ตอนที่ 817 สายไปแล้ว

Elixir Supplier

ฟ้าเริ่มมืดลง ถึงจะไม่ใช่เรื่องฉลาดที่มุ่งหน้าเข้าป่าในเวลาแบบนี้ แต่ก็เพราะเป็นภารกิจเร่งด่วนพวกเขาหยุดพักเพียงช่วงเวลาสั้นๆก่อนจะมุ่งหน้าต่อไปพวกเขาต้องค้นหาผู้บุกรุกให้เจอเร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้

ขณะเดียวกัน กลุ่มคนที่พวกเขากําลังค้นหาต่างก็รุนงงที่กับดักของพวกเขาไม่ได้ผล

“ไม่มีใครตายเลยเหรอ? เกิดอะไรขึ้นกัน?” ชายคนหนึ่งถาม

“นายแน่ใจเหรอ?” ชายผิวขาวผู้นําของกลุ่มถาม

“ฉันแน่ใจ” เขาพูด “มันจะต้องมีคนมีฝีมืออยู่ในทีมของพวกเขาแน่ๆ”

“เป็นไปได้ไหมที่กองกําลังของพวกเขาจะมาด้วย?” ชายอีกคนถาม

“กองกําาลัง? เป็นไปไม่ได้?” ชายคนแรกพูด

“รีบไปกันได้แล้ว” ชายที่เป็นผู้นํากลุ่มพูดด้วยความกังวล “ถ้าเป็นพวกเขาจริงๆคงยุ่งยากแน่”

ในตอนที่หวังเย้าเดินอยู่นั้น เขาได้จดจําพืชพันธุ์ที่อยู่รอบตัวเขาไปด้วยข้อมูลต่างๆโผล่เข้ามาในหัวของเขาอยู่ตลอด

ต้นนี้สามารถเอาไปทํายาได้ ต้นนี้มีพิษเล็กน้อย ต้นนี้มีพิษสูง…

มันอันตรายมากจริงๆกับการเดินป่าในเวลากลางคืนแบบนี้ตลอดทางพวกเขากระตุ้นการทํางานของกับดักไปแล้วหลายอันทหารนายหนึ่งถูกยิงด้วยอาวุธลับเคลือบยาพิษที่บริเวณแขนโชคดีที่หวังเย้าอยู่ที่นั่นและรักษาบาดแผลได้ทันเวลาหลังจากที่เขาล้างพิษแล้วทหารนายนั้นก็ปลอดภัยบาดแผลที่ได้รับไม่ได้ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเขามีเพียงประสิทธิภาพในการสู้เท่านั้นที่อาจติดขัดบ้าง

บูม! เกิดเสียงระเบิดขึ้น

“หม เกิดอะไรขึ้นที่นั่นกัน?” หวังเย้าถาม

“มีการต่อสู้ข้างหน้า”ซูจือจึงพูด “รีบไป”

“ให้ผมนําหน้าดีไหม?” หวังเย้าถาม

“หา?” ซูจือฉิงตกใจ

“เชื่อผม”หวังเย้าก้าวออกไปเดินอยู่แนวหน้าของทีมความเร็วของเขามากกว่าไม่นานเขาก็พบกับดัก“มีกับดัก!เดินอ้อม!”

พวกเขาเดินต่อและพบเจอเข้ากับกับดักหวังเย้าหยุดเดินมีคนนอนอยู่ที่พื้น

“เขาตายรึยัง?” ทหารนายหนึ่งถาม

“เขาตายแล้ว” หวังเย้าพูด

เมื่อเข้าไปตรวจสอบใกล้ๆ พวกเขาก็พบว่าชายคนนี้เป็นทหาร กริชเล่มหนึ่งปักอยู่ที่เบ้าตาของเขา

“มีอยู่สองกลุ่ม” ซูจือฉิงพูด

เกิดเสียงปืนดังขึ้น

“เตรียมตัวสู้!” ซูจือฉิงตะโกน

ไม่นาน พวกเขาก็พบอีกร่างหนึ่ง การแต่งตัวของเขาแสดงให้รู้ว่าไม่ใช่ทหารเขาแต่งตัวผ้าทอมือแบบพิเศษที่มีกลิ่นประหลาดติดอยู่

“กลิ่นอะไร?” ซูจือฉิงถาม

“มันเป็นกลิ่นยาสมุนไพรครับ” หวังเย้าพูด “มันจะช่วยป้องกันพวกเขาจากง, แมลง,หนู,และ มดที่อยู่ในป่านี้ได้

ชายคนนี้พกคันธนูและธนู รวมไปถึงมีดที่คมกริบ มันมีความยาวประมาณห้าสิบเซนติเมตรและคมมาก

“คนพวกนี้เป็นใครกัน?” ซูจือจึงพูดพึมพําด้วยน้ําเสียงไม่อยากเชื่อ

พวกเขาไม่ได้พบเจอกับคนกลุ่มนี้ ในภารกิจครั้งก่อนที่พวกเขาต่อสู้กับผู้บุกรุกจากต่างถิ่น

“หรือพวกเขาจะเป็นคนที่ปกป้องป่าผืนนี้ครับ?” หวังเย้าถาม

“ผู้ปกป้อง? แล้วทําไมครั้งก่อนพวกเขาไม่แสดงตัวล่ะ? หรือพวกเขาไม่รู้ข่าว?” ทหารนายหนึ่งถาม

“อืม ฉันคิดว่าเรื่องนั้นอาจเป็นไปได้” ซูจือจึงพูด “ไปกันเถอะ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ต้องระวังเอาไว้ก่อน”

สภาพโดยรอบมืดสนิท เกิดการต่อสู้ของคนสองกลุ่มขึ้นภายในป่าสองครั้ง

“คนต่างชาติพวกนี้กล้าเข้ามาหาเรื่องถึงที่นี่” ชายคนหนึ่งพูด “เก็บพวกเขาไว้ให้ฉัน!”

“ระวังด้วย” ชายอีกคนพูด “มือดีสองคนถูกจัดการไปแล้ว ปล่อยแมลงออกมา!”

หรือ! แมลงจํานวนมากถูกปล่อยออกมาและบินไปทั่วป่า

ในความมืด ชายคนหนึ่งโยนไฟเข้าใส่ต้นไม้จนลุกไหม้ไปทั่ว ภายในป่าประเภทนี้เมื่อเปลวไฟลุกไหม้มันสามารถก่อให้เกิดไฟโหมกระหนาจนยากควบคุมและดับลงได้ไม่มีใครสามารถคาดคะเนได้ว่ามันจะก่อให้เกิดการสูญเสียไปมากเท่าไหร่

“เกิดอะไรขึ้น?” ซูจือจึงหยุดเดินและเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

ในความมืดมิดของกลางคืนมีแสงไฟถูกยิงขึ้นบนฟ้า

“เราไม่มีเวลาไปจัดการกับเรื่องนั้น” ซูจือจึงพูด “ทางนั้น ทุกคนเตรียมพร้อมต่อสู้ได้ทุกเวลา”

ยังคงมีระยะห่างระหว่างจุดที่พวกเขาอยู่ในปัจจุบันกับจุดที่เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น

“เราควรใช้เส้นทางที่ใกล้ที่สุด” หวังเย้าพูด

“ใกล้ที่สุด?” ซูจือฉิงถาม

“ส่วนของเส้นตรงคือเส้นทางที่สั้นที่สุดระหว่างสองจุด” หวังเย้าพูด

“โว้ว นายถึงขนาดพูดเรื่องเรขาคณิตเลยเหรอเนี้ย” ซูจือจึงพูด “ไปกันเถอะ”

หวังเย้าเคลียร์เส้นทางด้านหน้าพวกเขา ในเวลานี้ เขาไม่มีเวลาให้คิดมากนักเขาปลดปล่อยพลังฉีเพื่อสื่อสารกับสิ่งที่อยู่รอบตัวเขา เขาราวกับมีดวงตาอยู่รอบตัวเขามองไปรอบๆเห็นแม้กระทั่งสายลมพัดอย่างไรและหญ้ากําลังส่ายไปมานก, สัตว์, งู,และแมลงต่างถูกเขาพบเห็นเขามองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนและสามารถจัดการทุกการเคลื่อนไหวหรืออันตรายตรงหน้าออกไปจนหมด การเดินทางของพวกเขาเป็นไปอย่างรวดเร็ว

เกิดเสียงกรีดร้องดังขึ้น

“บ้าเอ๊ย ฉันถูกพิษ!” ชายคนหนึ่งตะโกน

“ถอนตัว!” ผู้นําทีมสั่งถอนกําลัง

“อะไรนะ?” ชายอีกคนตกตะลึง

“ฉันพูดว่าถอนตัว” ผู้นําทีมพูด“คนกลุ่มนี้เป็นคนท้องถิ่นที่เชี่ยวชาญเรื่องแมลงพิษที่หาได้ยากและนี่ก็เป็นเขตแดนของพวกเขาพวกเขาคุ้นเคยกับที่นี่มากกว่าพวกเราเราที่อยู่ที่นี่เป็นฝ่ายเสียเปรียบถ้าเรายังไปต่อแบบนี้คนที่ตายก็จะเป็นพวกเราทั้งหมด”

มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในความมืดราวกับภูตผี “พวกแกหนีไปไหนไม่ได้แล้ว!”

“ใครอยู่ตรงนั้น!?” ผู้นําทีมถามบูช!

ผู้นําทีมกุมหน้าท้องของเขาเอาไว้ อีกมือยิงปืนไปทางที่เขาได้ยินเสียง

มีคนปรากฏตัวที่ด้านหลังของเขา “ช้าเกินไป!”

ร่างนั้นยื่นมือออกไป แคร็ก เลือดสาดกระจายขึ้นสูงเกือบหนึ่งเมตร พร้อมกับศีรษะของผู้นําที่มที่หลุดออกจากบ่า กลายเป็นภาพที่สยดสยอง
คนที่เหลือสั่นกลัวอย่างที่สุด “แกเป็นใคร?”

“ฉันกําลังสงสัยอยู่ว่า พวกมันเข้ามาข้างในได้ราบรื่นขนาดนี้ได้ยังไง”เงานั้นพูดด้วยเสียงแหบเล็กน้อย“ที่แม้ก็มีคนทรยศอยู่ด้วยเราสามารถจัดการเรื่องภายในของเราด้วยวิธีไหนก็ได้ถึงเราจะต้องสู้จนตัวตายฉันก็ยินดีถ้าฉันพ่ายแพ้และตายแต่การสมรู้ร่วมคิดกับคนนอกมาขโมยสมบัติแบบนี้เรียกว่าคนทรยศ แกคือกบฏและสมควรตายร้อยหน!”

“ไม่ ไม่ ไม่…” ชายที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวดูเหมือนกําลังคิดถึงบางอย่างที่น่าสะพรึงกลัวเขาวิ่งหนีเข้าไปในป่าโดยไม่หันกลับไปมองด้วยร่างกายที่ยังสันกลัวไม่หยุด

“คิดจะหนี้เหรอ?” ในวูบเดียว เงาร่างก็หายไปและปรากฏอยู่ด้านหลังของชายที่กําลังวิ่งหนีอยู่เขาเพิ่งหนีไปได้แค่ 10 เมตรเท่านั้น “ในเมื่อแกเคยอยู่ที่นั่นมาก่อนแกก็คงจะรู้กฎดี”

“ฉันผิดไปแล้ว” เขาอ้อนวอน “ฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดให้โอกาสฉันอีกสักครั้งเถอะ!”

“คนของเราตายไปสี่และพื้นที่ป่าเสียหายเป็นบริเวณกว้าง แต่แกก็ยังอยากให้ฉันให้โอกาสเงาร่างพูด “แกคิดว่ามันจะเป็นไปได้งั้นเหรอ?”
“ฉัน…”

เงาร่างบีบปากของเขาให้เปิดออกและบังคับส่งบางอย่างเข้าไปก่อนจะปล่อยเขา

“ไม่ ไม่ ไม่…” ชายคนนั้นดิ้นทุรนทุราย เขาพยายามควักเอาสิ่งนั้นออกจากปาก

อยู่ๆเขาก็กุมท้องและร้องคร่ำครวญกลิ้งเกลือกไปกับพื้น เขาตัวสั่นระริกในขณะที่หยิบปืนออกมาและจ่อไปที่ขมับของตัวเองเขาต้องการเหนี่ยวไกแต่กลับพบว่าร่างกายของเขาไม่สามารถ ควบคุมได้อยู่ๆนิ้วมือของเขาก็แข็งที่อจนไม่สามารถงอได้ปืนพกร่วงจากมือของเขาลงไปกองอยู่ที่พื้นดังตุบ

“อ้า!”

เสียงร้องในกลางดึกแบบนี้ฟังดูโหยหวนและสยดสยองเป็นพิเศษ

ซูจือฉิงและทีมของเขาหยุดเดินเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงร้องนั้น เขาพูด “เสียงนั้นดูทรมานมาก”

“มันอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่” หวังเย้าพูด

“เราต้องระวังตัวเอาไว้” ซูจือจึงพูด “ฉันว่านายไม่ควรนําหน้าต่อไป”

“ไม่เป็นไรครับ” หวังเย้าพูด “ให้ผมทําเถอะ ไป

ถ้าทหารนายอื่นมาแทนที่เขา การเดินทางของพวกเขาก็อาจล่าช้าลงได้ถ้าไม่มีคนอื่นมาด้วยเขาคงไปถึงที่นั่นได้ในทันทีและอาจสามารถจับคนที่ยังมีชีวิตอยู่กลับมาให้สอบสวนได้ด้วย
4
ใช้เวลาไม่นานก่อนที่พวกเขาจะมาถึงจุดที่เพิ่งเกิดการต่อสู้ พวกเขาเห็นหลายร่างอยู่ที่พื้นทหารติดอาวุธสิ้นายนอนอยู่คนละจุด พวกเขาตายด้วยวิธีที่ต่างกันคนหนึ่งถูกยิงด้วยธนูพิษและอีกคนร่างถูกแยกออกจากกัน หนึ่งในนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ใบหน้าของเขาเสียโฉมและเต็มไปด้วยเลือดพวกเขาสามารถมองเห็นแมลงเคลื่อนตัวไปตามเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาในบางครั้งพวกมันก็ฝังตัวลึกลงไป
ชายคนนั้นต้องการส่งเสียงและพูดอะไรบางอย่าง แต่หลอดเสียงของเขาถูกแมลงกัดกินไปจนเกือบหมดแล้ว

“นี่มันอะไรกัน?” ซูจือจิงที่เห็นภาพนั้นตัวสั่นเทา

“มันคือแมลงพิษ ถอยออกมาครับ หวังเย้าพูด

เขาไม่กลัวแมลงพิษพวกนี้ แต่พวกทหารคงไม่สามารถรับมือกับพวกมันได้เมื่อพวกเขาได้รับเชื้อพวกเขาก็จะทรมานอย่างที่สุด