บทที่ 1331+1332

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 1331+1332 โดย Ink Stone_Romance

บทที่ 1331 จับคู่ให้สองคนโดยเจตนาและไม่เจตนา

ไป๋หลี่เช่อนั่งลงข้างกายกู้ซีจิ่ว ไถ่ถามอย่างกระตือรือร้น “อยากกินอะไร? ข้าไปหยิบให้เจ้าเอง”

กู้ซีจิ่วโยนผลไม้ให้ลู่อู๋น้อยที่อยู่บนไหล่ ตอบอย่างไม่มีกะจิตกะใจ “ไม่จำเป็น ข้าไม่อยากกินอะไร” เธอไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงจะทำอะไร

พรุ่งนี้ก็จะครบกำหนดเก้าวันที่ตี้ฝูอีพูดไว้แล้ว เขาจะปรากฏตัวตามนัดหรือไม่? ความจริงเธอยังรอคำอธิบายของเขาอยู่…

เธอชอบเขาจริงๆ ชอบจนแม้แต่ตัวเองก็ยังประหลาดใจ แต่เรื่องอดีตประมุขเงือกเป็นปมใหญ่ในใจเธอ เธอคิดมากในช่วงหลายวันมานี้ และพบว่าตัวเองยังรับเรื่องนี้ไม่ได้

ผ่านเรื่องราวมาตั้งมากมาย เธอรู้ว่าตี้ฝูอีจริงใจกับเธอ ชอบเธอจริงๆ แต่ว่าอดีตประมุขเงือกคนนั้นเล่า?

แน่นอน ไม่ใช่เธอไม่ยอมรับคนรักที่เขาเคยมี เธอเองก็มีคนรักมาก่อน เกิดเป็นคนไม่อาจมีสองมาตรฐานได้

ทว่าเธอรับไม่ได้ที่เขายกร่างเดิมของเธอให้อดีตประมุขเงือกฟื้นคืนชีพ เขาทำทุกวิถีทางให้ร่างนั้นออกมาดีขนาดนี้เพื่อให้อดีตประมุขเงือกฟื้นคืนชีพ แล้วหลังจากอดีตประมุขเงือกฟื้นคืนชีพเล่า?

เขาคงจะไปอยู่ครองคู่ชู้ชื่นกับอดีตประมุขเงือกใช่ไหม?

กำไลคู่บุพเพก็อยู่ที่ร่างเดิม ถึงเวลานั้นพวกเขาจะเป็นคู่ที่สวรรค์บรรจงสร้างขึ้น

เช่นนั้นตัวเองจะกลายเป็นตัวอะไร? เป็นตัวแทนคั่นเวลาในช่วงปลอดความรักของเขา?

หรือระยะเวลาที่อดีตประมุขเงือกคืนชีพยาวนาน ไม่แน่อาจจะร้อยปีหรือถึงขั้นพันปี ถึงตอนนั้นตัวเธอกู้ซีจิ่วก็อาจตายไปแล้ว

อย่างไรเสีย เธอก็เป็นมนุษย์ ต่อให้ฝึกฝนพลังวิญญาณถึงขั้นเก้า อายุก็ไม่ยืนยาว บางทีเขาอาจไม่ได้ทรยศจริงๆ และอยู่กับเธอไปจนแก่เฒ่า

อดีตประมุขเงือกสิถึงจะเป็นคู่ชีวิตของตี้ฝูอี ส่วนเธอกู้ซีจิ่วก็กลายเป็นบทละครเล็กๆ ตอนหนึ่งในชีวิตเขา…

ก็จริงอยู่ ในทัศนคติเรื่องความรักเธอขอเพียงแค่เคยครอบครอง ไม่ได้เรียกร้องชั่วฟ้าดินสลาย แต่นั่นมันภายใต้สถานการณ์ที่อีกฝ่ายไม่มีใครอื่นอยู่ในใจ

โดยเฉพาะร่างกายที่ตนเคยลำบากยากเข็ญฝึกฝนมายังต้องยกให้อดีตคนรักของเขาอีก เขารอนางอีกหนึ่งร้อยปีค่อยอยู่ด้วยกันกับอดีตประมุขเงือก ร่างที่มองเห็นก็ยังเป็นร่างของเธอกู้ซีจิ่ว ไม่แน่เขาอาจจะคิดว่านี่คือชั่วฟ้าดินสลายแล้ว สตรีทั้งสองต่างก็ไม่ผิดหวัง ทว่ากู้ซีจิ่วทนรับเรื่องนี้ไม่ได้ เธอรู้สึกมาตลอดว่าตัวเองเป็นตัวแทน…

เธอใจลอยไปชั่วขณะ ไม่ได้ยินแม้แต่คำถามของไป๋หลี่เช่อ

กลับเป็นหลัวจั่นอวี่ที่นั่งข้างกายเธออีกข้างใช้ข้อศอกสะกิดเล็กน้อย เธอจึงได้สติกลับคืนมา มองใบหน้าที่รอคอยคำตอบของไป๋หลี่เช่อ “เจ้าว่าอะไรนะ?”

ไป๋หลี่เช่อหน้าตาดุดัน “ซีจิ่ว เจ้าหมั้นหมายไว้กับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายคนนั้นจริงหรือ? เจ้าอยากแต่งงานกับเขาจริงหรือ?”

กู้ซีจิ่วปวดหัว เธอไม่อยากตอบคำถามนี้ จึงจิบเหล้าแล้วเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “นี่มันเรื่องส่วนตัวของข้า ไป๋หลี่เช่อ ข้าไม่อยากให้ใครมาถามเรื่องส่วนตัวของข้า”

ไป๋หลี่เช่อตะลึงงัน “ได้! ข้าไม่ถามเรื่องเจ้ากับเขาก็ได้ ที่ข้าถามเพราะข้าอยากบอกเจ้า ซีจิ่ว ข้าไม่สนใจว่าระหว่างเจ้ากับเขามีบัญชีที่ยุ่งเหยิงกันขนาดไหน แต่ในเมื่อพวกเจ้ายังไม่แต่งงานกัน เช่นนั้นข้าก็มีสิทธิชอบเจ้าอีกครั้ง ข้าจะไม่ยอมแพ้!”

กู้ซีจิ่วนิ่งงัน

ในหมู่คนเหล่านี้ ไป๋หลี่เช่อนับได้ว่าเป็นคนโดดเด่น พลังวิญญาณขั้นแปด มีชีวิตชีวา หล่อเหลา มองโลกในแง่ดี ทำการสิ่งใดตรงไปตรงมา และเป็นผู้นำอย่างยิ่ง มีปฏิสัมพันธ์ดีต่อผู้อื่น คนในกลุ่มล่าสัตว์ล้วนฟังคำสั่งเขา ว่ากันว่าภูมิหลังครอบครัวก็ไม่เลว ตระกูลไป๋หลี่เป็นตระกูลสูงศักดิ์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งทวีป หากไป๋หลี่เช่อไม่ถูกขังอยู่ในนี้ เกรงว่าจะเป็นผู้นำของตระกูลไป๋หลี่ไปแล้ว…

เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่หลัวจั่นอวี่บอกกู้ซีจิ่ว ไป๋หลี่เช่อก็เป็นตัวเลือกน้องเขยที่หลัวจั่นอวี่ถูกใจมากที่สุด เคยจับคู่ให้ทั้งสองคนโดยเจตนาและไม่เจตนา

—————————————————–

บทที่ 1332 การกลับมาของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย

เห็นชัดว่าไป๋หลี่เช่อมีใจให้กู้ซีจิ่ว อีกทั้งความรู้สึกนี้ยังชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าการพูดดั่งให้สัตย์สาบานอย่างเช่นวันนี้นับเป็นครั้งแรก

การกระทำของเขาทำให้คนอื่นตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด ลูกน้องของไป๋หลี่เช่อมีไม่น้อย เพื่อนสนิทก็ไม่น้อย คนเหล่านี้ถือโอกาสส่งเสียงโหวกเหวก

“อยู่ด้วยกัน! อยู่ด้วยกัน!”

“ซีจิ่ว เจ้าอยู่กับหัวหน้าไป๋หลี่ของพวกเราไม่ถูกหลอกแน่ เขาจริงใจกับเจ้ามาก”

“ใช่แล้ว ซีจิ่ว เมื่อวานหัวหน้าไป๋หลี่ของเรายังหอบร่างที่บาดเจ็บไปตกปลาในแม่น้ำหลังเขา เขาบอกว่าปลาที่นั่นรสชาติดี รูปลักษณ์งาม จะเลี้ยงไว้หรือตุ๋นกินก็ดีทั้งนั้น”

“ซีจิ่ว เจ้ากับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายท่านนั้นเคยหมั้นหมายกันไว้กระมัง? ความจริงหมั้นแล้วก็ถอนหมั้นได้”

“ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายลึกลับคาดเดาได้ยาก อาจไม่ได้จริงใจกับเจ้าก็ได้…”

คนเหล่านี้ทยอยกันพูดข้อดีของไป๋หลี่เช่อ ภายใต้คำพูดแสนดีก็เหยียบย่ำตี้ฝูอีอยู่หลายครา

อย่างไรเสีย พวกเขาก็หวาดกลัวทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเป็นอย่างมาก บางคนถึงขั้นมองว่าเป็นศัตรูคู่แค้น แต่กู้ซีจิ่วคือคนที่พวกเขาโปรดปราน อีกทั้งเป็นความหวังที่จะหนีออกไปจากที่นี่ได้ ย่อมไม่อยากให้กู้ซีจิ่วกับตี้ฝูอีลงเอยกันจริง ดังนั้นจึงถือโอกาสแย่งคนรักของตี้ฝูอีที่นี่…

กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว ไม่ว่าต่อไปเธอจะแต่งหรือไม่แต่งให้ตี้ฝูอี ก็ไม่อยากให้ใครมาพูดจาไม่ดีถึงเขา!

อีกทั้งเธอก็ไม่มีใจให้ไป๋หลี่เช่อจริงๆ เธอชื่นชมที่เขาเป็นชายชาตรี เป็นสหายเป็นพรรคพวกกับเขาได้ แต่เป็นคนรักไม่ได้เด็ดขาด! เขาไม่ใช่แนวของเธอ เธอไม่ได้มีใจปฏิพัทธ์ต่อเขา

ดังนั้นเธอให้แต่ละคนแย่งกันพูดให้จบแล้วจึงวางแก้วเหล้า มองไปรอบๆ “พูดกันจบหรือยัง?”

กู้ซีจิ่วมีท่าทางน่ากริ่งเกรงแม้ไม่ได้โกรธ เมื่อทำหน้าตึงเช่นนี้ กลุ่มคนจึงไม่กล้าบุ่มบ่าม

“พวกเจ้าพูดจบแล้วตาข้าพูดบ้าง” น้ำเสียงกู้ซีจิ่วเรียบเฉย “ข้าเคยพูดแล้ว เรื่องของข้ากับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเรา ไม่อยากให้ผู้ใดเข้ามาข้องแวะ นี่คือเรื่องที่หนึ่ง เรื่องที่สอง ไป๋หลี่เช่อ เจ้าชอบข้า ข้าขอบใจเจ้ามาก แต่ข้ายืนยันได้อย่างหนึ่ง ข้าไม่ได้ชอบเจ้า ข้าเป็นสหายเป็นพรรคพวกกับเจ้าได้ สิ่งเดียวที่เป็นไปไม่ได้คือเรื่องความรัก! ดังนั้นไม่ว่าข้ากับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายจะได้ตบแต่งกันหรือไม่ ข้าก็ไม่มีทางเลือกเจ้า…”

คำพูดนี้ของนางชัดเจนและโหดร้ายยิ่งนัก ใบหน้าหล่อเหลาของไป๋หลี่เช่อแดงเรื่อ แต่ยังคงไม่ลดละ “ซีจิ่ว ครั้งนี้ที่ข้าบาดเจ็บ เจ้า…”

“ครั้งนี้ข้าช่วยเจ้าไว้ก็เป็นคุณธรรมต่อมิตรสหาย” กู้ซีจิ่วตัดบทเขา “ข้าเป็นหมอ ในสายตาของหมอไม่แบ่งแยกชายหญิง มีเพียงหนักหรือเบา อีกอย่างข้าเพียงรักษาแขนของเจ้าให้หาย ไม่ได้พรากความบริสุทธิ์ของเจ้าไปเสียหน่อย ความบริสุทธิ์ของเจ้าก็ยังคงอยู่ ไยต้องบีบคั้นให้ข้ารับผิดชอบ?”

เพื่อไม่ให้ไป๋หลี่เช่อถึงขั้นต้องอับอาย ประโยคท้ายๆ ของกู้ซีจิ่วจึงพูดจาติดตลก คำพูดนี้หาญกล้านัก ทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นพ่นเหล้าออกมา มีคนทนไม่ไหวหัวเราะลั่น แม้แต่หลัวจั่นอวี่ก็อดหัวเราะไม่ได้ ส่ายหน้าบอก “ซี่จิ่ว…เจ้ากล้าหาญเกินไปแล้ว…”

ปากกล่าวตำหนิติเตียน แต่ในสายตาเต็มไปด้วยความรักใคร่ มาถึงตอนนี้เขาล้มเลิกความคิดที่จะจับคู่น้องสาวกับไป๋หลี่เช่อแล้ว

ไป๋หลี่เช่อก็เป็นคนใจคอกว้างขวาง ถึงแม้การถูกปฏิเสธอย่างชัดเจนจะค่อนข้างน่าอับอาย แต่เขาไม่คับแค้นใจแม้แต่น้อย ในทางกลับกันยิ่งชื่นชมกู้ซีจิ่วมากขึ้น

ผู้หญิงที่เขารู้จักมีไม่น้อย ไม่ขาดคนงามมีความสามารถ

ทว่าก็มีหญิงมากมายที่มีจุดบกพร่องเดียวกัน นั่นคือความคลุมเครือไม่ชัดเจนในความสัมพันธ์ชายหญิง เมื่อมีคนมาตามเกี้ยวพา ต่อให้ไม่มีใจก็ไม่ได้ปฏิเสธไป บางคราวยังกระทำบางสิ่งที่ชวนให้คนเข้าใจผิดว่านางมีใจอีก

—————————————————————