“ถ้าพวกมันกล้ามาก็ยิ่งดีฉันจะทำให้พวกมันมาแล้วไม่ได้กลับหู้ไห่ต้องเป็นของพวกเรา”

โอ๊ย?

ได้ยินประโยคนี้ของเฉินป้าเซียนเฉ่าซือไห่ก็ทำหน้าดีอกดีใจยกใหญ่

ทว่าเมื่อฟังถึงประโยคสุดท้ายเขาก็ต้องตกใจ

อะไรที่เรียกว่าหู่ไห่เป็นของพวกเรา?

หรือเฉินป้าเซียนอยากเป็นส่วนหนึ่งของอำนาจในหู้ไห่?

ถ้าแก๊งฟ้าดินแทรกมือหู้ไห่งั้นเบื้องบนของเขาก็จะมีไท่ซางหวงเพิ่มขึ้นสิน่ะ?

ถึงเวลานั้นเกรงว่าเขาจะกลายเป็นหุ่นเชิดตัวหนึ่ง!

เห็นสีหน้าแปรปรวนของเฉ่าซือไห่เฉินป้าเซียนก็กล่าวเสียงเย็นเยียบด้วยใบหน้าสุขุม“ทำไมนายมีปัญหาเหรอ?”

ถ้อยคำของเฉินป้าเซียนแฝงไปด้วยกลิ่นอายสังหาร

เขารีบเอ่ยว่า“ซือไห่ไม่กล้าครับผมฟังบอสทุกอย่างอยู่แล้วครับ!”

“ฮ่าๆๆ!”

เห็นเฉ่าซือไห่ยอมจำนนเฉินป้าเซียนก็อดหัวเราะเสียงดังลั่นไม่ได้

เมื่อรวบรวมพลังนักบู๊ในภาคใต้สำเร็จพวกเขาก็จะไปปราบศัตรูที่หู้ไห้แล้วทั่วทั้งภาคใต้ยังเหลือใครเป็นคู่ต่อสู้เขา?

ทั่วทั้งต้าเซี่ยยังมีใครเทียบเทียมเขาได้อีก!

เวลาเดียวกัน

ที่สนามบินนาๆชาติจินหลิง

“ที่นี่คือจินหลิงเหรอ?สมกับที่เคยเป็นเมืองหลวงของหกราชวงศ์จริงๆ”

เมื่อลงจากเครื่องบินเย่เมิ่งเหยียนก็สัมผัสถึงกลิ่นอายประวัติศาสตร์อันเข้มข้นทันที

นักประติมากรรมขึ้นชื่อเมืองหลวงยุคโบราณผลงานชิ้นเอกจากปัญญาชินในอดีตทุกอย่างตั้งฉายอยู่ณที่แห่งนี้!

หยางเฟิงยิ้มเอ่ย“ไปพวกเราไปโรงแรมกัน!”

จากนั้นหยางเฟิงกับเย่เมิ่งเหยียนก็นั่งแท็กซี่ไปโรงแรม

โรงแรมจินหลิง

หยางเฟิงกับเย่เมิ่งเหยียนมาถึงโรงแรมระดับห้าดาวเย่เมิ่งเหยียนก็ล้มตัวนอนทันที

เพราะนั่งเครื่องบินแล้วรู้สึเหน็ดเหนื่อยดังนั้นเย่เมิ่งเหยียนจึงพักผ่อนแต่เช้า

ด้านนอกห้องรับแขก

หยางเฟิงนั่งบนโซฟาโดยมีเสือขาวยืนด้วยความนอบน้อม

หยางเฟิงมองเสือขาวแล้วถามว่า“นายตรวจสอบอำนาจในจินหลิงหรือยัง?”

เสือขาวรายงาน“ท่านแม่ทัพครับจากที่ผมตรวจสอบมาอำนาจใหญ่สุดของจินหลิงคือแก๊งฟ้าดินครับซึ่งแก๊งฟ้าดินเป็นองค์กรที่เก่าแก่มากครับมีประวัติความเป็นมากว่าห้าร้อยปีแล้วครับและห้าร้อยปีก่อนแก๊งฟ้าดินเคยวุ่นวายภายในทำหน้าแยกตัวเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยครับ……”

หยางเฟิงได้ยินพลันขมวดคิ้วมุ่น

หลายร้อยปีก่อนแก๊งฟ้าดินเคยวุ่นวาย?

บู๊ต้าเซี่ยเคยรุ่งโรจน์มาก่อน

ทว่าหนึ่งร้อยปีก่อนกลับถดถอย

ซึ่งยังไม่ทราบสาเหตุทว่าด้วยความเร็วระดับเกิดเสียงฟ้าแลบแล้วปิดหูไม่ทันทั่วทั้งวงการบู๊ก็เงียบงันทันที

ซึ่งเขาคิดว่าหนึ่งร้อยปีก่อนวงการบู๊ต้าเซี่ยเคยเกิดเรื่องสำคัญบางอย่างแน่นอน

“หนึ่งร้อยปีก่อนแก๊งฟ้าดินแยกตัวกันแล้วมาเป็นแก๊งเขียวในหู้ไห่สำนักหงและยังมีหกตระกูลใหญ่ในจินหลิงอีกด้วยครับหกตระกูลใหญ่ในจินหลิงควบอำนาจร่วมกับแก๊งฟ้าดินครับซึ่งได้แก่ตระกูลจ้าว เฉียน ซุน หลี่ โจว อู๋……”

กริ๊งๆๆ!

ตอนที่เสือขาวเตรียมสาธยายต่อด้านนอกก็เกิดเสียงประตูกริ่งขึ้น

เสียงมีสัมมาคารวะดังขึ้น“คุณหยางครับผมคือเฉินตงเข้าไปได้ไหมครับ?”

นัยน์ตาหยางเฟิงเกิดความวูบไหว

เฉินตงก็มาด้วยเหรอ?

เขากล่าวเสียงเรียบๆ“เข้ามา!”

จากนั้นเฉินตงก็ผลักประตูเดินเข้ามาด้วยความระมัดระวัง“หัวหน้าสำนักหงเฉินตงคารวะคุณหยางครับ!”

หยางเฟิงถามด้วยใบหน้าเงียบสงบ“เฉินตงนายไม่อยู่ที่หู้ไห่แล้วมาที่จินหลิงทำไม?”

เฉินตงยิ้มฝืดๆ“แก๊งฟ้าดินส่งการ์ดเชิญไปให้ผมครับผมเลยจำเป็นต้องมาครับ!”

“อ่อ?”หยางเฟิงถามด้วยความแปลกใจ“เพราะอะไร?”

เฉินตงอธิบาย“ร้อยปีก่อนสำนักหงของพวกเราเป็นหนึ่งเดียวกับแก๊งฟ้าดินครับแต่ได้แยกตัวภายหลังถึงแม้จะผ่านไปนับร้อยปีแต่พวกเราก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับแก๊งฟ้าดินครับดังนั้นเมื่อได้รับการ์ดเชิญจากอีกฝ่ายผมเลยต้องมาครับ!”

ได้ยินดังนี้หยางเฟิงก็เข้าใจทันควัน

สิ่งที่เสือขาวเล่าเป็นความจริงทุกประการ