บทที่ 373 เอามาเป็นลูกสะใภ้ของพ่อได้หรือเปล่า

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 373 เอามาเป็นลูกสะใภ้ของพ่อได้หรือเปล่า
ในคืนดึกจ้าวเฟิงได้รับโทรศัพท์จากจ้าวข่าย ว่ามีคนนั้นได้ค่อยๆแอบย่องเข้ามาในคฤหาสน์ของจ้าวข่าย

ไม่คาดคิดว่าจ้าวเทียนจีนั้นก็อยู่ด้วย 

“ขอคารวะลุงสาม พี่ข่าย”จ้าวเฟิงนั้นน่าเกรงขาม ก่อนที่จะรีบเอ่ย

จ้าวเทียนจีมองไปที่จ้าวเฟิงอย่างนาน ก่อนที่จะเอ่ยยิ้มอย่างเย็นชา“เมื่อก่อน ข้านั้นมองเจ้าผิดไปจริงๆสินะ”

“ไม่คิดเลยว่า เจ้านั้นจะสามารถที่จะจัดการซือเหยียนจงได้”

จ้าวเฟิงรีบเอ่ย “ซือเหยียนจงนั้นได้หักหลังตระกูลจ้าว หลายชายเขานั้นให้องครักษ์ที่สามและองครักษ์ที่เก้านั้น ไปจัดการฆ่าเขาสะ เพื่อจัดการภัยร้ายของตระกูล”

“ใช่ไหม?”จ้าวเทียนจีเอ่ยด้วยอย่างเยือกเย็น “จ้าวเฟิง ซือเหยียนจงไม่ได้ถูกเจ้าฆ่าอย่างนั้นหรอกหรอ?”

จ้าวเฟิงเอ่ยด้วยความหวาดกลัว “ลุงสาม ทำไมท่านถึงเอ่ยเช่นนี้ล่ะ?”

“ทำไมข้านั้นจะต้องทำร้ายซือเหยียนจง?”

จ้าวเทียนจีเอ่ยยิ้มด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ เพื่อที่จะล้างแค้นให้กับพ่อแท้ๆของเจ้ายังไงล่ะ”

“พอได้แล้วจ้าวเฟิง อย่ามาเสแสร้งเลย พวกเขานั้นเข้าใจซือเหยียนจง เขานั้นไม่ยอมที่จะหักหลังตระกูลจ้าว หรือพ่อของเจ้าหรอก”

“เพราะว่าเขานั้นกับพ่อของเจ้านั้น เคยได้รบร่วมสู้ชีวิตกันมา”

“เจ้าวางใจเถอะ เรื่องของเจ้า เจ้าข่ายนั้นบอกกับข้าแล้ว”

“ข้านั้นไม่เพียงแต่จะไม่ลงโทษเจ้า อีกทั้งอยากจะเอ่ยว่า เจ้าทำได้ไม่เลวเลยนะ

จ้าวข่ายเอ่ยอย่างตื่นเต้น “จ้าวเฟิง อย่างเกรงกลัวไปเลย!”

“เจ้านั้นวางแผนจัดการซือเหยียนจง พวกเรานั้นอยากที่จะขอบคุณเจ้าต่างหาก !”

“ตอนนี้เจ้าจ้าวเทียนเล่อนั้นก็เหมือนหมาตัวเดียวที่ตกน้ำ!”

จ้าวเฟิงรีบเอ่ยตอบ “ขอบคุณพี่ข่ายมากครับ ขอบคุณลุงสาม!”

“ลุงสาม ผมนั้นคิดมาตลอดว่า ท่านนั้นเหมาที่จะเป็นเจ้าบ้านมากกว่าจ้าวเทียนเล่อ”

“พี่ข่าย นั้นก็เหมาะกว่าที่จะเป็นคนสืบทอดต่อจ้าวซวู่”

จ้าวเทียนจีนั้นด้วยสายตาที่กระหาย ก่อนที่จะเข้าไปจับมือของจ้าวเฟิงแล้วเอ่ย “หลานชายที่รัก มา มานั่งคุยกันก่อน”

“อ่า พูดแล้วพวกเรานั้นเป็นคนบ้านเดียวกันนะ แต่ว่าไม่เคยได้เอ่ยได้คุยกันดีๆมาก่อนเลย”

“จ้าวเฟิง เจ้านั้นต้องวางแผนที่จะช่วยพวกเรานั้นกำจัดจ้าวเทียนเล่อ และจ้าวซวู่ จริงๆแล้วก็เพื่อที่จะช่วยพ่อของเจ้าล้างแค้นใช่ไหม?”

จ้าวเฟิงเปลือกตานั้นกระตุกแรงมาก ก่อนที่จะควบคุมสติของตนเองแล้วเอ่ยกัดฟัน “ใช้ครับ!”

จ้าวเทียนจีมองไปที่จ้าวเฟิง เมื่อพบกับการตอบสนองของจ้าวเฟิง เขานั้นพอใจเป็นอย่างมาก

“แม่ของเจ้านั้นก็เป็นคนที่เก่งกาจฉลาดมาก ตอนแรกที่เข้ามาในบริษัท——”

จ้าวเฟิงกัดฟันเอ่ย“ลุงสาม อย่าพูดไปเลยครับ!”

“ท่านเรียกข้ามาที่นี่ มีเรื่องอะไรหรอครับ?”

 “หากไม่มีล่ะก็ ผมนั้นอยากที่จะกลับไปพักผ่อน”

จ้าวเทียนจีรีบเอ่ยอย่างเร่งรีบ “หลานชายที่รัก ลำบากเจ้าแล้วน่ะ”

“ในตอบนี้เจ้าจ้าวเทียนเล่อนั้นได้สูญเสียห้าเมือง ส่วนองครักษ์ที่เขาไว้ใจที่สุดก็มาเกิดเรื่องขึ้น เจ้าคิดว่า วันประชุมตระกูลพวกนี้พวกเรานั้นจะฟ้องร้องเขาไหมนะ”

จ้าวเฟิงนั้นลังเล ก่อนที่จะเอ่ยตอบ “ลุงสาม ข้าคิดว่าเวลาของท่านตอนนี้ยังไม่เพียงพอนะ”

“จ้าวเทียนเล่อนั้นได้ครอบครองตระกูลมาหลายปี หากฟ้องร้องเขานั้น อาจจะไม่สำเร็จนะ”

“หากกลับกัน เขาท่านนั้นอยากจะใช้เวลานี้บีบบังคับอำนาจมาสักหน่อย กดดันเขา อันนี้อาจจะประนีประนอมแน่นอน”

“เพียงแค่ท่านลุงสาม ในมือมีอำนาจที่มากขึ้นเรื่องๆ แล้วค่อยหาโอกาสจัดการกับจ้าวเทียนเล่อ”

“เมื่อถึงเวลานั้น ตำแหน่งเจ้าบ้าน คงจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมครับ”

“เจ้านั้นพูดถูก ข้านั้นก็คิดเช่นนี้!”

จ้าวเทียนจีเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “หากไปฟ้องร้องตอนนี้ กลับกันจะทำให้บางคนนั้น ยิ่งจะกดดันไปอยู่ทางด้านของจ้าวเทียนเล่อ”

“พวกเรานั้นจะต้องใช้น้ำร้อนในการต้มกบนะ ค่อยๆที่จะกลืนกินจ้าวเทียนเล่อ รอให้ถึงตอนเขานั้นค้นพบ พวกเรานั้นก็ได้กำเอาไว้ในมือไว้หมดแล้ว”

“หลานชายที่รัก หลังจากที่เรื่องสำเร็จลุงสาม นั้นจะต้องขอบคุณเจ้านั้นเป็นอย่างดีแน่ๆ”

“ข่ายเอ๋อร์ เจ้านั้นต่อไปนี้ก็ต้องเรียนรู้กับจ้าวเฟิงเยอะๆนะ!”

วันที่สองจ้าวเทียนเล่อนั้นลังเลเป็นอย่างมาก แต่ก็ได้เปิดประตู เตรียมพร้อมที่จะไปเข้าร่วมประชุมตระกูล

เขาณุ้ดีว่า คนในตระกูลจะต้องไม่ยอมปล่อยเขาไป

 แต่ว่า เขานั้นไม่มีตัวเลือก จำเป็นที่จะต้องไปเผชิญ

“จ้าวเฟิง เจ้ามาทำอะไรกัน?” เมื่อมองเห็นจ้าวเฟิงที่หน้าประตู จ้าวเทียนเล่อนั้นนิ่งครู่หนึ่ง และแอบโกรธ

ในอีกด้าน เขานั้นไม่ได้อารมณ์ดีนัก

นอกจากนี้ ในตอนที่จ้าวเฟิงไม่อยู่นั้น ได้สั่งให้หลู่ซิ่นและเหยียนควน ลงมือโจมตีฆ่าซือเหยียนจง เขานั้นยังรู้สึกแปลกๆ

ถึงแม้กำแพงเหล็กนั้นจะใหญ่เท่าภูเขา ที่แสดงถึงซือเหยียนจงนั้นได้หักหลังทรยศ

แต่ว่าจ้าวเทียนเล่อ เขานั้นรู้สึกถึงเบื้องหลังความทรยศนี้ยังแอบซ่อนอะไรเอาไว้

“ท่านพ่อ ลูกนั้นมาส่งให้พ่อนั้นปลอดภัย!”จ้าวเฟิงรีบเอ่ยด้วยความกลัวพร้อมคุกเข่า

จ้าวเทียนเล่อนั้นก็พยักหน้าไป ก่อนที่จะเอ่ย “ ในการประชุมตระกูลครั้งนี้ เจ้าไม่ต้องเข้าร่วมหรอก”

“เจ้าไปบอกพี่ของเจ้าที ว่าอย่าให้เขามาสายล่ะ”

จ้าวเฟิงเขานั้นเป็นรอยเปื้อนของจ้าวเทียนเล่อ ดังนั้น ในตอนที่เขานั้นได้รับการโจมตีจากตระกูล เขานั้นก็ไม่ได้นึกถึงรอยเปื้อนชิ้นนี้

จ้าวเฟิงนั้นลังเล ก่อนที่จะเอ่ย “ท่านพ่อ ลุกนั้นมีแผน ที่จะสามารถช่วยให้พ่อและจ้าวซวู่นั้นฟื้นคืนกลับมานะ”

“เพียงแค่หากทำเรื่องตามนี้ เอาเมืองหนานเจียง ก็สามารถที่จะอยู่ต่อไปไปได้แล้วครับ”

จ้าวเทียนเล่อขมวดคิ้ว เรื่องประชุมตระกูลที่ใหญ่เช่นนี้ แม้แต่เขานั้นยังทำไม่สำเร็จ เขานั้นไม่เชื่อ ว่าเจ้าลูกชายไร้สาระนี่ จะมีวิธีดีๆอะไร

แต่ว่าเขานั้นลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะเอ่ยนิ่งๆ “เรื่องอะไรล่ะ รีบเอ่ยออกมาสิ”

จ้าวเฟิงรีบลุกขึ้น ก่อนที่จะเอาโทรศัพท์ออกมา แล้วเปิดภาพหนึ่งขึ้น

“ท่านพ่อ พ่อคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

“เอามาเป็นลูกสะใภ้ของพ่อได้หรือเปล่า?”

เมื่อมองไปที่โทรศัพท์ เป็นหญิงสวยงามรูปหนึ่ง ก่อนที่จ้าวเทียนเล่อจะเอ่ยด้วยความโกรธ “จ้าวเฟิง เจ้าหมายความว่าอะไรกัน?”

“หรือว่าเจ้าไม่ทราบ ว่าข้าตอนนี้มีเรื่องใหญ่ที่ต้องทำ ในตอนนี้ เข้าอยากที่จะให้ข้าไปแต่งงานหาภรรยาอีกหรอ?”

“นี่มันบ้าชัดๆ!”

เอ่ยจบแล้ว ก่อนที่จะเดินสะบัดจากไป

จ้าวเฟิงเอ่ยเสียงดัง“พ่อ เธอนั้นชื่อว่าหลิวชิงเหยา เป็นลูกสาวคนเดียวของราชาเป่ยเจียง หลิวเช่อ”

“หลิวเช่อนั้นถูกเทียนฉินฆ่าตาย ตอนนี้ทั้งเมืองของเป่ยเจียง ได้เป็นศัตรูกับฉินเทียนหมด”

“หลิวชิงเหยาได้ประกาศออกเงินรางวัล หาคนที่จะไปฆ่าเทียนฉิน”

“ราชาเป่ยเจียง หลิวเช่อ?”จ้าวเทียนเล่ออดไม่ได้ที่จะหยุดชะงักฝีเท้า

 จ้าวเฟิงเอ่ยด้วยความตื่นเต้น“ใช่แล้วครับ”

“ท่านพ่อ ลูกนั้นอยากให้ท่านเอาหลิวชิงเหยามาเป็นภรรยา ไม่อย่างงั้น คนที่อยากจะแต่งงานกับเธอ ไม่ใช่ผม แต่เป็นพี่ข่าย”

“หลิวชิงเหยากับจ้าวข่าย นั้นเหมาะสมกันแล้ว อีกทั้งหากแต่งกับหลิวชิงเหยา งั้นก็เหมือนได้เมืองเป่ยเจียงมาไว้ในกำมือ”

“เมื่อมีที่พึ่งอาศัยแบบนี้ ในตระกูลนั้น ไม่มีใครหรอกที่จะมาสงสัยและตั้งคำถามในตำแหน่งของพี่ข่ายและท่านนะ”

“อีกทั้งท่านลองคิดดูนะ หากพวกเราได้ร่วมมือกับเป่ยเจียง งั้นอันกั๋วและฉินเทียนยังกล้าที่จะมาสร้างปัญหาหรอ?”

“โจมตีจากทั้งสองฝั่ง พวกเขานั้นจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”

ทันใดนั้นจ้าวเทียนเล่อก็ได้เข้าใจถึงสิ่งดีๆจุดหนึ่ง ก่อนที่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง

เมื่อก่อนที่เหมือนจะร้องไห้ซึมเศร้า เหมือนกับถูกกวาดไป

“เฟิงเอ๋อร์ ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าเป็นลูกที่ดี!”

“เร็วๆเถอะ ไปเรียกพี่ของเจ้ามาสะ!”

เขานั้นก็ได้บอกพ่อบ้านอีก ว่าให้ไปแจ้งคนในตระกูล ว่าการประชุมนั้นเลื่อนออกไปครึ่งชั่วโมง

จ้าวข่ายมาถึงหลังจากนั้น ก็ได้มองเห็นถึงความสวยของหลิวชิงเหยา ทันใดนั้นก็ใจเต้น

ไม่ต้องพูดถึง หากอยากที่จะแต่งงานกับหลิวชิงเหยา ก็เหมือนได้มีเป่ยเจียงทั้งเมือง

“พ่อ ผมอยากจะแต่งงานกับหลิวชิงเหยา!”

“ตอนนี้ผมจะไปขอหมั้นที่เป่ยเจียง!”

จ้าวเทียนเล่อเอ่ยเสียงเบา“เรื่องนี้ ยังไม่ถึงจุดจบก่อน ต้องเก็บเป็นความลับสิ”

“หากคนที่มีเจตนาไม่ดีมารู้เข้า จะมาสร้างปัญหาเอานะ”

“แบบนี้นะจ้าวข่าย งานประชุมตระกูล เจ้าไม่ต้องเข้าร่วมแล้ว ข้าจะบอกทุกคนเอง ว่าข้านั้นลงโทษเจ้า ให้คิดทบทวนอยู่ในห้องตนเอง”

“เจ้านั้นค่อยๆแอบขยับตัว เอาของกำนัลไปเยอะๆ แล้วไปขอหมั้นเองที่เป่ยเจียง!”

“ข้านั้นจะให้เลี่ยวเจี๋ย คอยปกป้องเจ้า”

“จำเอาไว้ หลิวชิงเหยานั้นเหมือนของแปลก ไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธียังไง ก็ต้องให้เธอนั้นยอมแต่งงานกับเจ้าให้ได้”