เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 308 ทิฟฟานี่ vs ลิเลียน
คำพูดของเธอเกินไปเล็กน้อย แม่ลูกคู่นี้ถึงจะทะเลาะกันเกือบตลอดเวลา แต่คราวนี้แอเรียนสัมผัสได้ว่าบรรยากาศมันแตกต่างจากปกติ ไม่เหมือนกับการระเบิดที่มักเกิดขึ้นหลังจากการปราบปรามครั้งใหญ่ เพราะมันกลับน่าเศร้ายิ่งกว่า
ทิฟฟานี่ไม่ตะโกนใส่ลิเลียนแต่กลับตอบเธอด้วยน้ำเสียงสงบ ๆ แทน “ใช่ หนูให้เงินแม่ 2,000 ดอลลาร์ต่อเดือน เงินเดือนหนูคือ 12,000 ดอลลาร์ต่อเดือน เมื่อหนูให้แม่ 2,000 ดอลลาร์ หนูต้องจ่ายค่าเช่าห้อง 6,000 ดอลลาร์ เงินที่เหลืออีก 4,000 ดอลลาร์ ต้องใช้สำหรับค่าน้ำค่าไฟและค่าครองชีพสำหรับหนึ่งเดือน เงิน 2,000 ดอลลาร์ ของแม่ไม่ได้รวมอยู่ในค่าครองชีพด้วยซ้ำ และหนูก็จ่ายเงินทุกครั้งที่แม่สั่งอาหารด้วย บางครั้งแม่ขอเงินพิเศษสำหรับไพ่นกกระจอกอีก แม่เคยคิดบ้างไหมว่าแต่ละเดือนหนูอยู่รอดได้อย่างไร?”
ลิเลียนดูไม่มีความรู้สึกผิดเลย การแสดงออกบนใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธและการถูกเหยียดหยาม
ในที่สุดแอเรียนก็เข้าใจว่าเหตุใดสถานการณ์ทางการเงินของทิฟฟานี่จึงเลวร้ายขนาดนี้ อันที่จริงหากทิฟฟานี่และลิเลียนอยู่ด้วยกันเพียงสองคน อพาร์ทเมนต์แบบหนึ่งห้องนอนก็น่าจะเกินพอแล้วและราคามันก็ไม่แพงเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะให้ลิเลียนสามารถใช้วิถีชีวิตที่ใกล้เคียงกับแต่ก่อนได้ ทิฟฟานี่ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ลิเลียนมีชีวิตที่ค่อนข้างดีมาตลอดและยังให้เงินสองพันดอลลาร์แก่เธอเป็นค่าครองชีพอีก อย่างไรก็ตาม หลังจากใช้เงินสี่พันที่เหลือสำหรับค่าน้ำค่าไฟและค่าครองชีพทิฟฟานี่จึงไม่เหลืออะไรเพื่อใช้จ่ายกับตัวเองเลย
ถึงจุดนี้แล้ว ทิฟฟานี่ไม่อาจหยุดยั้งตัวเองได้ “หากแม่เป็นแม่ที่ยุติธรรมและมีเหตุผล เราอาจเลือกที่จะอยู่ในบ้านที่ด้อยกว่านี้ในชานเมือง ค่าเช่าบ้านคงเหลือเพียงครึ่งนึงของที่เราจ่ายทุกวันนี้ หากแม่ไม่ฟุ่มเฟือย เราก็คงเหลือเก็บบ้าง แม่ทำให้หนูรู้สึกราวกับว่าอนาคตที่ดีของหนูไม่มีจริง ถ้าหนูไม่ต้องคอยดูแลแม่ ป่านนี้หนูอยู่คนเดียวที่ห้องพักของบริษัทหนูแล้ว ค่าใช้จ่ายรายวันของหนูก็จะเหลือเพียงค่าอาหารเช้าและอาหารเย็น หนูก็จะมีเงินเหลือให้เก็บ จุดประสงค์ที่แม่มีลูกสาวก็เพียงเพราะต้องการให้เธอทำงานเลี้ยงแม่ใช่ไหม? แม่จะให้หนูทำงานจนรากเลือดเพียงเพราะแม่เป็นผู้ให้กำเนิดหนูหรอ? ใช่ แม่เป็นผู้ให้กำเนิดหนู แต่หน้าที่หนูก็คือการส่งลาแม่เมื่อเวลาของแม่มาถึง ดูแลแม่ยามที่แม่แก่เฒ่าและจัดการงานศพให้แม่เมื่อแม่เสีย แต่แม่เพิ่งจะสี่สิบต้น ๆ แม่ติดว่านี้เรียกว่าแก่แล้วหรอ? แม่จะให้หนูเริ่มดูแลแม่เลยไหม? แม่ต้องการบีบบังคับให้หนูฆ่าตัวตายเลยไหม?”
ลิเลียนไม่รู้สึกรู้สาอะไร “เงินเดือนน้อยขนาดนั้นจะมีประโยชน์อะไร? มันเป็นความผิดของเธอที่เธอไร้ประโยชน์แบบนี้ เธอจะมาโทษฉันทำไม? ฉันไม่เคยทำงานเลยสักวันในชีวิตและไม่สามารถรับใช้คนอื่นได้ ถ้าฉันไม่ทำงาน เธอก็ต้องช่วยเหลือฉัน อย่าแม้แต่พูดถึงห้องเช่าเลย ตอนนี้ค่าเช่าเราก็เหลือครึ่งนึงแล้ว เราไม่ต้องย้ายเข้าไปอยู่ในอพาร์ทเมนต์ที่มีแต่ปัญหาในเขตชานเมืองแล้ว แอเรียนอาศัยอยู่กับเราแล้วไม่ใช่หรอ? เธอตกลงกันว่าจะหารค่าเช่ากันนิ เท่ากับว่าเธอต้องจ่ายเพียง 3000 ดอลลาร์ ถูกไหม? เธอพูดราวกับว่าเธอน่าสมเพชที่สุด หางานอื่นทำสิถ้าไม่อยากน่าสมเพช ฉันจะไม่ทำงานอย่างแน่นอน”
ทิฟฟานี่โกรธจนน้ำตาไหลแทบไหล “แอริแค่มาอยู่ชั่วคราวแม่ยังมีหน้าไปขอให้เธอจ่ายค่าเช่าครึ่งนึงเลยหรอ? เรามีกันสองคน แต่เธอมาคนเดียว แล้วเธอยังต้องใช้ห้องรวมกันกับหนูอีก แม้แต่ห้องน้ำส่วนตัวเธอยังไม่มีเลย แม่จะให้เธอมาจ่ายครึ่งนึงของค่าน้ำค่าไฟของเราได้ยังไง? และต่อให้เธอไม่ติดที่จะจ่ายครึ่งนึง 3000 ดอลลาร์นั้นก็เหลือให้เราเก็บไม่เยอะหรอก มันแค่จะช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นมาจากเดิมที่เป็นอยู่ตอนนี้นิดเดียวเท่านั้นเอง นี่แม่คิดว่าเราอยู่ที่ไหนกัน? มันไม่ง่ายที่จะใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้นะ หนูก็เพิ่งจะเริ่มทำงาน แม่จะให้หนูมีเงินเดือนเดือนละเท่าไหร่เชียว?”
แอเรียนเอื้อมมือไปบีบมือทิฟฟานี่ใต้โต๊ะ “ทิฟฟ์ พอได้แล้ว ไม่เป็นไร ฉันแชร์ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ได้ ชีวิตเราตอนนี้ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เรามาที่นี้เพื่อทานอาหารดี ๆ กัน เลิกทะเลาะกันเถอะ นะ?”
ทิฟฟานี่เงียบ เธอเพิ่งรู้ตัวว่าเธอเพิ่งจะขายหน้าตัวเองต่อหน้าแอเรียนแท้ ๆ หากว่าเธอไม่ใช่เพื่อนที่สนิทกันมาก เธอคงจะอายเกินที่จะกล้ามองหน้าแอเรียนด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ ทิฟฟานี่และแอเรียนต่างทานไม่ลง มีเพียงแต่ลิเลียนที่ทานอาหารของเธอโดยไม่รู้สึกอะไร
หลังจากที่ลิเลียนทานเสร็จเธอก็ลุกกลับบ้านเองโดยไม่รอใคร ทิฟฟานี่และแอเรียนเดินกลับบ้านด้วยความสงบอย่างเชื่องช้า หลังจากที่เงียบไปนานแอเรียนก็พูดขึ้นมาว่า “ทิฟฟ์ ฉันเข้าใจสถานการณ์เธอตอนนี้นะ ฉันตั้งใจจะขอให้มาร์คช่วยเธอเรื่องงาน แต่มันก็ไม่มีประโยชน์… ตอนนี้เธอเหนื่อย ไม่เป็นไรนะ ฉันโอเคที่จะจ่ายค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟครึ่งนึง แบบนี้ชีวิตเธอจะได้ดีขึ้นมาหน่อย ทุกอย่างจะดีขึ้น”
ทิฟฟานี่เดินไปเตะก้อนหินที่อยู่บนถนน “นี่เธอสงสารฉันหรอ? สมัยตอนที่อยู่โรงเรียนเธอจะเป็นคนที่ขี้สงสารคนอื่นตลอด ชีวิตเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้จริง ๆ ฉันไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองน่าสมเพชนะ ฉันคิดว่าแม่ฉันตั้งหากที่น่าสมเพช ชีวิตของแม่พังลงหลังจากที่พ่อเสีย ไม่มีพ่อเธอก็ไม่เหลืออะไรเลย”
วันต่อมาเมื่อทิฟฟานี่ไปถึงที่ทำงาน เธอก็สังเกตเห็นปิ่นโตที่สวยงามบนโต๊ะทำงานของเธอ เธอเปิดมันและพบเจอกับมื้ออาหารสุดหรูที่ยังอุ่นอยู่ด้วย เธอเดาได้ทันทีว่านี่คือปิ่นโตที่แจ็คสันเตรียมไว้ให้เธอ
เธอยังคงรู้สึกไม่ดีหลังจากการทะเลาะกับลิเลียนเมื่อคืน พอเธอเห็นปิ่นโตนั้นเธอจึงคิดได้ว่ามันคงจะดีกว่าหากเธอจะบอกความจริงและช่วยให้ตนเองไม่ต้องลำบากใจไปมากกว่านี้