บทที่ 641 ทำไมเหรอพี่ชาย? / บทที่ 642 น้องสาวฉันไม่มีทางฝืนชะตาฟ้าดินขนาดนี้

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 641 ทำไมเหรอพี่ชาย?

เยี่ยมู่ฝานกำลังตกอยู่ในภวังค์ เวลานี้เอง เสียงมือถือดังขึ้นมา

เยี่ยมู่ฝานกำลังจะกดตัดสาย หางตาเยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองไปทางมือถือของเยี่ยมู่ฝาน “พ่อแม่โทรมาเหรอ ไม่เป็นไร รับเถอะ”

เยี่ยมู่ฝานจึงค่อยพยักหน้าแล้วรับสาย “ฮัลโหลครับ แม่?”

“มู่ฝาน แม่ได้ยินหวันหวั่นบอกว่าวันนี้ลูกไปสัมภาษณ์งานกับกวงเย่ามีเดีย?”

“ใช่ครับ ตอนนี้ผมอยู่ที่บริษัทแล้ว”

“แล้วสัมภาษณ์เสร็จหรือยัง ผลออกมาเป็นยังไงบ้าง”

เยี่ยมู่ฝานเก็บความตื้นตันไว้ในใจ “เสร็จแล้วครับ ตอนนี้ผมได้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายสไตล์ลิสต์ที่กวงเย่ามีเดียแล้ว”

“อะไรนะ?” เหลียงหวั่นจวินได้ยินก็ประหลาดใจมาก

ไม่นาน อีกฝั่งของมือถือมีเสียงเคร่งขรึมของเยี่ยเส่าถิงดังขึ้นมา “ด้วยคุณสมบัติอย่างแกใครรับแกก็มีปัญหาแล้ว เป็นไปได้ยังไงเข้าไปปุ๊ปก็ให้แกได้เป็นหัวหน้าเลย”

“ใช่แล้ว มู่ฝาน ลูกอย่าโกหกเพื่อปลอบใจพ่อแม่เลย!”

เยี่ยมู่ฝานรู้สึกลำบากใจมองไปทางเยี่ยไป๋ จากนั้นกระแอมพูดขึ้นมาว่า “อะแฮ่ม พ่อ แม่ ผมพูดเรื่องจริง พ่อกับแม่ไม่เชื่อผมเหรอครับ”

“ไม่ใช่พ่อแม่ไม่เชื่อลูก ตัวลูกเองคิดว่าเรื่องนี้เป็นไปได้เหรอ หวันหวั่นอยู่กับลูกหรือเปล่า ไปเรียกให้น้องมารับสาย แม่จะถามว่าจริงหรือเปล่า…”

เยี่ยมู่ฝานสีหน้าจนปัญญา “เธอไม่อยู่ ผม…”

เยี่ยมู่ฝานยังพูดไม่ทันจบ ตอนนี้เอง ชายหนุ่มตรงข้ามยื่นมือมาทันที “ให้ผมคุยกับพ่อแม่คุณหน่อยได้ไหม”

“คือว่า…” สีหน้าของเยี่ยมู่ฝานลังเล แต่สีหน้าคนตรงข้ามดูเป็นมิตร แล้วยังเป็นเจ้านายตัวเองด้วย จึงยื่นมือถือส่งให้ พูดด้วยความลำบากใจเล็กน้อยว่า “พ่อแม่ผมไม่เชื่อว่าผมสัมภาษณ์ได้ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสไตล์ลิสต์น่ะครับ…”

“ไม่เป็นไร ผมอธิบายเอง” เยี่ยหวันหวั่นยิ้ม แล้วคว้ามือถือไป

“ฮัลโหลมู่ฝาน ฮัลโหล? มู่ฝานลูกฟังอยู่หรือเปล่า”

เยี่ยหวันหวั่นยิ้มหวานเล็กน้อย พูดเสียงออดอ้อนว่า “ฮัลโหล แม่ หนูเองค่ะ หวันหวั่น”

เยี่ยมู่ฝานกำลังซาบซึ้งกับความสนิทสนมและเข้าอกเข้าใจของเจ้านายตัวเอง แต่วินาทีนี้ ทั้งตัวเขาเหมือนโดนฟ้าผ่า จ้องเขม็งด้วยความอึ้งไปทาง ‘หนุ่มน้อย’ ที่อยู่ข้างๆ คิดว่าตัวเองวิกลจริต เกิดภาพหลอนขึ้นมา

เกิด… เกิดอะไรขึ้น… ทำไมเขาถึงได้ยินเสียงของหวันหวั่นจากปากของเยี่ยไป๋…

“หวันหวั่นเองเหรอ รีบบอกแม่เร็ว ผลสัมภาษณ์ของพี่ชายลูกเป็นยังไง เขาบอกว่าได้ตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสไตล์ลิสต์ เป็นไปได้ยังไงนะ” เหลียงหวั่นจวินกับเยี่ยเส่าถิงอีกฟากของมือถือยังไม่รู้สึกผิดปกติอะไร ถามต่อไป

เยี่ยหวันหวั่นมองไปทางพี่ชายตัวเองที่แปรสภาพแข็งทื่อเป็นหินไปแล้ว แล้วพูดต่อ “พ่อคะแม่คะ พี่บอกว่าจริงค่ะ คนรับผิดชอบที่กวงเย่าชอบเขามาก น่าจะสืบมาแล้ว รู้ว่างานดีไซน์พวกนั้นที่จวี๋ซิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์เป็นผลงานของเขา ดังนั้นเลยเชิญเขามาค่ะ พ่อก็รู้ สไตล์ลิสต์ของศิลปินกวงเย่าอ่อนจริงๆ ขาดคนมีความสามารถ”

ได้ยินเยี่ยหวันหวั่นอธิบาย เยี่ยเส่าถิงและเหลียงหวั่นจวินถึงค่อยเชื่อ

“งั้นก็ดีๆ ดีมากจริงๆ!”

“แม่ไม่วางใจที่ลูกทำงานที่กวงเย่ามาตลอด ตอนนี้ดีแล้ว พี่ชายกับลูกอยู่บริษัทเดียวกัน จะได้คอยดูแลลูกพอดีเลย!”

เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าติดต่อกัน “อืมๆ พี่จะดูแลหนูค่ะ พ่อแม่วางใจได้! งั้นพ่อคะแม่คะหนูวางสายก่อนนะ กลับไปค่อยเล่ารายละเอียดให้พ่อแม่ฟังค่ะ!”

“ได้ๆๆ ตอนเย็นลูกกับพี่ชายลูกกลับมากินข้าวด้วยกันนะ!”

“ได้ค่ะ หนูอยากกินปลากระรอกที่แม่ทำ!”

……..

รอจนเยี่ยหวันหวั่นวางสายพ่อแม่เสร็จแล้ว เยี่ยมู่ฝานยังคงอยู่ในความอึ้งงัน เห็นสีหน้าเยี่ยหวันหวั่นก็ราวกับเห็นผี “คุณ…คุณๆๆๆ…”

เยี่ยหวันหวั่นเปลี่ยนกลับมาใช้เสียงผู้หญิงโดยสิ้นเชิง กะพริบตาใส่ “ทำไมเหรอพี่ชาย?”

…………………………………………………………

บทที่ 642 น้องสาวฉันไม่มีทางฝืนชะตาฟ้าดินขนาดนี้

เสียง ‘พี่ชาย’ ของเยี่ยหวันหวั่นเหมือนดั่งเสียงฟ้าร้องสะท้อนอยู่ในหัวเยี่ยมู่ฝาน

“หวัน…หวันหวั่น… แกคือหวันหวั่น? ฉันฝันไปอยู่หรือเปล่า! แก… แกคือนายใหญ่เยี่ยไป๋ที่เพิ่งขึ้นตำแหน่งของกวงเย่า? ไม่ถูก เยี่ยไป๋ไม่ใช่ผู้ชายเหรอ! ไม่ถูกๆ เยี่ยไป๋คือผู้หญิง?” ทั้งตัวเยี่ยมู่ฝานสับสนไปหมด เริ่มพูดจาซ้ำวน

“จำเป็นต้องตกใจขนาดนี้?” เยี่ยหวันหวั่นเลิกคิ้วเล็กน้อย ลงนั่งบนโซฟาข้างๆ เกียจคร้าน

เวลานี้ ถึงแม้ว่าเยี่ยหวั่นหวันจะแต่งเป็นผู้ชาย แต่กลิ่นอายคสามเฉียบขาดเย็นชารอบตัวหายไปหมด สีหน้าก็ดูอ่อนโยนลงมา ความรู้สึกคุ้นเคยค่อยๆ เพิ่มมากขึ้น

ในที่สุดเยี่ยมู่ฝานค่อยเริ่มเชื่อว่าคนตรงหน้าคือน้องสาวเขาแท้ๆ กุมหน้าอกที่หัวใจเกือบหยุดเต้น “ไร้สาระ! ฉันเกือบจะหัวใจหยุดเต้นเพราะแกอยู่แล้ว แกนี่มันพิเรนทร์เกินไปแล้ว!”

เจ้านายตัวเองเปลี่ยนเป็นน้องสาวภายในวินาทีเดียว ใครจะรับได้?

เยี่ยมู่ฝานพิจารณามองเธอที่แต่งตัวเป็นผู้ชายตั้งแต่หัวจรดเท้า กลืนน้ำลายด้วยสีหน้าที่พูดไม่ออก “แก… แกก็… แสดงเก่งนะ! แกแต่งแบบนี้หรือว่ามีใครรู้?”

เยี่ยหวันหวั่นเท้าคาง เลิกคิ้วเล็กน้อย “พี่ชายแท้ๆ ยังไม่รู้เลย พี่คิดว่าคนอื่นจะรู้เหรอ”

เยี่ยมู่ฝานไม่สามารถตอบโต้กลับ

“ไม่ถูกต้องๆ ประเด็นสำคัญคือแกสามารถเข้ามาอยู่ในเครือโกลบอลได้ยังไง แล้วยังได้ตำแหน่งนี้มาด้วย”

รู้ไหมว่าอำนาจผู้อำนวยการฝ่ายผู้ดูแลนักแสดงของบริษัทนั้นใหญ่กว่าผู้จัดการใหญ่อีก นี่เป็นตำแหน่งที่มีอำนาจสุดท้ายที่แท้จริง แทบจะควบคุมศิลปินทั้งหมดไว้เลย ไม่อย่างนั้นตอนนั้นโจวเหวินปินก็คงไม่กุมอำนาจทุกอย่างไว้คนเดียวที่กวงเย่า

ทำยังไงถึงมาถึงจุดนี้ได้…

เยี่ยหวันหวั่นอดย้อนกลับไปนึกถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นช่วงนี้ไม่ได้…

นึกอย่างละเอียด ตอนเข้าวงการมาก็ราบรื่นดี แถมยังก้าวหน้าเร็วกว่าที่เธอคิดไว้ด้วย

เรื่องของหานเซี่ยนอวี่ทำให้เธอมีคุณสมบัติเข้ามาบริษัทนี้ การโด่งดังของลั่วเฉินทำให้เธอมีฐานที่มั่นคง กงซวี่ยิ่งเป็นโบนัสที่ไม่คาดคิด ทำให้เธอประหยัดเวลาไปมาก และสามารถบีบไล่โจวเหวินปินออกไปได้

คิดแบบนี้แล้ว… เธอควรจะทำดีกับกงซวี่หน่อยไหม

เยี่ยหวันหวั่นได้สติกลับมา ก็เล่าให้เยี่ยมู่ฝานฟังอย่างง่ายๆ ว่าตัวเองเข้ามากวงเย่าได้ยังไง

ถึงแม้จะมีข่าวซุบซิบเกี่ยวกับเยี่ยไป๋ เยี่ยมู่ฝานก็เคยได้ยินมา แต่ครั้งนี้กลับออกมาจากปากน้องสาวคนที่ดื้อรั้นเอาแต่ใจ ไม่ประสีประสาเรื่องโลกภายนอกอะไรทั้งสิ้น ทำให้เขารู้สึกเหนือจินตนาการมากจริงๆ…

เรื่องสั่นสะเทือนวงการอย่าง ‘หานเซี่ยนอวี่ทำเรื่องน่าสมเพชกับเด็กผู้หญิง’ กลับเป็นน้องสาวเขาที่อยู่เบื้องหลังการล้างมลทินต่อหน้าสาธารณชนคนเดียว

ไม่ต้องเดาก็รู้ คนที่อาศัยเวลา สถานที่และคนทำให้ลั่วเฉินที่ตกยุคไปแล้วสามปีกลับมาโด่งดังข้ามคืน คือน้องสาวเขา ดึงตัวกงซวี่มาจากโจวเหวินปินคุมเขาจนเชื่อง ก็คือน้องสาวเขา…

เดิมทียังคิดกังวลใจไปต่างๆ นานา กลัวว่าคนทำงานภายใต้เจ้านายที่ฉลาดและน่ากลัวจะจัดการได้ไม่ง่าย กลัวว่าถึงแม้เขาจะเข้ามาด้วยความโชคดี แต่ก็จะโดนคนขัดแข้งขัดขา ปรากฏว่า นายใหญ่ของฝ่ายคือน้องสาวเขาเอง นับว่ามีแบ็คอัพที่มั่นคง ใครจะกล้าทำอะไรเขา

เยี่ยมู่ฝานจ้องเยี่ยหวันหวั่น อยู่ดีๆ ก็รู้สึกว่าเธอมีแสงทองเปล่งประกาย

“ดังนั้นหมายความว่า…แกใช้เรื่องของหานเซี่ยนอวี่เป็นเงื่อนไขในการได้จินโตวปี้ไห่มา แต่จิ้งจอกเฒ่านั่นกลับหลอกล่อแกเล่นเกมตัวอักษร ใช้ตัวเลขค่าบ้านมหาศาลมาบีบแก!” เยี่ยมู่ฝานมีสีหน้าโกรธ

ถึงแม้รายได้ของเยี่ยหวันหวั่นตอนนี้จะเยอะขึ้นมาก แต่ถ้าอยากจะถอนไถ่บ้าน อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหลายปี

………………………………………………………………