โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.333 – แส้มิติ

 

นี่มันรูนมิติ?

 

ฉินเฟิงตกใจไม่แพ้กัน

 

มิติสีดำ ปริร้าวขึ้นในอากาศอันบางเบา

 

“จงดับสูญไปเสีย!”

 

“ไม่มีวันซะล่ะ ปลดปล่อนแรงผลัก!”

 

ในมือของฉินเฟิง กำลังภายในกระฉูดออกมาอย่างบ้าคลั่ง

 

กำลังภายในเร่งเร้าทักษะลับกลืนดารา ระเบิดพลังงานมหาศาลขับไล่รูนมิติ บังคับให้มันปิดตัวลง

 

หวือ หวือ!

 

รอยแยกที่กำลังโถมเข้ากลืนฉินเฟิงบังคับหุบลงดังเดิม ทว่ายังคงหลงเหลืออีกสองรอยที่ฉีกออกไป มันกระทบเข้ากับผนังเบื้องหลังฉินเฟิง อำนาจมิติสำแดงผล ถูกกลืนเป็นรอยแหว่งหายวับไป

 

“คู่ต่อสู้ของแกคือฉัน!”

 

ไป๋หลีตะโกนเกรี้ยวกราด การที่ราชินีกิ้งก่าหันหลังให้ตน มันชวนให้รู้สึกว่าศัตรูกำลังย่ำยีศักดิ์ศรีในฐานะจักรพรรดิของเธอ

 

แต่เนื่องจากกล้องวิดีโอเปิดอยู่ ไป๋หลีจึงไม่กล้าใช้อบิลิตี้มิติ อย่างไรก็ตาม อาศัยเพียงพละกำลังในร่างมนุษย์ของเธอ โจมตีออกไปด้วยกรงเล็บ ก็น่าจะพอสามารถกำจัดราชินีกิ้งก่าได้

 

“มอบชีวิตให้ฉัน!”

 

สองแขนละเอียดละออวาดสะบัด ทันใดนั้นปรากฏรูปลักษณ์กรงเล็บสีขาวกว่าสิบสาย ตวัดซ้ายขวาซ้อนทับกันเป็นเส้นแสง สอดประสานกันจนดูเหมือนตาข่ายขนาดยักษ์ ตัดเข้าหาราชินีกิ้งก่าทราย

 

ราชินีกิ้งก่าทรายมิอาจไล่บี้ฉินเฟิง จำต้องหันหน้ากลับมาต้านทานไป๋หลี

 

ฉินเฟิงใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ ย่ำหัวกิ้งก่าชายที่เพิ่งสังหารเมื่อครู่ นำเอาแก่นอบิลิตี้นายพลของมันออกมา

 

“อ๊าาาา!”

 

ราชินีกิ้งก่าทรายร้องลั่น ภายใต้การโจมตีดุดันคลุ้มคลั่งของไป๋หลี ราชินีถูกทุบตีอย่างหนัก เริ่มเกิดรอยบาดลึกตามร่างกาย

 

เวลานี้ฉินเฟิงกระโจนเข้าร่วมด้วยเช่นกัน

 

“ตายซะ!”

 

มีดเปลวเพลิงสับลงเข้าใส่ราชินีกิ้งก่าทราย

 

ราชินีกรีดร้องอย่างน่าสงสาร เกล็ดตามตัวถูกคั่วจนดำไหม้

 

“เจ้านั่นแหละที่จะต้องตาย!!”

 

ราชินีกิ้งก่าคำรามโกรธเกรี้ยว

 

เธอกระทืบเท้าลงอย่างแรง ผืนดินพลันสั่นสะเทือน ตลอดทั้งห้องโถงเริ่มพังทลายลง

 

ตูม!

 

ภายนอกรัง ณ โลกเบื้องบน ท่ามกลางทรายสีเหลืองทอง พื้นที่บางส่วนจู่ๆก็ยุบตัวลงมาโดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าใดๆ หลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น

 

“พลุไฟสงคราม!”

 

แสงไฟจากใบมีดทะยานขึ้นสู่สรวงสวรรค์ ทะลวงออกจากหลุมขนาดใหญ่ท่ามกลางทะเลทราย 

 

จากนั้น ใจกลางหลุมขนาดใหญ่ พลันเกิดการระเบิดเป็นรูโบ๋ โดยมีฉินเฟิงและไป๋หลีกระโจนขึ้นมาจากมัน

 

วูซซซ!

 

ห่างออกไปกว่า 100 เมตร ณ สถานที่บนเนินเขา ร่างๆหนึ่งๆที่กำลังซุ่มซ่อน เงยหน้ามองฉากนี้

 

เป็นเติ้งกง

 

ห่างออกไปกว่า 50 เมตร เป็นหานน่วนที่เพิ่งหลุดพ้นจากอุโมงค์กิ้งก่า เธอกำลังช่วยผู้หญิงที่ถูกลักพา ยื่นมือดึงพวกเธอคลานขึ้นมาทีละคน ทีละคน

 

“เอ๊ะ!? นั่นมันท่านผู้มีพระคุณไม่ใช่หรือ”

 

“เขาเองก็สามารถหนีออกมาได้เหมือนกัน!”

 

“พวกเขาต้องออกไปเรียกกำลังเสริมแน่ เพราะราชินีกิ้งก่าทรายแข็งแกร่งเกินไป ไม่มีวิธีอื่นแล้วนอกจากนี้!” หานน่วนคิดไม่ตก 

 

ในเวลานั้นเอง ท่ามกลางทรายสีเหลืองทอง ร่างๆหนึ่งผุดตามทุกคนขึ้นมา

 

เป็นราชินีกิ้งก่าทราย!

 

“มอบชีวิตให้ข้าซะเถอะ ฮ่าฮ่าฮ่า ระเบิดทราย!”

 

ดั่งพายุกระหน่ำ ก่อตัวเป็นวังวนขนาดยักษ์ โอบล้อมฉินเฟิงและไป๋หลี

 

ราชินีกิ้งก่าทรายครอบครองอบิลิตี้ธาตุดิน ดังนั้นเมื่ออยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มันก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้น ไหนจะแส้มิติแสนหายากในมือเธอ เวลานี้ราชินีกิ้งก่างัดทุกอย่างที่ตนมีออกมาใช้งาน

 

ปัจจุบันราชินีกิ้งก่าทรายโกรธเกรี้ยวอย่างเห็นชัดได้ เธอตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะสังหารฉินเฟิงกับไป๋หลีให้จงได้ ต่อให้ต้องทำลายรังของตัวเองก็ตาม

 

ท่ามกลางผืนทราย บังเกิดพายุทอร์นาโดก่อตัวสูงกว่า 20 เมตร

 

ฉินเฟิงรู้สึกได้ถึงลมหมุนกำลังเสียดทานกับปราณกำลังภายในของเขาอย่างรุนแรง หมายจะทะลวงเข้ามาฉีกร่างของเขาเป็นชิ้นๆ

 

ฟิ้ววว!

 

หินก้อนใหญ่ถูกวังวนดูดขึ้นมา ม้วนตีเป็นวง กระแทกเข้าใส่ฉินเฟิงอย่างโหดร้าย 

 

มีดกษัตริย์ครามในมือโบกสะบัด ตัดทำลายหินใหญ่แตกออกจากกัน

 

ปัง!

 

หินระเบิดออก กลายสภาพเป็นเศษแหลมคมเล็กๆนับไม่ถ้วน ม้วนวนผสานไปกับพายุทรายโจมตีฉินเฟิง

 

“จงสลายไปเสีย!”

 

ไป๋หลียังคงอยู่ในอ้อมอกของฉินเฟิง ปากอ้าร้องคำราม หนึ่งมือวาดออก

 

ในพริบตา เงากรงเล็บสีขาวพลันผุดขึ้นในอากาศที่ว่างเปล่า ราวกับมือใหญ่ยักษ์ กรีดเป็นริ้วตัดผ่านชั้นอากาศ ฉีกกระชากพายุนี้ออกจากกัน

 

ฉินเฟิงรับรู้ได้ถึงความปั่นป่วนรอบตัวเขา อย่างไรก็ตาม พายุทรายที่คอยรบกวนได้หยุดลงแล้ว

 

ราชินีกิ้งก่าตะลึงงัน คล้ายมิอาจทำใจเชื่อเหตุการณ์ตรงหน้า

 

พายุทรายที่ทรงพลังที่สุดของเธอ ก็ยังไม่อาจกำจัดทั้งสองคนนี้ได้

 

ฉินเฟิงโบกสะบัดมีดกษัตริย์ครามในมือเขา สับจากบนลงล่าง ใบมีดนี้ฟุ้งไปด้วยไอสังหาร ราวกับต้องการจบชีวิตศัตรูในคราวเดียว

 

“พลุไฟสงคราม!”

 

แสงสีฟ้าพรั่งพรูออกมา คู่ดวงตาของราชินีกิ้งก่าพลันตั้งตรง ยกมือขึ้น ก่อร่างกำแพงดินขนาดใหญ่ขึ้นทันใด

 

เปรี้ยง!

 

พลุไฟสงครามกระแทกเข้าใส่กำแพงดิน แรงระเบิดกวาดกระจายหนักหน่วง มองก็รู้ว่าอีกไม่กี่วินาที ปราการด่านสุดท้ายของเธอคงพังทลายลง

 

ในที่สุด ราชินีกิ้งก่าทรายก็ได้เรียนรู้ถึงสิ่งที่เรียกว่าความหวาดกลัว วินาทีถัดมา แส้ในมือถือก็สะบัดลงในความว่างเปล่า อุโมงค์มิติถูกเปิดขึ้นทันใด

 

“คิดหนีหรือ? ขออนุญาตฉันแล้วรึยัง!” ไป๋หลียิ้มเย็น ตบออกไปด้วยฝ่ามือ

 

เงากรงเล็บขนาดยักษ์ผุดพรายขึ้นในอากาศ มันตบกดลงจากเหนืออุโมงค์มิติ

 

เปรี๊ยะ!

 

เส้นทางมิติถูกปิดลง … แต่ราชินีกิ้งก่าทรายยังไม่ทันได้เข้าไปเลย!

 

กำแพงดินพังทลาย ฉินเฟิงไม่ปล่อยโอกาสให้อีกฝ่ายคิดหลบหนีซ้ำสอง สาวเท้าเข้าประชิด ราชินีกิ้งก่าทรายปลุกเร้าอบิลิตี้ทรายดูด จมตัวเองหายลงไปใต้พื้นทราย

 

“แมกมาโลกันต์!”

 

ภายในรัศมี 100 เมตร พื้นทรายราวกับถึงจุดเดือด แปรสภาพกลายเป็นบ่อลาวาขนาดใหญ่

 

ราชินีกิ้งก่าทราย ไร้ซึ่งหนทางหลบหนีอย่างกระทันหัน!

 

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างเดือดพล่าน

 

เริ่มจากคลื่นทรายที่ถาโถม พายุทอร์นาโดทรายขนาดยักษ์ แสงไฟสะท้อนขึ้นไปบนฟากฟ้า ผืนทรายกลายเป็นลาวาหนืด ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนเป็นอะไรที่ชวนให้ผู้คนที่เฝ้ามองรู้สึกตื่นตะลึง

 

ฉินเฟิงและไป๋หลีไล่ตามราชินีกิ้งก่าทราย หายลับไปจากสายตาของผู้คน

 

ขณะเดียวกัน บนผืนทะเลทรายทั้งใกล้และไกล สัตว์ร้ายนับไม่ถ้วนตกใจตื่นตระหนก เริ่มหลบหนีและอาละวาดคลั่ง

 

แน่นอน ว่าการเคลื่อนไหวใหญ่โตผิดแผกเช่นนี้ ย่อมล่วงรู้ไปถึงฝั่งปราการชาตง

 

แค่พวกเขาไม่ทราบว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันเพราะอะไร

 

“จิจิ!”

 

ราชินีกิ้งก่าทรายได้รับบาดเจ็บสาหัส ตามร่างกายเต็มไปด้วยรอยบาดแผล 

 

—เธอกำลังร้องขอความช่วยเหลือ!

 

วูซ วูซซ

 

สมุนกิ้งก่าผุดออกมาจากพื้นทรายตัวแล้วตัวเล่า พยายามขัดขวางฉินเฟิงกับไป๋หลี

 

ทว่าพวกมันย่อมไม่อาจหยุดฉินเฟิง ใช้ออกได้เพียงหมัดสองหมัดก็ถูกเก็บเกี่ยวชีวิตไป

 

“ถ้าไม่เสนอหน้ามาก็ไม่ต้องตายแท้ๆ! เสียเวลาฉันจริง!”

 

ฉินเฟิงแสยะยิ้มเย็น วาดมีดในมือตัดคอกิ้งก่าทราย ระหว่างไล่ล่าก็คอยสังหารไปตลอดเส้นทาง

 

การไล่สังหารลากยาวไปกว่า 100 เมตร ทว่ากิ้งก่าทรายกลับจบชีวิตลงนับร้อย นี่เป็นจำนวนอันน่าเหลือเชื่อ!

 

ราชินีกิ้งก่าทรายหมดเล่ห์เหลี่ยมกลจะสู้ ร่างกายเธอไม่อาจรักษาเทคนิคเปลี่ยนรูปไว้ได้อีกต่อไป หมอบคลานกับพื้นดังเดิม และเพียงมอง โดยไม่ต้องสังเกตดีๆ จะพบว่าตามร่างกายเธอมีแต่รอยดำไหม้ ไม่ก็รอยกรงเล็บ

 

ฟิ้ว!

 

เงากรงเล็บสีขาวอีกหนึ่งผุดออกมาจากในอากาศ เท้าของไป๋หลีแทบจะไม่แตะลงบนผืนทรายเลย ทุกครั้งเพียงใช้ปลายเท้าย่ำเบาๆ ทะยานตัวออกไปพร้อมโจมตีด้วยกรงเล็บ … ดูเหมือนว่าเงากรงเล็บนี้จะกลายเป็นผลงานชิ้นเอกที่ใช้ตบตาผู้คนของเธอไปซะแล้ว

 

ราชินีกิ้งก่าเหมือนจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง เร่งม้วนตัวกลิ้งหลบไป แต่ก็ทำได้แค่เบี่ยงตำแหน่งการโจมตี มิอาจหลบพ้นทั้งตัวได้

 

ฉัวะ!

 

“อ๊าาาา!”

 

ราชินีกิ้งก่าทรายกรีดร้องลั่น แขนข้างหนึ่งของเธอถูกตัดออก 

 

ยังไม่พอ เวลานี้แส้ที่กุมอยู่ดันหลุดมือไป

 

“แส้ข้า!”

 

ราชินีกิ้งก่าฉกมือออกไปคว้ามันอย่างรวดเร็ว หมายจะคว้ากุมแส้อีกครั้ง

 

ทว่าแส้เจ้ากรรมดันปลิวไปบนท้องฟ้า และตกอยู่ในมือของอีกคนหนึ่งแทน

 

–เป็นไป๋หลี

 

“นับจากวันนี้ไป แส้เส้นนี้เป็นของฉัน!” ไป๋หลีกุมแส้ สะบัดมันออกไปอย่างรุนแรง

 

แสงสีเงินของแส้ กระจายออกไป และพลันแตกตัวออกเป็นรอยแยกมิตินับร้อย ทว่าทุกรอยแยกมีขนาดน้อยกว่า 1 มิลลิเมตร กวาดเข้าใส่ร่างของราชินีกิ้งก่า ราวกับกระสุนลูกซอง

 

ราชินีกิ้งก่าแม้ปรารถนาจะหลบเลี่ยง แต่กลับค้นพบว่ามิอาจทำได้

 

เธอไม่สามารถใช้พลังสมาธิเพื่อรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของรูนมิติเหล่านี้ได้ด้วยซ้ำ

 

นั่นก็เพราะ ปริมาณของมันมากมายเกินไป!

 

ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงก็ไล่ตามมาทัน 

 

แต่เมื่อมองไปยังราชินีกิ้งก่าทราย เขาก็อดประหลาดใจไม่ได้ 

 

เห็นแค่เพียงร่างของราชินีกิ้งก่าที่จู่ๆก็หยุดฝีเท้า กลายเป็นนิ่งงัน และยามเมื่อสายลมกรรโชกผ่าน กายก็มิอาจคงอยู่ไ พังทลายลงทันที

 

หลงเหลือเพียงส่วนหัวที่ยังคงสภาพสมบูรณ์

 

—ราชินีกิ้งก่าทราย จบชีวิตลงแล้ว!