คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 440
แดร์ริลรู้สึกมีความสุขกับอาหารเช้าที่ลิลี่ดูแลจัดเตรียมไว้ให้
แดร์ริลรู้สึกเจริญอาหาร ผลก็มาจากความสุขที่เขาได้หยอกล้อกับเอเวอลินเมื่อวาน เขาแม้กระทั่งหลับสนิทเต็มอิ่ม และตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นสดใส
คัมภีร์โอสถแห่งอนันต์นั้นกล่าวไว้ถูกต้อง ตอนนี้เขาหายดีเป็นปกติแล้วหลังจากผ่านไปสามวันตั้งแต่ที่เขาทานยาฟื้นสภาพเก้าโอสถ
แดร์ริลอาบน้ำหลังจากที่ลิลี่ออกไปโรงเรียน เขาได้ยินเสียงเปิดประตูในทันทีหลังจากที่เขาอาบน้ำเสร็จและกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้า เอเวอลินก็เดินรีบร้อนเข้ามา
“ฉันขอเตือนแก อย่ามายียวนฉันในวันนี้ พาฉันไปหาคุณปู่เร็วเข้า” เอเวอลินกล่าวเย็นชา ขณะเธอลากแดร์ริลไปที่สถาบันหกวิถี
เอเวอลินจะจดจำความน่าอับอายและความทุกข์ทรมานที่เธอถูกกระทำจากแดร์ริล
แดร์ริลปล่อยให้เอเวอลินลากตัวเขาไปจนถึงทางเข้าของสถาบันหกวิถี
“เอาล่ะ เอาล่ะ เรามาถึงทางเข้าแล้วตอนนี้ หยุดลากฉันได้แล้ว… ทำเหมือนกับฉันจะวิ่งหนีไปไหนได้…”แดร์ริลบ่นพึมพัม
แดร์ริลถอนหายใจก่อนจะกล่าว
มันเป็นช่วงเวลาพัก และบรรดานักเรียนก็กระจายตัวอยู่เต็มทั่วพื้นที่ของโรงเรียน แดร์ริลจะพาเอเวอลินผู้มีผมสีแดงเด่นสง่าอยู่เข้าไปได้อย่างไร?
แดร์ริลช่วยไม่ได้ที่จะส่ายหัวและกล่าวกับเอเวอลิน “เธอจะว่ายังไง… ถ้าเธอรออยู่ข้างนอก?”
มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ถ้าหากมีนักเรียนเห็นเอเวอลินเข้า อย่างไรก็ตามมันคงจะเป็นงานยากที่จะต้องอธิบายกับเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนฟัง ถ้าเธอถูกจับได้
“ไม่ ฉันจะต้องไปกับแก อย่าแม้แต่คิดว่าจะมาล้อเล่นกับฉัน” เอเวอลินจ้องไปที่แดร์ริลเป็นคำตอบโดยไม่ต้องถกเถียงอีก
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน แดร์ริลนั้นเป็นสารเลวโดยสมบูรณ์ในสายตาของเอเวอลิน
เธอคงจะไม่เชื่อคำพูดของเขาอีกต่อไปแล้ว
แดร์ริลยิ้มขวยเขินและกล่าว ”ได้ แต่เธอจะต้องทำตามฉันเมื่อเราได้เข้าไปข้างใน ไม่อย่างงั้นอย่าแม้แต่จะคิดที่จะเข้าไปข้างในกับฉัน”
เอเวอลินตกลง เธอจะเชื่อฟังเขาและทำตามแผนของแดร์ริล ตราบใดที่มันจะนำพาเธอไปหาคุณปู่ของเธอ
“ม้วนผมของเธอขึ้นไป และใส่หมวกซะ” แดร์ริลกล่าวอย่างอดทน
สาวผมแดงเดินเตร่ไปทั่วโรงเรียนนั้นมันสังเกตุเห็นได้ง่ายเกินไป
เอเวอลินทำตามคำบอกของแดร์ริล
มันมีห้องลับในสถาบันหกวิถี วัตถุประสงค์ของห้องลับนี้ก็เพื่อจะไว้ใช้กักตัวนักเรียนที่ฝ่าฝืนกฏของโรงเรียน
ไซออนถูกคุมขังไว้ในห้องแห่งนั่น!
ห้องลับนั้นอยู่ข้างใต้ของตึกวิชาการ แดร์ริลพาเอเวอลินผ่านเข้าตึก พวกเขาได้ยินเสียงที่ไม่เป็นมิตรดังมาจากใกล้ ๆ ขณะที่พวกเขากำลังจะขึ้นบันได “โอ้ พระเจ้า นั่นมันไม่ใช่แดร์ริลเหรอ? จึ๊ จึ๊ ฉันไม่อยากจะเชื่อว่านายยังมีชีวิตรอด โชคดีจริง ๆ”
แดร์ริลขมวดคิ้วของเขาและหันหลังกลับ
เคนท์ยืนอยู่ตรงนั้นกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กับผู้ติดตามด้านหลังเขาสองสามคน
‘แ-่ง ทำไมฉันต้องมาเจอบรรดาไอ้พวกโง่พวกนี้ทุกที่ที่ฉันไปด้วยวะ?’ แดร์ริลคิด
แดร์ริลมองไปที่เคนท์ด้วยรอยยิ้มและกล่าว “ใช่ ฉันก็ช่วยไม่ได้เหมือนกันที่มันเป็นแบบนี้ ฉันไม่อาจจะตายได้หลังจากทรมานกับอาการบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น พวกนายอิจฉาเหรอ?”
สีหน้าท่าทางของเคนท์แข็งทื่อ และไม่มีอะไรจะโต้เถียงในความรู้สึกไม่พอใจของเขา ในขณะนั้น เขาสังเกตเห็นเอเวอลินและหัวเราะ “โอ้ นี่ใคร? การแสดงฝีมือของนายในระหว่างการประชุมพิฆาตราชสีห์ต้องดึงดูดสาวงามคนนี้มาแน่นอน ผู้หญิงสมัยนี้ช่างประทับใจอะไรได้ง่ายดาย…”
เคนท์หัวเราเมื่อได้ยินคำกล่าวของตัวเอง
แม้ว่าเอเวอลินจะเคยแสดงตัวในระหว่างการประชุมพิฆาตราชสีห์ไปแล้ว แต่หมวกที่ปิดบังผมสีแดงของเธอ อัตลักษณ์ของเธอเปลี่ยนไปซึ่งเป็นเหตุผลทำให้เคนท์และพรรคพวกของเขาจำเธอไม่ได้
สีหน้าของเอเวอลินนั้นไม่พอใจเมื่อได้ยินกับคำยียวน เคนท์และพรรคพวกของเขาคงจะตายไปนานแล้วถ้าหากเธอยังมีอารมณ์เดือดดาลอยู่ อย่างไรก็ตามเธอก็สงบลงได้ในเพราะวันนี้เธอต้องการจะช่วยคุณปู่ของเธอ
แดร์ริลชำเลืองมองไปที่เคนท์และค่อย ๆ กล่าว “นายเข้าใจผิดแล้ว เธอคือแม่บ้านส่วนตัวของฉัน เธอน่ารักไหมล่ะ?”
แดร์ริลนั้นเสแสร้งเพิ่มเติมเพื่อจะหาโอกาสยียวนเอเวอลิน
อะไร?
แม่บ้านส่วนตัว
เคนท์และพรรคพวกของเขาต่างตกตะลึงอย่างไม่เชื่อ
ใครจะไปเชื่อว่าสาวสวยขนาดนั้นจะเป็นแค่แม่บ้านส่วนตัว?
พวกเขาต่างงุนงงกับสิ่งที่แดร์ริลกล่าวซึ่งนำไปสู่การที่เขาหันไปหาเอเวลินและกล่าว “เอาล่ะ เรียกฉันว่านายท่าน”
“แก!” เอเวอลินโมโหมาก หัวใจของเธอเต้นระรัวร่วมด้วยกับใบหน้าของเธอที่พลันเป็นสีแดงในทันที เธอนั้นอับอายและโกรธอย่างถึงที่สุด!
‘ไอ้เวรนี่ชักจะล้ำเส้นเลยเถิดไปกันใหญ่แล้วนะ!’
ไม่จำเป็นต้องนึกถึงตอนที่แดร์ริลต้องการให้เอเวลินเรียกเขาว่า พี่ชายที่แสนดีและพี่ชายที่แสนดีที่สุด แต่ตอนนี้เขาอยากจะเล่นเรื่องนี้ไปให้ไกลขึ้นอีก หลังจากที่ยอมให้ก่อนหน้านี้