ตอนที่ 118 ตัดร่าง

ระบบอัพเกรดเทพชาย

ตอนที่ 118 ตัดร่าง

 

“ตราบใดที่พวกแกสองคนสามารถรับหนึ่งดาบของฉันได้โดยมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยหรือไร้ซึ่งบาดแผลหากเป็นเช่นนั้น ฉันก็จะยืนอยู่ตรงนี้และปล่อยให้พวกแกทุบตีฉันจนบาดเจ็บสาหัส!”หลิงเซียวกล่าวอย่างใจเย็น

 

ค่าพูดนี้ของหลิงเซียวราวกับระเบิด ทําให้ทุกคนตกตะลึง

 

นักรบจิตวิญญาณระดับเจ็ดกล่าวกับผู้ฝึกยุทธระดับแปดสองคน นี่ไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรอกหรือ?

 

ทุกคนในที่นี้ต่างมองไปที่หลิงเซียวด้วยความประหลาดใจ ไม่มีใครคาดคิดว่าหลิงเซียวจะกล่าวเช่นนี้ออก

 

แม้แต่ ตง หลิ่วชวน และ หัวหน้าหน่วยหลินก็ยังมองไปที่หลิงเซียวด้วยความประหลาดใจ

 

มีเพียงซูเหยาและสมาชิกที่มอีกสองคนเท่านั้นที่สงบนิ่งเหมือนกับหลิงเชียว แม้แต่แววตาของพวกเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไป

 

ในใจของพวกเขา ตราบเท่าที่หลิงเซียวกล้าพูด เช่นนั้นพวกเขาก็มั่นใจ

 

ฉากนี้ถูกถ่ายทอดสดผ่านแว่นตาของซูเหยาและสมาชิกที่มอีกสองคน

 

เมื่อเหล่าคนดูในห้องถ่ายทอดสดได้ยินดังนั้นก็ร้อนใจขึ้นมาทันที

 

“เทพเจ้าหลิง ไม่จําเป็นต้องทําแบบนั้น อย่าไปสนใจหมาแก่สองตัวนี้เลย!”

 

“ใช่แล้ว เจ้าหมาแก่สองตัวนี้ เป็นถึงนักรบจิตวิญญาณระดับแปด! มันช่างน่ารังเกียจจริงๆ!”

 

“หลิงเซียวจะเอาชนะพวกเขาได้หรือไม่?”

 

“หนึ่งดาบ… ฉันรู้สึกว่ามันค่อนข้างหน้าสงสัยอยู่นะ”

 

“อุ้ย! สามีของฉันจะชนะได้อย่างแน่นอน!”

 

“หลิงเซียว ต้องชนะ!”

 

ชายแซ่ฉิวและชายแซ่หยางไม่รู้ว่าคอมเม้นต์ในห้องถ่ายทอดสดเรียกพวกเขาว่าสุนัขแก่

 

มิฉะนั้น พวกเขาคงจะอักเลือดออกมาอย่างน้อยสามลิตร

 

ตอนนี้พวกเขาเต็มไปด้วยความปิติยินดีพวกเขามีความกล้าที่จะพูดเรื่องนี้ต่อหน้า ตง หลิ่วชวน แต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าหลิงเซียวจะตอบตกลง

 

ตอนนี้หลิงเซียวไม่เพียงแต่ตอบตกลง เท่านั้น แต่ยังเสนอข้อเสนอที่ดูโง่เง่าอย่างหาที่เปรียบมิได้อีกด้วย

 

“เอาล่ะ ถึงแม้ว่าคําพูดนี้มันยากที่จะทําตาม! แต่อาจารย์ใหญ่ตงคงจะเห็นด้วยใช่หรือไม่?” เมื่อชายแซ่ฉิวได้ยินเช่นนั้น เขาก็เปิดปากพูดทันที เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการ การตัดสินใจขั้นสุดท้ายของตงหลิ่วชวน

 

ตง หลิ่วชวน คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า เวลานี้เขาไม่อยากพูดอะไรมาก

 

เขาคิดว่าแม้ว่าหลิงเซียวจะบาดเจ็บสาหัส เขาก็มีวิธีรักษาหลิงเซียวให้หายดีอย่างรวดเร็วด้วยวิธีนี้หลิงเซียวจะเป็นหนี้บุญคุณเขา

 

ส่วนหลิงเซียวจะชนะหรือไม่ ตง หลิวชวน รู้สึกว่าโอกาสนั้นไม่มากนัก

 

เมื่อชายแซ่หยางเห็นดังนั้น ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นดุร้ายทันที “เจ้าเศษสวะ สวรรค์มีทางกลับไม่ไปนรกไร้ทางกลับบุกเข้ามา!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า! โง่เหมือนพ่อแม่เจ้าจริงๆ ทั้งๆ ที่รู้ว่าทําไม่ได้ แต่กลับรนหาที่ตายอีก! วันนี้เราทั้งคู่จะทุบตีเจ้าจนบาดเจ็บสาหัส!” ชายแซ่ฉิวหัวเราะเสียงดัง

 

ราวกับว่าในสายตาของพวกเขา หลิงเซียวได้กลายเป็นเนื้อปลาบนเขียงที่ปล่อยให้พวกเขาฆ่าได้ตามใจ

 

หลิงเซียวหรี่ตาลง ในหัวใจของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร

 

ดูถูกพ่อแม่ของเขา คนแบบนี้สมควรถูกฆ่า!

 

“รับดาบของฉันให้ได้ก่อนเถอะ แล้วค่อยมาโม้!” หลิงเซียวกล่าวอย่างเย็นชา

 

ชายแซ่ฉิวและชายแซ่หยางได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเสียงดัง “มาเถอะ ข้ารอไม่ไหวแล้ว!”

 

แววตาของหลิงเซียวเต็มไปด้วยความเย็นชา เขามองไปที่ชายแซ่ฉิวและชายแซ่หยาง ราวกับกําาลังมองคนตาย

 

หลิงเซียวถึงดาบถังออกมาจากฝักดาบที่เอว จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งกําเนิดบนศีรษะปรากฏออกมาแรงกดดันที่ทําให้ผู้คนหวาดกลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้ ประหนึ่งภูเขาไท่ซานกดทับหัวใจของผู้คน

“ตัดร่าง!” หลิงเซียวตะโกนอย่างเย็นชา ดาบถึงในมือของเขาฟาดฟันออกไปทันที!

 

ปราณดาบได้ฟาดฟันออกไปด้วยความเร็วสูงสุด ในชั่วพริบตามันก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของทั้งสองคน

 

รูม่านตาของทั้งสองหดเล็กลงทันที เมื่อแสงดาบปรากฏขึ้นในสายตาของทั้งสอง นี่มันปรานดาบอะไรกัน!เห็นได้ชัดว่านี่มันคําเชื้อเชิญของนรกชัดๆ!

 

ในขณะที่ทั้งสองพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะหลบ แต่ปรานดาบก็พลันหายวับไป

 

แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ขัดขวางพวกเขาจากการหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

 

“ระดับอย่างเจ้า ยังคิดที่จะทําร้ายพวกเรา? มันเป็นเพียงความฝันที่โง่เขลา!” หนึ่งคนหัวเราะเสียงดัง

 

หลิงเซียวทําเพียงหัวเราะเบาๆ และค่อยๆเก็บดาบถึงกลับเข้าไปในฝัก