“ถ้าเจ้าเปรียบเทียบเทคนิคระดับโบราณกับระดับเทพ ความแตกต่างก็เหมือนกับสวรรค์และโลก หรือความเป็นอมตะและมนุษย์ มันมากมายจนแทบหาที่เปรียบไม่ได้” มังกรกล่าวกับหยวน
“อย่างไรก็ตามมันจะยากกว่ามากในการฝึกฝนและทำให้เชี่ยวชาญมากกว่าเทคนิคขั้นเทพ…”
ทันใดนั้นมังกรก็หยุดพูดไปครึ่งทางในประโยคและมองไปที่หยวนด้วยสายตาแปลก ๆ จากนั้นมันก็พูดต่ออีกสักครู่
“ถ้ารู้ถึงพรสวรรค์ของเจ้ามันก็คงไม่ต่างอะไรกับเทคนิคขั้นเทพและเจ้าจะเชี่ยวชาญด้วยเวลาอันรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ “
“อย่างไรก็ตามเจ้าสามารถทำได้เหนือความคาดหมายของข้า เจ้าขยายมุมมองของข้าด้วยพรสวรรค์ด้านความเข้าใจของเจ้า และยังชนะพนันกับผู้ยิ่งใหญ่คนนี้ ดังนั้นตามที่สัญญาไว้กับเจ้าตอนนี้ข้าจะมอบรางวัลพิเศษให้กับเจ้า”
มังกรยังคงปิดตาของมันเป็นเวลาหนึ่งนาที
เมื่อมังกรลืมตาขึ้นมาอีกครั้งลำแสงสีทองก็พุ่งออกมาจากดวงตาของมันและเจาะตรงไปที่หน้าผากของหยวน
“โอ้ว!”
หลังจากดูมังกรทำลายดาวเคราะห์ด้วยการจ้องมองหลายพันครั้งหยวนตอบสนองต่อลำแสงสีทองอย่างเป็นธรรมชาติโดยการเขย่าร่างของเขาด้วยท่าทางตกใจ แม้จะรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นรัว อย่างไรก็ตามเมื่อเขาตระหนักว่าร่างกายของเขาไม่ได้ระเบิดเหมือนดวงดาวเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ไม่กี่อึดใจต่อมาเมื่อลำแสงสีทองหายไปการแจ้งเตือนอีกครั้งก็ปรากฏต่อหน้าหยวน
<คุณได้รับตราประทับแห่งการยอมรับของผู้ยิ่งใหญ่>
“ตราประทับแห่งการยอมรับงั้นหรอ…?” หยวนพึมพำรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหลังจากได้รับตราประทับแห่งการยอมรับ
“ตราประทับอันนี้สามารถใช้ทำอะไรได้” หยวนถามมังกรในภายหลัง
“ด้วยตราประทับแห่งการยอมรับของข้า เจ้าจะมีโอกาสได้รับมรดกของข้า” มังกรพูดด้วยน้ำเสียงสงบ
“มรดก…?” หยวนเลิกคิ้ว มันเหมือนกับมรดกของเสี่ยวฮัวหรือเปล่า?
มังกรยังคงพูดต่อไปอีกว่า
“ไปที่วิหารมังกรและค้นหารูปปั้นของ้ขา ถ้าเจ้าใช้การจ้องมองของมังกรบนรูปปั้น มันจะเปิดใช้งานรูปแบบที่ซ่อนอยู่ซึ่งจะต้องใช้ตราประทับแห่งการยอมรับเพื่อเปิดใช้งานอย่างเต็มที่ ตามมา…เจ้าจะต้องไปที่นั่น และคิดออกด้วยตัวเอง”
“ถ้าเจ้าจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้นและได้มาซึ่งมรดกของข้า จงไปพบตัวจริงของข้าที่อยู่ที่ไหนสักแห่งในสวรรค์ชั้นบน และข้าจะมอบสมบัติสองสามชิ้นให้เจ้าซึ่งจะทำให้ผู้มีพลังอมตะถึงกับน้ำลายไหลด้วยความอิจฉา อย่างไรก็ตามเนื่องจากข้าเป็นเพียงภาพลวงตาในสถานที่แห่งนี้ ตัวจริงข้าจะจำเจ้าไม่ได้เหมือนกับว่าเราไม่เคยพบมาก่อน แต่ตราบใดที่เจ้ามีตราประทับแห่งการยอมรับนี้แล้ว และได้มรดกทุกอย่างไปก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดี “
“เจ้ามีคำถามไหมมนุษย์…เจ้าชื่ออะไร เจ้าได้รับความเคารพจากข้า ดังนั้นข้าจะเรียกเจ้าในนามของเจ้า” ทันใดนั้นมังกรก็พูดกับเขา
“หยวน ข้าชื่อหยวน” เขาตอบ
“แล้วเจ้ามีคำถามอะไรกับข้าไหมหยวน”
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งหยวนก็ถามว่า
“ข้าเคยได้ยินชื่อของวิหารมังกรมาก่อน แต่ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วคืออะไร ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมว่าวิหารมังกรเป็นสถานที่แบบไหน?”
มังกรผงกศีรษะใหญ่ของมันก่อนจะพูด
“วิหารมังกรเป็นการทดลองที่สร้างขึ้นโดยข้า…ตัวจริงของข้าเพื่อท้าทายเหล่าอัจฉริยะในสวรรค์ชั้นล่าง โดยหวังว่าจะหาคนที่สามารถสืบทอดมรดกของข้าได้ นอกจากนี้ยังมีสมบัติบางอย่างที่สามารถหาได้จากวิหารมังกรเท่านั้น ตัวอย่างเช่น แผ่นหินแห่งความเข้าใจเป็นสมบัติที่หลงเฉินพบในวิหารมังกรจากการท้าทาย “
“แน่นอนว่าสมบัติในวิหารมังกรนั้นไร้ค่า เมื่อเทียบกับสมบัติที่แท้จริง นั่นคือมรดกของข้า หากพวกเขาสามารถผ่านความท้าทายทั้งหมดและได้รับมรดก แล้วพบข้าในสวรรค์ชั้นบน ข้าจะมอบความมั่งคั่งที่เหนือจินตนาการให้กับพวกเขา และสมบัติล้ำค่าที่แม้แต่ผู้เป็นอมตะและพระเจ้าก็ยังปรารถนา”
“อย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถหามรดกเจอได้จนถึงทุกวันนี้ บางทีเจ้า หยวนอาจจะกลายเป็นคนแรกที่ได้รับมรดกของข้าไป”
หยวนพยักหน้าและพูดว่า
“ข้าจะพยายาม”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งมังกรก็พูดอีกครั้ง
“ร่างกายของเจ้าสามารถทนได้อีกสองสามสัปดาห์ในพื้นที่นี้ เจ้าต้องการเรียนเทคนิคต่อไปหรือไม่?”
“ได้ ทำอย่างนี้ต่อไปจนกว่าข้าจะต้องออกจากระบบเพื่อทานอาหารเย็น” หยวนกล่าว
“อาหารเย็น…?” มังกรมองหยวนด้วยสายตางงงวย
ในเวลาต่อมาหยวนกลับไปดูมังกรที่ลบล้างดวงดาวด้วยการจ้องมองของมังกร ทำให้เขามีความเข้าใจในเทคนิคมากขึ้น
ในขณะเดียวกันภายในห้องผู้ชมผู้อาวุโสของนิกายกำลังสนทนากันเล็กน้อย
“แผ่นหินแห่งความเข้าใจเปล่งประกายแสงสีทองซึ่งหมายความว่าเขามีความเข้าใจในเทคนิคอย่างน้อย 90 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามเนื่องจากเราไม่เคยเห็นใครบรรลุ 100 เปอร์เซ็นต์เราจึงไม่สามารถบอกได้ว่าเขาเข้าใจเทคนิค100 เปอร์เซ็นต์จริงหรือไม่”
“สิ่งเดียวที่เราทำได้คือรอดูผลลัพธ์ บางทีสีอาจเปลี่ยนไปอีกครั้ง หรืออาจมีบางอย่างที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เราเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนานเท่าที่เราต้องการ แต่หากไม่มีผลลัพธ์เราจะไม่มีทางรู้จริงๆ ” หลงอี้จุนฃล่าวกับพวกเขา
ผู้อาวุโสของนิกายพยักหน้าและพวกเขากลับไปจ้องที่แผ่นหินเพื่อดูการเปลี่ยนแปลง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วสำหรับทุกคน รวมทั้งหยวนผู้ซึ่งหมกมุ่นอยู่กับการเฝ้าดูมังกรลบล้างดวงดาวจนเขาลืมเรื่องการไหลของเวลา
ในเวลาต่อมาในโลกแห่งความเป็นจริงหยูรู่ก็กลับจากโรงเรียน และตรงไปที่ห้องของหยวนด้วยความเร่งรีบ ในขณะที่ความสำเร็จใหม่ของผู้เล่นหยวนเป็นที่พูดถึงแม้กระทั่งในโรงเรียนของเธอเอง!
อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเข้าไปในห้องของเขา และหยวนไม่ทักทายเธอ เธอก็หยุดคิดว่าตอนนี้พี่ชายของเธอยังไม่ออกมาจากเกมหรือเปล่า
‘หื้ม? ปกติพี่ชายจะออกจากเกม และรอฉันก่อนที่ฉันจะกลับด้วยซ้ำ เขายังคงทำการทดสอบเข้าเป็นศิษย์อยู่หรอ? วันนี้เขาได้เรียนรู้ทักษะระดับโบราณ ดังนั้นเขาอาจจะยังคงยุ่งอยู่ในตอนนี้…ฉันไม่ควรรบกวนเขาแม้ว่าเขาจะพลาดอาหารเย็นในคืนนี้ก็ตาม… ‘
ด้วยความกลัวว่าเธออาจจะทำลายอย่างสิ่งบางอย่างที่ให้กับหยวนโดยไม่ได้ตั้งใจ หยูรู่จึงตัดสินใจทิ้งเขาไว้คนเดียว จนกว่าเขาจะตัดสินใจออกจากเกม และเธอก็ออกจาห้องไปทำอย่างอื่นรอหยวน