ตอนที่ 288 งานกาล่าวันปีใหม่ (2) / ตอนที่ 289 อนาคตตัวเอง หรือ อันซย่าซย่า (1)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 288 งานกาล่าวันปีใหม่ (2)  

 

 

เสี่ยวเหยียนที่เป็นหนึ่งในพิธีกรก็อดไม่ได้ที่จะพ่นลมหายใจออกมาด้วยความประทับใจเช่นกัน 

 

 

ชายหนุ่มไม่แน่ใจเล็กน้อยในตอนที่มู่หลีมาหาเขาเรื่องที่อาสาจะเป็นพิธีกรงานกาล่าให้ แต่เขาก็ให้โอกาสมู่หลีอยู่ดีโดยขอให้หญิงสาวลองกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าสภานักเรียนดู 

 

 

ชายหนุ่มคิดว่าหากทำแบบนั้นมู่หลีอาจจะทำให้รู้ถึงความประหม่าที่ต้องทำหน้าที่นี้ที่เธอไม่คุ้นเคยก็เป็นได้ แต่มู่หลีกลับกล่าวสุนทรพจน์อย่างคล่องแคล่วแถมเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ ซึ่งนั่นทำให้สมาชิกสภานักเรียนประทับใจเป็นอย่างมาก เลยทำให้เขาต้องเปลี่ยนใจแล้วรับเธอมาเป็นพิธีงานกาล่าทันที! 

 

 

และนั่นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก ทำไมหญิงสาวที่ทั้งมีเสน่ห์และน่าสนใจแบบนี้ถึงหลบอยู่หลังชีวิตธรรมดาๆ ได้ 

 

 

แล้วอะไรถึงทำให้เธอกล้าพอจะทิ้งคำว่าร้ายและอดีตของตัวเองไว้ข้างหลังเพื่อที่จะยืนสง่าเป็นนกฟีนิกซ์ที่เกิดใหม่ในเปลวไฟแบบนี้ 

 

 

การแสดงเปิดพิธีเป็นการเต้นรำพื้นเมือง ผู้ชมไม่ค่อยสนใจการแสดงกันแต่กลับไปคุยกันเรื่องพิธีกรสาวแทน 

 

 

“พระเจ้า… มู่หลีทำได้น่าประทับใจจริงๆ …” ซูเสี่ยวมั่วยังไม่หายตกตะลึง 

 

 

คังเจี้ยนตาเบิกโพลง “จริง เธอสวยมากเลย…” 

 

 

หลังจากนั้นอันซย่าซย่าก็ได้ยินเขากลืนน้ำลายดังเอื๊อก 

 

 

เออ… เจ้าคังคนเซ่อสุดไร้ค่ารู้ตัวบ้างไหมว่าน้ำลายไหลอยู่น่ะ! 

 

 

หลังจากคิดอะไรเรื่อยเปื่อย หญิงสาวก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาส่งข้อความหามู่หลี 

 

 

“ลุยเลยเพื่อนสาว!” 

 

 

มู่หลีตอบกลับมาด้วยหน้ายิ้มตัวใหญ่ๆ 

 

 

การแสดงยังคงดำเนินต่อไปแต่ทุกคนไม่มีกะจิตกะใจจะดูกันเสียเท่าไร ผู้ชมกลับมาฮือฮาอีกครั้งเมื่อมู่หลีขึ้นเวทีมาประกาศการแสดงชุดถัดไป “การแสดงชุดต่อไปเป็นของสตาร์รี่ไนต์ค่ะ พวกเขาจะมาร้องเพลง ‘คืนแต้มดาวอันยาวนาน’ ให้พวกเราฟังกันค่ะ ขอเสียงปรบมือให้ทั้งสามหน่อยค่าาา” 

 

 

เสียงปรบมืออย่างกระตือรือร้นดังขึ้นทันที ตามมาด้วยเสียงหวีดร้องของเหล่าสาวๆ ในหอประชุม 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อ เหอจยาอวี๋ และฉือหยวนเฟิงเดินออกมาพร้อมกันโดยเซิ่งอี่เจ๋อยืนอยู่ด้านหน้า ร้องเพลงใส่ไมโครโฟนที่จัดไว้ให้ ที่ด้านหลัง เหอจยาอวี๋เล่นกีตาร์ ร้องคอรัส ส่วนฉือหยวนเฟิงเป็นมือกลองและเป็นแรปเปอร์ด้วย 

 

 

การแสดงของทั้งสามได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษและยังได้รับเสียงปรบมืออย่างล้นหลามจนดูไม่จบไม่สิ้น อันซย่าซย่าก็หวีดร้องด้วยยามไม่มีใครมองด้วยรู้สึกร่วมไปกับเพลง “ไปเลยคุณนักร้อง! รักนะ คุณนักร้อง!” 

 

 

ซูเสี่ยวมั่วกลอกตาทันที “หุบปากไปเลยนะ! ระวังคนโสดแถวๆ นี้ด้วยย่ะ!” 

 

 

“พูดสิว่าเธอรักฉันน่ะ!” 

 

 

“ฉันไม่ได้รักเธอย่ะ!” 

 

 

“…” 

 

 

ทั้งสามโค้งขอบคุณก่อนจะเดินลงเวทีหลังการแสดงจบลงและเสี่ยวเหยียนเดินขึ้นมาแทน ทำให้ผู้ชมต่างงุนงงกัน 

 

 

อะไรนะ สตาร์รี่ไนต์ไม่ใช่การแสดงชุดสุดท้ายงั้นหรือ 

 

 

ทั้งสามไม่ใช่การแสดงชุดสุดท้ายจริงๆ เสี่ยวเหยียนพูดตามบทของตัวเอง “พวกเราโชคดีมากนะครับที่นักแสดงนำละครทีวียอดฮิต ‘ตำนานเนรเทศนิรันดร์’ คุณหรงเช่อมาร่วมงานกาล่าของพวกเราด้วย ต่อไปเป็นการแสดงชุด ‘จันทร์จรัสนิรันดร์’ โดยคุณหรงเช่อและคุณหลี่ฝานซิงแห่งโรงเรียนมัธยมฉีซยาครับ” 

 

 

ก่อนที่ชายหนุ่มจะพูดจบ ผู้ชมก็ฮือฮาขึ้นอีกครั้ง 

 

 

คุณพระ! หรงเช่ออยู่ที่นี่ด้วย! นักแสดงทั้งหมดของ “เนรเทศนิรันดร์” มาที่โรงเรียนฉีซยาหรือเปล่า ก็ว่าทำไมวันนี้มีนักข่าวมากันตรึม! 

 

 

ม่านค่อยๆ เปิดออกและหรงเช่อกับหลี่ฝานซิงเดินคล้องแขนกันออกมา 

 

 

เพลงที่ทำการแสดงมาจากละคร “เนรเทศนิรันดร์” ซึ่งค่อนข้างเป็นที่นิยมกันในช่วงนี้ ทั้งงานกาล่าต่างตกอยู่ในภวังค์จากนักร้องสุดเสน่หาคู่นี้! 

 

 

ชั่วขณะหนึ่งทุกๆ คนต่างพากันถ่ายรูปและถ่ายวิดีโอเก็บไว้ในโทรศัพท์ แต่อันซย่าซย่ากลับมีความรู้สึกที่หลากหลายกับสิ่งที่เกิดขึ้น 

 

 

หญิงสาวรู้สึกดีใจเพราะตอนนี้เธอเป็นแฟนสาวของเซิ่งอี่เจ๋องั้นหรือ แต่ความเป็นความเป็นศัตรูกันของเซิ่งอี่เจ๋อและหรงเช่อและสิ่งที่เธอแอบไปได้ยินที่โรงพยาบาลตอนนั้นไม่ได้ทำให้หญิงสาวรู้สึกดีกับหรงเช่อเลยสักนิด! 

 

 

เดี๋ยวนะ… แหวะ! ไม่สิ! ไม่ใช่ว่าเธอแต่งงานกับเซิ่งอี่เจ๋อแล้วเสียหน่อย! ทำไมเธอถึงไปเข้าข้างชายหนุ่มได้เล่า! ฮึ่ม… แล้วทำไมเธอถึงไม่ควรรู้สึกดีใจกับเซิ่งอี่เจ๋อนะ เขาน่ะดีที่สุดแล้ว! 

 

 

ฮี่ๆ 

 

 

แต่สิ่งที่หญิงสาวไม่ทันได้สังเกตคือหรงเช่อเริ่มส่งสายตาให้เธอจากบนเวที… 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 289 อนาคตตัวเอง หรือ อันซย่าซย่า (1)  

 

 

พอบรรยากาศดำเนินไปจนถึงช่วงสนุกที่สุดก็มีใครบางคนมาตบไหล่ของอันซย่าซย่า “นี่ ซย่าซย่า!” 

 

 

หญิงสาวหันไปเจอฉือหยวนเฟิงกำลังยิ้มจนเห็นฟันขาวแปดซี่ให้กับเธอ 

 

 

อันซย่าซย่าแปลกใจ “ทำไมนายถึงมาอยู่ตรงนี้ล่ะ” 

 

 

ชายหนุ่มหัวเราะคิกคัก ก่อนที่หญิงสาวจะมองเห็นเหอจยาอวี๋คนสุภาพอยู่ด้านหลังเขา “หลังเวทีมันน่าเบื่อ ฉันเลยจะมาดูการแสดงตรงนี้กับพี่จยาอวี๋น่ะ” 

 

 

“งั้น… เซิ่งอี่เจ๋อล่ะ” อันซย่าซย่าเอียงคอถามอย่างคาดคั้น 

 

 

ฉือหยวนเฟิงตบปากตัวเองและยิ้มให้อย่างรู้ทัน “เขาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวอยู่ น่าจะอีกสักพักแหละ…” 

 

 

“เข้าใจแล้ว…” 

 

 

“ทีนี้ก็ขยับให้ฉันหน่อย ฉันจะได้มีที่นั่ง” นักเรียนบางคนขยับออกไปด้านข้างเผื่อที่นั่งให้คนสองคนตามคำขอของฉือหยวนเฟิง 

 

 

ฉืแหยวนเฟิงนั่งลงข้างๆ อันซย่าซย่าเป็นคนแรก ส่วนเหอจยาอวี๋นั่งลงข้างๆ ซูเสี่ยวมั่ว 

 

 

ซูเสี่ยวมั่วแก้มแดงทันทีทันใด เธอนั่งตัวตรงเหมือนกับเด็กนักเรียนประถมที่กำลังฟังคุณครูอย่างตั้งใจ 

 

 

เหอจยาอวี๋ขำเล็กน้อยหลังจากเห็นว่าหญิงสาวอึกอักขนาดไหน 

 

 

เขายู่ปากก่อนจะยื่นน้ำเปล่าให้เธอ “น้ำ?” 

 

 

ซูเสี่ยวมั่วกะพริบตา เข้าใจอีกฝ่ายผิดไปขณะนั้น คิดว่าเขาคงจะคอแห้งหลังจากที่ร้องเพลงไป 

 

 

เขาถามเธอว่าจะเอาน้ำไหม นั่นเป็นเพราะเขาเหนื่อยเกินกว่าจะเปิดฝาขวดแล้วตั้งใจจะขอให้เธอเปิดฝาขวดให้เขาแทนงั้นหรือ 

 

 

ซูเสี่ยวมั่วคิดอย่างมีเหตุผลสุดๆ ก่อนจะหยิบขวดน้ำมาจากมือของเหอจยาอวี๋แล้วเปิดฝาน้ำ 

 

 

แกร็ก — หญิงสาวเปิดฝาง่ายๆ จากนั้นก็ยื่นน้ำไปให้เหอจยาอวี๋ราวกับกำลังสักการะพระเจ้าอยู่ 

 

 

“กิน… กินน้ำสิ… มันดีต่อคอของคุณนะ” เธอเอ่ยอย่างตะกุกตะกัก 

 

 

รอยยิ้มค้างเติ่งอยู่บนใบหน้าของเหอจยาอวี๋ขณะที่เขาจ้องมองซูเสี่ยวมั่วอย่างไม่เชื่อสายตา 

 

 

เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันเนี่ย… 

 

 

ไม่ใช่ว่าเธอควรจะพูดอย่างอ่อนแอว่า “ฉันเปิดฝาไม่ได้” แล้วให้เขาเปิดฝาให้แบบนี้หรอกหรือ 

 

 

ทำไมกลายมาเป็นเธอเปิดฝาขวดน้ำให้เขาแทนแบบนี้ล่ะ 

 

 

อันซย่าซย่ามองการปฏิสัมพันธ์ของทั้งสองด้วยความคาดหวังสุดๆ แต่กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเธอเริ่มกระตุกอย่างหนักเมื่อเห็นสิ่งที่ซูเสี่ยวมั่วทำลงไป 

 

 

อึดอัด 

 

 

อึดอัดมาก 

 

 

อึดอัดสุดๆ ไปเลย 

 

 

ไหงเรื่องราวมันผิดแผลกไปแบบนี้นะ… 

 

 

– 

 

 

ณ หลังเวที 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อให้สัมภาษณ์สั้นๆ เสร็จแล้ว เขาผงกหัวให้นักข่าวอย่างสุภาพ และตั้งใจจะเดินออกไปตามหาอันซย่าซย่า 

 

 

หลังจจากเหลือบมองไปบนเวที คิ้วของชายหนุ่มก็ขมวดอย่างช่วยไม่ได้ 

 

 

หรงเช่อดูปกติดีทุกอย่าง ส่วนหลี่ฝานซิงก็ทำตัวเป็นคู่รักหวานๆ 

 

 

กระนั้น… มันแปลกๆ อยู่นะ… 

 

 

แล้วอะไรที่แปลกล่ะ 

 

 

ด้านบนมีโดรนจำนวนหนึ่งลำติดกล้องบันทึกการแสดงส่งเสียงหึ่งๆ กลางในอากาศ 

 

 

วินาทีนั้นเซิ่งอี่เจ๋อรู้แล้วว่าอะไรที่แปลกไป! 

 

 

จังหวะนั้นหรงเช่อหยิบวัตถุสีดำออกมา ถือมันไว้ด้านหลังของตัวเอง เขากดปุ่มบางอย่างแล้วโดรนก็มารวมตัวกัน ลอยอยู่เหนือเป้าหมาย 

 

 

โดรนพวกนั้นลอยอยู่เหนือหัวอันซย่าซย่า! 

 

 

นัยน์ตาของเซิ่งอี่เจ๋อหดตัวลงขณะที่สายตาสุดโมโหจดจ่อไปยังหรงเช่อ! 

 

 

หรงเช่อยังคงร้องเพลงด้วยเสน่หา ชายหนุ่มยังหันหน้าหล่อๆ เล็กน้อยมายิ้มเยาะเย้ยทางที่เซิ่งอี่เจ๋อยืนอยู่อีกด้วย 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อกำหมัดแน่น 

 

 

โดรนลำเดียวไม่เป็นปัญหาหรอก แต่มันดันมีห้าลำนี่สิ เป็นไปได้ที่หญิงสาวจะโดรนพวกนั้นได้หมด แต่ถ้าเธอหลบไม่ทันล่ะ 

 

 

หรงเช่อกำลังรอและพนันกับตัวเอง: เซิ่งอี่เจ๋อจะเลือกอะไรกันนะ — อนาคตตัวเอง หรือ อันซย่าซย่า?​​​​