บทที่ 1051 จะโกงก็ให้มันเนียนๆ หน่อย!

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

“ถ้าตั้งชื่อไม่เป็นก็ไม่ต้องสะเออะตั้ง! แกทำอะไรลงไปกับร่างดวงจิตของฉัน!”

เห็นชัดว่า “เด็กผู้หญิง” รู้สึกเหมือนถูกเหยียดหยามอย่างแรง…แต่ในอีกด้าน การปรากฏตัวกะทันหันของตุ๊กตาลม ก็ทำให้มันลนลานด้วยเช่นกัน

“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง…ถึงแม้ร่างดวงจิตจะถูกเขากำจัดไปแล้ว แต่เขาก็ไม่น่าจะสร้างร่างดวงจิตขึ้นมาใหม่ได้ในเวลาสั้นๆ อย่างนี้ไม่ใช่หรอ? และในฐานะมนุษย์ที่มีสภาพจิตใจปกติ เขาทำให้ร่างดวงจิตกับร่างจริงคงอยู่พร้อมกันได้ยังไง?…หรือว่า ตั้งแต่ที่กลืนกินร่างดวงจิตของฉัน เขาไม่คิดจะย่อยสลายพลังของฉันอยู่แล้ว?! ความจริงแล้วมันถูกเขาดัดแปลงภายใน แล้วก็คายออกมาอีกครั้งสินะ…”

“คายบ้านแม่แกสิ! แกนั่นแหละพูดซะดวงแสงแห่งจิตของคนอื่นเขาเสียหายหมด!” หลิงม่อไม่พอใจ

ในโลกแห่งดวงจิตของเจ้าลิงผอม “เด็กผู้หญิง” เป็นเหมือนหนอนปรสิตที่ซ่อนตัวอยู่ในนี้ ดังนั้นสำหรับหลิงม่อที่อยู่ที่นี่เหมือนกัน การรำพึงรำพันกับตัวเองของมันจึงไม่ต่างจากกำลังกระซิบข้างหูเขาเลย…

“รู้อยู่ว่าฉันต้องได้ยินอยู่แล้ว ยังจะพูดออกมาอีก!”

แต่จะว่าไปแล้ว หลิงม่อเองก็ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเงามายานี้เกิดขึ้นได้ยังไง…

คงเป็นเพราะในระหว่างที่หลับไปนาน ดวงแสงแห่งจิตของเขาได้เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง…

ตอนนี้พอนึกย้อนไป ตอนที่ตัวเขาเกิดเรื่อง สิ่งที่เขามองเห็นคือปลายประสาทในร่างกายของคนอื่นนี่นา…ทำไมพอตื่นมา ปลายประสาทพวกนี้ถึงได้มาอยู่ในตัวเงามายาได้ล่ะ?

ทว่าขณะที่เงามายาตัวนั้นปรากฏ หลิงม่อรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน “ทัศนะสายตา” ของเขา เหมือนจะกว้างขึ้นทันที…สิ่งที่ร่างจริงมองเห็นยังคงเป็นภาพมายาที่โลกแห่งดวงจิตสร้างขึ้น แต่จากมุมมองของเงามายา กลับกลายเป็นภาพที่พลังงานทางจิตมากมายรวมตัวกันอยู่…

พลังงานพวกนี้มีทั้งมากมีทั้งน้อย ความถี่ของคลื่นพลังก็ต่างกัน ทว่าพลังงานกลุ่มที่โดดเด่นสะดุดตามากที่สุด ก็คือเจ้าลิงผอมที่กำลังจะสลายหายไป แต่กลุ่มพลังงานของ “เด็กผู้หญิง” ที่ส่งเสียงดังมาจากทั่วทิศ กลับมองไม่เห็นแม้แต่เงา…

“เด็กผู้หญิง” พูดเสียงหงุดหงิด “จิ๊…ได้ยินด้วยหรอ…”

“เหลวไหล! แล้วนี่แกฟังที่คนอื่นเขาพูดบ้างไหมเนี่ย! ตอนที่แยกร่างออกมาลืมเอาสมองมาด้วยหรือไง?” หลิงม่อพูดอย่างสุดทน

ทว่าขณะเดียวกับที่พูด เงามายาด้านหลังเขาก็ลุกขึ้นยืนเรียบร้อยแล้ว

นิ้วมือทั้งสิบของหลิงม่อก็ยกขึ้นด้วย ซอกนิ้วทั้งสิบของเขาเองก็มีเส้นสีแดงสิบเส้นเพิ่มขึ้นมาด้วยเหมือนกัน โดยที่ปลายสายอีกด้านเชื่อมติดกับข้อต่อต่างๆ บนร่างกายของเงามายาเอาไว้

ความรู้สึกที่เป็นหนึ่งเดียว และเคลื่อนไหวได้ดั่งใจอย่างนี้ ตั้งแต่มีพลังควบคุมหุ่น หลิงม่อไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนเลย สำหรับเขา เกรงว่าเงามายาตัวนี้ต่างหากที่เป็นหุ่นตัวแรกของเขาจริงๆ…ไม่ใช่หุ่นซอมบี้ แต่เป็นหุ่นที่ถูกสร้างขึ้นด้วยพลังงานทางจิต และเชื่อมต่อกับเขาอย่างแนบแน่น…

“ลุยเลย เสี่ยวเฮย!” หลิงม่อฮึกเหิมสุดขีด พลันลืมตัวตะโกนออกไป

“ก็บอกว่าอย่าเรียกเสี่ยวเฮยไงเล่า! มนุษย์มีหลักคุณธรรมห้ามลบหลู่สังขารที่เหลืออยู่ของผู้อื่นไม่ใช่หรอ!” “เด็กผู้หญิง” คัดค้านอย่างไม่พอใจ

เมื่อเธอตวาดเสียงดัง โลกแห่งดวงจิตพลันสะท้านไปทั้งใบ

มีเลือดไหลออกจากผนังเป็นสายๆ และเจ้าลิงผอมที่เดิมทีใกล้จะสลายหายไปพลันขมวดคิ้ว และครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวด

เห็นดชัดว่า “เด็กผู้หญิง” นั่นกำลังสะกดจิตเขาอีกครั้ง ตอนนี้เจ้าลิงผอมไม่ต่างจากกำลังนอนฝันร้าย เพียงแต่สิ่งที่ต่างจากฝันร้ายทั่วไป คือฝันร้ายครั้งนี้สามารถฆ่าคนได้ สามารถฆ่าได้ทั้งหลิงม่อที่ถูกลากเข้ามา และสามารถทำให้เจ้าลิงผอมซึ่งเป็นเจ้าของความฝันครั้งนี้กลายเป็นสังขารว่างเปล่าที่ไร้ซึ่งสติปัญญา

ความจริงตั้งแต่ที่หลิงม่อลืมตาฟื้นมา เจ้าลิงผอมก็ได้เข้าสู่ฝันร้ายครั้งนี้ไปแล้ว…

“ถ้าคิดว่าหาได้ แกก็ลองหาดู…แกในตอนนี้ก็เป็นแค่ร่างดวงจิตเหมือนกัน การโจมตีจากพลังงานทางจิตพวกนี้ก็สามารถทำให้แกบาดเจ็บได้จริงๆ หึหึหึ จะทำยังไงดีล่ะ? แกจะยอมฝืนต่อไป หรือว่าทำลายโลกเล็กๆ ใบนี้ซะ? ดูจากระดับความแกร่งพลังจิตของผู้ชายคคนนี้ อย่างมากเขาก็ทำได้แค่สร้างอาคารเล็กๆ แบบนี้เท่านั้นแหละ การทำลายมัน สำหรับแกคงเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วยเข้าปากอีกไม่ใช่หรอ? ถ้าฉันเป็นแก ฉันคงทำลายเขาไปพร้อมกับฉันแล้วล่ะ…เป็นความผิดเขาที่อ่อนแอเกินไป เป็นความผิดเขาที่ยอมให้ฉันเข้ามาซ่อนตัวในนี้…หรือไม่จริง? ส่วนเรื่องที่จะตามหาฉัน…ฉันไม่มีทางเปิดโอกาสให้แกแน่นอน” เสียงหัวเราะของ “เด็กผู้หญิง” ดังลั่นจากทั่วทิศ มันจงใจพูดเสียงเบา น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยการสะกดจิตชวนหลงเชื่อ

“แกหุบปากไปเลย! ตอนแรกฉันก็คิดว่าแกเป็นพวกบ้าแต่งหญิงกับเฒ่าหัวงูเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าจะชอบเล่นสกปรกแบบนี้ด้วย เป็นถึงร่างแม่แต่กลับซ่อนตัวอยู่ในโลกแห่งดวงจิตของมนุษย์ ไม่รู้สึกขายหน้าในฐานะสัตว์ประหลาดบ้างหรือไง?” หลิงม่อพูดจาดูถูกเสียดสี

ตอนนี้เงามายาด้านหลังเขาพองตัวเต็มที่แล้ว และกำลังเดินไปข้างตามการควบคุมของหลิงม่อ

“คิกๆๆๆ…อย่าพูดอย่างนี้สิ…ลองคิดดูดีๆ แกจะบอกว่าตัวเองไม่มีความปรารถนาอยากฆ่าคนอื่นเลยงั้นหรอ? แล้วก็ถ้าจะพูดถึงเรื่องสัตว์ประหลาด…ในร่างกายของแก ก็มีเมล็ดพันธุ์ของสัตว์ประหลาดอยู่เหมือนกันไม่ใช่หรือไง? ฉันถึงได้บอกไง ว่าแกไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา…” “เด็กผู้หญิง” ยังคงพูดต่อไป

เดิมทีหลิงม่อยังอยากแสยะยิ้มเย็นชา แต่พอได้ยินสองประโยคสุดท้ายเข้า เขาก็ชะงักไปเล็กน้อย “แกพูดอะไรของแก?”

เขารีบนึกถึงสิ่งที่อยู่ในร่างกายของตัวเองทันที…มันคงจะเป็นปรสิตสินะ…นับตั้งแต่ถูกกดข่มไว้ มันก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรมานานแล้ว

“หื้ม? จะบอกว่าแกไม่รู้งั้นหรอ? มันเป็นเมล็ดพันธุ์ที่กำลังรอเวลางอกเงยเชียวนะ…” พูดถึงตรงนี้ อยู่ๆ “เด็กผู้หญิง” กลับตะโกนเสียงแหลมเสียดแทงแก้วหู “มีจุดอ่อน! ไปตายซะเถอะ! เจ้ามนุษย์!”

ผนังที่กำลังมีเลือดไหลออกมาพลันบิดเบี้ยวเปลี่ยนรูป และเจ้าลิงผอมก็ดิ้นรรนขัดขืนหนักกว่าเดิม เขาค่อยๆ ลืมตา ในมือพลันปรากฏขวานที่เปื้อนเลือดทั้งด้ามขึ้นมา จากนั้นก็เงยหน้ามองหลิงม่อช้าๆ แต่ปากกลับตะโกนอย่างหวาดกลัวว่า “อย่าเข้ามา…แกอย่าเข้ามานะ…”

“เชี่ยเอ้ย!”

หลิงม่อสบถด่าอย่างอดไม่ได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้ในสายตาของเจ้าลิงผอมเขากลายเป็นตัวอะไรไปแล้ว แต่ดูออกว่า เจ้าลิงผอมใกล้สติแตกจนสามารถเข้ามาสู้สุดตัวกับเขาได้ทุกเมื่อ…

ในขณะที่เขาเพิ่งจะคิดอย่างนั้น เจ้าลิงผอมพลันยกขวานขึ้น ลั่นร้องเสียงดัง “อ๊ากกก ฉัน…ฉันจะสู้ตาย! ไปตายซะเถอะ!”

“คิกๆๆๆๆๆๆ…” เสียงหัวเราะของ “เด็กผู้หญิง” ดังขึ้นอีกครั้ง

“ฉิบหาย…”

พอหลิงม่อคิดได้ว่า “เด็กผู้หญิง” กำลังดูพวกเขาสู้กันเองอย่างสนุกสนาน ไฟโทสะก็ลุกท่วมทันที เขาก้าวเท้าหมายจะถอยหลัง ทว่าส้นเท้ากลับไปสะดุดเข้ากับบางสิ่ง ทำให้หงายหลังล้มตึงไปทั้งตัว ขณะเดียวกัน เจ้าลิงผอมกระโจนเข้ามาตรงหน้าเขา ง้างขวานเปื้อนเลือดในมือขึ้นเหนือศีรษะ ทำท่าจะฟาดฟันลงมาเต็มแรง…

“เจ้าลิงผอม นี่ขนาดจะฆ่าคนในความฝันนายยังจะขี้โกงอีกหรอ! ในทางเดินอาคารแบบนี้จะมีก้อนหินอยู่ได้ยังไงกัน! จะโกงก็ให้มันเนียนๆ หน่อยไม่ได้หรอ!” หลิงม่อตะโกนอย่างไม่สบอารมณ์

————————————-