ตอนที่ 306 การเดิมพันกัน ระหว่างสองมหาเศรษฐี

ระบบลงชื่อเข้าใช้ระดับพระเจ้า เริ่มต้นจาก 100 พันล้าน

ตอนที่ 306 การเดิมพันกัน ระหว่างสองมหาเศรษฐี

การประชุมทางธุรกิจหยุนเฉิงสิ้นสุดลงแล้วและนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของความปั่นป่วนในปัจจุบัน

หลังจากการประชุมแลกเปลี่ยนหลินฟานถูกรายล้อมไปด้วยผู้คน ทั้งผู้นําธุรกิจรายใหญ่จนถึงกลุ่มผู้คนในแวดวงการเมืองและธุรกิจของหยุนเฉิงต่างรายล้อม หลินฟานเพียงเพื่อขอจับมือกับหลินฟานและเหนือกว่านั้นเล็กน้อยก็เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

แม้ว่าตลาดหุ้นของ หยงจิ๋วกรุ๊ปจะยังไม่ได้แซงหน้าห้างสรรพสินค้ายี่ต้าในเวลานี้แต่ในสายตาของทุกคน หลินฟานก็เป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในหยุนเฉิงไปแล้ว

และเมื่อ หวัง ไห่หลิน เห็นสิ่งนี้ เขาก็อดรู้สึกเศร้าไม่ได้ หลินฟาน เป็นดาวเด่นของการประชุมในครั้งนี้ด้วยภูมิหลังของ หลินฟาน ถึงแม้เขาจะเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในหยุนเฉิงแต่อีกไม่นานมัน ก็จะถูกเปลี่ยนไปในไม่ช้าเขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าเล็กน้อยภายในใจของเขา

เหอเฉา ซีอีโอ ของ จงถง เอ็กเพรส เอนตัวไปที่หวังไห่หลินแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า : “เลาหวังในเรื่องของคุณหลินดูเหมือนว่าเราจะแก่เกินไปจริงๆเสียแล้วอย่างไรก็ตามจงถึงเอ็กเพรสของฉันก็จะถูก หยงจิ๋วแซงหน้าขึ้นไปในไม่ช้าส่วนคุณจะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้น?”

หวังไห่หลิน กล่าวว่า “แม้ว่ามูลค่าตลาดของกลุ่ม หยงจิ๋ว ในปัจจุบันจะยังคงเพิ่มขึ้นแต่มันก็มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงมันเพิ่งทะลุ 100 พันล้านไปมูลค่าตลาดของห้างสรรพสินค้ายี่ต้าของฉันคือ 180 พันล้านมาดูกันว่ามันจะอยู่ได้นานแค่ไหนในขณะที่..”

เหอเฉา ส่ายหัว แล้วพูดว่า “ฉันไม่คิดอย่างนั้น?”

หวัง ไห่หลิน รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย : “เลาเหอ คุณหมายความว่า?”

เหอเฉา ยิ้ม แล้วกล่าวว่า “คุณหลินเพิ่งประกาศออกไปเกี่ยวกับเทคโนโลยีในการผลิตชิปเมื่อข่าวนี้ได้รับการยืนยันแล้วคุณจะคิดว่าอย่างไรล่ะเลาหวัง?”

หวัง ไห่หลิน มีความคิดโต้แย้งในใจแล้วกล่าวว่า“คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคุณหลินคนนี้จะไม่ได้พูดเล่นๆออกมาฉันมองแล้วฉันไม่คิดว่ามันน่าเชื่อถือ หากลองนํามันไปเปรียบเทียบกับผู้นำเทคโนโลยี ในการผลิตชิป อย่าง BSMC”

เหอเฉา ยิ้มอย่างลึกลับ : “เราทุกคนก็ล้วนเป็นนักลงทุกเก่าๆ กันแล้วในความเห็นของฉันคุณหลินจะไม่ทําให้ฉันผิดหวังอย่างไรก็ตามฉันก็ซื้อหุ้นของเทียนต้าแอร์ไลน์ไปแล้วด้วยเพราะฉันเกรงว่าฉันจะไม่สามารถซื้อมันได้อีกในภายหลัง”

หวังไห่หลินก็มีความคิดที่จะซื้อหุ้นของเทียนต้าแอร์ไลน์แต่เขายังคงมีความลังเลเกี่ยวกับเทียนต้าแอร์ไลน์อยู่บ้างดังนั้นเขาจึงยังคงลังเลใจจนถึงตอนนี้

สิ่งที่เขากังวลมากกว่าคือเทียนต้าแอร์ไลน์อาจจะกลายเป็นฟองสบู่ขนาดใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหลินฟาน และหัวซินจากแหล่งข้อมูลของเขาเอง ความไม่แน่นอนที่มีก็ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ

หากเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต ชิป ขนาด 5 นาโนเมตรของหลินฟาน เป็นของปลอมฟองสบู่ของกลุ่มหยงจิ๋วก็น่าจะแตกออกในชั่วข้ามคืน
วันนี้เมื่อเขาถาม หลินฟานด้วยความตั้งใจเดิมของเขาคือการค้นหาความจริง

อย่างไรก็ตามคําตอบของหลินฟาน ไม่ได้ทําให้เขามั่นใจมากขึ้น แต่กลับทําให้เขากังวลมากขึ้นไปอีก
“ไม่เป็นไร ฉันจะคอยดู”หวังไห่หลินกล่าว

เหอเฉา ยิ้ม แล้วพูดว่า : “เลาหวัง เรามาเดิมพันกันหน่อยไหม อย่าโทษว่าฉันไม่ได้เตือนคุณหลังจากผ่านหมู่บ้านนี้ไปก็จะไม่มีร้านแบบนี้อีก(1) อย่าพูดว่าคุณในตอนนี้จะเป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดในหยุนเฉิงมันไม่สามารถรับประกันอะไรได้ในอนาคตคุณอาจจะได้เป็นแค่ มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดอันดับสองในหยุนเฉิงก็เป็นได้ และฉันก็เหมือนกัน”

หวัง ไห่หลิน และปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น ในทันที

ที่นี่หวังไห่หลินและเหอเฉากําลังคุยกันเรื่องการซื้อหุ้นของ เทียนต้าแอร์ไลน์และทางด้านหลินฟานขณะนี้กําลังรับมือจากการไล่ตามของฝูงชน

มันไม่ง่ายเลยสําหรับ หลินฟาน ในที่สุด หลินฟาน ก็ถูกดึงออกไปอีกครั้งโดยซ่งหรงเหมาซ่งหรงเหมายิ้มแล้วพูดว่า “คุณหลิน คุณดังมากจริงๆฉันเปิดหอการค้ามาตั้งหลายปีแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้”

หลินฟาน ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ผมไม่ได้คาดหวังว่าทุกคนจะกระตือรือร้นซะขนาดนี้แล้วผมก็ไม่ได้เก่งถึงขนาดนั้นน่าอายจริงๆ”

ซ่งหรงเหมากล่าวว่า“คุณหลินไม่จําเป็นต้องเจียมตัวจนเกินไป ในความเห็นของฉันคุณหลิมคุณมีค่าพออย่างไม่ต้องสงสัย”

หลินฟาน กล่าวว่า “ผู้เฒ่าซ่ง หมายถึง?”

ซ่งหรงเหมากล่าวว่า“คุณหลินฉันมีเรื่องบางอย่างที่อยากจะพูดคุยกับคุณ ฉันสงสัยว่าคุณหลินจะมีเวลาพอที่จะพูดคุยกับฉันเป็นการส่วนตัวหรือเปล่า?”

หลินฟานเดิมที่วางแผนที่จะกลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อดูหลินต้าเหว่ยหลังจากการประชุมทางธุรกิจอย่างไรก็ตามคําเชิญของซ่ง หรงเหมาก็ไม่ง่ายที่จะปฏิเสธเขาจึงกล่าวออกไปว่า“ได้ครับ”เขาได้หันไปบอกจ้าวเจียอี้ในทันทีว่า:“ไปรอผมที่รถก่อน”

โรงพยาบาลประชาชนเขตหยุนเฉิง

หลินต้าเหว่ยอยู่ในห้องคนเดียวหลังจากที่หลินฟานจากไปเขาก็เดินไปรอบๆห้องมาเป็นเวลานานแล้วห้อง VIP นี้หรูหราอย่างมาก มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้อาศัยอยู่ในสถานที่ที่หรูหราเช่นนี้และเขาก็อดไม่ได้ที่จะกะพริบตาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

แต่ในที่สุดเขาก็เหนื่อยแล้วจึงไปที่เตียงพยาบาลที่อยู่ในห้องและเขาก็ผล็อยหลับไปหลังจากนอนหลับไปชั่วครู่หนึ่งหลินต้าเหว่ยก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นจากเสียงเคาะประตูและเมื่อเขาตื่นขึ้นเขาก็เห็นชายวัยกลางคนหัวโล้นเดินเข้ามาสวมเสื้อคลุมสีขาวที่ดูเหมือนว่าจะเป็นหมอ

หลิน ต้าเหว่ย รู้สึกประหม่าเล็กน้อย : “สวัสดีครับ คุณหมอ”

ชายวัยกลางคน หัวล้านคนนี้ คือรองคณบดี เฉิน เจิ้นเฟิง

ครั้งสุดท้ายที่เฉินเจิ้นเฟิงพยายามต่อสู้กับหลินฟานสําหรับห้องวีไอพีนี้แต่หลินฟานได้ รับการสนับสนุนจากท่านคณบดีโจวหนานหัวและเฉินเจิ้นเฟิงจึงได้ประสบกับความล้มเหลวไป

เฉินเจิ้นเฟิงครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และวันนี้เขาได้ยินมาว่าผู้ป่วยได้เข้ามารับการรักษาในห้องวีไอพีนี้แล้วดังนั้นเขาจึงมาเพื่อดู

เมื่อเห็นหลินต้าเหว่ยเฉินเจิ้นเฟิงก็ขมวดคิ้วในทันทีหลินต้าเหว่ยคนนี้แค่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นคนบ้านนอกและดูราวกับชาวนา!
คนแบบนี้กับอยู่ในห้องวีไอพีนี้!

ในการพบกันครั้งแรกเฉินเจิ้นเฟิงยังเห็นว่าหลินฟานยังคงสวมใส่เสื้อยืดทั่วไปมันก็เป็นได้แค่ คนจน!

หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากคณบดีเขาก็คงไม่สามารถต่อสู้กับ เฉินเจิ้นเฟิงผู้นี้ได้

เฉิน เจิ้นเฟิงถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลินฟานกับคณบดีและได้เรียนรู้ว่าเหตุผลที่คณบดีช่วย หลินฟานไม่ใช่เพราะเขามีอะไรพิเศษแต่เพราะหลินฟานช่วยเกลี้ยกล่อมหลานชายของเขา

หลังจากเรียนรู้สิ่งนี้เฉินเจิ้นเฟิงก็ดีใจอย่างมาก

คณบดีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับหลินฟานดังนั้นเขาจึงรู้สึกโล่งใจ

นี่แสดงว่าคณบดีไม่สามารถปกป้อง หลินฟานได้ตลอดเวลาเขาสามารถปกป้องหลินฟานได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นและเขาก็ไม่สามารถปกป้องหลินฟานได้เป็นครั้งที่สอง!

วันนี้คณบดีต้องออกไปข้างนอกและเฉินเจิ้นเฟิงมีโอกาสกลับมาที่นี่อีกครั้งเพื่อขับไล่หลินฟานและหลินต้าเหว่ยออกไป

“คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?” เฉิน เจิ้นเฟิงพูดอย่างประชดประชัน

หลินต้าเหว่ยยิ้มขอโทษ:“ฉันไม่รู้จริงๆไม่ทราบว่าคุณหมอชื่ออะไร?”

เฉิน เจิ้นเฟิง กล่าวว่า “ฉันชื่อเฉินเจิ้นเฟิงฉันเป็นรองคณบดีของที่นี่ หลานชายของคุณอยู่ที่ไหน? วันนี้เขาไม่ได้มาเหรอ?”

หลินต้าเหว่ยกล่าวว่า“เขาออกไปทําอะไรบางอย่างหมอเฉินคุณมาที่นี่เพื่อช่วยฉัน?เยี่ยมมากรองคณบดีมาช่วยฉันเป็นการส่วนตัวเสี่ยวฟานต้องเชิญคุณมาที่นี่ใช่ไหม!”

เฉิน เจิ้นเฟิงหัวเราะเยาะ:“คุณไม่คิดว่า..มันจะมากเกินไปหน่อยเหรอฉันคนนี้จะมาช่วยคุณรักษา?เหอะ!ฉันมาที่นี่เพื่อจะมาแจ้งให้คุณทราบคุณไม่สามารถอาศัยอยู่ในห้องนี้ได้และจําเป็นต้องย้ายออกไปในทันที”

หลิน ต้าเหว่ย ตกใจมาก :“อยู่ที่นี่ไม่ได้?”

เฉินเจิ้นเฟิงกล่าวว่า “ใช่แล้วห้องนี้ไม่ได้มีไว้สําหรับคนจนๆแค่มองคุณก็รู้แล้วว่าเป็นแค่ชาวนาลองถามตัวคุณเองดูว่าที่คุณได้อาศัยอยู่ในห้องแบบนี้มันเหมาะสมกับคุณหรือ?”หลินต้าเหว่ยตกตะลึงรองคณบดีพูดแบบนั้นกับเขาจริงๆ!เขาไม่ได้มีความกล้าขนาดนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะกลัวเล็กน้อย และพูดอย่างระมัดระวังว่า:“รองคณบดีเสี่ยวฟานได้ช่วยฉันจองห้องนี้มีความเข้าใจผิดอะไรหรือไม่?” เฉินเจิ้นเฟิงกล่าวว่า “เข้าใจผิดงั้นเหรอฉันเป็นรองคณบดีของที่นี่และฉันก็ตัดสินใจแล้วคุณควรรีบเก็บข้าวของในตอนนี้และย้ายไปที่ห้องผู้ป่วยทั่วไปฉันจะขอให้พยาบาลช่วยพาคุณไปที่นั่น”

หลินพ่าน รับมือได้ยากมากแต่หลินต้าเหว่ยคนนี้ดูเหมือนจะง่ายสําหรับเขามากก็แค่ข่มขู่เล็กน้อยดังนั้นเขาจึงรีบขับไล่หลินต้าเหว่ยออกไปในขณะที่หลินฟานไม่อยู่ที่นี่

เมื่อข้าวปรุงสุกแล้ว(2) หลินฟานก็ไม่สามารถทําอะไรกับเขาได้ แม้ว่าหลินฟานจะไปหาคณบดีคณบดีก็ท่าได้เพียงชักชวนหลินฟานให้ยื่นคําร้องเท่านั้นเขาไม่เชื่อว่าคณบดีจะหันหลังให้กับรองคณบดีอย่างเขา

หลินต้าเหว่ยไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไปกับเฉินเจิ้นเฟิงจริงๆเขาไม่รู้จักสถานที่แห่งนี้และคิดว่าเฉินเจิ้นเฟิงพูดถูกต้องแล้ว

“ได้ๆ ฉันจะย้ายออกไป”

หลิน ต้าเหว่ย กล่าว พร้อมกับเก็บของและเตรียมที่จะออกไปจากห้องวีไอพีในเวลานี้

จู่ๆ ก็มีคนมาเคาะประตู

ผู้ชายที่แต่งตัวดี เดินเข้ามา

“คุณเป็นลุงของคุณหลินหลินฟานหรือเปล่าครับ?”ผู้ชายคนนั้น ถามหลินต้าเหว่ยด้วยความเคารพ

หลิน ต้าเหว่ย กล่าวว่า “ใช่ฉันเองแล้วคุณเป็นใคร?”

ผู้ชายคนนั้นรีบกล่าวว่า “คุณหลิน ในที่สุดฉันก็ได้พบกับคุณแล้ว ฉันชื่อเฉินหมิงประธานของธนาคารกลางจีนและฉันมาเยี่ยมคุณหลินโดยเฉพาะ”

ทันใดนั้นคนกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาทีละคน และพวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นผู้นําในโลกธุรกิจ!

พวกเขาเข้ามาทีละคนโดยแสดงความเคารพต่อหลินต้าเหว่ยและผลัดกันโค้งคํานับ

“ฉันชื่อเสี่ยวเจี้ยนผู้จัดการทั่วไปของ Volkswagen ในประเทศจีน และฉันมาที่นี่เพื่อมาพบคุณหลิน!”

“ฉันชื่อหลี่ต้าชุนประธานของบริษัทประกันชีวิตและได้มาที่นี่เพื่อจะมาพบคุณหลิน!”
“ฉัน……”

พวกคนที่มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจต่างก็เข้ามาทีละคน

เมื่อ เฉินเจิ้นเฟิงที่อยู่ข้างๆได้เห็นสิ่งนี้เขาก็ตกตะลึงไปแล้ว… (1)[หลังจากผ่านหมู่บ้านนี้ไปก็จะไม่มีร้านแบบนี้อีก(i7X+SFXE)] – เป็นคําอุปมาที่หมายถึงเป็นโอกาสที่หายากที่ไม่ควรพลาด

(2)[ข้าวปรุงสุกแล้ว()] -เป็นคําสุภาษิตที่หมายความว่า สิ่งต่างๆ ที่ได้ทําไปแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกลับไปได้อีก