กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 412

ในความคิดที่สอง ไม่ทำเกินไปหรอก เพราะเธอควรได้สิ่งที่เธอสมควรได้รับ!

เวนดี้เป็นหญิงสาวที่มีจิตใจโหดร้ายราวกับงู และแมงป่อง! มีหลายครั้งที่เธอยุยงให้คนอื่นดูถูกเขา และเธอก็อยากจะทำลายความเป็นลูกผู้ชายของเขาด้วยซ้ำ! หากไม่ใช่เพราะเส้นสาย และความสามารถของเขาล่ะก็ เขาคงต้องตายจากแผนการของเธอไปแล้ว

ดังนั้นเขาเพียงแค่ให้บทเรียนแก่เธอ เพื่อที่เธอจะไม่มีวันลืมไปตลอดชีวิต!

ชาร์ลีพูดกับออสการ์ว่า “ผมต้องไปแล้ว คุณมัวร์กำลังรอผมอยู่ที่ชั้นล่าง จัดการพวกเขาให้ดี ถ้าผมรู้ว่าคุณปล่อยพวกเขาออกไปง่าย ๆ ผมจะตามล่าคุณ!”

ออสการ์โค้งคำนับอย่างตกใจ “ไม่ต้องกังวลครับปรมาจารย์เวด ผมจะคอยจับตาดูพวกเขาตลอดเวลา! ผมจะไม่ไว้ชีวิตพวกเขา!”

“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้า และหันกลับไป

หลังจากที่เขาจากไป เวนดี้ และเจฟฟรีย์ก็เพิ่มความเร็ว และเลียโถปัสสาวะที่น่าขยะแขยงเร็วขึ้นเพราะกลัวว่าจะถูกลงโทษจากความเชื่องช้าของพวกเขา

ในที่สุดเมื่อพวกเขาเลียโถฉี่ด้านขวาเสร็จ ลิ้นของพวกเขาก็แทบหลุดออกจากปาก และกลิ่นบนลิ้นของพวกเขานั้นน่าขยะแขยง และทนไม่ได้ราวกับว่าพวกเขาถูกหมักในปัสสาวะเป็นเวลาหนึ่งปี

ไม่มีคำใดสามารถอธิบายถึงกลิ่นอันน่าสยดสยองในปากของพวกเขาได้ ร่างกายของพวกเขาเปียกโชกไปด้วยกลิ่นที่น่าขยะแขยง และความโสโครก

พวกเขาต้องการล้างปากด้วยน้ำประปา แต่ออสการ์ไม่เห็นด้วยกับคำขอของพวกเขาเพราะกลัวว่าชาร์ลีจะตำหนิเขาที่จะใจดีต่อพวกเขา เขาจึงรีบขอให้คนของเขาไล่พวกเขาออกจากคลับ

เมื่อพวกเขาออกไปแล้ว พวกเขาก็กระโดดลงไปในสระน้ำพุที่ประตูทางเข้า และล้างออก พวกเขาบ้วนปาก และล้างหน้า มือ และลิ้นราวกับว่าพวกเขาไม่เคยอาบน้ำมาก่อน หลังจากล้างมานานกว่าครึ่งชั่วโมง ปากของพวกเขาก็ยังคงเหม็นไปด้วยกลิ่นอันน่าสยดสยอง พวกเขาทรุดตัวลงอย่างหดหู่หวังว่าพวกเขาจะสามารถตัดลิ้นที่เหม็นออกได้ และโยนลงท่อระบายน้ำซะ

เวนดี้คร่ำครวญอย่างโมโหข้างน้ำพุในขณะที่เธอยังคงได้กลิ่นที่น่าขยะแขยงจากปากของเธอ เธอเกือบจะเสียสติไปแล้ว ที่เธอรู้สึกได้จากแคลร์ก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เป็นเพราะชาร์ลีทำให้เธอเกือบจะเป็นบ้า

เจฟฟรีย์ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นอย่างใด!

ให้ตายเถอะ เขาไม่เคยรู้สึกอับอายขนาดนี้มาก่อนในชีวิต! มันช่างอัปยศเหลือเกิน!

ประเด็นคืออะไร และใครให้เกียรติชาร์ลีได้ขนาดนี้? แม่คุณเอ้ยยย ออสการ์เป็นพ่อบ้านที่มีเกียรติ และโดดเด่นของตระกูลมัวร์ที่มีชื่อเสียงมาโดยตลอด แต่เมื่อเขาเห็นชาร์ลี มันเหมือนกับหนูเจอแมวดูจากการที่เขาประจบประแจงได้ขนาดนั้น!

เจฟฟรีย์หันหน้าเศร้ามาที่เวนดี้ และถามว่า “ไอ้เวรชาร์ลีมันเป็นใครมาจากไหนกันแน่?!”

“เขาเป็นแค่ไอ้ขี้แพ้! เขาสูญเสียทั้งพ่อและแม่ตอนแปดขวบ เขาเติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จากนั้นแต่งงานกับครอบครัวของเราในฐานะลูกเขยที่มีชีวิตไปวัน ๆ ! เขาไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากไอ้ขี้แพ้ที่น่าสังเวช!”

เจฟฟรีย์ขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ “ให้ตายเถอะ ช่วยอยู่ห่างจากผมตอนที่คุยกันได้ไหม? ปากคุณเหม็นมาก!”

เวนดี้เหลือบไปมองข้างทางพลางคิดว่า ‘ไอ้เวรนี่ ปากนายก็เหม็นไม่ต่างกันหรอกโว้ย! ฉันไม่ได้หลบหน้านายด้วยซ้ำ แล้วนายกล้าที่จะมารังเกียจฉันได้ยังไง?’

เธออยากจะบอกเขาเหลือเกิน แต่เธอไม่กล้าที่จะยั่วโมโหเขา เธอจึงถอยห่างจากเขาเพียงไม่กี่ก้าว

เจฟฟรีย์เริ่มต้นพูดอีกครั้ง “แล้วทำไมทั้งออสการ์และคุณมัวร์ถึงให้เกียรติไอ้สวะนี้ได้ขนาดนี้?”

“ฉันก็ไม่รู้! ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไม! เมื่อก่อน เขาไม่กล้าจะเปิดปากด้วยซ้ำ เวลาที่ฉันด่าเขาต่อหน้าทุกคน ระหว่างทานอาหารเขาต้องขอโทษฉันถ้าฉันเทน้ำใส่หัวของเขา เมื่อครอบครัวของเรามีการประชุมขึ้นมา เขาไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่บนโต๊ะ และเขาต้องนั่งข้างกับพวกคนรับใช้ที่เหลือเพื่อรับใช้พวกเรา ในช่วงอาหารค่ำวันส่งท้ายปีเก่า ฉันยังตบเขาจนจานแตกมาแล้ว…”

เวนดี้ถอนหายใจอย่างหดหู่ และพูดต่อว่า “ฉันไม่รู้ว่าทำไมไอ้ขี้แพ้ถึงมากลายเป็นเหมือนเทพได้ขนาดนี้ และทุกคนก็เรียกเขาว่า ‘ปรมาจารย์เวด’ กระแสน้ำได้เปลี่ยนไปแล้ว จากหลายคนที่ต้องการดูถูกเขา สุดท้ายก็กลายมาเป็นโดนดูถูกซะเอง…”

จากนั้นเธอพูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจว่า “โอ้ ใช่! เคนเน็ธ ! เขายังทั้งบึกบึน แข็งแรง และเก่งในเรื่องบนเตียงมาก แถมยังดีกว่าพวกบรรดาเหล่าคนหนุ่ม ๆ เสียอีก แต่หลังจากได้ทะเลาะกับชาร์ลีเขาก็กลายเป็นคนไร้สมรรถภาพทางเพศไปโดยทันที เรายังไม่รู้ว่าชาร์ลีไปทำอะไรกับเขา…”

“ไอ้เศษเดนเอ้ย!” เจฟฟรีย์กัดฟันด้วยความตกใจ “ผมต้องแก้แค้นเขาในสิ่งที่เขาทำกับผม! ผมต้องคุยกับเคนเน็ธเกี่ยวกับแผนในอนาคตของเรา!”