ตอนที่ 303 จุดสนใจของผู้ชมมหาเศรษฐีที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ศูนย์แสดงสินค้า หยุนเฉิง
การประชุมทางธุรกิจประจําปีนี้ที่หยุนเฉิงถูกจัดขึ้นที่นี่ที่ประตูทางเข้าศูนย์แสดงสินค้ามีรถหรูมารวมตัวกันนักการเมืองและนักธุรกิจใหญ่จากทุกสาขาอาชีพได้เข้ามาร่วมงานกันอย่างต่อเนื่อง
ในฐานะประธานของหอการค้าซ่งหรงเหมาได้มารอตอนรับแขกที่หน้างานด้วยตัวเองและแขกทั้งหมดได้เข้ามาในสถานที่จัดงานเรียบร้อยแล้วแต่หลินฟานหนึ่งในแขกคนสําคัญของซ่อหรงเหมา ยังมาไม่ถึงในเวลานี้
เหล่าบรรดาผู้นําธุรกิจที่มาถึงสถานที่จัดงานต่างจับกลุ่มสนทนากันเป็นกลุ่มกลุ่มละ 3 หรือ 5 คนภายในห้องจัดการประชุมบุคคลคนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือหลินฟานประธานของกลุ่ม 100 พันล้าน ที่เพิ่งจะเกิดขึ้นได้ไม่นานมานี้
หลินฟาน กลายเป็นจุดสนใจของการประชุมทางธุรกิจไปในทันที
“คุณหลินคนนี้ เติมโตขึ้นอย่างรวดเร็ว!”
“หยุนเฉิง ได้ปรากฏกลุ่ม 100 พันล้านกลุ่มที่สี่และยังเป็นกลุ่มที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์มันช่างน่ากลัวจริงๆ!”
“สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือเงินที่อยู่ในมือของหลินฟานมีมายมายแค่ไหนกัน ขามีเงินให้ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยจนน่าอิจฉา”
“วันนี้โลกธุรกิจทั้งหมด ต้องตกตะลึง!”
“ฉันเคยได้ยินชื่อของ หลินฟานคนนี้แต่ฉันยังไม่ได้เจอกับเขา จริงๆสักทีฉันยังสงสัยว่าวันนี้ฉันจะมีโอกาสได้พบเจอเขาไหม”
“ฉันก็ไม่เคยเห็นเขาเหมือนกันแต่ได้ยินมาว่าเขายังเด็กมากอายุแค่ 21ปีเท่านั้นน่ากลัวจริงๆ!”
คนส่วนใหญ่เกิดความอิจฉา จากการเติมโตของหลินฟานในท้ายที่สุดกลุ่มหยงจิ๋วก็เติบโตเร็วเกินไปทั้งหลินฟานก็ยังเด็กมากและ หลินฟานก็ร่ำรวยมากเช่นกันหรือแท้จริงแล้วหลินฟานกลับเป็นเทพเจ้าแห่งความมั่งคั่ง
ไม่ต้องพูดถึงว่าหลายคนในที่นี่ก็เป็นมหาเศรษฐีหลายพันล้านแต่จริงๆแล้วพวกเขามีเงินทุนจํากัดและบางคนถึงกับเป็นหนี้เงินกู้ก้อนโตให้กับธนาคาร
การเติบโตขึ้นของหยงจิ๋วกรุ๊ปเกิดจากการเข้าซื้อกิจการอย่างบ้าคลั่งทั้งการซื้ออาคารที่ดินและเครื่องบินทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากการใช้เงินหลายหมื่นล้านเข้าซื้ออาคารโจวเถียนเป็นเงินจํานวน 10 พันล้านและซื้อเครื่องบิน Boeing เป็นเงินกว่า 20 พันล้าน… ดูเหมือนว่าจะมีการไหลของเงินทุนที่ไม่มีที่สิ้นสุดมันน่าอิจฉาจริงๆ
มันน่าอิจฉาจนแทบจะอาเจียนเป็นเลือด
ในอีกด้านหนึ่งทุกคนต่างอิจฉา และในทางกลับกันก็เริ่มอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเกี่ยวกับภูมิหลังของหลินฟานตามข่าวที่เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้หลินฟานเขามีลุงที่ชื่อหลินเป่ยซวนและความมั่งคั่งของเขาทั้งหมดมาจากหลินเป่ยซวนคนนี้
ไม่มีใครรู้ว่า หลิน เป่ยซวน คนนี้เป็นใคร
อย่างไรก็ตามหลินฟานได้กล่าวว่าหลินเป่ยซวนจะมาที่หยุนเฉิงพร้อมกับเงินลงทุนหลายหมื่นล้านเพื่อพัฒนาเกาะเฉียนป้า
มีหลายคนสงสัยว่า หลิน เป่ยซวนอาจเกี่ยวข้องกับครอบครัวหลิน ในปักกิ่ง
ไม่ว่าอย่างไรก็ตามหลิน เป่ยซวนต้องเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยจนน่าเหลือเชื่อที่สามารถมอบเงินสดจํานวนมหาศาลให้กับหลินฟาน ได้
เมื่อสังเกตว่าทุกคนกําลังพูดถึง หลินฟาน ซ่ง หรงเหมาก็ตระหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า หลินฟาน มีความสําคัญ และเขาต้องได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจ ในวันนี้
“เลาซ่ง ฉันไม่รู้ว่าคุณหลินจะมาเข้าร่วมงานในวันนี้ไหมฉันอยากจะขอรบกวนเลาซ่งแนะนําฉันกับเขา..” ชายวัยกลางคนคนหนึ่งได้เดินเข้ามาหาซ่งทรงเหมา
คนๆ นี้จริงๆแล้วคือเหอเฉาซีอีโอของจงถงเอ็กเพรสหนึ่งในสามมหาเศรษฐีพันล้านในหยุนเฉิง!
ซ่งหรงเหมา กล่าวว่า “ฉันได้เชิญ คุณหลิน แล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้เขายังมาไม่ถึงยังไงก็ตามหากเขามาแล้วฉันจะแนะนําเขาให้รู้จักกับบอสเหออย่างแน่นอน”
นั่นคือสิ่งที่เหอเฉาต้องการเขาเดินออกไปอย่างพึ่งพอใจ
“มารอตอนรับแขกแทนฉันที ฉันจะไปโทรศัพท์ก่อน
ซ่ง หรงเหมา สั่งคนของเขา แล้วเดินออกไป โทรหาหลินฟาน
“คุณหลิน การประชุมทางธุรกิจของเรากําลังจะเริ่ม ฉันสงสัยว่า คุณหลินสามารถมาเข้าร่วม..” ซ่ง หรงเหมา ถามอย่างสุภาพ
หลินฟาน กล่าวว่า “ผมต้องขอโทษ คุณซ่ง ด้วย ผมมีเหตุที่ต้องล่าช้าไปตอนนี้ผมกําลังรีบไปอาจจะไปสายสักหน่อยครับ”
ซ่ง หรงเหมา ถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลินฟานสามารถมาได้ และกล่าวว่า “ไม่เป็นไรครับคุณหลินไม่ต้องรีบและใส่ใจกับความปลอดภัยบนท้องถนน”
ในขณะนี้ หลินฟานนั่งอยู่บนรถ Rolls-Royce และเพิ่งออกจากโรงพยาบาลหลังจากวางสายของซ่งทรงเหมาหลินฟานกล่าวว่า “เป็นสายของคุณซ่งรีบไปกันเถอะ”
จ้าว เจียอี้ พยักหน้า และเร่งความเร็วขึ้น
เวลาบ่าย 3 โมง การประชุมทางธุรกิจจะเริ่มในเวลานี้ และแขกที่เข้าร่วมงานก็เข้ามาในสถานที่จัดงานทีละคน และนั่งที่ตําแหน่งที่ได้จัดวางไว้
แถวหน้าสุดเป็นของผู้นําระดับสูงในแวดวงการเมือง และธุรกิจของหยุนเฉิง
ทุกคนสังเกตเห็นว่าที่นั่งของ เหอเฉา ซีอีโอของจงถงเอ็กเพรส หนึ่งในสามของกลุ่ม 100 พันล้านในหยุนเฉิงและหวังไห่หลินซีอีโอของห้างสรรพสินค้ายี่ต้าต่างนั่งลงที่ตําแหน่งที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ แต่ยังไม่เห็น เฟิง ว่านซาน ซีอีโอ ของกลุ่ม เซิ้งซีตําแหน่งของ เฟิง ว่านซาน ถูกแทนที่โดย หลินฟาน
ทุกคนก็เริ่มพูดคุยกัน
“ฉันได้ยินมาว่า เฟิง ว่านซาน ได้ปฏิเสธคําเชิญของ เลาซ่ง เพราะเขาไม่สบาย!”
“ไม่ใช่ เพราะเขาไม่สบายหรอก น่าจะเป็นเหตุการณ์ล่าสุด
“เฟิง ว่านซาน ในตอนนี้ เต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาว ดังนั้นเขาควรที่จะเก็บตัว”
“ฉันคิดว่าอีกไม่นานกลุ่มใหญ่ทั้งสามในหยุนเฉิงจะเปลี่ยนไปในไม่ช้าเมื่อเร็วๆนี้ราคาหุ้นของกลุ่มเซิงซีได้ลดลงอย่างรวดเร็วแต่กลุ่มหยงจิ๋วกลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วหลินฟานจะมาแทนที่เฟิงว่านซานมันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”ทุกคนต่างถอนหายใจ
เนื่องจากเฟิง ว่านซาน ล้มเหลวในการลอบโจมตีหลินฟานเขาจึงต้องเผชิญหน้ากับเรื่องอื้อฉาวที่หลินฟานได้ตอบโต้กลับไป เป็นผลให้เขาได้รับเชิญจากตํารวจให้ไปนั่งดื่มชาเล่นๆในสถานีตํารวจทําให้ราคาหุ้นของเซิงซีกรุ๊ปลดลงและมูลค่าตลาดของบริษัทได้ระเหยไปกว่า30 พันล้าน
เหตุการณ์นี้ เป็นที่พูดถึงกันมากในโลกธุรกิจ แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันเป็นฝีมือของหลินฟานว่ากันว่าเมื่อเฟิงว่านซานรู้ว่ามูลค่าตลาดได้ระเหยไปกว่า 30 พันล้านเขาโกรธมากจนเป็นลมไปและถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาหลังจากนั่น มันก็กลายเป็นเรื่องตลก
อาจกล่าวได้ว่าเฟิงว่านซานไม่มีหน้าที่จะมาเข้าร่วมการประชุมทางธุรกิจในครั้งนี้ที่จริงแล้วเฟิงว่านซานและคนสนิทของเขากําลังหารือกันเพื่อหาวิธีการแก้แค้นกลุ่มหยงจิ๋วเฟิงว่านซานไม่ได้มาเข้ามาร่วมงานในครั้งนี้ทุกคนต่างก็รับรู้ในเรื่องนี้แล้วทุกคนในตอนนี้ ต่างก็คาดหวังที่จะได้พบเจอกับหลินฟานแต่เมื่อเวลาผ่านไปหลินฟานก็ยังไม่ปรากฏตัวซึ่งทําให้ทุกคนเกิดความสงสัย
ทุกคนต่างคาดเดาว่าหลินฟานอาจจะยุ่งเกินไปเขาจึงไม่ได้มาเข้าร่วมงานในครั้งนี้แต่ซ่งหรงเหมาจะเสียหน้าเล็กน้อยทั้งหมดเป็นผู้นําธุรกิจรายใหญ่และพวกเขาทั้งหมดก็ให้เกียรติซ่งหรงเหมาดังนั้นพวกเขาจึงหาเวลาว่างจากตารางงานเพื่อมาที่นี่หลินฟานมาสายกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะปรากฏตัวในที่ประชุม
ภายใต้การนําของพนักงานหลินฟานได้นําจ้าวเจียอี้เลขาของเขาไปยังตําแหน่งที่นั่งของเขาและนั่งลง
ในช่วงเวลานี้ความสนใจของทุกคนถูกดึงดูดโดย หลินฟาน
ในเวลานี้บนเวทีเหอเฉาซีอีโอของจงถงเอ็กเพรสกําลังกล่าวสุนทรพจน์แต่ความสนใจของทุกคนกลับอยู่ที่หลินฟาน
เป็นไปตามข่าวลือหลินฟานอายุเพียง 21 ปีเป็นชายหนุ่มที่มาในชุดธรรมดาและเขาก็ดูหล่อ
ผู้นําโดยส่วนใหญ่ในที่นี่อยู่ในวัยกลางคนและเพื่อให้มาถึงตําแหน่งในปัจจุบันพวกเขาได้ใช้มากความทุ่มเทพยายามกว่าครึ่งชีวิตของพวกเขาไปแล้ว
ดูเหมือนว่าการเติบโตของหลินฟานจะใช้เวลาน้อยกว่าครึ่งเดือน ซึ่งเรียกได้ว่าปาฏิหาริย์
ความอยากรู้ของทุกคนเกี่ยวกับ หลินฟานสามารถพูดได้ว่าเป็นที่เข้าใจกันดีแม้แต่เหอเฉาซีอีโอของจงถงเอ็กเพรสที่ได้เห็นหลินฟานมาแล้ว เขาก็หมดความสนใจที่จะพูดอีกต่อไปเขารีบจบคําพูดอย่างรวดเร็วและลงจากเวทีฟาน
ที่นั่งของทั้งสองถูกจัดวางใกล้กันและเหอเฉาเดินตรงไปที่หลินฟาน และนั่งลง“คุณต้องเป็นคุณหลินฟานฉันชื่อเหอเฉายินดีที่ได้รู้จักครับ”เหอเฉากล่าวทักทายหลิน
หลินฟาน และเหอเฉาจับมือกัน และเขาพูดอย่างสุภาพว่า“ยินดีครับ ผมก็ชื่นชมประธานเหอมานานแล้วเช่นกัน”
หลินฟาน ตอนนี้ก็มีอีกตัวตนหนึ่ง นั่นคือคนส่งพัสดุของจงถงเอ็กเพรส หากพูดถึงเหอเฉาก็เป็นเจ้านายของเขา…
แน่นอนว่าเหอเฉาไม่รู้เรื่องนี้และหลินฟานก็ไม่ได้พูดถึงมัน
ในเวลานี้ซ่งหรงเหมาก็รู้ว่าหลินฟานมาอยู่ที่นี่แล้วเขารีบขึ้นไปบนเวทียิ้มแล้วพูดว่า“ขอบคุณคุณเหอสําหรับคําปราศรัยของคุณฉันได้สังเกตเห็นว่าคุณหลินฟานได้มาถึงแล้วกลุ่มหยงจิ๋วของคุณหลินฟานเพิ่งทะลุมูลค่าตลาดกว่า 100 พันล้านในวันนี้ก่อนอื่นในนามของหอการค้าผมขอแสดงความยินดีกับคุณหลินและผมอยากขอให้คุณหลินขึ้นมาบนเวทีและพูดกับทุกคนสักสองสามค่าพอจะได้ไหมครับ”
“ยินดีด้วย!”
ทุกคนพูดพร้อมกัน และก็มีเสียงปรบมือดังก้องอยู่ครู่หนึ่ง
หลินฟานเกิดงงเล็กน้อยเขามาเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้และต้องการให้เขาพูดแต่เขายังไม่พร้อมในตอนนี้แต่ดูเหมือนทุกคนจะกระตือรือร้นกันมากและเขาไม่ได้พูดเก่งพอที่จะขึ้นไปดังนั้นเขาจึงต้องกัดฟัดและขึ้นไปบนเวทีเท่านั้น
สักพักผู้ชมก็เงียบรอหลินฟานพูด