“เจ้าส่งแจ้งเตือนอะไรมาหรือเปล่า?” หลิวซานเดินโบกกระดาษในมือของเขา บนกระดาษปรากฏรูปดาบพร้อมด้วยสัญลักษณ์แปลกๆ สี่ตัว สัญลักษณ์ดั้งเดิมนั้นดูเบลอ
“ใช่แล้ว!” ผู้ปลูกฝังผ้าคลุมสีดำกล่าว “ซือซิเอ้อ ต้องการเงินและกำลังจากดูกั้น ข้าคิดว่าเจ้าหนุ่มนั้นจะต้องจ่ายให้เราหลังจากเหตุการณ์นี้”
“ตกลงพวกเราจะไปที่นั้นอีกครั้งในวันพรุ่งนี้!” หลิวซานมองภาพในมือ
“หัวหน้าหลิว ภาพนี้คือ ..”
“มันถูกส่งมาจากคนชั้นสูง” หลิวซานกล่าว “พวกเขาบอกว่าถ้าเราสามารถหาดาบในภาพหรือเพียงให้เบาะแส เราก็จะได้รับรางวัลมากมาย!”
“ดาบนี้คือสมบัติล้ำค่าหรือ!?”
“สมบัติอะไร?” หลิวซานตอกกลับเสียงดัง “เจ้าอยู่ห่างจากสิ่งนี้ซะ ถ้าเจ้าทำให้หัวหน้าโกรธเจ้าถูกโยนลงเตาหม้อน้ำอมฤตเพื่อเป็นส่วนผสมแน่!”
…
ขณะเดียวกันชายวัยกลางคนที่สวมเสื้อคลุมสีดำร่างใหญ่ลูบอกและเอ่ยถามว่า “หลี่หวงซวนอยู่ที่ไหน!?”
“เขา .. ตายแล้ว” ผู้ปลูกฝังหัวโล้นตอบด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน
“อะไรนะ!?” ชายวัยกลางคนที่สวมผ้าคลุมสีดำจ้องไปที่ผู้ปลูกฝังหัวโล้นด้วยสายตาเยือกเย็น “เกิดอะไรขึ้น?”
.. ผู้ปลูกฝังหัวโล้นก็รายงานเหตุการณ์มั้งหมดให้เขาหังอย่างละเอียด
“ฮ่าๆ ฮ่าๆ” ชายวัยกลางคนหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “นานแค่ไหนแล้วที่ไม่เจอคนที่แสดงกิริยาเอาแต่ใจตัวเองต่อหน้าข้า ล่าสุดนั้นก็เจ้ามังกรเหล็ก! ตอนนี้ละข้าจะให้โอกาศเจ้าไถ่ถอนความผิดของตัวเอง พาข้าไปหากองกำลังของเจ้าเด็กนั่น!”
…
โชคดีที่หวังชานและชายอีกสองคนพบสัตว์ที่ง่ายต่อการจัดการ พวกเขาฆ่ามันและนำเนื้อมาขายเพื่อหาเงิน
แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถปล้นคนอื่นๆ ได้ โชคดีเช่นกันที่ป่าแถวนั้นที่พวกเขาเลือกไปไม่มีใครเข้ามาปล้นหรือป่วนพวกเขา หากพวกเขาอยู่ที่นี่อย่างสงบคาดการณ์ได้เลยว่าอีกไม่นานเลเวลของพวกเขาจะพัฒนาไปไกลกว่าคนอื่นๆ เป็นแน่ ด้วยวิธีนี้พวกเขาจึงเลือกที่จะอยู่แบบเงียบๆ ไม่ไปยุ่งกับใคร
ในตอนแรกการสะสมเลเวลมักจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเมื่อเก็บเวลไปเรื่อยๆ ความเร็วเริ่มชะลอตัว ถึงกระนั้นการเติบโตของจุดแข็งในการเพาะปลูกก็ยังคงรวดเร็วสำหรับหวังชานและเพื่อนๆ ของเขาอยู่ดี
ขณะที่พวกเขากำลังเล่นเกมอย่างสงบและเพลิดเพลิน .. คนในตระกูลหวังตอนนี้กำลังเดือดร้อน! คนประมาณสี่สิบคนกำลังล้อมรอบสมาชิกของครอบครัวหวังด้านนอกทางเข้าหมู่บ้านจึงทำให้สมาชิกที่เหลือของครอบครัวไม่กล้าเปิดเผยตัว!
“ศิษย์พี่หวัง! คนของเรายังอยู่ข้างในหมู่บ้าน พวกเขาไม่สามารถออกไปเก็บเวลได้!” เต๋าหินเหล็กรายงานอย่างขมขื่น “พวกเขามาจากไหนเยอะแยะขนาดนี้?” หวังชานถาม
“พวกเขาบอกว่าพวกเขามาจากเมืองจิวหัว ..”
“เมืองจิวหัว .. ที่ไหน?” ชายทั้งสามมองหน้ากันด้วยความสับสน “ข้าไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อน”
“ไม่มีสถานที่ดังกล่าวในดินแดนทะเลดวงดาว!” นึกย้อนกลับไปได้ว่าเขาเคยได้ยินว่าเจ้าของเคยพูดถึงร้านอื่น “อีกร้านตั้งอยู่ที่ไหน!?”
อีกฝั่งหนึ่งของคาเฟ่ ณ จิวหัว
“รองผู้บัญชาการกง พวกเขาบอกว่าพวกเขาเป็นคนตระกูลหวังมาจากดินแดนทะเลดวงดาว” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งเอนกายกระซิบ “เขายังบอกอีกว่าที่นั่นมีผู้ปลูกฝังยิ่งใหญ่จำนวนมาก การทำแบบนี้พวกเราจะเดือดร้อนหรือไม่?”
“พวกเราก่อปัญหาหรอ?” จำได้ว่าเขาสฦูญเสียกระเป๋าเป้ที่เต็มไปด้วยเนื้อไก่และเนื้อกวาง เมื่อนึกถึงวินาทีที่เขาถูกฆ่าแล้ว ตัวเขาสั่นคลอนด้วยความโกรธใบหน้าของเขายังคงเย็นชา “พวกเขาจากตระกูลหวังออกมาจากคอมไม่ได้หรอก สังหารพวกมันเพื่อข้า!”
“อ๊าาาาา!” เสียงกรีดร้องดังขึ้น!
“เราไปหาคนเพิ่มได้มั้ย!?” เต๋าหินเหล็กทำหน้ามืดมน “เมืองจิวหัวคืออะไร? ที่ไหน? มันเป็นสถานที่ห่างไกลที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน กล้ามายุ่งกับพวกเราได้อย่างไร? การที่พวกเขามายุ่งกับเราหมายความว่าพวกเขากำลังมองหาความตาย!”
“ทุกคนในครอบครัวหวังของข้า .. ” หวังชานกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “คนของเราก็ออกมาไม่ได้ งั้นเราก็ต้องหาคนมาเพิ่ม”
“เราจะทำอย่างไรดี!?” เต๋าหินเหล็กเอ่ย “พี่หวัง หรือเราจะไปหาพี่เถา?”
ซากุถาม “เขาไม่ใช่เพื่อนท่านหรอกหรือ?”
“เพื่อนอะไรกัน เขาเป็นเพียงแค่หุ้นส่วนทางธุรกิจ” หวังชานคอบ “ไม่น่าจะเป็นปัญหาหากขอกำลังเสริม แต่ ..”
เขาเหลือบมองไปรอบๆ ร้านและคิดว่าข้าจะเปฺดเผยสถานที่ดีๆ แบบนี้ให้กับคนอื่นได้อย่างไร?
“ลืมมันไปเถอะ! เดี๋ยวร้านเปิดก็คงมีลูกค้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ” หวังชานใช้เวทมนตร์ลูกไฟโจมตีหมาป่าแล้วตอบกลับ “เราต้องได้รับประโยชน์มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในตอนนี้มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับที่นี่”
“เอ่อ .. หมดเวลาหรอ?” หวังชานได้ยินเสียงเตือนดังขึ้น เขาขมวดคิ้ว
ทันใดนั้นในหัวก็ผุดคำบนกระดานดำขึ้นมาทันที .. สามารถเล่นได้เพียงหกชั่วโมงต่อวัน
ตอนแรกเขาสงสัยว่าร้านนี้จะดำเนินต่อไปได้อย่างไรเพราะเขากล้าท ี่จะจำกัดเวลาการเล่นและด้วยทัศนคติการบริหารที่ไม่ดี แต่ตอนนี้ ..
หวังชานถาม “ท่านช่วยให้พวกข้าเล่นต่ออีกได้มั้ย?”
ฟางฉีหันมอง “ไม่!”
หวังชานตอบกลับ “เราจะจ่ายเพิ่มเป็นสองเท่า!”
“ไม่ว่าจะจ่ายกี่เท่าก็ไม่ได้” ฟางฉีกล่าว
หวังชานกล่าวเพิ่ม “ท่านข้าเป็นนักธุรกิจ เจ้ารู้หรือไม่ว่าหากเจ้าทำวิฦธีนี้เจ้าอาจสูญเสียลูกค้าไปได้”
“จะเล่นหรือจะออกไป?” ฟางฉีทำหน้านิ่ง
หวังชานพูดไม่ออก
“เราจะทำอย่างไรกันดี?” ชายทั้งสามปรึกษากัน
“ไปกันเถอะ! เราจะกลับมาพร้อมผู้คนภายหลัง!” หวังชานเอ่ย “เนื่องจากผู้เล่นแต่ละคนสามารถเล่นได้เพียงหกชั่วโมงต่อวัน พวกเขาไม่ได้อะไรจากเราอยู่แล้ว!”
เนื่องจากสมาชิกของครอบครัวหวังถูกปิดกั้นทางเข้าส่งผลให้ออกไปเก็บเลเวลไม่ได้ พวกเขาจึงบอกให้พวกเขาเลิกลาและออกจากเกม
ขณะเดียวกันผู้ปลูกฝังบางคนเดินเข้ามาในร้าน
หวังชานหยุดและหันมอง ผู้มาใหม่ก็หันมองเขาด้วยความระมัดระวังเช่นกัน
รุ่นน้องสองสามคนที่อยู่ในระดับต้นของอาณาจักรแม่น้ำจิตใจ? หวังชานขมวดคิ้ว หนึ่งในนั้นที่สวมเสื้อคลุมสีแดงหน้าของเขาดูซีด แต่ริมผีปากแดงก่ำราวกับเพิ่งกินเลือดมา
ส่วนชายอีกคนนั้นใส่ผ้าคลุมสีดำร่างใหญ่มือของเขาดูแห้งดำราวกับกิ่งไม้ที่ตายแล้ว ข้างหลังเขาเป็นผู้ฝึกฝนหลายคนสวมผ้าคลุมสีดำติดตามมา
หวังชายมองขึ้นลงและเอ่ย “คนนอก? ข้าแนะนำให้พวกเจ้าเลี่ยงการสร้างปัญหาที่ร้านนี้”
“หืม?”
หวังชานกอดอกและพูดเสริมว่า “เชิญเลย”
แน่นอนว่าเขาจะไม่เขาไปยุ่ง เขาหวังว่าพวกคนโง่จะทดสอบความแข็งแกร่งของร้านนี้เป็นแน่!
“ใครเป็นเจ้าของร้าน?” ชายผู้สวมชุดคลุมสีเลือดตะโกนถาม
“หะ หัวหน้า ..” ซูโมรีบตะโกนเรียกฟางฉีทันที เขารู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ
ฟางฉีหันมองและเห็นความวุ่นวายที่หน้าประตู .. แต่ตอนนี้ยังไม่ว่างเนื่องจากกำลังฆ่าแมงมุมพิษอยู่กับเจี่ยงเสี่ยวหยู
“นี่เจ้าโมน้อย ถ้าพวกเขามาเล่นเกมก็ให้คำแนะนำที่อยู่บนกระดานดำไป ถ้าพวกเขามาสร้างปัญหา ..”
“สร้างปัญหา?” ชายชุดคลุมสีแดงเอ่ยเสียงเรียบ “เราแค่อยากจะยืมเงินจากเจ้าของร้าน”
“ซือซิเอ้อ ข้าขอเตือนว่าอย่างก่อปัญหาที่นี่!” รวนหนิงเดินออกจากร้านด้วยความโกรธ
“อ้อ รวนหนิงเจ้านี่เอง เจ้าควนอยู่นอกกฏของถนนสายนี้จะดีกว่า” ชายชุดคลุมสีแดงมองหน้าเธอด้วยสายไร้เหยียด
“เจ้า ..”
ฟางฉีถอนหายใจเล็กน้อย “เมืองนี้สมบูรณ์แบบไปด้วยคนร่ำรวยแต่โง่ ซูโมอ่านกฏจากกระดานดำให้พวกเขาฟัง”
รวนหนิงจ้องหน้าฟางฉีด้วยสายตาอยากกินเลือดกินเนื้อ เธอคิดในหัวว่ามันหมายความว่ายังไงกันนะ ‘รวยแต่โง่?’ เธอรู้สึกว่ากำลังโดนดูถูกจากความเห็นของเขา
“รับทราบ” ซูโมอ่านคำอธิบายบนกระดาน “ทำลายจุดแข็งด้านการเพาะปลูกและเตะพวกเขาออกไป”
ฟางฉีที่กำลังฆ่าสัตว์ประหลาดวางหูฟัง VR “ถึงยังไงข้าก็ไม่ชอบการฆ่าคนอยู่ดี”
หวังชานทำหน้าคิดไม่ตก การลงโทษแบบนี้มันแย่เสียกว่าการถูกฆ่าซะอีกหากผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่รู้ว่าศัตรูของพวกเขาเตะพวกเขาออกไปจะสร้างความอับอายอย่างแน่นอน ตายไปเลยซะยังดีกว่า
อย่างไรก็ตามคนอย่างซือซิเอ้อและดูกั้นยังคงมองด้วยสายตาเย้ยหยัน “แล้ว?”