บทที่ 65 วิธีการ

รักหวานอมเปรี้ยว

เมื่อฟังจบ เปปเปอร์ถึงกับขมวดคิ้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกขยะแขยง กับสิ่งที่เยี่ยมบุญทำ

เพราะซื้อที่ดินไม่ได้ เลยใช้วิธีการนี้กดดัน เป็นวิธีการที่ต่ำมาก

จู่ๆ มือถือก็สั่นขึ้นมา

เปปเปอร์เลิกคิด และก้มมองหน้าจอ มายมิ้นท์ส่งข้อความมาอีก : นายว่าตอนนี้ ฉันควรทำยังไง

ประโยคที่มาพร้อมกับสติ๊กเกอร์คนทำแก้มพอง เพราะโมโห น่ารักจริงๆ

เมื่อเห็นสติ๊กเกอร์ ไม่รู้ทำไมในหัวของเปปเปอร์ มีหน้าของมายมิ้นท์มาแทนสติ๊กเกอร์นั้น

อาจจะเป็นเพราะตอนนี้ เธอคงมีท่าทางแบบนี้

แต่ไม่นาน เปปเปอร์ก็รู้สึกว่าตัวเอง คิดเรื่องที่ไม่ควรคิด สีหน้าของเขาจริงจังขึ้นมา

ไม่ว่าตอนนี้มายมิ้นท์จะเป็นยังไง มันก็ไม่เกี่ยวกับเขา!

เขาจะคิดเรื่องนี้ไปทำไมกัน

Z-H : ผมไม่รู้

มายมิ้นท์อ่านข้อความที่ตอบกลับมา เธอรู้สึกผิดหวังเล็กๆ

ครั้งก่อน เขาช่วยแนะนำเธอ จนสามารถเข้าซื้อกิจการบริษัทดีย์คูเปอร์ ได้อย่างราบรื่น ครั้งนี้เธอไม่รู้ว่าตัวเองคิดยังไง สัญชาตญาณทำให้เธอคิดว่าสามารถขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่ายได้ จึงอยากลองถามเขาว่ามีวิธีการอะไรไหม

แต่ตอนนี้ จู่ๆ เธอก็ตระหนักได้ว่า ความคิดของเธอไม่ถูกต้อง

“มายมิ้นท์ เธอยิ่งอยู่ยิ่งไม่ได้เรื่องขึ้นเรื่อยๆ เลยนะ!”

มายมิ้นท์ตบหน้าตัวเอง จากนั้นจึงหยิบมือถือขึ้นมาพิมพ์ข้อความอีกครั้ง : ขอโทษ ฉันแค่ถามไปอย่างนั้น อย่าไปใส่ใจ ฉันกับเพื่อนจะหาวิธีเอง

เพื่อนเหรอ

เปปเปอร์หรี่ตาลง : แฟนเหรอ

มายมิ้นท์มองไปที่ดาดฟ้า : ใช่สิ

เขาเป็นเพื่อนของทามทอย รู้ว่าเธอมีแฟนก็ไม่แปลก

แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ ลาเต้เป็นแค่แฟนปลอมๆ เท่านั้น

เมื่อเห็นว่ามายมิ้นท์ยอมรับ เปปเปอร์ก็หงุดหงิดใจขึ้นมาดื้อๆ เขาดึงเนกไทแล้วพิมพ์ข้อความ : จะสร้างโรงงานให้สำเร็จ ไม่ใช่เรื่องยาก!

“หา?” มายมิ้นท์ตกใจจนลุกขึ้นยืน

เขาเป็นอะไร เมื่อกี้บอกว่าไม่มีวิธีไม่ใช่เหรอ

ทำไมตอนนี้……

มายมิ้นท์ไม่ได้คิดอะไรมากมาย เธอรีบกดส่งข้อความเสียงไปถาม “มีวิธีอะไร”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงร้อนใจและต้องการที่พึ่งพา จู่ๆ คิ้วของเปปเปอร์ที่ขมวดเป็นปม ก็คลายออกทันที ความหงุดหงิดใจก็หายไปเยอะ

Z-H : ช่วงนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังวางแผนสร้างพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรม เพื่อโชว์วัตถุโบราณที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลก เขาเลือกสถานที่ที่เมืองเดอะซี แต่ยังไม่สามารถหาพื้นที่ที่เหมาะสมได้ เธอจะสร้างโรงงาน ใช้พื้นที่ใหญ่ขนาดนั้นไม่หมดหรอก สามารถแบ่งพื้นที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้

เมื่อมายมิ้นท์เห็นคำแนะนำ เธอก็เข้าใจทันที เธอยิ้มออกมา “ใช่สิ ฉันสามารถแบ่งพื้นที่ได้ เลี่ยงค่าเช่าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสัก 2-3 ปี จากนั้นก็สามารถใช้น้ำใจที่ฉันมีให้ ขอทีมวิศวกรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาสร้างโรงงาน แค่นี้ก็ได้แล้ว ไม่ใช่เหรอ!”

นี่ก็แสดงว่า ประเทศช่วยสร้างโรงงานของเธอ ถึงเยี่ยมบุญจะเข้ามาวุ่นวาย ก็ต้องได้รับความยินยอมจากประเทศก่อน

ขณะเดียวกัน เธอยังสามารถขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แนะนำโรงงานเครื่องจักรให้เธอได้ด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

รอยยิ้มบนใบหน้าของมายมิ้นท์กว้างขึ้นเรื่อยๆ เสียงของเธอสดใส เพราะดีใจ “ขอบใจนายมาก นายช่วยฉันอีกครั้งแล้ว”

Z-H : ไม่เป็นไร

มายมิ้นท์คิดอยู่ครู่หนึ่ง และถามว่า : “ใช่สิ คุยกับนายมานานแล้ว ยังไม่รู้ว่านายชื่ออะไร จะตอบแทนนายยังไงล่ะ”

ทว่าเมื่อเธอส่งข้อความเสียงกลับไป อีกฝ่ายก็ไม่ตอบกลับมาอีกเลย

มายมิ้นท์เดาว่าอีกฝ่ายคงไม่ตอบแล้ว เธอถอนหายใจ และกดออกจากห้องแชท

ขณะนั้น ลาเต้คุยโทรศัพท์เสร็จ และเดินกลับมาจากดาดฟ้า สีหน้าของเขาดูโมโห “ที่รัก เธอพูดถูก เยี่ยมบุญ ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์คนนั้น โทรไปหาทีมวิศวกรรมกับโรงงานเครื่องจักร ทั่วเมืองเดอะซี ไม่ให้พวกเขาทำงานกับเรา ฉันพูดยังไงก็ไม่ได้ผล น่าโมโหชะมัด!”

มายมิ้นท์เห็นว่าเขาคุยโทรศัพท์จนเสียงแหบ จึงลุกขึ้นไปเทน้ำผึ้งให้เขา “ไม่ต้องโมโห มีวิธีแล้ว”

“วิธีอะไรเหรอ” ลาเต้ถือแก้วน้ำผึ้ง เขาไม่สนใจที่จะดื่มมัน และรีบถามขึ้น

มายมิ้นท์เล่าวิธีการให้ฟัง

ลาเต้ตบเข่าฉาด “วิธีการนี้เด็ดมาก ที่รัก เธอคิดได้ยังไง”

มายมิ้นท์ส่ายหน้า “ฉันไม่ได้คิดเอง เพื่อนฉันคิดให้”

“เพื่อนเหรอ” ลาเต้มองเธออย่างสงสัย “ใช่คนที่ช่วยแนะนำเธอซื้อกิจการบริษัทดีย์คูเปอร์ เมื่อครั้งก่อนหรือเปล่า”

“ใช่” มายมิ้นท์พยักหน้า

ลาเต้วางแก้วน้ำลง “ที่รัก เธอบอกฉันมาตรงๆ คนนั้นเป็นใครกันแน่ เธอกับเขาเป็นอะไรกัน ทำไมเขาต้องช่วยเธอหลายต่อหลายครั้ง”

เมื่อเจอคำถามจากเพื่อนรัก มายมิ้นท์หลุบตาลง ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี

อีกอย่างเรื่องในคืนนั้น ถึงจะเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง เธอก็พูดอะไรไม่ออก

“พอแล้วๆๆ จะถามมากทำไม รีบดื่มสิ ดื่มเสร็จแล้ว เราจะได้ไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง” มายมิ้นท์พูดเปลี่ยนเรื่อง

ลาเต้มองออกว่าเธอไม่อยากบอก จึงไม่บังคับ และพูดว่า “รู้แล้วๆ ไม่ต้องเร่งก็ได้”

หลังจากทั้งสองทะเลาะกันเสร็จ ก็ออกจากเทนเดอร์กรุ๊ป

อีกด้านหนึ่ง ในห้องภายในคลับเฮาส์

ทามทอยร้องเพลงเสร็จ ก็มองเปปเปอร์ที่นั่งอยู่ตรงมุมมืดไกลๆ เขารินไวน์สองแก้ว แล้วเดินเข้าไป

“ทำอะไรน่ะ ตั้งแต่เมื่อกี้จนถึงตอนนี้ นายไม่คุยโทรศัพท์ก็เล่นมือถือ ฉันนัดนายมาผ่อนคลาย ไม่ได้ให้มาทำงาน” ทามทอยพูดพลาง ยื่นแก้วไวน์ให้เปปเปอร์

เปปเปอร์รับแก้วไวน์ เขาจิบไวน์แล้วพูดว่า “ไม่ได้ทำงาน”

“งั้นนายทำอะไร” ทามทอยนั่งลง แล้วชะโงกหน้าไปดูมือถือ เขาอ้าปากค้างด้วยความตกใจ “นี่ภรรยาเก่านายไม่ใช่เหรอ นายคุยกับเธอเหรอ”

ทามทอยมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ

เปปเปอร์สีหน้าราบเรียบ เขาพูดเนิบๆ ว่า “เธอไม่รู้ว่าเป็นฉัน”

“นายจงใจเข้าใกล้เธอ คุยกับเธอ โดยไม่เปิดเผยตัวตนเหรอ” แววตาของทามทอยยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่

เปปเปอร์เอียงหัว แล้วมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ไม่ใช่สักหน่อย!”

“งั้นพวกนายสองคน……”

“พอแล้ว” เปปเปอร์นวดขมับ และพูดตัดบทอย่างหงุดหงิด “ฉันจำได้ว่าลุงของนายทำงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”

“ใช่ ทำไมเหรอ”

“มายมิ้นท์อาจจะไปยื่นเรื่องขอทีมวิศวกรรมที่หน่วยงาน นายให้ลุงของนาย ดำเนินการเรื่องของเธอ” เปปเปอร์ดื่มไวน์

สีหน้าของทามทอยดูประหลาดใจ “เดี๋ยวนะ ครั้งก่อนเรื่องความร่วมมือกับโรงงานทิพย์ฟ้า นายก็ช่วยเธอ ครั้งนี้นายก็ช่วยเธออีก นายคิดอะไรกันแน่ อย่ามาบอกนะ ว่าการที่นายทำแบบนี้ เพราะนายยังอาลัยอาวรณ์ภรรยาเก่าเหรอ”

เปปเปอร์ขมวดคิ้ว เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “นายคิดมากไปแล้ว ฉันทำแบบนี้ เพราะส้มเปรี้ยวทำร้ายเธอจนบาดเจ็บ ฉันแค่ชดใช้แทนส้มเปรี้ยวเท่านั้น”

“จริงเหรอ” ทามทอยมองเขาอย่างซักไซ้

เปปเปอร์เม้มปากอย่างไม่พอใจ “งั้นนายคิดว่าอะไรล่ะ”

“ฉันคิดว่านายคิดอะไรกับเธอไง” ทามทอยพูดเสียงเบา

เมื่อกี้เขาได้ยินที่เยี่ยมบุญโทรมา แล้วก็รู้เรื่องที่ส้มเปรี้ยวทำร้ายมายมิ้นท์ อีกทั้งเพราะส้มเปรี้ยว ทำให้เปปเปอร์ชดใช้ให้มายมิ้นท์อย่างมหาศาลด้วย

ดังนั้นเมื่อชดใช้ไปแล้ว เปปเปอร์ก็ไม่จำเป็นต้องชดใช้ให้มายมิ้นท์อีก แต่เขายังทำเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ามายมิ้นท์ยังอยู่ในใจเขา บวกกับการที่มีส้มเปรี้ยว ดูเหมือนว่าต่อไปจะมีอะไรสนุกๆ ให้ดูแล้วสิ

เมื่อคิดได้ดังนั้น ทามทอยก็หัวเราะอย่างยียวน เขาวางแก้วไวน์ลง “ได้ เดี๋ยวฉันโทรหาลุงให้”

เปปเปอร์ตอบรับ เขาหยิบสูทและลุกขึ้นจากโซฟา “ฉันขอตัวก่อน”

“ยังไม่ดึกเลย” ทามทอยมองแผ่นหลังของเขา

เปปเปอร์เดินต่อไป “ฉันจะไปรับส้มเปรี้ยวออกมาทานข้าว”

ทามทอยได้ยินดังนั้น ก็ไม่รั้งเขาไว้ เขาเอามือถือแนบหู “ฮัลโหล คุณลุง……”