เติงฮ่าวและเจิ้งท่าวต่างนิ่งงัน หัวใจเต้นระรัว…ปลดตำแหน่ง เหอเฟิงถูกปลดตำแหน่ง?

 

สิงโตบ้าคลั่งพอใจอย่างมากกับท่าทางหวาดกลัวที่ 2 คนนั้นแสดงออกมา ในที่สุดเขาก็รู้สึกมีอำนาจและเป็นที่หวาดกลัวของคนอื่นโดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของเขาในตอนนี้ สิงโตบ้าคลั่งมองไปที่เหอเฟิงอีกครั้ง “เอาตราของแกออก แล้วก็ชุดเครื่องแบบ ถอดมันออกซะ!”

 

ปรากฏว่าเหอเฟิงกลายเป็นเป้าหมายของสิงโตในการแก้ความอับอาย!

 

เหอเฟิงเหลือบตามองสิงโต จากนั้นก็หมุนตัวและเดินออกไป

 

“แกต้องเชื่อฟังฉัน—” สิงโตที่เกี้ยวกราดได้แต่แหกปาก เขากะจะสวดด่าทุกคน ทว่าคำพูดของเขากลับติดค้างอยู่ที่ลำคอ

 

เติงฮ่าวและเจิ้งท่าวเองก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน

 

ต่อหน้าทุกคน มีคน 3 คปรากฏตัวขึ้น มีชายร่างกำยำที่เดินนำอยู่ด้านหน้า เสื้อผ้าสีดำสนิท ส่วนหน้าตานั้นทุกคนมองเห็นไม่ชัดเจนด้วยเพราะมันมีกลิ่นอายที่แข็งแรงเปล่งประกายรอบๆจนไม่สามารถเพ่งมองได้ และต่อให้พยายามจะเพ่งมองแค่ไหน ทุกคนก็เห็นเพียงแต่ทุกอย่างเป็นสีดำหมด

 

ด้านหลังของชายคนนี้มีผู้หญิงและผู้ชายเดินตามหลังมา รูปร่างดูแปลกตา ไม่สามารถมองเพศออกได้ชัด หากความรู้สึกที่พามากลับให้ความคุ้นเคย แต่ก็ทำให้รู้สึกหนาวเหน็บ

 

ทุกคนต่างหยุดนิ่งกับทั้งสามคนที่ปรากฏตัวขึ้น ความตกใจในอกของพวกเขามันมากล้นจนเกินกว่าจะรับไหว มีเพียงแค่ฝีเท้าของเหอเฟิงเท่านั้นที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง เขายังคงเดินไปเรื่อยๆจนกำลังจะประจันหน้ากับสามคนตรงหน้า

 

หัวใจของสิงโตบ้าคลั่งสั่นระรัวจนแทบจะหลุดออกจากอก ในเมื่อเขาไม่สามารถทำอะไรเหอเฟิง สายตาของสิงโตจึงค่อยๆจับจ้องไปที่คนสามคน สิงโตเอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แปลกไป มันแฝงไปด้วยความหวาดกลัว “หลงยา!”

 

องค์กรหลงยา…หัวหน้าทีมเขี้ยวมังกร สมาชิกในทีม…อี้และฟาน

 

“เฮือก!”

ร่างของเติงฮ่าวและเจิ้งท่าวแทบจะยืนไม่ไหว คนสามคนที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวและตกใจนั้นความจริงแล้วคือสมาชิกของทีมหลงยา!

 

ในยุคศิวิไลซ์นั้นมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้จักองค์กรหลงยา ทว่าหลังจากการปะทุ โดยเฉพาะหลังจากที่ก่อตั้งยุคโลกาวินาศ ชื่อเสียงขององค์กรหลงยาก็ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งกองทัพ

โดยเฉพาะหัวหน้าหลงยา…เขี้ยวมังกร….หนึ่งในกลุ่มคนสามคนนี้ หลงยาไม่เคยปฏิบัติภารกิจไม่สำเร็จ และจากภารกิจที่แสนยากลำบากทั้งหมด ส่วนใหญ่ก็จะเป็นความรับผิดชอบของสามคนนี้ ถือเป็นความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ยังดำรงอยู่ของค่ายซางจิง

 

“หลง—หลงยา” เติงฮ่าวกลืนน้ำลายอึก จากนั้นก็มองไปที่เจิ้งท่าวที่กระวนกระวายพอกันกับเขาอยู่ข้างๆ พวกเขาสันสบมากจนไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อดี

 

สมาชิกของหลงยาไม่มียศตำแหน่งทางทหาร แต่สถานะของพวกเขาจะแยกออกไป ในตอนนี้พวกเขาจึงไม่รู้ว่าควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อเจอกับสมาชิกหลงยา?

 

ไม่เพียงแต่เติงฮ่าวและเจิ้งท่าว แม้แต่พลตรีสิงโตก็ยังคิดถึงปัญหาเดียวกัน…องค์กรหลงยาพิเศษเกินไป ไม่ต้องพูดถึงเขาที่เป็นพลตรีเลย เขาคาดว่าหลังจากมันต้องมีความตื่นตระหนกจากทุกคนเกิดขึ้นแน่นอน!

 

และในขณะที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในสถาวะวิตกกังวล เหอเฟิงที่ยังไม่หยุดเดิน จนในที่สุดเขาก็เดินมาถึงตัวสมาชิกหลงยา 3 คนบนถนน!

 

ทีมหลงยาที่มี 3 คน กับเหอเฟิงตัวคนเดียว ความต่างที่ค่อนข้างแปลกระหว่างจำนวนคนหากให้ความรู้สึกแปลกๆของความเท่าเทียมเกิดขึ้น

 

สิงโตจับจ้องมาที่สถานการณ์ด้านหน้า ตามมาด้วยความรู้สึกภายในที่หัวเราะเยาะเหอเฟิงอยู่ ท่าทีที่แสดงออกมาก็ดูชั่วร้ายและเยาะเย้ย…มันกล้าหยาบคายกับเขา สงสัยจะวอนตายจริงๆ ไม่เพียงแต่กับเขาที่เป็นถึงพลตรี แต่ตอนนี้มันยังกล้าจะหือกับทีมหลงยาที่แข็งแกร่งที่สุด ไอ้เด็กนี้น่าจะไม่มีสมอง?

 

เติงฮ่าวและเจิ้งท่าวเองก็กลัวพอกัน พวกเขารู้ว่าเหอเฟิงค่อนข้างจะเย่อหยิ่งแต่ไม่คิดเลยว่าเหอเฟิงจะอวดดีได้ถึงขนาดนี้ แม้แต่คนจากองค์กรหลงยาเขาก็ยังไม่สนใจ?

 

“พันโทเหอเฟิง ถอยกลับมาเถอะครับ” เติงฮ่าวส่งเสียงกระซิบออกไปเพื่อเตือน เขาช่วยมากได้ที่สุดเพียงแค่นี้แล้ว

 

แต่สิ่งที่ทุกคนไม่ได้คิดคือ——–

 

สมาชิกของหลงยาสองคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับพันโทเหอเฟิง กลับยืนเรียบร้อยด้วยกริยาที่แปลกตา จากนั้นก็โค้งตัวให้เหอเฟิง

 

นี่ไม่ใช่ระเบียบการทางทหารที่ต้องปฏิบัติ หากคือการปฏิบัติกันมาของการแสดงความเคารพต่อผู้ที่สูงกว่าภายในขององค์กร

 

ใช่ มันคือความเกรงกลัว

 

หลังจากนั้นไม่ว่าจะเป็นสิงโตหรือเติงฮ่าว เจิ้งท่าว ทุกคนต่างตะลึงค้างกันหมด พวกเขาคิดด้วยซ้ำว่าตัวเองตาฝาดกันหรือเปล่า อี้และฟานแสดงความเคารพต่อเหอเฟิงจริงๆ!

 

*เหอเฟิงไม่ใช่พันโทธรรมดาๆเหรอ?*ในบริบทของโลกาวินาศตำแหน่งของเหอเฟิงไม่ได้มีค่าอะไรมากมายเลยด้วยซ้ำ

 

แต่นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

 

สิงโตนิ่งค้างขยับตัวไม่ได้ ทว่าก่อนที่สิงโตจะทันได้คิดอะไร เหอเฟิงและเขี้ยวมังกรที่ยืนเผชิญหน้ากันอยู่ด้านหน้าของทุกคนที่ยืนดูอยู่ ก็เปิดประโยคสนทนาที่ส่งผลกระทบยิ่งใหญ่ออกมา

 

เหอเฟิงพยักหน้ารับการแสดงความเคารพของอี้และฟาน และแสดงสีหน้าไม่ต้อนรับเท่าไหร่ใส่หัวหน้าทีม “ต้องเดินทางต่ออีก?”

 

“หึ” เขี้ยวมังกรหัวหน้าทีมประหลาดใจกับท่าทีนิ่งเงียบของเหอเฟิง “เกิดอะไรขึ้น? ฉันไม่เจอนายมาหลายเดือน”

 

“ภารกิจ” เหอเฟิงบิดริมฝีปาก “ล้มเหลว”

 

เขี้ยวมังกรเงียบไปอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็บิดริมฝีปาก “ล้มเหลวในการส่งมอบสินะ ฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

เหอเฟิงหันหน้ากลับมาจ้องเขม็ง เส้นเลือดตรงขมับนูนเป่งขึ้นมา “เมื่อไหร่ก็ตามที่มีภารกิจ ฉันจะวางแผนเสมอ แต่อีกฝ่ายช่างน่าทึ่งเหลือเกิน”

 

“อืม” เขี้ยวมังกรจ้องตากับเหอเฟิงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็เอ่ยปากพูด “ฉันคิดว่าฉันน่าจะเดาได้ว่าใคร ฉันวิเคราะห์คนคนนี้มาแล้ว ไม่ใช่ง่ายๆเลย”

 

เหอเฟิงพยักหน้าและดูเหมือนไม่มีเจตนาจะพูดคุยต่อ เขาเพียงเดินแทยงมุมจากไป

 

เขี้ยวมังกรเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร ทั้งคู่ไม่แม้แต่จะพูดบอกลากันด้วยซ้ำ อารมณ์ที่เปิดเผยออกมาระหว่างทั้งคู่แสดงออกถึงความคุ้นเคยของพวกเขา

 

ด้านหลัง ที่คืออี้และฟานแสดงท่าวันทยาหัตถ์ตามระเบียบทั่วไปของทหารทันทีเมื่อเหอเฟิงเดินผ่านไป ทั้งคู่ไม่ได้ปริปากพูดเลยตั้งแต่ต้นจนจบ มีเพียงแค่สีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเผชิญหน้ากับเหอเฟิง แม้แต่พลตรีสิงโตที่ยืนมองพวกเขาอยู่ ทว่าทั้ง 3 คนกลับไม่แม้แต่จะเหลือบตามองกลับด้วยซ้ำ

 

เป็นอีกครั้งที่ภาพนี้ตกอยู่ในสายตาของทุกคน…ทุกคนต่างยืนช็อค ในตอนนี้ร่างของเหอเฟิงได้เดินจากไปไกลแล้ว เสียงฝีเท้าของเขานิ่งสงบ เหอเฟิงนิ่งมากตั้งแต่เริ่มจนจบ ไม่ว่าจะตอนที่ต้องเผชิญกับพลตรีสิงโตบ้าคลังหรือทีมหลงยา

 

สงบนิ่งหรือไม่เห็นใครในสายตากันแน่!

 

เติงฮ่าวและเจิ้งท่าวเหมือนกับคนโง่อย่างแท้จริง ถ้าตอนนี้พวกเขายังไม่สามารถเดาตัวตนที่แท้จริงของเหอเฟิงออกได้ พวกเขาก็ควรจะตบหน้าตัวเองให้ยับซะ!

 

สิงโตบ้าคลั่งหวาดกลัวเกินกว่าจะเงยหน้ามอง ความกลัวในใจของเขาขยายใหญ่ขึ้นจนเกินจะเหลือรับ เขาทำบ้าอะไรลงไปกับเหอเฟิง เขาซวยแล้ว!