ตอนที่ 458 ของขวัญจากหลิ่วอวี่เจ๋อ!
ถึงแม้ว่าจะคิดแบบนี้ในใจ แต่ใบหน้าหลิ่วอวี่เจ๋อกลับทำท่าทีมีมารยาทอย่างมาก
หลิ่วอวี่เจ๋อถือของขวัญมาหยุดตรงหน้าโต๊ะขอซูเจิ้นหาง แล้วค้อมตัวลง 90 องศาเพื่อทำความเคารพแล้วกล่าว
“กราบสวัสดีท่านซูครับ ผมคือหลิ่วอวี่เจ๋อ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญมางานเลี้ยงของท่าน คุณปู่ของผมหลิ่วหย่วนหางทราบข่าวว่าคุณจะจัดงานเลยสั่งให้ผมเอาของขวัญมาให้ผม หวังว่าคุณซูจะไม่รังเกียจ”
ซูเจิ้นหางส่งยิ้มให้หลิ่วอวี่เจ๋อด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เขาพยักหน้า “หลิ่วหย่วนหางเป็นอัจฉริยะทางธุรกิจที่ไม่ได้มีเยอะในประเทศเรา เขามีน้ำใจดีจริงๆ”
ทว่าในตอนนี้ซูมู่หลินที่ร่วมโต๊ะกลับมองหน้าหลิ่วอวี่เจ๋ออย่างไม่พอใจนัก
เพราะก่อนนี้ซูมู่หลินรู้ว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มเบญจภาคีในเทียนไห่เคยคิดจะจีบซูมู่ชิง
อีกทั้งหนึ่งในพวกเขาที่ตามจีบซูมู่ชิง เคยโดนซูมู่หลินส่งคนไปซ้อมเขา
โชคดีที่ซูมู่หลินแอบส่งคนไปเฝ้าร้านกาแฟซือเฉินปกป้องพี่สาวเอาไว้ ไม่อย่างนั้นไม่รู้ว่าพวกลูกคนรวยที่ไม่เห็นหัวใครสี่คนนี้จะทำเรื่องน่าเกลียดอะไรใส่ซูมู่ชิง!
ซูมู่หลินปรายตามองสิ่งของในมือหลิ่วอวี่เจ๋อ ของขวัญชิ้นนี้มีหีบห่อที่เป็นสีมงคล แต่ไม่รู้ว่าของข้างในคืออะไร
ซูมู่หลินกล่าวถาม “หลิ่วอวี่เจ๋อ ของขวัญที่นายให้คุณปู่ฉันเป็นอะไร? ทำไมดูแล้วเหมือนกับหินเลย?”
จากแรงที่หลิ่วอวี่เจ๋อยกของ ซูมู่หลินพอจะมองออกว่าของขวัญชิ้นนี้น่าจะหนักเอาการ
หลิ่วอวี่เจ๋อยังไม่ทันได้อธิบาย ซูมู่หลินก็แย่งของขวัญมาจากมือเขา
“ว้าว หนักนะเนี่ย”
ซูมู่หลิวใช้มือประคองเพื่อคะเนน้ำหนัก ของขวัญชิ้นนี้น่าจะเกือบๆ 20 กิโล ปกติของขวัญที่ยิ่งแพงจะยิ่งเบา ทำไมของขวัญของหลิ่วอวี่เจ๋อถึงได้หนักขนาดนี้?
ซูมู่หลินฉีกกระดาษห่อทันที แล้วทุกคนก็พบว่าของด้านในคือหินก้อนหนึ่ง!
หินที่ทั้งดำและแข็งแถมหน้าตาน่าเกลียด!
“แม่ง!” ใบหน้าซูมู่หลินฉายแววรังเกียจ “หลิ่วอวี่เจ๋อ นายเป็นแค่ลูกคนรวยชั้นรองๆ ก็พอรู้ว่านายไม่ได้ร่ำรวยอะไร ไม่มีเงินให้ของขวัญแต่ให้หินแบบนี้หมายความว่าอะไร!”
หลิ่วอวี่เจ๋อเดือดดาล ซูมู่หลินถึงกับกล้าว่าเขาเป็นลูกคนรวยชั้นรอง บอกว่าเขาไม่ร่ำรวย!
เมื่อก่อนเขาเองก็เคยดูถูกคนอื่นมาก่อน เช่นฟางเชา!
แต่ใครใช้ให้ตระกูลซูยิ่งใหญ่กว่าตระกูลหลิ่วล่ะ?
หลิ่วอวี่เจ๋อทำได้แค่กลืนโทสะลงท้องไปแล้วอธิบายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “คุณชายซู คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะครับ นี่ไม่ใช่ก้อนหินธรรมดานะครับ นี่คืออุกกาบาตที่ตกลงมาจากนอกโลก”
“หินอุกกาบาตจากนอกโลกเหรอ?!”
คนตระกูลซูตกใจ
ตกมาจากนอกโลกก็เท่แล้ว นี่ไม่ใช่ของที่อยู่บนโลกด้วยซ้ำ ต่อให้จะมีเงินทองก็สามารถซื้อของที่นอกโลกได้เหรอ?
หลิ่วอวี่เจ๋ออธิบายอย่างได้ใจ “คุณซู ผมขอพูดตามตรง อุกกาบาตนี้ตกลงมาในทะเลทรายตอนคุณปู่ของผมอยู่ที่ทะเลทรายทากลามากันร่วงข้างๆ เขาพอดี วันนั้นคือวันนี้พอดี เป็นวันเดียวกับวันเกิดของท่านซูเลยครับ ดังนั้นคุณปู่ท่านเห็นว่าท่านซูกับเจ้านี่มีวาสนาต้องกัน ก็ลยยกอุกกาบาตก้อนนี้ให้ท่านซูครับ”
ซูเจิ้นหางเองก็แปลกใจเช่นกัน “มีชะตาต้องกันเหรอ?”
หลิ่วอวี่เจ๋อเองก็อธิบาย “ทุกท่านครับ นี่ไม่ใช่ก้อนหินธรรมดา หินก้อนนี้คือ Olive aerosiderite ที่ค่อนข้างหาได้ยากในโลก ที่จริงแล้วคุณปู่ขอผมก่อนหน้านี้ได้ตัดมุมมันออกไปหน่อย ผมสามารถแสดงให้ทุกท่านดูได้ครับ”
ที่แท้หินก้อนนี้ถูกตัดไปก่อนแล้วหนึ่งมุม แต่ว่าก็โดนของบางอย่างขวางเอาไว้
หลิ่วอวี่เจ๋อหยิบหินก้อนนี้ออกมา หินสีเขียวมรกตโปร่บแสงชิ้นหนึ่งก็ทำให้ทุกคนตกตะลึงไปในเสี้ยววินาที!
“สวรรค์ หินก้อนนี้สวยจังเลย! ทำไมถึงได้มีสีเขียวที่สวยขนาดนี้!”
“นี่…นี่มีมูลค่าเกือบหลายร้อยล้านเลยล่ะสิใช่ไหม?”
หลิ่วอวี่เจ๋อได้ยินเสียงฮือฮาก็ยิ้มน้อยๆ “ไม่ครับๆ ไม่ถึงๆ ไม่ถึงร้อยล้านหรอกครับ แค่ไม่กี่สิบล้านเอง ฮ่าๆ”
หลิ่วอวี่เจ๋อเจอหน้าคนตระกูลซูครั้งแรก คิดไม่ถึงว่าจะให้ของขวัญเป็นอุกกาบาตมูลค่า 10 ล้านให้อีกฝ่าย!
จางเชี่ยนจือเองชอบของขวัญชิ้นนี้มาก “อวี่เจ๋อเอ๊ย มีน้ำใจจริงๆ เลย คิดไม่ถึงเลยว่าจะให้ของขวัญที่มีความคิดสร้างสรรค์แถมยังมีมูลค่ามากแบบนี้อีก ของขวัญชิ้นนี้ของเธอมีมูลค่าแพงมากเลย ให้เป็นสินสอดยังได้ ฮ่าๆ”
หลิ่วอวี่เจ๋อรีบร้อนกล่าวกับจางเชี่ยนจือ “คุณน้าครับ ขอบพระคุณที่ชื่นชมนะครับ ได้รับคำชมจากคุณน้า ผมกลัวว่าคงจะนอนไม่หลับไปอีกเป็นเดือน”
จางเชี่ยนจือยื่นมือไปลูบใบหน้าชายหนุ่มแล้วกล่าวอย่างดีอกดีใจ “เธอดูเธอเข้า มีมารยาทดีจริงๆ สูงตั้ง 185 ซม. แล้วยังหน้าตาหล่อเหลาอีก เสียดายที่ผอมไปหน่อย ต้องกินข้าวเยอะๆ นะ”
หลิ่วอวี่เจ๋อรีบร้อนกล่าว“คุณน้าครับ สองเดือนมานี้ ทั้งบ้านเราวุ่นๆ เรื่องบริษัททั้งวันทั้งคืน ผมไม่ค่อยได้ทานข้าวหรอกครับ เมื่อครึ่งปีก่อนผมนักตั้ง 75 กก. โน้นครับ”
จางเชี่ยนจือเองก็รู้สถานการณ์ของชุนเฟิงเลยชม “อื้ม อายุยังไม่เยอะก็รู้ขักช่วยงานที่บ้านแล้ว เก่งจริงๆ เด็กคนนี้ยิ่ฉันรู้จักก็ยิ่งชอบ ถ้าได้เป็นลูกเขยจะดีขนาดไหนเนี่ย”
เย่เฉินยังคงจิบชาด้วยท่าทีนิ่งเฉย แต่ในใจเขานั้นสาปแช่งแม่ยายไปหลายยกแล้วเหมือนกัน
“รู้งี้คืนนั้นเราไม่น่ารีบกลับ…น่าจะดูสภาพอนาถาของหล่อนเยอะๆ ไม่ก็ฟาดหน้าหล่อนหลายๆ ป้าบหน่อย!”
จางเชี่ยนจือพูดว่าอยากได้หลิ่วอวี่เจ๋อเป็นเขยต่อหน้าเย่เฉิน เป็นเขาเป็นคนหูหนวกขึ้นมาเสียอย่างนั้น!
ตอนนี้เย่เฉินตาบอดแต่ไม่ได้หูหนวก!
“ไม่อยากจะเชื่อว่าหลิ่วอวี่เจ๋อนี่จะให้ของขวัญราคาแพงขนาดนี้ ดูแล้วหมอนี่คงอยากจะแย่งซูมู่ชิงกับเราจริงๆ! ใช้ได้นี่คราวก่อนก็แย่งหวังเจียเหยาโดนเราซ้อมจนเละเทะแล้วตอนนี้ยังมีหน้ามาแย่งผู้หญิงของเราอีก!”
ซูเจิ้นหางรับของขวัญมาอย่างสบายใจ “หลิ่วอวี่เจ๋อ ฉันชอบของขวัญของเธอ ขอบคุณปู่เธอแทนฉันด้วย”
“ไม่เป็นไรเลยครับ ท่านซู”
หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวทักทายซูเจิ้นหาง จางเชี่ยนจือและซูหมิงเจ๋อเสร็จแล้ว ก็หันมองซูมู่ชิง
ทั้งสองคนเพิ่งเจอหน้ากันเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกคือที่ร้านกาแฟซือเฉินของซูมู่ชิง
ครั้งนั้นหลังจากที่ไปพบหน้าของซูมู่ชิง หลิ่วอวี่เจ๋อก็หงุดหงิดจนอยากจะทุบข้าวทุบของ!
เพราะซูมู่ชิงมีทั้งหมดของหวังเจียเหยา อีกทั้งชาติกำเนิดของหญิงสาวก็สูงกว่าวยมาก!
ตอนนั้นหลิ่วอวี่เจ๋อก็เสียใจภายหลัง ถ้ารู้ก่อนนี้ว่าจะเจอซูมู่ชิงในสักวันหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่แต่งงานกับผู้หญิงในชาติตระกูลที่ต่ำต้อยกว่า!
“คุณหนูซู”
หลิ่วอวี่เจ๋อทักทายซูมู่ชิงด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ใจเขาเต้นระรัวเร็ว ตึงเครียดเป็นอย่างมาก
ลูกชายเศรษฐีอย่างเขาผ่านผู้หญิงสวยๆ มาไม่รู้เท่าไหร่ แต่พอได้มาเจอสาวสวยปานนางฟ้ามาดินอย่างซูมู่ชิง บวกกับพื้นเพครอบครัวที่เขาไม่อาจเอื้อม หลิ่วอวี่เจ๋อก็ตื่นเต้นมาก!
ซูมู่ชิงพยักหน้ารับหลิ่วอวี่เจ๋อตามมารยาท แล้วไม่ได้พูดอะไร
หลิ่วอวี่เจ๋อมองซูมู่ชิงอย่างโง่งม อยากจะชมหญิงสาวว่าคุณสวยขึ้น สวยจังเลยอะไรแบบนี้
แต่ว่าเขาไม่กล้าเพราะเย่เฉินอยู่ข้างๆ!
สำหรับหลิ่วอวี่เจ๋อแล้วเย่เฉินยังคงน่ากลัวอย่างมาก!
ในที่สุดหลิ่วอวี่เจ๋อก็หันมองเย่เฉิน ในหัวเกิดภาพที่ทั้งสองคนเคยต่อสูกัน พบหน้ากันแล้วก็เปิดปากเอ่ยช้าๆ