ตอนที่ 314 ไม่ต้องการความเห็นใจจากเธอ (4)
ภาพที่ขึ้นมานั้นเป็นตัวอักษรสีดำพิมพ์อยู่บนกระดาษเอสี่สีขาว
“อันซย่าซย่ายินยอมเป็นสมบัติส่วนตัวของฉีเหยียนซี”
ด้านล่างสุดเป็นลายเซ็นของอันซย่าซย่า
ลายมือนั้น เซิ่งอี่เจ๋อจำไม่ผิดแน่
อาจจะเป็นการเข้าใจผิด แต่อย่างไรก็ตามเซิ่งอี่เจ๋อก็ยังไม่สบายใจอยู่ลึกๆ
เขาหรี่ตาลงและเดินตามไปอย่างเงียบๆ
–
ฉีเหยียนซีเดินวกไปวนมาราวกับแมลงวันไร้หัว ไม่นานก็เดินไปถึงตลาดของกินที่อยู่ระแวกนั้น
อันซย่าซย่าแบกกล่องยาเดินตามมาจากทางด้านหลังของเขา เธอกัดริมฝีปากลังเลว่าจะตามไปถึงข้างหน้าดีหรือไม่
ดูเหมือนว่าเขาจะอารมณ์เสียมาก…ฮึก ฮึก เขาคงไม่ต่อยฉันหรอกมั้ง…
ฉีเหยียนซีเหมือนรับรู้การมาของเธอ เขาหยุดเท้าแล้วนั่งร้านแผงลอยเล็กๆ ร้านหนึ่งที่อยู่ข้างๆ
เจ้าของร้านผู้หญิงรีบมาต้อนรับอย่างเป็นมิตร “พ่อหนุ่ม อยากทานอะไรจ๊ะ?”
ฉีเหยียนซีมองป้ายแล้วพูดว่า “เกี๊ยวน้ำที่นึงครับ…อ้อไม่สิ สองที่”
“ได้เลย!”
พอเห็นเขานั่งลงกินข้าว อันซย่าซย่าที่ยืนมองอยู่ไม่ไกลก็รวบรวมความกล้าเดินไปนั่งอยู่ตรงหน้าเขาอย่างเงียบๆ
ฉีเหยียนซีมองเธอที่มีท่าทางเหมือนนกตกใจพลางขมวดคิ้ว “ตามฉันมาทำไม?”
อันซย่าซย่าตัวสั่นและกอดกล่องยาไว้แน่น เธอพูดโพล่งออกมาโดยไม่รู้ตัว “อย่าต่อยฉัน…”
ฉีเหยียนซีมีสีหน้าอึมครึม “ฉันจะต่อยเธอทำไม?”
ยัยโง่! ถึงเขาจะเกเรไปบ้าง หรือถ้ามีผู้หญิงมาวุ่นวายอยู่ตรงหน้าเขา เขาก็ไม่ไว้หน้า แต่ทำไมเขาถึงทำกับอันซย่าซย่าไม่ลงกันนะ?
รู้สึกแย่อย่างงั้นหรือ
อันซย่าซย่าถอนหายใจอย่างโล่งอก และถามอย่างระมัดระวัง “ฉันช่วยนายทำแผลให้เอาไหม? …ถ้าไม่ทำแผลแล้วติดเชื้อขึ้นมา นายจะเจ็บเอาได้…”
เจ้าของร้านถือชามเกี๊ยวน้ำร้อนๆ สองที่เดินเข้ามาพอดี ฉีเหยียนซีดันเกี๊ยวน้ำให้อันซย่าซย่าชามหนึ่ง จากนั้นตัวเองก็หยิบช้อนขึ้นมาทาน
“เฮ้…ฉีเหยียนซี…” อันซย่าซย่าอดเรียกเขาไม่ได้ แต่ใครจะรู้ว่าฉีเหยียนซีจะกลอกตาใส่เธอแล้วพูดว่า “อย่าพูดตอนกินข้าว”
“เอ๊ะ…”
อันซย่าซย่ามองเขากินเกี๊ยวน้ำด้วยความกลัดกลุ้ม จากนั้นเขาก็เขย่าขาพลางเลิกคิ้วใส่เธอ “ตามออกมาแบบนี้ก็เพื่อจะทำแผลให้ฉันเนี่ยนะ?”
อันซย่าซย่าพยักหน้าด้วยความสัตย์จริง
แววตาฉีเหยียนซีดูอึมครึมเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พูดอย่างหยิ่งยโส “งั้นฉันเข้าใจได้ไหมว่าเธอเป็นห่วงฉัน?”
ก่อนที่เขาจะพูดจบเขาก็เสียใจเล็กน้อย
ให้ตายเถอะ ถ้าอันซย่าซย่าปฏิเสธขึ้นมา มันคงจะน่าอายมากแน่ๆ!
บ้าเอ๊ย ทำไมเวลาอยู่ต่อหน้าเธอ เขามักจะปกปิดหัวใจตัวเองไม่ได้เลย?
ใบหน้าอันซย่าซย่าเปลี่ยนเป็นสีชมพู เธอพยักหน้าก่อน จากนั้นก็ส่ายหน้าอีกครั้ง “ฉันเป็นห่วงนายนี่นา เป็นห่วงเพื่อนมันผิดปกติตรงไหน…แล้วอีกอย่าง ที่นายได้รับบาดเจ็บก็เป็นเพราะช่วยฉันไว้…อีกทั้งนายยังโดนพ่อนายต่อว่าอีกด้วย ฉันก็เลยรู้สึกผิดต่อนาย…”
แววตาที่สว่างไสวของเธอเต็มไปด้วยความร้อนใจ รอยยิ้มของฉีเหยียนซีเองก็แฝงไปด้วยความขมขื่น
กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้น
ก็ดี แบบนี้ก็ดี
ความรักของเธอช่างดูจริงจัง ส่วนความรักของเขาช่างดูด้อยค่า
เธอยิ่งรักเดียวใจเดียวต่อเซิ่งอี่เจ๋อมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งทุ่มเทให้เธอมากขึ้นเท่านั้น ช่างตลกสิ้นดี
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดกับอันซย่าซย่าอย่างตรงไปตรงมา “ซย่าซย่า ในโลกนี้สิ่งที่ฉันไม่ต้องการมากที่สุดคือความเห็นใจจากเธอ”
อันซย่าซย่าพึมพำ “ฉันไม่ได้เห็นใจนาย…ฉันเป็นห่วงนายจริงๆ!”
ฉีเหยียนซีลูบผมเธอ “ยัยโง่…ที่จริงเธอโง่หน่อยๆ ก็น่ารักดี…”
ตอนที่ 315 เพราะหน้าอกเธอแบน พูดอะไรก็ถูกไปหมด
อันซย่าซย่าพูดด้วยความหดหู่ “ทำไมพวกนายถึงชอบว่าฉันโง่ด้วยนะ? ฉันไม่ได้โง่สักหน่อย พวกนายฉลาดเกินไปต่างหาก นายไม่เคยได้ยินประโยคนี้หรือ ว่าหากไม่มีข้อเปรียบเทียบก็ไม่มีทางรู้ว่าสิ่งไหนดี…ความโง่ของฉันที่ออกมาล้วนเป็นเพราะโดนพวกนายเปรียบเทียบ!”
ฉีเหยียนซีตั้งใจครุ่นคิดและพูดออกมาว่า “อืม มีเหตุผลๆ เพราะหน้าอกเธอแบน พูดอะไรก็ถูกไปหมด”
“…” อันซย่าซย่าถูกพูดกระทบอย่างรุนแรง
เธอเป่ากระพุ้งแก้มและสูดหายใจอย่างเจ็บปวด พลางมองฉีเหยียนซีอย่างทนไม่ได้
“นอกจากจะทำแผลแล้ว เธอไม่มีอะไรจะคุยกับฉันแล้วหรือ?” เขาปิดประเด็น
“เอ๋?” อันซย่าซย่าทำท่าครุ่นคิด “อืม…ถ้าจะต้องพูดอะไรสักอย่างล่ะก็…ฉีเหยียนซี นายหยุดทำตัวอวดดีได้แล้ว ถ้านายเสียใจก็แค่ร้องออกมาหรือไปโจมตีคนอื่นในเกมก็ได้ มีอะไรก็ระบายออกมาเถอะ อย่าเก็บเอาไว้คนเดียว และถ้านายร้องไห้ล่ะก็ จะยืมไหล่ฉันพิงก็ได้นะ!”
หลังจากที่เธอพูดเสร็จ รอบๆ เหมือนเงียบไปในพริบตา ฉีเหยียนซีมองเธอด้วยความงุนงง จากนั้นก็ยิ้มอย่างสดใส แต่พูดออกมาอย่างเย้ยหยัน “ใครจะอยากพิงไหล่เธอ เฮ้อออ คนอย่างฉันเนี่ยนะจะร้องไห้”
อันซย่าซย่าลูบหัวตัวเองและพูดว่า “นั่นก็จริง ฉันเองก็มีแฟนแล้ว! คงให้นายพิงไหล่ไม่ได้! งั้นนายไปพิงเซิ่งอี่เจ๋อดีไหม?”
ฉีเหยียนซีพูดด้วยเสียงอันเย็นเฉียบ “ดูเหมือนเธอจะลืมไปแล้วว่าพวกเราสองคนเป็นอริกัน”
“แหะๆ …ฉันคิดว่าเวลาที่พวกนายรักกันบ้างตีกันบ้างแบบนี้ก็ดูน่ารักดี” อันซย่าซย่ายิ้มอย่างอ่อนหวาน ฉีเหยียนซีครุ่นคิดบางอย่างอยู่ในใจ ทว่ามือของเขากลับเร็วยิ่งกว่าความคิด เขาวางมือไว้บนศีรษะของอันซย่าซย่า
ในขณะที่เขาคิดว่าจะจูบดีหรือไม่ เขาก็เหลือบไปเห็นร่างสูงที่อยู่ไม่ไกลจากหางตาพลางดึงมุมปาก ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้จูบ แต่ยีผมอันซย่าซย่าจนยุ่งเหยิง จากนั้นก็คว้ากล่องยาที่อยู่ในมือเธอและเอามือสอดกระเป๋ากางเกง “ฉันไปนะ บ้ายบาย”
“นายจะทายาเองหรือ?” อันซย่าซย่ามองเขาอย่างเป็นกังวล ฉีเหยียนซีเหลือไว้เพียงแผ่นหลังที่งดงามและโบกมือให้เธอก่อนจะหายลับไป
อันซย่าซย่าถอนหายใจ อารมณ์ฉีเหยียนซีไม่อยู่กับร่องกับรอย เธอไม่สามารถเข้าใจความคิดของเขาได้
สองมือกลับมาด้วยความว่างเปล่า เธอรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมาที่ตัวเอง พอเงยหน้าขึ้นหัวใจก็เต้นเเรง
ภายใต้แสงไฟสีทองสลัวๆ ริมถนน สะท้อนให้เห็นภาพผู้ชายรูปร่างดีคนหนึ่ง เขาสวมหมวกเบสบอลและมองเธอด้วยสีหน้าเรียบเฉย ดวงตาดำขลับเรียบนิ่งแต่เต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความโกรธ
อันซย่าซย่าวิ่งเข้าไปและยิ้มให้เขา “เซิ่งอี่เจ๋อ นายมาได้ยังไง? ที่นี่คนเยอะ เรากลับกันเถอะ…”
เนื่องจากสถานะของเขาพิเศษกว่าคนอื่น หากมีคนจำได้อาจจะกลายเป็นที่ฮือฮาหรือก่อให้เกิดปัญหาโดยไม่จำเป็น
มือเล็กดึงชายเสื้อของเขา แต่ทันใดนั้นก็ถูกจับที่ข้อมืออย่างรุนแรง!
เซิ่งอี่เจ๋อพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สู้ดี “ซย่าซย่า เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นแฟนฉันอยู่หรือเปล่า? เธอไม่รู้จักวิธีรักษาระยะห่างกับผู้ชายคนอื่นเลยหรือไง?”
อันซย่าซย่าพูดไม่ออก “เขาช่วยฉันไว้ ฉันก็แค่เอายามาให้เขา ไม่ได้ทำอย่างอื่นเลย! เซิ่งอี่เจ๋อ อย่ามาหึงอะไรแบบนี้นะ!”
“ใครบอกว่าฉันหึง?” เซิ่งอี่เจ๋อพูดอย่างหยิ่งยโส “ฉันกำลังโมโห เธอดูไม่ออกหรือไง?”
“นายไม่บอก ฉันจะรู้ได้อย่างไร! ฉันไม่ใช่พยาธิในท้องนายเสียหน่อย!”