอพูดชื่อยาหลายชนิดนั้น และให้หลัวจั่นอวี่ไปดูแลไป๋หลี่เช่อเอง

เห็นได้ชัดมากว่านางไม่มีทางขยับเขยื้อนไปไหนอีกอย่างแน่นอน

หลัวจั่นอวี่มองดูนาง “ซีจิ่ว เจ้ารักเขาใช่ไหม?”

กู้ซีจิ่วชะงักงัน มองดูตี้ฝูอีที่อยูบนเตียง และไม่ได้ปฏิเสธ “ใช่”

“เช่นนั้นเหตุใดเจ้า…เขาทำเรื่องอันใดผิดต่อเจ้าใช่หรือไม่?” หลัวจั่นอวี่อยากรู้ที่มาที่ไปของเรื่องราวสักเล็กน้อย

กู้ซีจิ่วหลุบตาลง เรื่องของเธอกับตี้ฝูอีซับซ้อนเกินกว่าที่จะอธิบายออกมาได้ในไม่กี่ประโยค อีกอย่างเธอไม่ใช่คนที่ชอบบอกเล่าความรู้สึกตัวเองให้คนอื่นฟัง ดังนั้นจึงส่ายหน้า “ท่านพี่ ข้าเหนื่อย ไม่อยากพูดเรื่องเหล่านั้น”

หลัวจั่นอวี่มองใบหน้าอันซีดเผือดของนาง ก็ไม่อยากบังคับนางแล้วเช่นกัน หลังกำชับนางอยู่สองประโยคค่อยหันกายเดินจากไปก่อน

รุ่งเช้าวันถัดมา เขายังไม่วางใจน้องสาว จึงมาหาอีกรอบ เห็นกู้ซีจิ่วกำลังเช็ดหน้าผาก ใต้วงแขน และบริเวณอื่นให้ตี้ฝูอี ยุ่งเสียยิ่งกว่าผึ้งงานเสียอีก

“เขาเป็นอะไรไป?” หลัวจั่นอวี่มองๆ ตี้ฝูอี เขายังคงไม่มีทีท่าจะฟื้นขึ้นมา

“เมื่อคืนเขาไข้ขึ้น ตอนนี้ไข้เพิ่งจะลด…” กู้ซีจิ่วถ่างตาที่ขอบตาดำคล้ำตอบกลับ

หลัวจั่นอวี่เป็นทุกข์ยิ่งนัก ไม่ต้องถามเลยว่ากู้ซีจิ่วคอยดูแลเขาอยู่ที่นี่ทั้งคืนจริงๆ ไม่ได้พักผ่อนแม้แต่น้อย

หลัวจั่นอวี่ก้าวไปด้านหน้าตรวจวัดชีพจรของตี้ฝูอี สภาพแทบจะเหมือนกันกับเมื่อคืน เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้ “เขาไม่ได้ตื่นขึ้นมาเลยหรือ?”

กู้ซีจิ่วพยักหน้า “ใช่…ใช่แล้ว บางทีเมื่อคืนตอนข้าผ่าตัดให้เขาอาจใช้ยาชามากเกินไป จึงทำให้เขานอนหลับอยู่อย่างนี้…พี่ ท่านจับชีพจรของเขาแล้วรู้สึกมีความคืบหน้าจากเมื่อคืนหน่อยหรือไม่?”

ชัดเจนว่าทักษะการแพทย์ของเธอสูงกว่าหลัวจั่นอวี่ สิ่งที่หลัวจั่นอวี่มองออกเธอก็ย่อมต้องมองออก

เพียงเพราะจิตใจที่เฝ้าปรารถนาให้เขาดีขึ้นมานั้นมีมากเกินไป จึงสูญเสียความสามารถในการวิเคราะห์ตัดสิน หวังแต่เพียงว่าตัวเองจะมองผิดไป…

หลัวจั่นอวี่มองสายตาที่คาดหวังของนาง ฝืนใจพูดความจริงออกไปไม่ไหว จึงพยักหน้ารับ “อืม ดีกว่าเมื่อคืนเล็กน้อย ซีจิ่ว เจ้าอย่าใจร้อนเกินไป เขาบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นฟื้นขึ้นมาช้าก็เป็นเรื่องปกติแล้ว ดีร้ายอย่างไรเขาก็ไม่ได้อาการทรุดหนักลงไม่ใช่หรือ?”

กู้ซีจิ่วพยักหน้า กล่าวโดยสัญชาตญาณว่า “นั่นก็จริง หลังการผ่าตัดยี่สิบสี่ชั่วโมงเป็นช่วงเวลาอันตรายที่สุด ตอนนี้ยังไม่ยี่สิบสี่ชั่วโมงเต็ม ไม่ทรุดหนักลงก็แปลว่าดีแล้ว…”

——————————————————————