ตอนที่ 207

Taming Master

เอียนที่มาพร้อมกับเซอร์เวี่ยนค่อยๆผ่านโซน 110-115 ของอาณาจักรปีศาจขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังโซน 107

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่เรื่องง่าย

นี่เป็นเพราะเขายิ่งเข้าลึกเข้าไป อัตราส่วนของอสูรเวทย์มนตร์ระดับต่ำก็ลดตัวลงและจุดเหล่านั้นก็เต็มไปด้วยอสูรเวทย์มนตร์ระดับกลาง

“เฮ้อ มีอสูรเวทย์มนตร์มากมายที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจริงที่ว่าพวกมันก็เป็นอสูรเวทย์มนตร์เหมือนกัน อสูรเวทย์มนตร์ที่ปนเปื้อนดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นไม่ใช่แค่จินตนาการของฉันใช่มั้ย?”

เมื่อเอียนถาม เซอร์เวี่ยนพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ

 

  • ถูกต้อง ในกรณีของอสูรเวทย์มนตร์ที่เหมือนกัน พลังการต่อสู้ของอสูรเวทย์มนตร์ที่ปนเปื้อนนั้นช่วยไม่ได้ที่จะแข็งแกร่งกว่าแน่นอน

 

“ทำไมล่ะ?”

 

  • หากพวกเขาดูดซับหินแห่งความโกลาหลที่ไม่ได้ผ่านการทำให้บริสุทธิ์ ถึงแม้ว่าพวกมันจะสูญเสียพลังปีศาจ แต่มันก็จะแข็งแกร่ง หากอธิบายกับมนุษย์หรือมอนสเตอร์ทั่วไป เจ้าสามารถพูดได้ว่าพวกมันอยู่ในสถานะที่พวกมันได้รับยาบ้า

 

“อ่อ ไม่น่าแปลกใจ…”

เซอร์เวี่ยนลูบเคราของเขาในขณะที่เขาพูดต่อไป

 

  • ความจริงที่น่ากลัวที่สุดคืออสูรเวทย์มนตร์ที่บ้าคลั่งไม่รู้จักความกลัว พวกมันไม่หวั่นเกรงกับความเสียหายที่พวกมันได้รับและยิ่งดุร้ายมากขึ้น

 

เอียนพยักหน้าขณะที่เขาคิด

‘มันอาจจะง่ายกว่าถ้าจะเผชิญหน้ากับมันถ้าฉันคิดว่ามันเป็นหมาบ้า เนื่องจากมีรูปแบบการโจมตีที่พวกมันไม่สนใจการปกป้องแบบนั้น พวกมันจึงอ่อนแออย่างมากที่จะตอบโต้การโจมตี’

ปาร์ตี้ของเอียนใช้เวลาประมาณหนึ่งในสี่ของวันในการผ่านโซน 110

และเซอร์เวี่ยนช่วยได้มากที่นี่

เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการต่อสู้แน่นอน แต่ด้วยความรู้ของเขามันง่ายที่จะเผชิญหน้ากับอสูรเวทย์มนตร์

เป็นไปตามที่คาดนักวิจัยซึ่งอยู่ในอาณาจักรปีศาจมาหลายร้อยปีเพื่อศึกษาอสูรเวทย์มนตร์ ความรู้ของเขาเกี่ยวกับอสูรเวทย์มนตร์นั้นกว้างขวางอย่างมาก

 

  • ด้านหลังของเลาปัสเป็นจุดอ่อนของพวกมัน เนื่องจากกระดูกสันหลังของพวกมันอ่อนแออย่างมาก ถ้าเจ้าโจมตีขนาดใหญ่ใส่ส่วนนั้น พวกมันจะดิ้นรนอย่างเจ็บปวด
  • เมื่อเผชิญหน้ากับเฮคคารอน เจ้าจะต้องจับตามองทั้งสองข้าง หากดวงตาทั้งสองของเฮคคารอนเปล่งประกายสีแดงสด นั่นหมายความว่าพลังโจมตีของพวกมันจะเพิ่มให้ถึงสูงสุด

 

แม้ในขณะที่เอียนเหวี่ยงหอกของเขาโดยไม่พักและต่อสู้ เขาก็จำคำพูดของเซอร์เวี่ยนอย่างขยันขันแข็งในหัวของเขา

‘ดูเหมือนว่าเขาเป็นชายชราที่พูดมาก แต่… ถึงกระนั้นเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นข้อมูลที่หอมหวาน ฉันไม่สามารถฟังมันอย่างลวกๆได้’

เช่นนั้น ในที่สุดเอียนก็ประสบความสำเร็จในการไปถึงจุดสิ้นสุดของโซน 110

อย่างไรก็ตามหลังจากค้นพบบางอย่าง เอียนก็หยุดตรงจุดนั้นทันที

“…!”

ไคซาร์ซึ่งอยู่ข้างๆเขาได้ถามเอียน

“ทำไมเจ้าถึงหยุดกระทันหันล่ะ?”

เอียนชี้นิ้วไปข้างหน้าขณะที่เขาพูด

“มันเป็นจัตุรัสเวทย์มนตร์อัญเชิญที่เราพบในโซน 120”

เช่นนั้น ปาร์ตี้ทั้งหมดของเอียนซึ่งรวมถึงไคซาร์หันไปจ้องมองไปในทิศทางนั้นและพวกเขาต่างก็มีความกังวลใจ

“อืมม… หนึ่งในสิบสองนายพลที่ได้รับการแต่งตั้งหรืออะไรก็ตามที่จะปรากฏขึ้นอีกครั้งหรือป่าว?”

เมื่อไคซาร์บ่น เอียนพยักหน้า

“อาจจะอย่างนั้นมั้ง?”

เซอร์เวี่ยนซึ่งฟังทั้งสองคุยกันก็ได้พูดอย่างช้าๆ

 

  • เจ้าหนูนั่นพูดถูก เพื่อที่จะเข้าไปด้านในโซน 110 เจ้าจะต้องเผชิญหน้ากับสิบสองนายพลที่ถูกแต่งตั้งและชนะเขา

 

“เฮ้อ…”

เมื่อเผชิญกับความท้าทายที่ไม่คาดคิด เอียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

‘ถ้าเป็นหนึ่งในสิบสองนายพลที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างยันโค เขาจะต้องเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่มีพลังการต่อสู้ที่เทียบเท่ายันโค ดังนั้นฉันจะสามารถเอาชนะเขาด้วยพลังการต่อสู้ของฉันได้ไหมเนี่ย?’

เลเวลของยันโคซึ่งเอียนได้เจอคือ 350

เอียนคิดว่ามีโอกาสสูงมากกว่าสำหรับหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูเขต 110 จะมีเลเวลสูงกว่าเขาและไม่มีทางที่เขาจะอยู่ในเลเวลต่ำกว่าแทน

‘หากว่าเป็นยันโคแทน ฉันก็อาจมีโอกาสเจอเขา เนื่องจากฉันได้จดจำรูปแบบการโจมตีของเขาทั้งหมด ตราบใดที่ฉันไม่ทำผิดฉันก็อาจจะชนะได้’

อย่างไรก็ตาม ที่ตั้งของยันโคปัจจุบันโผล่ขึ้นมาว่าเป็นเมืองแห่งความโกรธเกรี้ยว ดังนั้นไม่มีทางที่เขาจะปรากฏที่นี่

เซอร์เวี่ยนพูดกับเอียนซึ่งกลืนน้ำลายอย่างดังขณะที่เขาครุ่นคิด

 

  • จะ เจ้าผ่านผู้พิทักษ์ประตูโซนที่ 120 ได้ยังไง?

 

เอียนซึ่งรู้สึกสับสนกับคำถามที่ไม่คาดคิดพูดติดอ่างเล็กน้อย

เนื่องจากเขาไม่สามารถพูดได้ว่าเขามีบัฟที่โกงคือการต้านทานเวทย์มนต์ 99 หน่วย

“ผะ ผมแค่โชคดีนิดหน่อย”

ดวงตาของเซอร์เวี่ยนเบิกโพลง

 

  • อย่างนั้นหรอ? ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะบอกว่าเจ้าแน่ใจว่าเจ้าเอาชนะเขาได้ใช่ไหม?

 

เอียนพยักหน้า

“มั้ง… ครับ?”

 

  • ถ้างั้นเจ้าได้รับบางสิ่งจากเขาไหม?

 

“บางสิ่งที่ผมได้รับงั้นหรอครับ…”

 

  • ตัวอย่างเช่นตราประทับพรีเมี่ยมของปีศาจ… หากเจ้าได้รับการยอมรับจากเขา เจ้าจะสามารถได้รับสิ่งนั้น

 

เมื่อเซอร์เวี่ยนพูด เอียนดีใจขณะที่เขามองในคลังของเขาทันที

ตราประทับพรีเมี่ยมของปีศาจเป็นของที่เขาได้รับจากยันโค

‘เจอแล้ว!’

เอียนซึ่งหยิบตราประทับออกมาถือให้เซอร์เวี่ยนดู

“นี่ครับ ไอเทมนี้ใช่ไหมครับ?”

ดวงตาทั้งสองของเซอร์เวี่ยนซึ่งตรวจสอบตราประทับพรีเมี่ยมของปีศาจที่เอียนถือก็เบิกโพลง

 

  • โอ้… เจ้าได้รับมันมาจริงๆ!

 

ไม่ใช่ความหมายง่ายๆสำหรับปีศาจที่จะมอบตราประทับที่พวกเขาครอบครองให้ผู้อื่น

อาณาจักรปีศาจเป็นโลกที่กฎแห่งความแข็งแกร่งถูกนำไปใช้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

ปีศาจจะมอบตราประทับให้กับ ‘บุคคลที่แข็งแกร่ง’ เท่านั้นที่เอาชนะพวกเขาอย่างแท้จริง

ความจริงที่ว่าเขาได้รับการยอมรับไม่ใช่ปีศาจทั่วไป แต่เป็นปีศาจระดับสูงและแม้แต่ในหมู่พวกเขา มันเป็นหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูของอาณาจักรปีศาจรวมถึงเป็นหนึ่งในสิบนายพลที่ได้รับการแต่งตั้งนั้นน่าอัศจรรย์

วิธีที่เซอร์เวี่ยนมองเอียนได้เปลี่ยนไป

 

  • ดูตราประทับที่สิ ดูเหมือนว่าจะเป็นตราประทับของยันโค

 

“โอ้ ดูเหมือนว่ารูปลักษณ์ของตราประทับสำหรับปีศาจแต่ละตัวจะแตกต่างกัน”

 

  • แน่นอน เนื่องจากตราประทับนั้นหมายความว่าเป็นบัตรประจำตัวของปีศาจ

 

ในขณะที่ลอยตัว เซอร์เวี่ยนเดินเข้ามาใกล้จตุรัสเวทย์มนตร์อัญเชิญ

และในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เอียนก็ตกตะลึงขณะที่เขาตะโกน

“อ๊ะ เซอร์เวี่ยน! พวกเรายังเตรียมตัวไม่เสร็จเลย ถ้าคุณไปตรงนั้น ผู้พิทักษ์ประตูจะถูกอัญเชิญออกมา”

เซอร์เวี่ยนยิ้มขณะที่เขาพูดกับเอียน

 

  • ถ้าเป็นเจ้าซึ่งได้รับการยอมรับจากยันโคและได้รับตราประทับของปีศาจ ถ้าเช่นนั้น เจ้าจะไม่สามารถเผชิญหน้ากับหัวหน้าองครักษ์ที่ปกป้องโซน 110 ได้เช่นกันงั้นหรอ?

 

“อ๊ะ… นั่นก็ใช่…”

ขณะที่มองไปยังเอียนซึ่งพูดติดขัด เซอร์เวี่ยนแสยะยิ้ม

 

  • อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้ามีตราประทับ เจ้าสามารถผ่านที่นี่ได้ถึงแม้ว่าเจ้าจะไม่ต้องต่อสู้กับผู้พิทักษ์ประตู ดังนั้นอาจจะไม่มีเหตุผลที่เจ้าจะต้องสู้

 

เมื่อเซอร์เวี่ยนพูด เอียนสดใสขึ้นทันที

‘เป็นไปตามที่คาด! ฉันรู้ว่าจะมีวิธีการดังกล่าว คงไม่มีเหตุผลที่จะต่อสู้กับผู้พิทักษ์ประตูคนอื่นด้วยพลังการต่อสู้นี้ในตอนนี้’

เอียนเดินตามหลังเซอร์เวียนและเซอร์เวียนหยุดตรงหน้าอนุสาวรีย์เล็กๆที่อยู่ถัดจากจตุรัสเวทย์มนตร์ที่กำลังอัญเชิญ

 

  • เจ้าเห็นช่องนี่ไหม?

 

“ครับ เซอร์เวียน”

 

  • ติดตราประทับของปีศาจลงตรงนี้

 

เอียนรีบหยิบตราประทับและติดมันเข้าไปในร่องอย่างที่เซอร์เวี่ยนพูด

‘เขาบอกว่ามันเป็นเหมือนบัตรประจำตัว ดังนั้นมันจึงดูเหมือนว่ามันเป็นไอเทมที่มีบทบาทในการผ่าน’

หากเขาไม่ได้โชคดีที่ได้เข้าไปในเขตการทดสอบเมื่อสองสัปดาห์ก่อนและต่อสู้กับยันโค อย่างน้อยต้องผ่านไปหนึ่งเดือนก่อนที่เขาจะสามารถท้าทายกับประตูนี้ได้

ไม่ถ้าไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุตั้งแต่แรก เอียนจะไม่สามารถมาได้ไกลขนาดนี้

เอียนนั้นได้รับกำไรอย่างมาจากการเข้าไปในอาณาจักรปีศาจในช่วงแรก

Whoong-.

จัตุรัสเวทย์มนตร์อัญเชิญเริ่มสั่นเล็กน้อยและหลังจากนั้นไม่นานหนึ่งในสิบสองนายพลที่ได้รับการแต่งตั้งถูกอัญเชิญมาตรงจุดนั้น ประตูมิติสีแดงถูกอัญเชิญออกมาเพื่อย้ายไปยังโซนถัดไป

เอียนหยิบตราประทับจากช่องนั้นด้วยรอยยิ้มที่กว้างและนำกลับเข้าไปในคลัง

“ถ้างั้นเราไปกันเลยไหม?”

เมื่อเอียนพูด แทนที่จะตอบกลับ เซอร์เวี่ยนลอยไปยังประตูมิติ

เอียนยิ้มขณะที่เขาสั่งผู้ติดตามและสัตว์เลี้ยงของเขา

“เอาล่ะ ทุกคนตามเรามา!”

“ฮ่าฮ่า ฉันอาจไม่ใช่คนที่เข้ามาในอาณาจักรปีศาจคนแรก แต่ฉันควรจะเป็นคนแรกที่เข้ามาในโซน 120 ได้สิ ใช่ไหมคาซานดรา?”

เธอเป็นผู้หญิงที่สวยซึ่งสวมผ้าคลุมสีแดงปกคลุมตัวเธอ

รีเมียร์ ราชาแห่งเปลวเพลิง จ้องไปที่ฝ่ามือของเธอขณะที่เธอพึมพัม

อย่างไรก็ตาม เธอก็พูดอะไรบางอย่างกับใครบางคน

และบนฝ่ามือของรีเมียร์ เปลวไฟสีขาวสว่างขึ้นก่อนที่จะเป็นทรงกลมแล้วลอยขึ้น

ข้างในนั้นมีหน้าของปีศาจสาวที่มีผิวสีแดงเข้ม

 

  • โฮ่โฮ่ โชคร้ายนะ ข้าไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้นรีเมียร์

 

เมื่อปีศาจหัวเราะออกมา หน้าอันแสนสวยของรีเมียร์ย่นทันที

“อืมม เธอบอกว่าไม่เป็นอย่างนั้นงั้นหรอ? เธอกำลังบอกว่ามีคนอีกคนหนึ่งไปไกลกว่าฉันงั้นหรอ?”

เมื่อรีเมียร์ถาม ปีศาจสาวที่ชื่อว่า ‘คาซานดรา’ พยักหน้า

 

  • ถูกต้อง เป็นไปตามที่เจ้าคาดไว้ มีบางคนผ่านที่นี่ไปแล้ว

 

หน้าของรีเมียร์ที่ย่น คราวนี้เปลี่ยนเป็นสงสัย

“อย่างนั้นหรอ? แต่ว่าเธอรู้ได้ยังไง? คาซานดรา เธอมีความสามารถบางอย่างหรือบางสิ่งที่เธอสามารถค้นหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอาณาจักรปีศาจได้งั้นหรอ?”

อย่างไรก็ตาม ต่างจากความคาดหวังของรีเมียร์ คาซานดราส่ายหน้า

 

  • ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น มีหลักฐานที่แน่ชัดว่ามีใครบางคนผ่านสถานที่นี้มาก่อน

 

“หืมม…?”

คาซานดราพูดกับรีเมียร์ซึ่งเอียงคออีกครั้ง

 

  • แต่เดิมประตูที่เธอเพิ่งผ่านไป นั่นคือประตูที่ยันโค หัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูของอาณาจักรปีศาจรวมถึงเป็นหนึ่งในนายพลที่ได้รับการแต่งตั้งทั้งสิบสองคน ปกป้องอยู่

 

รีเมียร์ถามกลับทันที

“ยันโคหรอ?”

 

  • ถูกต้อง ปีศาจระดับสูงที่มีความแข็งแกร่งอย่างมากยันโค

 

เมื่อเธอพูด รีเมียร์ซึ่งเข้าใจทันทีได้ถามอีกครั้ง

“ดังนั้นเธอกำลังบอกว่ามีบางเอาชนะหัวหน้าผู้พิทักษ์ประตูคนนั้นที่ชื่อว่ายันโคแล้วเข้าไปข้างใน?”

คาซานดราพยักหน้า

 

  • ถูกต้อง ถ้าไม่เอาชนะยันโคก็ไม่มีทางที่เจ้าจะสามารถผ่านเข้าไปโดยไม่มีตราประทับของปีศาจหรืออะไรอย่างนั้น

 

รีเมียร์ขมวดคิ้วอีกครั้ง

“มาช้าอีกแล้ว… นี่มันทำให้เสียความภาคภูมิใจนิดหน่อยนะ”

ขณะที่มองดูจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเธอ ทำให้คาซานดราแสดงความคิดเห็นประชดประชันด้วยการแหย่

 

  • ข้าไม่รู้ว่าใครเป็นคนแรกที่ผ่านสถานที่แห่งนี้ แต่ถ้าเจ้าเปลี่ยนให้พวกเขากลายเป็นศัตรูของเจ้า มันอาจจะไม่ดีต่อเจ้า

 

ตามที่คาดไว้ รีเมียรตั้งใจที่จะเปลี่ยน ‘พวกเขา’ บุคคลที่ไม่รู้จักให้กลายเป็นศัตรูของเธอ

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าความภาคภูมิใจของเธอเสียหายจากคำพูดของคาซานดราขณะที่เธอส่ายหัวแล้วถามกลับ

“แล้วทำไมล่ะ?”

คาซานดราพยักไหล่ขณะที่เธอตอบกลับ

 

  • มันเป็นเพราะว่าหากว่าเขาซึ่งเอาชนะยันโคด้วยกำลังของเขาเพียงคนเดียว ความเป็นไปได้ที่เจ้าจะเผชิญหน้ากับเขาได้คือศูนย์ เจ้าก็เห็นแล้วว่ายันโคแข็งแกร่งอย่างมาก

 

“จะ… จริงหรอ? เขาแข็งแกร่งขนาดไหนเธอถึงพูดอย่างนั้น? เขาแข็งแกร่งกว่าเธองั้นหรอ?”

เมื่อรีเมียร์ถาม คาซานดราครุ่นคิดซักครู่ก่อนที่เธอจะพูดด้วยท่าทางจริงจัง

 

  • อืม ข้าก็ไม่แน่ใจ มันนานมากแล้วตั้งแต่ข้ากลับมาที่อาณาจักรปีศาจด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามถ้าข้าต้องเดาด้วยข้อมูลที่ข้ารู้มาก่อนที่เป็นรากฐานของข้า ข้าคิดว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่ข้าสามารถเอาชนะได้ก็ต่อเมื่อข้าได้รับความแข็งแกร่งทั้งหมดของข้ากลับคืนมา

 

เมื่อคาซานดราพูด รีเมียร์ค่อนข้างตกใจ

‘ถ้าผนึกทั้งหมดถูกปลกปล่อย คาซานดราจะใกล้เคียงกับเลเวล 400 แต่ผู้เล่นเอาชนะปีศาจด้วยพลังการต่อสู้ใกล้เคียงนั้นด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาเองงั้นหรอ? เป็นไปได้ด้วยหรอ?’

ไม่ว่าเธอจะคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้มากแค่ไหน มันเป็นไปไม่ได้ที่รีเมียร์จะเข้าใจ

ฝ่ายตรงข้ามที่เธอสามารถเผชิญหน้าได้ในตอนนี้ส่วนใหญ่คือกลุ่มที่มีเลเวลประมาณช่วง 200 ปลายๆหรือ 300 ต้นๆ

แม้ว่ามันจะเสี่ยงอย่างมากเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ตามคำพูดของคาซานดรา ผู้เล่นที่เอาชนะปีศาจที่เหมือนสัตว์ประหลาดที่ใกล้เคียงกับเลเวล 400 ดังนั้นเห็นได้ชัดว่าช่วยไม่ได้ที่เธอจะคิดว่ามันยากที่จะเชื่อ

‘ไม่มีกฏที่ว่าเขาจะเป็นมนุษย์ที่เป็นผู้เล่นสักหน่อยนิ? มันอาจจะเป็น NPC ที่เหมือนกับสัตว์ประหลาดหรืออื่นๆ เขาอาจจะเป็นผู้เล่นที่โชคดีอละได้รับเควสต์ที่หอมหวานซึ่งพวกเขาได้รับ NPC ที่เลเวลใกล้เคียง 400 ที่แข็งแกร่งเป็นพวกชั่วคราว’

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเธอจะคิดยังไงก็ช่วยไม่ได้ที่เธอจะรู้สึกถึงความพ่ายแพ้

คาซานดราซึ่งเห็นรีเมียร์เงียบได้หัวเราะขณะที่เธอพูดอย่างสนุกสนาน

 

  • โฮ่โฮ่โฮ่ ข้าคิดว่ามันนานมากแล้วที่ข้าได้เห็นราชาแห่งเปลวเพลิงนี้หงุดหงิด ข้าไม่รู้ว่ามนุษย์คนนั้นเป็นใคร แต่สำหรับพวกเขาที่จะให้ความเพลิดเพลินกับข้า ข้าก็รู้สึกขอบคุณ

 

รีเมียร์ขมวดคิ้วขณะที่เธอตอบกลับ

“อย่ามาเล่นตลกกับฉันคาซานดรา พวกเขาเป็นเพียงคู่ต่อสู้ที่ฉันจะต้องเอาชนะให้ได้ในที่สุด”

คาซานดราหัวเราะขณะที่เธอตอบกลับ

 

  • แน่นอนว่าข้าชอบบุคคลิกของเจ้า

 

“ขอบคุณ ฉันหวังว่าจะได้รับการยอมรับจากขุนนางของอาณาจักรปีศาจ”

คาสซานดราซึ่งแสยะยิ้มขณะมองดูเธอพูดจาประชดประชันได้พูดอีกครั้ง

 

  • ต้องขอบคุณมนุษย์ที่เราไม่รู้จัก เราจึงสามารถผ่านประตูที่ยากลำบากนี้ได้ฟรีเพื่อให้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว หากเจ้าต้องการเอาชนะพวกเขา เจ้าไม่มีเวลาที่เอ้อระเหยเช่นนี้ใช่ไหมล่ะ?

 

รีเมียร์พยักหน้าเมื่อคาซานดราพูดและรีบเข้าไปในประตู

อย่างน้อยเธอต้องการได้รับอาชีพคู่ให้เร็วกว่าผู้เล่นคนอื่น