ตอนที่ 302 นายรักฉันไหม
อันอี้เป่ยกลอกตาใส่เธอ “ฉันปล่อยให้เธออดเหรอ หยุดเลียนิ้วได้ไหม รู้ไหมว่าบนนิ้วมีเชื้อโรคเยอะแค่ไหน”
อันซย่าซย่าร้องไห้ภายในใจ…พี่ชายขี้บ่นคนนี้น่ารำคาญจริงๆ คนเราจะไม่เลียนิ้วหลังกินมันฝรั่งได้ยังไง! มันเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้สุขใจมากที่สุดในโลกเลย!
เธอวางมือของเธอลงอย่างขุ่นเคืองและเงี่ยหูฟังบทสนทนาระหว่างชายทั้งสอง
หลังจากหยอกเธอแล้ว อันอี้เป่ยมองเซิ่งอี่เจ๋ออย่างเมินเฉย ก่อนพ่นลมหายใจออกมา “มันง่ายเหมือนปอกกล้วย ไม่เป็นไรหรอก”
หึ…
พี่ชายของฉันนี่ปากไม่ตรงกับใจเลย!
แต่เขาช่วยเซิ่งอี่เจ๋อเรื่องอะไรกันแน่นะ อันซย่าซย่ารู้สึกคล้ายกับมีลูกแมวมาสะกิดหัวใจของเธอ ยิ่งพวกเขาปกปิดเธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งสงสัยใคร่รู้มากขึ้นเท่านั้น!
เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มพลางลูบผมของอันซย่าซย่า เมื่อเห็นสีหน้าน่าสงสารของเธอ เขาหรี่ตาอย่างเจ้าเล่ห์ “อยากรู้ไหมล่ะ”
อันซย่าซย่าพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น
“ฉันไม่บอกเธอหรอก!”
หึ…
ทำไมแฟนของเธอก็ปากไม่ตรงกับใจเหมือนกันนะ!
อันซย่าซย่าปัดมือของเขาออกอย่างเศร้าๆ ก่อนวิ่งกลับห้องของเธอไป
หลังจากพวกเขาจงใจแกล้งอันซย่าซย่าจนเธอหนีไป ทั้งเซิ่งอี่เจ๋อและอั้นอี้เป่ยสีหน้าเคร่งเครียด
อันอี้เป่ยเอ่ย “ถ้านายอยากขอบคุณฉันจริงๆ ก็ทำตัวดีๆ กับซย่าซย่า แล้วก็มีความรับผิดชอบด้วย อย่าให้เธอต้องเป็นห่วงนายอีก”
“ครับผม”
อันอี้เป่ยเดินจากไป หลังจากพ่นลมหายใจอีกครั้งและเซิ่งอี่เจ๋อก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยรอยยิ้มเล็กๆ บนใบหน้า
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้บริหารลัวส่งข้อความมาหาเขาเพื่อบอกว่าทางบริษัทจะฟ้องร้องวงสตาร์รี่ไนต์ ทำให้เซิ่งอี่เจ๋อคิดว่าการที่จะยุติสัญญานั้นคงไม่ง่าย
อย่างไรก็ตาม อันอี้เป่ยมาพบเขาเป็นการส่วนตัวและนำสำเนาของสัญญาไปด้วย จากนั้นเขาก็ฟ้องร้องเว่ยยางแทน!
อย่ามาแหย็มกับทนายหัวกะทิ! เว่ยยางไม่เพียงแต่ฟ้องร้องวงสตาร์รี่ไนต์ไม่สำเร็จ แต่อันอี้เป่ยยังทำให้พวกเขาเหมือนตกนรก คำว่านึกเสียใจภายหลังยังไม่เพียงพอที่จะอธิบายความรู้สึกของพวกเขาตอนนี้!
เซิ่งอี่เจ๋อรู้ดีว่าทำไมอันอี้เป่ยถึงยอมช่วยเขาขนาดนี้
เขาเดินก้าวยาวๆ ไปที่ห้องของอันซย่าซย่า ประตูไม่ได้ล็อก เขาจึงผลักมันให้เปิดออก หลังจากเคาะประตูแล้ว
อันซย่าซย่ากำลังซุกตัวใต้ผ้าห่มของเธอและดูการ์ตูน เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา เธอพลันเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบา “เซิ่งอี่เจ๋อ มานี่…”
หัวใจของเซิ่งอี่เจ๋อหยุดเต้น เขารีบเดินไปหาเธอเพราะคิดว่าเธอโกรธเขา
อย่างไรก็ตาม อันซย่าซย่าถาม “นายรักฉันไหม”
หลังหูของเขากลายเป็นสีชมพู เธอพูดอะไรน่ะ? คำว่ารักไม่ใช่จะพูดกันพล่อยๆ ได้นะ
เมื่อไม่ได้รับคำตอบ อันซย่าซย่าเบะปากและกดดัน “นายรักฉันหรือเปล่า…”
หลังจากเว้นวรรคไปพักหนึ่ง เซิ่งอี่เจ๋อไอ ก่อนตอบด้วยคำว่า “อืม” เสียงเบา
ตอนนี้หลังหูของเขากลายเป็นสีแดงก่ำไปแล้ว
อันซย่าซย่าเงยหน้าขึ้นมาและถามพร้อมรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นนายพลิกฉันหน่อยได้ไหม”
“…?”
“ฉันเพลีย เลยไม่อยากขยับเองอะ” อันซย่าซย่ากล่าวอย่างไร้อารมณ์
มุมปากของเซิ่งอี่เจ๋อกระตุก เขาอุ้มอันซย่าซย่าขึ้นมาและพลิกตัวของเธอเพื่อที่เธอจะได้หันหน้าไปอีกทางหนึ่ง
“องค์หญิงซย่าซย่า มีอะไรให้กระผมรับใช้อีกไหมขอรับ” เขาถามอย่างกระอักกระอ่วน
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่เขาเพิ่งแกล้งเธอ เธอพ่นลมหายใจ เธอจะเป็นอันซย่าซย่าผู้ปากไม่ตรงกับใจบ้าง!
ดังนั้น เธอจึงสั่ง “ไปเอาโยเกิร์ตมาให้ข้า”
“ได้ขอรับองค์หญิงซย่าซย่า โยเกิร์ตหนึ่งที่นะขอรับองค์หญิงซย่าซย่า” เซิ่งอี่เจ๋อไม่ได้โกรธ แต่ทว่าเขาเล่นตามน้ำอย่างเป็นธรรมชาติ
สองนาทีให้หลัง เขากลับมาพร้อมโยเกิร์ตหนึ่งแก้วและหลอดเสียบ จากนั้นเขายกมันขึ้นที่ริมฝีปากของอันซย่าซย่า “นี่ขอรับองค์หญิงซย่าซย่า โยเกิร์ตของท่าน”
อันซย่าซย่าหวาดกลัว พระเจ้าช่วย! เกิดอะไรขึ้นกับเซิ่งอี่เจ๋อเนี่ย!
ตอนที่ 303 ฉันไม่เห็นอะไรเลย
“ทานเลยขอรับ” เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มอย่างอ่อนโยน
อันซย่าซย่าไม่อาจต้านทานการดูแลแสนพิเศษนี้ได้และทานโยเกิร์ตเข้าไป เซิ่งอี่เจ๋อบริการเธอตลอด แม้กระทั่งเช็ดปากให้ด้วย หลังจากที่เธอทานเสร็จแล้ว รอยยิ้มของเขาทำให้เธอนึกถึงสุนัขจิ้งจอกแก่ๆ “อร่อยไหมขอรับ”
อันซย่าซย่าค่อยๆ พยักหน้า แต่ทว่าเธอรู้สึกถึงบางสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เธอจึงถอยกลับเข้าไปในผ้าห่มของเธอ
“หลบทำไม” เซิ่งอี่เจ๋อถาม “ฉันไม่กินเธอหรอก”
อันซย่าซย่า “…” นั่นแหละสิ่งที่ฉันกลัว!
เธอเคลื่อนตัวเข้าไปในผ้าห่มลึกขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฮึก…หลบ! หลบ! หลบ! ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยถ้าฉันหลบหน้าเขา…
เซิ่งอี่เจ๋อขำขัน แทนที่เขาจะเอื้อมมือเข้าไปในผ้าห่มของเธอ เขากลับยกเธอออกจากเตียง!
ยัยซื่อบื้อซย่าผู้ที่พยายามไม่สำเร็จพูดไม่ออก
เธอดิ้นเล็กน้อย ก่อนคว้าหมอนและถือไว้บริเวณหน้าอกของเธอ “เซิ่งอี่เจ๋อ นายทำอะไรน่ะ”
เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มแต่ไม่ตอบ เขาโอบเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยความคล่องแคล่วและแม่นยำ จากนั้นเขาเอามือของเขาวางไปบนก้นเล็กๆ ของเธอ “ยังขี้เกียจอยู่ไหม”
“ฮืม…” ดวงตาสีดำคู่โตของอันซย่าซย่าเบิกกว้าง เธอไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น “นาย…นาย…เพิ่งตีฉันเหรอ”
ทันใดนั้น เธอถูกตบที่ก้นซ้ำอีกสองครั้ง
อันซย่าซย่าน้ำตาไหลเป็นสาย “เมื่อกี้นายยังเรียกฉันว่าองค์หญิงอยู่เลยไม่ใช่เหรอ มาตีฉันได้ยังไง! เซิ่งอี่เจ๋อนิสัยไม่ดี คนนิสัยไม่ดี…”
การคร่ำครวญของเธอถูกขัดเพราะเซิ่งอี่เจ๋อเอาริมฝีปากของเขาประกบกับริมฝีปากของเธอ
เสียงดูดของริมฝีปากสองคู่ที่ประกบกันนั้นช่างเร่าร้อน อันซย่าซย่าแทบไม่หายใจ เธอเตะเซิ่งอี่เจ๋อด้วยเท้าเล็กๆ ของเธอ เซิ่งอี่เจ๋อพลันจับเท้าของเธอไว้และบดขยี้หนักขึ้น
อันซย่าซย่าเสียใจที่ถึงเธอดิ้นรนไปก็ไม่เป็นผล…
จูบนั้นเหมือนมันช่างเนิ่นนานกว่าที่เซิ่งอี่เจ๋อจะปล่อยเธอ อันซย่าซย่ายอมรับผิด “ฉันจะไม่สั่งให้นายทำอะไรอีก…”
“น่าสนใจ” ชายเจ้าเล่ห์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “แล้วเรื่องความขี้เกียจของเธอล่ะ?”
“มัน…จะไม่เกิดขึ้นอีก!” อันซย่าซย่าดูเศร้าสร้อยเป็นที่สุด
เซิ่งอี่เจ๋อเพียงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
เมื่อเห็นริมฝีปากของยัยซื่อบื้อแดงระเรื่อและบวมเพราะจูบ เขาอดใจไม่ได้ที่จะสัมผัสมัน
“เราทำแบบนี้อีกแล้วเหรอ” อันซย่าซย่ารู้สึกอยากเอาหัวตัวเองโขกกำแพง หลังจากถูกบังคับมานาน เธอก็ตัดสินใจต่อต้านในที่สุด “ฉันขอโทษแล้ว นายก็ควรขอโทษด้วย! ปิดบังฉันยังไม่พอ ยังจะมาตีฉันอีก…”
จริงๆ แล้วมันเป็นการตบเบาๆ มากกว่าตี แต่อันซย่าซย่าก็ยังรู้สึกว่าเธอถูกกระทำอย่างไม่ถูกต้อง…
เฮ้อ…พอเธอคิดดูแล้ว ตั้งแต่พวกเขาสองคนพบกัน เธอก็ถูกกระทำอย่างไม่ถูกไม่เว้นแต่ละวัน…
โอ้พระเจ้า ช่างเป็นความจริงอันแสนเจ็บปวด…
“ก็ได้ ฉันขอโทษ” เซิ่งอี่เจ๋อพูดอย่างจริงจัง “ว่าแต่ ฉันป้อนเธอแล้ว แต่ฉันยัง ‘หิว’ อยู่เลย เธอไม่ขอโทษฉันอีกเหรอ”
อันซย่าซย่าแก้มแดงระเรื่อทันทีเพราะคำว่า “ป้อน” และ “หิว” ของเขามีนัยแอบแฝง!
เธอเอามือปิดบังใบหน้า “ทำตัวดีๆ หน่อย! ออกไปเลย!”
เซิ่งอี่เจ๋อหัวเราะเมื่อเห็นว่าเธออายมากแค่ไหน แทนที่จะแกล้งเธอต่อ เขากลับเปิดลิ้นชักของเธอและหยิบถุงเท้าฟูฟ่องออกมาคู่หนึ่ง เขาเดินกลับไปที่เตียง จับเท้าของเธอ และใส่ให้เธออย่างระมัดระวัง
“ดูสิว่าเท้าเธอเย็นแค่ไหน เดินไปเดินมาเท้าเปล่า…ยัยซื่อบื้อเอ้ย…” เขาพูดต่อด้วยเสียงทุ้มต่ำ หลังจากดุอันซย่าซย่า เขาอธิบายให้เธอฟังคร่าวๆ ว่าอันอี้เป่ยช่วยเขายังไง
หลังจากนั้น เขาพาอันซย่าซย่าเข้านอนและกระซิบ “ฝันดีนะ”
“ฝันดี…” อันซย่าซย่าตอบด้วยความเขินอาย
เซิ่งอี่เจ๋อก้มตัวลงจูบเธอที่หน้าผาก ก่อนที่เขาจะเด้งตัวกลับขึ้นมา มีเสียงแปลกแต่น่ารักดังขึ้นนอกห้อง “อ๊ากกก! ฉันไม่เห็นอะไรเลย”