ตอนที่ 1768 มิติอีกมิติหนึ่ง (4) / ตอนที่ 1769 สตรีโง่งม (1)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1768 มิติอีกมิติหนึ่ง (4)

“พวกเราจะเข้าไปในมิตินั้นได้อย่างไร”

“พวกเรารู้วิธีเข้าไปแต่พวกเราต้องการเวลาเตรียมตัว” เสวี่ยอิ๋งเงยหน้ามองอวิ๋นลั่วเฟิง “ข้าวางแผนจะไปตามหาท่านเจ้าสำนักพร้อมคนอื่นๆ แต่ว่าสำนักศึกษาเมืองประจิมก็จำเป็นต้องมีคนคอยปกป้องดังนั้นพวกเราก็เลยตามหาตัวเจ้า”

ตอนแรกพวกเขาบอกว่าต้องการให้อวิ๋นลั่วเฟิงมาช่วยหาทางออก แต่พวกเขาก็ตัดสินใจทุกอย่างไปหมดแล้ว

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องทิ้งสำนักศึกษาเมืองประจิม พวกเขาก็ยังต้องออกไปที่นั่นเพื่อตามหาเจ้าสำนักอยู่ดี! แต่ว่าเมื่อคิดดีๆ แล้วพวกเขาก็ไม่สามารถปล่อยสำนักศึกษาเมืองประจิมไว้เฉยๆ ได้ นั่นจึงทำให้พวกเขาตามหาตัวอวิ๋นลั่วเฟิง

“ส่งข้าไปที่มิตินั่น” อวิ๋นลั่วเฟิงพูดแต่ละคำอย่างชัดเจนและระมัดระวังขณะที่เงยหน้ามองเสวี่ยอิ๋ง

เสวี่ยอิ๋งสะดุ้ง “ไม่ได้ ที่นั่นอันตรายเกินไป เจ้าไปไม่ได้!”

“ข้าไปไม่ได้แต่พวกท่านไปได้หรือเจ้าคะ” อวิ๋นลั่วเฟิงเม้มปาก “ถ้าข้าไป อย่างน้อยข้าก็ปกป้องตัวเองได้ ข้ายังมีอวิ๋นเซียวปกป้องข้าอีกแรงด้วย”

ผู้อาวุโสทุกคนเข้าใจความตั้งใจของอวิ๋นลั่วเฟิง นางกลัวว่าพวกเขาจะไปเผชิญกับอันตรายนั่นจึงเป็นสาเหตุที่นางอาสาไปที่นั่นด้วยตัวเอง

“ไม่มีทาง!” ซวีคงลุกขึ้นยืน “นี่เป็นเรื่องของสำนักศึกษาเมืองประจิม พวกเราจะปล่อยให้เจ้าเอาตัวไปเสี่ยงได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น ถึงพวกเราจะเป็นกลุ่มคนแก่ๆ แต่พวกเราก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์หรอกนะ”

สีหน้าของอวิ๋นลั่วเฟิงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “อย่างแรก ข้าเองก็เป็นศิษย์ของสำนักศึกษาเมืองประจิมเหมือนกันดังนั้นข้าก็มีหน้าที่ช่วยสำนักเหมือนกัน! ข้อสอง จีจิ่วเทียนเป็นสหายของข้าและยังปกป้องข้าหลายครั้ง ข้าไม่สามารถนั่งเฉยๆ และไม่ทำอะไรได้ ข้อสาม…”

นางหยุดก่อนจะพูดต่อ “ข้าเกรงว่าข้าจะไปยั่วโมโหแผ่นดินเทพวิญญาณเข้าแล้ว”

“แผ่นดินเทพวิญญาณงั้นหรือ” ดวงตาของซวีคงฉายแววตื่นตระหนก “เจ้าไปยั่วโมโหแผ่นดินเทพวิญญาณได้อย่างไร”

ด้วยฐานะของพวกเขาทำให้ไม่มีทางที่ผู้อาวุโสเหล่านี้จะไม่รู้เรื่องการมีอยู่ของแผ่นดินเทพวิญญาณ แต่สิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงก็คืออวิ๋นลั่วเฟิงจะไปมีปัญหากับแผ่นดินเทพวิญญาณ

“ตอนนี้พวกท่านเข้าใจว่าเหตุใดข้าต้องไปที่มิตินั้นหรือยังเจ้าคะ ในเมื่อพวกเรากำลังจะกลายเป็นศัตรูกับแผ่นดินเทพวิญญาณ พวกเราก็ต้องพัฒนาความแข็งแกร่งให้มากขึ้น และเราก็ทำอย่างนั้นในแคว้นเจ็ดเมืองไม่ได้ดังนั้นข้าจึงมีแต่ต้องไปที่มิตินั้นเท่านั้น”

เมื่อได้ยินคำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิง ซวีคงก็ถอนหายใจอย่างหมดหนทาง “เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไปเถอะ ก่อนที่เจ้าจะกลับมา ข้าจะดูแลครอบครัวของเจ้าให้เอง”

อวิ๋นลั่วเฟิงแสดงสีหน้าพึงพอใจ “ขอบคุณเจ้าคะ”

ซวีคงหัวเราะเบาๆ “ศิษย์กับอาจารย์ไม่ต้องมีคำขอบคุณหรอก อย่างไรก็เถอะ คนที่ควรขอบคุณควรเป็นพวกเรามากกว่า แต่เดิมคนที่มีหน้าที่ในการตามหาเจ้าสำนักก็คือพวกเราแต่เรากลับลากเจ้ามาเกี่ยวข้องด้วย”

เมื่อเจอกับคำขอโทษของผู้เหล่าผู้อาวุโส อวิ๋นลั่วเฟิงก็ไม่ได้พูดอะไร

มิติที่จีจิ่วเทียนค้นพบเองก็เป็นโอกาสของนางไม่ใช่หรือ

“มิติจะเปิดออกเมื่อไหร่” เสียงทุ้มของอวิ๋นเซียวดึงขึ้น

“สามวัน ให้เวลาพวกเราเตรียมตัวสามวัน”

“เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นอีกสามวันเฟิงเอ๋อร์และข้าจะมาหาพวกท่านอีกที” อวิ๋นเซียวใช้แขนโอบรอบเอวของอวิ๋นลั่วเฟิงและเดินออกไปที่ประตู

“พวกเราต้องกลับไปกล่าวลาก่อนหรือไม่”

“ไม่จำเป็นหรอก” อวิ๋นลั่วเฟิงส่ายหน้า “ตอนที่พวกเราออกมาจากเมืองบูรพา ข้าได้บอกท่านปู่แล้วว่าข้าอาจจะจากไปสักพัก ส่วนเหล่าทัพเหล็กกล้าและเหล่าทัพเพลิงพิโรธ ข้าก็ให้พวกเขาเข้ามาอยู่ในมิติพลังฌานแล้ว ดังนั้นพวกเราไม่จำเป็นต้องกลับไป”

มิติพลังฌานคือมิติที่ติดตัวนางไปทุกที่ และนางก็ตั้งชื่อว่ามิติพลังฌานเพื่อให้ง่ายต่อการพูดถึงเวลานางจำเป็น

ภายในมิติพลังฌาน สมาชิกของทั้งสองเหล่าทัพก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เยี่ยหลิงและชิงเหยียนก็ขึ้นไปถึงขั้นเซียนอาวุโสแล้ว และอีกเพียงก้าวเดียวก็จะกลายเป็นผู้ฝึกฌานขั้นปราชญ์

…………………………

ตอนที่ 1769 สตรีโง่งม (1)

“ที่ทำงานของผู้อาวุโสไม่มีห้องพัก ดังนั้นผู้อาวุโสซวีคงจึงขอให้ข้าพาท่านไปพักที่ห้องฝึกพลังฌานสำหรับศิษย์ในสำนัก”

หูหลีเกาศีรษะและหันไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียว “เจ้าจะไปที่นั่นจริงๆ หรือ”

“ใช่ พวกเราต้องไปที่นั่น”

อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มและดวงตาเรียวของนางก็เป็นประกายอันตราย ใช่แล้ว นางต้องไปที่นั่น

หูหลีส่งยิ้มอย่างขบขันมาให้ “ข้ารู้ว่าข้าห้ามพวกเจ้าไม่ได้ แต่พวกเจ้าต้องกลับมาอย่างปลอดภัยนะ”

ในชีวิตของเขา เขาไม่เคยชื่นชมใครมาก่อนยกเว้นสตรีตรงหน้าเขา! ถึงแม้ว่าเมื่อห้าปีที่แล้วเขาจะมอบชีวิตให้นาง เขาก็ทำด้วยความเต็มใจและไม่เสียดาย

“ไม่ต้องห่วง ข้าให้ความสำคัญกับชีวิตตัวเองมาก ข้าจะไม่ตาย” อวิ๋นลั่วเฟิงขยิบตา จากนั้นก็พูดอย่างเกียจคร้านว่า “ข้าเหนื่อยแล้ว เจ้าไปเถอะ”

หูหลีอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่เขาก็รู้ดีว่าอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวเหนื่อยจากการเดินทางมาอย่างยาวนาน ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าและเดินกลับไปห้องผู้อาวุโส …

เวลาเดียวกัน ภายในห้องฝึกพลังฌานสำหรับศิษย์ระดับปฐพีของสำนักศึกษาเมืองประจิม

จู่ๆ โอวหลานก็ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้แล้วทำหน้าบึ้ง “เจ้าหมายความว่า ศิษย์ใหม่ทั้งสองคนนั้นรู้จักผู้อาวุโสหูหลีงั้นหรือ”

นางไม่รู้ชื่อของอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวดังนั้นนางจึงเรียกพวกเขาว่าศิษย์ใหม่แทน

“ศิษย์พี่หญิงโอวหลาน ข้าเห็นผู้อาวุโสหูหลีพาพวกเขาไปที่ห้องฝึกพลังฌานเจ้าค่ะ และก่อนหน้านั่นพวกเขาก็พึ่งออกมาจากห้องทำงานของผู้อาวุโสเจ้าค่ะ ถ้าข้าเดาไม่ผิด พวกเขาต้องไปที่นั่นเพื่อตามหาผู้อาวุโสหูหลีแน่นอนเจ้าค่ะ”

เด็กสาวคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าโอวหลานและพูดกับนางอย่างประจบประแจง “เท่าที่ข้าเห็น ศิษย์พี่หญิงโอวหลานดีกว่าสตรีผู้นั้นมากเลยเจ้าค่ะ และพี่ชายของท่านก็เป็นอัจฉริยะของศิษย์ระดับสวรรค์และแน่นอนว่าต้องยอดเยี่ยมกว่าหูหลี ภายในหนึ่งถึงสองปีเขาเองก็จะกลายเป็นผู้อาวุโสของสำนักเหมือนกัน และจากนั้นสถานะของเขาก็จะอยู่สูงกว่าหูหลีแน่นอน”

โอวหลานครุ่นคิด “ถึงแม้ว่าพี่ชายของข้าจะแข็งแกร่งมากและมีอนาคตที่สดใส แต่หูหลีก็ยังเป็นผู้อาวุโสของสำนักศึกษา ถึงอย่างไรข้าก็ต้องให้ความเคารพเขา”

“ศิษย์พี่หญิง ข้ามีวิธีเจ้าค่ะ…” เด็กสาวกลอกตา “ในเมื่อผู้อาวุโสหูหลีรู้จักสตรีผู้นี้ พวกเราก็สามารถแพร่ข่าวลือออกไปได้ว่าสตรีผู้นั้นเป็นภรรยาลับๆ ของหูหลีก่อนที่นางจะเข้ามาในสำนัก นางคบชู้กับหูหลีตอนที่สามีของนางไม่อยู่ จากนั้นสามีนางก็จะสงสัยนางและชื่อเสียงของหูหลีก็จะถูกทำลาย”

ดวงตาของโอหลานสว่างวาบ ตอนแรกนางตั้งใจจะใช้อำนาจกดขี่ศิษย์ใหม่ทั้งสองแต่ว่านางก็พบว่าพวกเขารู้จักหูหลีดังนั้นนางก็ต้องหาวิธีอื่น

“หูหลีไม่ใช่พวกยอมคน ถ้าเขารู้ล่ะก็…”

“ศิษย์พี่หญิงโอวหลาน พวกเราก็ใส่ร้ายนังสารเลวจางเซี่ยว่าเป็นคนทำสิเจ้าค่ะ! ถึงแม้ว่าเขาจะรู้แต่ปัญหาก็จะไม่ตกมาใส่พวกเรา”

“ดี!” ดวงตาของโอวหลานเป็นประกายและนางก็ยิ้มอย่างเงียบๆ “เซี่ยหลิง ข้าจะยกเรื่องนี้ให้เจ้าจัดการ ถ้าเจ้าทำสำเร็จ ข้าจะพูดชมเชยเจ้าต่อหน้าท่านพี่ ไม่แน่เขาอาจจะชอบเจ้าก็ได้”

เด็กผู้หญิงที่ชื่อเซี่ยหลิงยิ้มอย่างเอียงอายด้วยดวงตาเป็นประกาย “ศิษย์พี่หญิงโอวหลาน ท่านเชื่อมือข้าได้เลยเจ้าค่ะ” พูดจบเซี่ยหลิงก็ก้มคำนับโอวหลานแล้วเดินออกไป

โอวหลานมองร่างที่ค่อยๆ หายไปแล้วยิ้มอย่างเหยียดหยามและใบหน้าก็เต็มไปด้วยความดูถูก “ช่างเป็นสตรีโง่งมอะไรขนาดนี้ อะไรที่ทำให้นางคิดว่านางคู่ควรพี่ชายข้า มีแค่สตรีที่ทรงพลังที่สุดในโลกเท่านั้นที่เหมาะสมกับพี่ชายข้า!”