หนึ่งอาทิตย์ต่อมา

ยานจันทราศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ออกเดินทางมาจากดาวฟ้าดินมาสู่โลกแห่งเมฆาซึ่งใช้ระยะเวลาการเดินทางหนึ่งอาทิตย์เต็ม ในที่สุดเซี่ยปิงก็ได้กลับมาสู่โลกแห่งเมฆาอีกครั้ง ไม่มีอุปสรรคใดๆระหว่างการเดินทาง

“ในที่สุดก็เดินทางมาถึงที่โลกแห่งเมฆา”

เซี่ยปิงยืนอยู่ข้างในยานอวกาศ เขาได้เห็นทิวทัศน์ข้างนอกอย่างชัดเจนผ่านทางระบบภาพฉายเสมือนจริง ดินแดนขนาดใหญ่ลอยอยู่ในจักรวาล รอบๆนั้นห่อหุ้มด้วยชั้นบรรยากาศต่างๆ

ถึงแม้ว่าโลกแห่งเมฆานั้นจะไม่ได้มีขนาดใหญ่เหมือนกับทวีปโลหิตวิญญาณ ทว่ามันก็ไม่ถือว่าเป็นดินแดนขนาดเล็ก เพียงพอที่จะรองรับประชากรนับล้านล้านคนได้ นี่เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยพลังชีวิต

“อันดับแรกจะต้องติดตั้งระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ก่อนกลับเข้าไป”

คิดได้แบบนี้ เซี่ยปิงก็ตัดสินใจที่จะติดตั้งระบบตาข่ายแห่งสวรรค์เป็นอันดับแรก จากนั้นก็กลับไปที่โลกแห่งเมฆา

วิซ!

ทันใดนั้นเขาก็ได้นำกล่องสีเงินขาวออกมาจากแหวนห้วงมิติ ข้างในนั้นมีระบบตาข่ายแห่งสวรรค์อยู่

“เจ้านาย ต้องการที่จะติดตั้งระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ในตอนนี้หรือไม่?” หลังจากที่เซี่ยปิงเปิดระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ขึ้นมา ทันใดนั้นเสียงเครื่องจักรของระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ก็ดังขึ้นมาทันที

“ติดตั้งทันที” เซี่ยปิงสั่งการออกไป

ระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ตอบกลับ “รับทราบเจ้านาย ระบบจะทำการสแกนเพื่อหาสถานที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งโดยอัตโนมัติ”

“ติ้ง ไกลออกไป150กิโลเมตรมีดาวฤกษ์อายุน้อยดวงหนึ่ง มีอายุประมาณสามพันล้านปี เหมาะแก่การเป็นแหล่งพลังงานของระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ ไม่ทราบว่าเจ้านายต้องการเลือกดาวฤกษ์ดวงนี้เป็นที่ติดตั้งหรือไม่?”

ระบบการตรวจจับของมันได้เริ่มต้นทำงาน พลังงานที่พิเศษที่แผ่กระจายออกไป

ทันใดนั้นแผนที่ดวงดาวขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นมาบนอากาศ เป็นพื้นที่โดยรอบในระยะหนึ่งพันล้านกิโลเมตรโดยที่มีโลกแห่งเมฆาเป็นจุดศูนย์กลาง ระยะที่ห่างออกไปนั้นมีดาวเคราะห์หลายพันดวงที่ปรากฏขึ้นมา มีขนาดที่แตกต่างกันไป

ทว่าท่ามกลางดาวเคราะห์เหล่านี้มีดาวฤกษ์ขนาดใหญ่อยู่ดวงหนึ่ง มีเปลวไฟภายในที่ลุกโชน มีคลื่นความร้อนที่ไร้ที่สิ้นสุด พลังงานที่ไร้ขอบเขตเอ่อล้นออกมา มอบพลังงานชีวิตที่ไร้ที่สิ้นสุดให้กับโลกแห่งเมฆา

ดาวฤกษ์สีส้มเหลืองนี้ล้อมรอบไปด้วยเปลวไฟที่ร้อนระอุ มีอุณหภูมิที่สูงถึงหกพันองศา ยานอวกาศปกติธรรมดาที่เข้าไปใกล้นั้นจะต้องถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านทันที สูญสลายไปจากการดำรงอยู่

“อืม เยี่ยม เลือกดาวฤกษ์ดวงนั้นให้เป็นแหล่งพลังงานของระบบตาข่ายแห่งสวรรค์” เซี่ยปิงพยักหน้า เขาคิดว่าดาวฤกษ์ดวงนั้นเหมาะสมอย่างมาก บังเอิญอยู่ใกล้กับโลกแห่งเมฆาเช่นกัน สามารถที่จะครอบคลุมโลกแห่งเมฆาและอาณาเขตดวงดาวที่อยู่ใกล้ๆกับมันได้

“รับทราบเจ้านาย ทำการล็อกเป้าหมาย ออกตัวทันที”

ทันใดนั้นกล่องสีเงินขาวก็ได้หายออกไปจากยานจันทราศักดิ์สิทธิ์ ลอยไปในจักรวาล จากนั้นมันก็ได้กระโดดข้ามมิติ วินาทีต่อมาก็มาถึงที่ดาวฤกษ์ดวงนั้น

เซี่ยปิงก็รับรู้ผ่านทางข้อมูลที่ระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ได้ถ่ายทอดมา ทันใดนั้นก็ค้นพบว่ากล่องสีเงินขาวนั้นได้เจาะเข้าไปในแกนกลางของดาวฤกษ์ดวงนั้นในทันที ราวกับว่าไม่ว่าคลื่นความร้อนจะน่าสะพรึงกลัวแค่ไหน ก็ไม่สามารถที่จะแผดเผาระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ได้

เพราะว่ามันนั้นทำมาจากทองคำจากดาวศุกร์ นี่คือแร่ที่พิเศษของจักรวาล มีจุดหลอมเหลวที่สูงอย่างถึงที่สุด ต่อให้เป็นอุณหภูมิของดวงอาทิตย์ ก็ไม่สามารถที่จะทำลายมันได้ ดังนั้นจึงเหมาะเป็นวัสดุที่ใช้ในการสร้างระบบตาข่ายแห่งสวรรค์

เห็นเพียงแค่ว่าหลังจากที่กล่องสีเงินขาวนี้ได้เจาะเข้าไปในแกนกลางของดาวฤกษ์นั้น มันเป็นเหมือนกับหม้อแปลงและเปลี่ยนรูปร่างอย่างต่อเนื่อง ทันใดนั้นก็เปลี่ยนกลายเป็นฐานขนาดใหญ่ เป็นเหมือนกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ก็ว่าได้ เชื่อมโยงเข้ากับแกนกลางของดาวฤกษ์ ดึงพลังงานจากส่วนลึกของดาวฤกษ์ดวงนี้

หล่ง หล่ง หล่ง~

ระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ดูเหมือนกับว่าจะหิวโหยมานานก็ว่าได้ ดูดกลืนพลังงานของดาวฤกษ์อย่างละโมบและถ่ายทอดไปให้กับดาวเทียมทั้ง108,000 ดวงของมัน กระตุ้นการทำงานภายในของพวกมัน

วงจรไฟฟ้าภายในของพวกมันแต่ละดวงเหมือนกับว่าจะถูกกระตุ้นขึ้นมา มีอักขระโบราณจำนวนมากที่ปรากฏขึ้น เหมือนกับว่าระบบตาข่ายแห่งสวรรค์นี้ไม่ใช่แค่สร้างขึ้นมาจากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเท่านั้น ทว่ามีพลังอำนาจของค่ายกลบางอย่างเช่นกัน

ซู่ ซู่ ซู่!!!

ไม่รู้ว่าเวลาได้ผ่านไปนานแค่ไหน ในที่สุดระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ก็ดึงดูดพลังงานจนเพียงพอ สามารถที่จะเริ่มต้นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทันใดนั้นดาวเทียมก็ถูกปล่อยออกไปจากฐานแห่งนี้ พวกมันต่างก็บินออกไปสู่พื้นที่ในระยะหนึ่งร้อยปีแสงรอบๆโดยที่มีดาวฤกษ์ดวงนี้เป็นจุดศูนย์กลาง

ดาวเทียมเหล่านี้เป็นเหมือนกับรังสีแสงที่พุ่งออกไป พวกมันสามารถที่จะบินได้อย่างอิสระ ใช้ระยะเวลาเพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้น ดาวเทียมทั้ง108,000ดวงก็ครอบคลุมพื้นที่ในระยะหนึ่งร้อยปีแสงได้

ในเวลาเดียวกันพวกมันก็เริ่มเปิดใช้งานระบบการอำพรางตัว หลบซ่อนอยู่ในความว่างเปล่า ต่อให้เป็นเรด้าตรวจจับก็ไม่สามารถที่จะรับรู้ถึงตัวตนของพวกมันได้

อีกทั้งดาวเทียมทั้ง108,000ดวงนี้ก็มีพลังงานพิเศษที่เชื่อมโยงเข้าด้วยกัน แต่ละดวงต่างก็แผ่พลังงานออกมา เหมือนกับว่าในความว่างเปล่านั้นมีเส้นพลังงานนับไม่ถ้วนที่เชื่อมโยงกันและกันอยู่

หากมีบางคนที่ทรงอำนาจพอที่จะมองเห็นได้ พวกเขาก็จะเห็นว่ามีเส้นมากมายในพื้นที่ระยะหนึ่งร้อยปีแสง ก่อตัวกลายเป็นเหมือนกับตาข่ายขนาดใหญ่ มีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง กระจายไปทั่วทั้งพื้นที่บริเวณนี้

ไม่ว่าสิ่งใดก็ไม่สามารถหลบหนีไปจากตาข่ายขนาดใหญ่นี้ได้

“ร้ายกาจ นี่หรือระบบตาข่ายแห่งสวรรค์?!”

เซี่ยปิงกล่าวชื่นชมออกมา ในมือของเขานั้นมีนาฬิกาอัจฉริยะอยู่ มันคือหนึ่งในองค์ประกอบหลักของระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ ช่วยในการติดต่อสื่อสารกับสมองไฮเทคของระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ได้ ไม่ว่าจะอยู่ไกลออกไปแค่ไหน ก็สามารถที่จะถ่ายทอดคำสั่งมาได้

ยิ่งไปกว่านั้นก็สามารถที่จะล่วงรู้ได้ถึงข่าวเมื่อระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ได้ทำการตรวจจับหรือค้นพบบางสิ่งบางอย่าง

ภายในพริบตา เขาก็ได้รับถึงข้อมูลมหาศาลที่ถูกถ่ายทอดมาจากระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ทันที

“ระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ได้ทำการติดตั้งเสร็จสิ้นแล้ว พื้นที่ในระยะหนึ่งร้อยปีแสงเป็นตาข่ายต้องห้าม เจ้านายมีอำนาจที่จะตัดสัญญาณหรือว่าเพิ่มสัญญาณของเครือข่ายเสมือนจริงได้ อีกทั้งยังเลือกไม่ให้สัญญาใดๆส่งผ่านได้เช่นกัน”

“จากการสำรวจ พื้นที่ในระยะหนึ่งร้อยปีแสงนั้นมีดาวเคราะห์รกร้างทั้งหมด35ล้านดวง ท่ามกลางดาวเคราะห์เหล่านี้มี23ล้านดวงที่อุดมไปด้วยแร่เหล็ก แร่ทองคำ แร่ทองแดง แร่เงินและแร่อื่นๆ”

“ดาวเคราะห์ที่เหมาะสำหรับการอาศัยอยู่ของสิ่งมีชีวิตมีทั้งหมด130ดวง พัฒนาการของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของดาวเคราะห์เหล่านี้อยู่ในยุคดึกดำบรรพ์ สามารถที่จะพิชิตได้อย่างง่ายดาย”

“ในตอนนี้ยังไม่มีศัตรูใดๆบุกรุกเข้ามา จะเข้าสู่สภาวะการเตือนภัยระดับต่ำ”

…………

เมื่อได้ยินถึงข้อมูลเหล่านี้ทั้งหมดนั้น เซี่ยปิงก็มีความเข้าใจดาวเคราะห์ต่างๆภายในอาณาเขตดวงดาวนี้ระดับหนึ่ง

หากปราศจากระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ เขาก็คงจะไม่รู้ว่ามีดาวเคราะห์จำนวนมากมายเช่นนี้ที่อยู่รอบๆโลกแห่งเมฆา ยิ่งไปกว่านั้นดาวเคราะห์ที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดก็มีทรัพยากรที่เหมาะแก่การขุดเหมืองเช่นกัน

อีกทั้งก็มีดาวเคราะห์มีชีวิตถึง130ดวง หากในอนาคตผู้คนในโลกแห่งเมฆามีจำนวนมากเกินไป ก็สามารถที่จะเคลื่อนย้ายพวกเขามาที่ดาวเคราะห์มีชีวิตเหล่านี้ได้

ทว่าจำนวนของดาวเคราะห์ที่มีชีวิตนั้นมีน้อยเกินไป ท่ามกลางดาวเคราะห์กว่า30ล้านดวงนั้น มีดาวเคราะห์ที่เหมาะแก่การอาศัยอยู่ของสิ่งมีชีวิตเพียงแค่หนึ่งร้อยกว่าดวงเท่านั้น

“เยี่ยม การที่มีระบบตาข่ายแห่งสวรรค์นั้น จากนี้ก็ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องความปลอดภัยของโลกแห่งเมฆาอีก ไม่ว่ามีศัตรูใดๆที่กล้าบุกรุกเข้ามาก็จะรับรู้ได้ในทันที อีกทั้งยังสามารถที่จะกำจัดได้อย่างง่ายดาย”

เซี่ยปิงกำหมัดขึ้นมา ดวงตาเผยให้เห็นถึงแสงที่หนาวเหน็บ

ระบบตาข่ายแห่งสวรรค์นั้นไม่ใช่เพียงแค่เป็นระบบตรวจจับที่สามารถแทรกซึมเข้าไปได้ทุกที่เท่านั้น ทว่ามันยังเป็นระบบอาวุธที่สุดยอด ดึงพลังงานโซล่ามาเป็นแหล่งพลังงานของมัน ดาวเทียมแต่ละดวงนั้นสามารถที่จะยิงพลังงานเลเซอร์ออกไปได้อย่างกะทันหัน

ต่อให้อยู่ห่างออกไปกว่าร้อยปีแสงก็ต้องถูกทำลายไป

หากดาวเทียมทั้ง108,000ดวงโจมตีออกมาพร้อมกันล่ะก็ พลังอำนาจของมันจะสะเทือนน้ำสะเทือนบกอย่างแน่นอน ตราบใดที่ไม่ใช่เซนต์และต่อให้กลุ่มอิทธิพลระดับสุดยอดจะเข้ามา ก็จะถูกทำลายโดยระบบตาข่ายแห่งสวรรค์นี้

เมื่อใดที่ศัตรูก้าวเข้ามาในพื้นที่ของระบบตาข่ายแห่งสวรรค์นั้น จะต้องเผชิญกับการโจมตีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังทำลายล้าง จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

“เอาล่ะ ระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ก็ถูกติดตั้งแล้ว ตอนนี้ถึงเวลากลับไปที่โลกแห่งเมฆา ไม่รู้ว่าตอนนี้โลกแห่งเมฆาจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน” เซี่ยปิงคาดหวังไว้อย่างมาก ยานจันทราศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ออกเดินทางกลับไปที่โลกแห่งเมฆาอย่างรวดเร็ว