ตอนที่ 1752 ไป๋ซู่ (4) / ตอนที่ 1753 การตายของจิ่นอวี้ (1)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1752 ไป๋ซู่ (4)

หนานกงอวิ๋นอี้สูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสะกดกลั้นความโกรธจะอัดหน้าใครสักคนไว้ ชีวิตที่แล้วเขาไม่สามารถปกป้องอวิ๋นลั่วเฟิงได้และไม่สามารถเป็นที่พักพิงจากพายุให้นางได้ แต่ในชีวิตนี้ มีใครบางคนที่สามารถปกป้องนางได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางยอมให้ใครมาทำลายความสุขของนางแน่!

“ข้ารู้จักนางจริง…” อวิ๋นเซียวเริ่มพูดภายใต้สายตาจดจ่อของคนอื่น “…แต่ว่านางต้องการวางแผนใช้วิชาลับเพื่อปรับเปลี่ยนความทรงจำของข้าให้คิดว่านางคือเฟิงเอ๋อร์ แต่ว่าความแข็งแกร่งทางจิตของข้ามากกว่านาง ดังนั้นนางจึงล้มเหลว”

เสียงของอวิ๋นเซียวอาจจะไพเราะแต่เย็นชามาก

“โชคร้ายที่…” สายตาของอวิ๋นเซียวไปหยุดอยู่ที่ไป๋ซู่อย่างสื่อความหมายชัดเจน

อวิ๋นเซียวพูดว่าฉินลั่ววางแผนเปลี่ยนความทรงจำเขาเพื่อแกล้งทำตัวเป็นอวิ๋นลั่วเฟิงแต่ล้มเหลว! ก็หมายความว่าชายตรงหน้าพวกเขาเองก็หลงรักอวิ๋นลั่วเฟิงแต่ถูกสตรีผู้นี้หลอกใช่หรือไม่

“ไร้สาระ!” ฉินลั่วจ้องหน้าอวิ๋นเซียวอย่างเย็นชา “เจ้าก็แค่เสียดายที่ทอดทิ้งข้าเลยต้องการจะทำลายสามีข้าและความสุขของข้า ข้าจะบอกอะไรให้ เจ้าไม่มีทางทำสำเร็จหรอก! ข้าไม่มีทางชอบคนที่สร้างปัญหาให้ข้าอย่างเจ้าหรอก!”

ในเมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้ออกมา ก็หมายความว่านางไม่สามารถออกมาได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่นางกล้าพูดออกมาอย่างชะล่าใจ

แต่ว่าที่นางไม่รู้ก็คือเหตุผลที่อวิ๋นเซียวไม่ให้อวิ๋นลั่วเฟิงออกมาเพราะ ข้อแรกเขาไม่ต้องการให้นางกังวลเรื่องนี้เพราะถึงอย่างไรวันนี้ก็เป็นวันที่นางควรมีความสุขที่สุด ส่วนข้อสอง…เขาไม่มีทางยอมให้ไป๋ซู่ได้แม้แต่จะเหลือบมองความงามของนาง

ใช่แล้ว อวิ๋นเซียวก็เป็นบุรุษจิตใจคับแคบเช่นนี้นี่แหละ

ถึงแม้ว่าเขาจะยังระวังเรื่องเฉินอวี้ชิงและจีจิ่วเทียน เขาก็ยังทำตัวเป็นมิตรกับพวกเขาอยู่พอสมควรเพราะพวกเขาช่วยอวิ๋นลั่วเฟิงไว้มาก ในทางกลับกันโม่เชียนเฉิงและไป๋ซู่ทำให้เขาไม่พอใจ ในเมื่อเขาไม่พอใจเหตุใดเขาต้องยอมให้คนพวกนี้เห็นภรรยาที่งดงามของเขาด้วย

“เกิดอะไรขึ้น” เสียงของไป๋ซู่เปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาขมวดคิ้ว

จิ่นอวี้ใส่ร้ายอวิ๋นลั่วเฟิงเพราะนางรักเขาและอิจฉาอวิ๋นลั่วเฟิง แต่จักรพรรดิปีศาจจะทอดทิ้งอวิ๋นลั่วเฟิงทั้งๆ ที่เขาหลงใหลนางขนาดนี้จริงหรือ

ความจริงแล้วไป๋ซู่ไม่เชื่อเลยสักนิดเดียว ถึงแม้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะทิ้งอวิ๋นเซียวได้แต่ไม่มีทางที่อวิ๋นเซียวจะทิ้งนาง!

“สามี อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระที่คนพวกนี้พูดเลย พวกเขาแค่อิจฉาท่าน พวกเราเลิกสนใจคนพวกนี้แล้วไปกันเถอะ” ฉินลั่วกดความตระหนกในใจเอาไว้แล้วดึงมือของไป๋ซู่เพราะอยากจะออกไปจากที่นี่

คนที่ตอนแรกดูถูกอวิ๋นเซียวก็มีปฏิกิริยาทันทีที่ได้ยินเขาพูด สายตาของพวกเขามองไปที่ฉินลั่วและไป๋ซู่อย่างเหยียดหยาม

ส่วนเพื่อนและครอบครัวของอวิ๋นลั่วเฟิงก็ประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นคนที่กล้าหาญและหน้าด้านขนาดที่วิ่งมาที่หน้าจวนของคนอื่นแล้วยังแกล้งทำตัวเป็นพวกเขาอีก วันนี้พวกเขาได้เปิดหูเปิดตาแล้ว

“อวิ๋นเซียว…”

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านในจวน เสียงร้ายกาจเย็นชาที่ทำให้ไป๋ซู่ตัวแข็ง

“ท่านออกมาทำไม” อวิ๋นเซียวหันไปมองสตรีที่งามจนน่าตกตะลึงผู้กำลังเดินออกมาจากจวน “ข้าจัดการเรื่องนี้ได้…”

เทียบกับรูปร่างปกติในชุดสีขาวของนางแล้ว วันนี้อวิ๋นลั่วเฟิงในชุดแต่งงานสีแดงขับนางให้งดงามจนผู้คนแทบลืมหายใจ

ปกตินางไม่ได้ใช้เครื่องสำอางประทินผิวนางก็งดงามอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เมื่อนางแต่งหน้าบางๆ ความงามของนางก็ทำให้ผู้คนไม่อาจละสายตาไปได้ การยกให้นางเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของแคว้นเจ็ดเมืองก็ไม่ใช่เรื่องเกินไปเลย

เมื่ออวิ๋นเซียวได้ยินเสียงสูดลมหายใจของคนรอบตัวเขา เขาก็ขมวดคิ้วและกวาดสายตามองทุกคน สายตาเย็นชาและเต็มไปด้วยจิตสังหารของเขาทำให้หลายคนต้องหันหน้าหนีด้วยความกลัว

“อวิ๋นเซียว ข้ารู้ว่าท่านจัดการเรื่องนี้ได้แต่ถ้ามีคนหลอกลวงมาทำให้ชื่อเสียงของข้ามัวหมอง…แล้วข้าจะไม่ออกมาเผชิญหน้าได้อย่างไร” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มบางและดวงตาสีดำสนิทของนางก็ไปหยุดอยู่ที่ไป๋ซู่ ก่อนนางจะเอ่ยทักทาย “ไป๋ซู่ ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้เจอเจ้าในสถานการณ์แบบนี้”

…………………………

ตอนที่ 1753 การตายของจิ่นอวี้ (1)

ใบหน้าของไป๋ซู่แข็งค้าง ตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกเหมือนบางอย่างในความคิดเขาแตกละเอียด

“อวิ๋น…ลั่วเฟิง…”

ชิ้นส่วนความทรงจำมากมายปรากฏขึ้นในความคิดของเขา ใบหน้าที่เลือนรางในความทรงจำก็ค่อยๆ ชัดเจน

“นายท่าน…” จิ่นอวี้ตะเกียกตะกายลุกขึ้นและมองไป๋ซู่อย่างกังวล

ร่างกายของไป๋ซู่สั่นและเขาก็เดินโซซัดโซเซ ดวงตาร้ายกาจของเขาลุกโชนไปด้วยความโกรธ

“เจ้ากล้าหลอกข้างั้นหรือ” เขาหันไปหาฉินลั่วช้าๆ และพูดลอดไรฟันออกมา

วิชาของฉินลั่วจะถูกทำลายเมื่อคนที่อยู่ภายใต้อำนาจของตราประทับพบตัวจริงที่นางใช้ปลอมตัว ดังนั้นความทรงจำของไป๋ซู่จึงฟื้นกลับมาทันทีที่เห็นอวิ๋นลั่วเฟิงปรากฏตัว

เขายังเข้าใจด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น! สิ่งที่น่าขันที่สุดก็คือเขาไม่เชื่อบ่าวที่่ติดตามรับใช้เขามาหลายปีและดันเชื่อสตรีผู้นี้แทน!

“ข้าจะสังหารเจ้า!” ไป๋ซู่ฉวยโอกาสที่ฉินลั่วยังไม่ทันตั้งตัวและพุ่งเข้าโจมตีนางด้วยความโกรธแค้น เปลวเพลิงในดวงตาเขาแทบจะเผาโลกหลายพันใบให้กลายเป็นจุณ

แค่ฉินลั่วหลอกเขายังไม่พอ…ทันทีที่เขานึกถึงรายละเอียดที่พวกเขาใช้เวลาบนเตียงด้วยกันเขาก็อยากจะอาเจียน เขายิ่งรู้สึกแย่เหมือนกลืนแมลงวันเข้าไป

“ฮึ่ม!” ฉินลั่วค่อยๆ ได้สติกลับมาและส่งเสียงขึ้นจมูกเมื่อเห็นการโจมตีของไป๋ซู่ นางก็ถอยหลังออกไป “ไป๋ซู่ น่าขันที่ข้าชอบเจ้ามากจนยอมยกร่างกายตัวเองให้เจ้า แต่เจ้ากลับอยากสังหารข้างั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นข้าจะทำให้เจ้าสมหวังเอง!”

เขาก็เป็นแค่บุรุษคนหนึ่ง นางอาจจะชอบเขาแต่นางก็ไม่มีทางยอมให้เขามาทำตัวอวดดีกับนาง ถ้าความแข็งแกร่งของนางไม่ได้ถูกจำกัดไว้ล่ะก็ ทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็คงกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว

ตูม!

การโจมตีแต่ละครั้งของไป๋ซู่ก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และนั่นทำให้ฉินลั่วหลบการโจมตีได้ยากขึ้นเรื่อยๆ นางกัดปากแล้วพูดอย่างเฉยชาว่า “ไป๋ซู่ ในเมื่อเจ้าทำตัวไร้หัวใจกับข้า ถ้าอย่างนั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่นึกถึงความสัมพันธ์เก่าๆ ของพวกเรา…”

พูดจบ ฉินลั่วก็หลบการโจมตีของไป๋ซู่อีกครั้ง นางหยิบเครื่องรางสีเหลืองออกมาและหยดเลือดจากปลายนิ้วของตัวเองลงไปบนกระดาษ ก่อนจะท่องคาถาบางอย่าง

ไม่นานเครื่องรางสีเหลืองก็ระเบิดออกจนเกิดเสียงดัง

“นั่นมันเครื่องรางปิดผนึก!” จวินหลิงเทียนมีความรู้มากกว่าคนอื่นและเผลอพูดออกมาเมื่อเห็นเครื่องราง “สตรีผู้นี้มีเครื่องรางผนึกในตำนานด้วยหรือนี่”

“เครื่องรางปิดผนึกงั้นหรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงหันไปมองจวินหลิงเทียนแล้วเลิกคิ้ว

“ตำนานกล่าวไว้ว่าเครื่องรางปิดผนึกจะมีสัตว์อสูรวิญญาณที่ทรงพลังมากถูกผนึกไว้ด้านใน แต่ข้าเองก็เคยได้ยินเพียงชื่อแต่ไม่เห็นเคยมาก่อน ไม่คิดเลยว่าข้าจะได้มาเห็นเครื่องผนึกที่นี่”

ทันทีที่จวินหลิงเทียนพูดจบ ร่างขนาดมหึมาก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของฉินลั่ว สิ่งนั้นคือสัตว์อสูรกระทิงสีแดงดุร้ายขนาดมหึมา ดวงตาของมันแดงก่ำเหมือนโลหิตและมีใบหน้าดุร้าย ขาทั้งสี่ข้างของมันกำลังตะกุยพื้น

ร่างกายของฉินลั่วไม่ได้อยู่ในสภาพดีนัก นางสั่นอยู่สองสามครั้งแต่ก็ยืนหยัดอย่างมาดมั่น

“กระทิงสวรรค์ลงทัณฑ์โลหิต อย่าปล่อยให้คนที่อยู่ที่นี่รอดไปได้สักคนเดียว!” นางเชิดหน้าออกคำสั่ง แม้ใบหน้าจะซีดเผือดแต่นางก็ยังหยิ่งทะนง

ความจริงแล้ว ตอนนี้ฉินลั่วรู้สึกไม่ดีเลย นางมีราคาที่ต้องจ่ายเพื่อทำลายผนึก! ราคานี้คือสัตว์อสูรวิญญาณที่อยู่ด้านในเครื่องรางผนึกจะดูดซับพลังฌานของนางไปครึ่งหนึ่งเพื่อช่วยมันออกจากผนึก!