ตอนที่ 284 ไปให้พ้นนะ! เธอมันน่ารังเกียจ! / ตอนที่ 285 ทำไมถึงไม่ใช่ฉันล่ะ

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 284 ไปให้พ้นนะ! เธอมันน่ารังเกียจ!

 

 

อ้าาา! ซย่าซย่ากำลังถอดกางเกงพี่อี่เจ๋อออกนี่นา! อ้าาา! หนึ่งวันนี้ชักจะตื่นเต้นเกินไปแล้ว!

 

 

อันซย่าซย่าและเซิ่งอี่เจ๋อแก้ตัวพร้อมกัน “ไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ!”

 

 

พูดพร้อมกันอีกเหมือนกับต่างคนต่างจะปกป้องความบริสุทธิ์ของตัวเองมากไปเลย

 

 

ฉือหยวนเฟิงทำสีหน้า “ฉันเข้าใจ ไม่ต้องอธิบายแล้ว” ให้ทั้งคู่ ความประทับใจฉายอยู่บนใบหน้าหล่อเหลาของเขา ชายหนุ่มพยักหน้ารัวๆ “ฉันรู้ ฉันรู้ ต่อเลยๆ ฉันไปละ!”

 

 

เขาหันหลังกลับไปพร้อมโยเกิร์ต

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อและอันซย่าซย่าต่างนั่งพูดไม่ออก ทั้งสองมองหน้ากันพร้อมรู้สึกอับอายจนแทบจะตายได้

 

 

อันซย่าซย่าอารมณ์เสียมากกว่า หญิงสาวเพียงดึงขากางเกงของชายหนุ่มขึ้น ไม่ใช่ถอดออกเสียหน่อย! แล้วปฏิกิริยาเซ่อๆ ของฉือหยวนเฟิงอีก ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมดเลยโว้ย!

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อปัดมือหญิงสาวออกด้วยสีหน้ารังเกียจ “ซย่าซย่า ฉันเขินนะถ้าเธอจะถอดกางเกงฉันออกแบบนั้น”

 

 

เธอไม่ได้จะไปไกลขนาดนั้นเสียหน่อย! อีกอย่างทำไมพอชายหนุ่มพูดออกมาแบบนี้แล้วมันถึงแย่ขึ้นไปอีกกัน!

 

 

อันซย่าซย่ายู่หน้าและเทียบขาตัวเองด้วยความเศร้า ที่โรงเรียนและที่บ้านต่างมีเครื่องทำความร้อนทั้งคู่ แต่กระนั้นหญิงสาวก็ยังคงขี้หนาว เธอสวมลองจอห์นและกางเกงผ้าขนสัตว์ด้านในกางเกงนักเรียน… ขาเธอมีขนาดเท่ากับเซิ่งอี่เจ๋อเมื่อเธอแต่งตัวเช่นนั้น…

 

 

บางทีอาจจะใหญ่กว่าด้วยซ้ำ…

 

 

“คนไม่ใช่ลองจอห์นฉลาดกว่าหรือเปล่า” หญิงสาวถามด้วยความสงสัย

 

 

“ไม่รู้หมือนกัน แต่ที่แน่ๆ …” เอ่ยขึ้นมาเพื่อสร้างความดราม่า “เธอนี่มันโง่จริงๆ …”

 

 

“ไปตายซะไป!” อันซย่าซย่าตะโกนขึ้น เริ่มมีปากมีเสียงกันเสียงดังขึ้น

 

 

เด็กสาวคนอื่นในห้องพากันมองอันซย่าซย่าด้วยแววตาอาฆาตแค้น ตอนพัก ช่วงที่เซิ่งอี่เจ๋อไม่อยู่ หลิวย่วนย่วนเข้ามาหาเธอพร้อมพูดด้วยความริษยา “อันซย่าซย่า เธอสนิทกับเซิ่งอี่เจ๋อดีนะ พวกเราอิจฉาจังเลยยย”

 

 

ทันใดนั้นเด็กสาวคนอื่นๆ ก็จ้องเธอด้วยความริษยาตาม

 

 

อันซย่าซย่าจะไม่ทนนิสัยแบบนั้นอีกแล้ว เธอแค่นหัวเราะ “งั้นก็อิจฉาต่อไปซี่”

 

 

“…” หลิวย่วนย่วนถึงกับพูดไม่ออก หน้าถึงกับซีดเลยทีเดียว

 

 

“อีกอย่างนะหลิวย่วนย่วน ฉันยังไม่ได้จัดการเรื่องในห้องนั่งเล่นกับเธอเลยนะ เราลองเอาไปคุยกับคุณครูไป่ดูไหม” ใบหน้าของอันซย่าซย่านั้นไร้อารมณ์ แต่กลับดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก

 

 

เมื่อก่อนหญิงสาวชอบจะจัดการปัญหาต่างๆ อย่างสันติ นอกเสียจากว่ามันจะเกินกว่าจะจัดการได้ สิ่งที่เคยเกิดขึ้น เธอปล่อยมันผ่านไป

 

 

แต่ตอนนี้เธอจะไม่ทนอีกต่อไป!

 

 

ความจริงแล้วเด็กสาวพวกนี้เป็นเพียงแค่คนขี้แพ้ที่เหมารวมว่าตัวเองก็ข่มคนอื่นได้!

 

 

หลิวย่วนย่วนคาดไม่ถึงว่าอันซย่าซย่าจะกล้าขึ้นมากขนาดนี้ หญิงสาวเริ่มพูดตะกุกตะกัก

 

 

เด็กสาวคนอื่นไม่ปริปากอะไรออกมา

 

 

อันซย่าซย่าเชิดคางขึ้นอย่างห้าวหาญ มู่หลีนับถือหญิงสาวที่ทำแบบนั้น

 

 

เธออิจฉาที่อันซย่าซย่ากล้าหาญได้ขนาดนี้

 

 

“อันซย่าซย่า… เธอ เธอ… ฉัน ฉันรู้ว่าเธอไม่ทำแบบนั้นหรอก… เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไม่ใช่เหรอ” หลิวย่วนย่วนประดิษฐ์รอยยิ้มบนใบหน้าและพยายามจะจับมืออันซย่าซย่า ทันใดนั้นฉีเหยียนซีก็ลุกขึ้นนั่งหลังจากที่นอนหลับมา

 

 

แขนของหลิวย่วนย่วนไปโดนฉีเหยียนซีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนั่นทำให้หญิงสาวกลัวหัวหดเลยทีเดียว!

 

 

ฉีเหยียนซีกลายเป็นราชสีห์เดือดดาล “ไปให้พ้นนะ! เธอมันน่ารังเกียจ!”

 

 

หลิวย่วนย่วนร่วงกลับที่นั่งตัวเองในขณะที่อันซย่าซย่ามองฉีเหยียนซีด้วยความกลัว ไม่รู้ว่าครั้งนี้อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาโมโห

 

 

ฉีเหยียนซีหันหน้ามาทางนี้ ก่อนที่สายตาจะหยุดลงที่อันซย่าซย่า ชายหนุ่มหรี่ตา กระชากคอเสื้อของเธอแล้วลากหญิงสาวออกไป!

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 285 ทำไมถึงไม่ใช่ฉันล่ะ

 

 

“นี่ ฉีเหยียนซี! ปล่อยฉันนะ!” อันซย่าซย่าดิ้น แต่ฉีเหยียนซีมีแรงเยอะกว่าเธอและมากพอจะลากเธอออกมาจากตึกเรียน

 

 

อันซย่าซย่าฉุนมากๆ และเริ่มใช้เล็บใช้ฟันแล้ว แต่ฉีเหยียนซีก็ไม่สนใจ ชายหนุ่มทำเหมือนเขาไม่ได้โดนทำร้าย กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาไม่กระตุกแม้แต่น้อย

 

 

“คาบต่อไปจะเริ่มแล้ว คาบต่อเป็นภาษาอังกฤษนะ!” อันซย่าซย่าโกรธมาก ชายหนุ่มเป็นทายาทตระกูลฉี แน่นอนว่าคุณครูไม่ทำอะไรเขาหรอก แต่กับเธอก็อีกเรื่องหนึ่งเลยไง!

 

 

ฮึก… ความโรคจิตของปีศาจร้ายกำลังจะเริ่ม และตอนนี้เธอกำลังจะกลายเป็นหญิงสาวผู้โชคร้ายที่โดนลูกหลงเข้า!

 

 

ฉีเหยียนซีลากอันซย่าซย่าตามหลังเขามา ทั้งสองเดินชนกันไปมาจนมาถึงห้องเปียโน ชายหนุ่มเตะประตูให้เปิดออกแล้วผลักอันซย่าซย่าเข้าไปด้านใน อันซย่าซย่าเสียการทรงตัวทำให้ล้มใส่เปียโนจนเกิดเสียงดังบาดหู

 

 

ให้ตายสิ! ไอ้หมอนี่!

 

 

“ต้องการอะไร…” อันซย่าซย่าขบฟันพลางจ้องคนตรงหน้า

 

 

ฉีเหยียนซีคลายหมัดตัวเองก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ เขารู้ตัวว่าอารมณ์เสียแต่เขาก็ทนไม่ไหวอีกแล้ว การตวาดใส่อันซย่าซย่าเป็นสิ่งเดียวที่เขานึกออกตอนนี้

 

 

“อันซย่าซย่า ทำไมเซิ่งอี่เจ๋อถึงเป็นคนเดียวที่เธอเป็นห่วงล่ะ ฉันก็นั่งข้างๆ เธอนะ ทั้งเรื่องรูปร่างหน้าตากับเรื่องครอบครัวของฉันก็ไม่ได้ต่างกับเซิ่งอี่เจ๋อเลย ฉันยินดีให้เธอถอดกางเกงฉันออกเพื่อดูว่าฉันใส่ลองจอห์นหรือเปล่าด้วย ฉันยินดีที่จะให้เธอดูนะ!”

 

 

อันซย่าซย่าสับสนเป็นอย่างมาก “อะไรนะ”

 

 

ฉีเหยียนซีบ้าไปแล้วหรือยังไง

 

 

ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ เขายึดไหล่ของเธอและกดเธอลงกับเปียโน เขาถามด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า “ทำไมถึงไม่ใช่ฉันล่ะ ทำไม”

 

 

ชายหนุ่มแข็งแรงเกินไปและอันซย่าซย่าก็โดนติดกับเปียโนอยู่ แม้จะกลัวว่าจะทำเปียโนพัง แต่อันซย่าซย่าพ่นจิตวิญญาณของซุปไก่ใส่ฉีเหยียนซีอย่างจำนน “ฉีเหยียนซี ฉันกำลังคบกำเขานะ เขาชอบฉันและฉันก็ชอบเขาด้วย ฉันจะดูเป็นยังไงถ้ายังคงมาพัวพันกับนายเนี่ย จับปลาสองมือมันไม่ดีนะ!”

 

 

“ฉันไม่สนหรอก!” ฉีเหยียนซีตอบอย่างเกรี้ยวกราด ทำให้อันซย่าซย่าต้องแปลกใจอีกครั้ง

 

 

หญิงสาวหมายจะอธิบายเหตุผลของเธอในตอนที่ความคิดหนึ่งแล่นเข้ามา เธอถามหว่านๆ “ฉีเหยียนซี เกิอะไรขึ้นหรือ เรื่องครอบครัวหรือ… หรือเป็นเรื่องหลีฝานซิง…”

 

 

คำถามงี่เง่าของเขาอาจจะตั้งใจส่งผ่านเธอไปหาคนอื่นก็ได้

 

 

บางทีเด็กหนุ่มที่เย่อหยิ่งและหัวแข็งคนนี้อาจจะไม่ได้แข็งกร้าวอย่างที่เขาแสดงออกก็ได้

 

 

ความจริงแล้วเขาก็เจ็บปวดอยู่เหมือนกันใช่ไหม

 

 

ฉีเหยียนซีคลายแรงรอบข้อมือของหญิงสาวและจ้องตาอันซย่าซย่า ณ ขณะนั้นอันซย่าซย่ารู้สึกกล้าหาญอย่างบอกไม่ถูก จากที่ควรกลัว เธอกลับจ้องชายหนุ่มกลับ

 

 

ไม่มีความหวาดหวั่นปรากฏในดวงตาของทั้งคู่

 

 

อันซย่าซย่ามั่นใจแล้วว่าบางอย่างทำให้ฉีเหยียนซีโมโห!

 

 

ถึงเขาจะเป็นคนน่ากลัว อารมณ์เสียง่าย และเย่อหยิ่งจนน่ารำคาญ ลึกๆ แล้วชายหนุ่มก็เป็นคนดีคนหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความสัมพันธ์

 

 

นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ชายหนุ่มไม่เข้ามาก้าวก่ายเธอหลังจากที่รู้ว่าเธอกำลังคบกับเซิ่งอี่เจ๋ออยู่

 

 

ผู้ชายประเภทนั้นคงไม่ยอมลดตัวมาทำให้อันซย่าซย่าต้องเลือกแบบนั้นหรอก

 

 

“เธอไปได้แล้วล่ะ ขอโทษนะ” ฉีเหยียนซีเหมือนถูกทอดทิ้ง เขาถึงขั้นขอโทษอันซย่าซย่าเลยนะ!

 

 

อันซย่าซย่าพบว่าเรื่องทั้งหมดนี้ช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน เธอได้แต่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ทันใดนั้นฉีเหยียนซีก็เชิดคางคมของตัวเองขึ้น “ไปสิ!”

 

 

อันซย่าซย่ากัดริมฝีปากตัวเองและออกจากห้องเปียโนไป

 

 

ฉีเหยียนซียืนจ้องความว่างเปล่าในห้องเปียโนสักพักก่อนจะคลำหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าของตัวเองด้วยมือที่สั่นเทา ไม่นานนักเขาก็เจอบุหรี่ที่พกเอาไว้

 

 

เขาสูบบุหรี่จนหมดทั้งซองก่อนจะเดินไปเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ ใช้เวลาอีกสักพักชายหนุ่มจึงตัดสินใจออกจากห้องไป

 

 

และทิ้งกระเป๋าเงินสีดำไว้บนเก้าอี้…