ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 327

“แมนดี้ ผู้ชายคนนั้นยังคงเป็นสามีของเธอ เธอควรแนะเขาว่าควรคุกเข่าต่อหน้าแซ็คยังไง…มันคงเศร้าใจมากถ้าพวกเธอทั้งคู่ถูกไล่ออกจากบ้านเพราะการกระทำของเขา!” ควินน์แนะนำแมนดี้ด้วย ‘ความกรุณา’

แมนดี้ยังคงแสดงสีหน้าว่างเปล่าและพูดว่า “มันสำคัญกับฉันยังไงว่าเขาจะอยู่ที่นี่หรือคุกเข่าให้ใคร?”

“ว้าว ขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอแล้วเหรอ? แมนดี้เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ๆ ที่จะมาเป็นผู้จัดการตัวน้อยที่น่าสงสาร ใครจะรู้ว่าเธอเริ่มสนใจชื่อเสียงของตัวเองหลังจากเปลี่ยนสถานะ หรือว่าเธอไม่เคยชินกับการที่สามีของตัวเองไร้ค่าหลังจากอยู่กินกันมาสามปีเต็ม” แซ็คหัวเราะเยาะ “แต่อย่าแม้แต่ฝันที่จะหย่ากันเลย การแต่งงานของเธอถูกกำหนดโดยคุณปู่ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ เธอจะกลายเป็นศัตรูของครอบครัวถ้าเธอเมินเฉยสั่งคุณปู่!”

แซ็คคิดเรื่องนี้มาแล้วเขาจะไม่ยอมให้แมนดี้และฮาร์วีย์ได้หย่ากันเพราะสถานะของเขาจะได้รับการประกันก็ต่อเมื่อฮาร์วีย์อยู่เป็นภาระเป็นลูกเขยที่ไร้ประโยชน์เท่านั้นที่เพื่อฉุดแมนดี้ต่ำลง

“แซ็ค ฉันมีความคิดดี ๆ มันไม่สนุกเลยที่จะให้ผู้ชายคนนั้นคุกเข่าให้นายทุกวัน ทำไมเราไม่สั่งให้ทั้งคู่คุกเข่าต่อหน้าพนักงานทั้งบริษัทสักครั้งล่ะ? ใจดีกับพวกเขาหน่อยสิ” ควินน์มีรอยยิ้มที่เหมือนจะเป็นมิตรฉาบอยู่บนใบหน้าของเธอ แต่จิตใจของเธอเต็มไปด้วยความคิดที่ชั่วร้าย

แซ็คครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและส่งเสียงหัวเราะอย่างสะใจ “เธอพูดถูก แมนดี้ ฉันจะใจดีและให้โอกาสที่ดีนี้กับพวกเธอทั้งสองคนในฐานะที่เขาเป็นสามีของเธอ ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอกนะ!”

แซ็ครู้สึกดีมากกับความคิดที่ชั่วร้ายของควินน์ ถ้าแมนดี้และฮาร์วีย์คุกเข่าต่อหน้าเขาต่อหน้าคนทั้งบริษัท จะไม่มีใครเคารพพวกเขาอีกต่อไปอย่างแน่นอน!

“โอ้ ใช่ ฮาร์วีย์ก็เหมือนกับสุนัขอยุ่แล้ว ใช่ไหม?”

“เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ถ้าไม่ งั้นทำไมเขาถึงคุกเข่าให้ใคร ๆ ที่เจอล่ะ?”

“ตามที่พูด คู่รักมักจะทำตัวคล้าย ๆ กันมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป ทำไมพวกเธอทั้งสองถึงไม่กลายเป็นสุนัขด้วยกันล่ะ”

“แต่มันจะน่ารักกว่านี้ถ้าสุนัขกระดิกหาง แซ็คทำไมนายไม่ปล่อยให้คู่สามีภรรยาที่น่ารังเกียจคู่นี้กระดิกหางให้นายและทให้ปฏิบัติกับนายเหมือนเจ้านายล่ะ?”

ในขณะนั้นชาวซิมเมอร์คนอื่น ๆ ก็เริ่มเข้าร่วมล้อเลียนแมนดี้เพราะเธอเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาสูญเสียผลประโยชน์มากมาย พวกเขารู้สึกดีมากที่มีโอกาสที่จะทำให้เธอเสียหน้า

แซ็คยิ้มกว้างเหมือนแมวเชสเชียร์และพูดว่า “ไม่เป็นไร ฉันรู้สึกละอายใจเกินไปที่จะเป็นเจ้านายของสุนัขทั้งสองตัว จินตนาการไม่ได้เลยว่าภาพลักษณ์ของรองประธานบริหารของฉันจะพังพินาศเพราะพวกเธอยังไง?”

“นั่นก็ใช่…”

จำนวนแขกที่เข้าร่วมงานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ยังไม่มีใครเห็นฮาร์วีย์ แซ็คเฝ้าดูพนักงานของโรงแรมตลอดเวลาเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ในหมู่พวกเขา เห็นแบบนี้แซ็คก็ยิ่งรู้สึกมั่นใจมากขึ้น

***

ในห้องประธานของโรงแรมแกรนด์นิอัมมี่

ฮาร์วีย์และเชนนั่งตรงข้ามกันโดยมีชุดหมากรุกโบราณที่สวยงามคั่นกลาง พวกเขากำลังอยู่ระหว่างการเล่นหมากรุกด้วยกัน

เชนขมวดคิ้วเข้าหากันขณะคิด ในขณะที่ฮาร์วีย์ดูสบาย ๆ เหมือนเคยแม้กระทั่งเล่นโทรศัพท์ หรือขณะที่เขาขยับตัวหมากรุก

นี่เป็นรอบที่สามแล้วและเป็นครั้งที่สามที่เชนแพ้

ด้วยเหตุนี้เชนจึงอดไม่ได้ที่จะชื่นชมฮาร์วีย์มากขึ้น

หมากรุกเป็นที่รู้จักของทุกคนบนโลกใบนี้ซึ่งใคร ๆ ก็สามารถเล่นได้โดยไม่ต้องเรียนรู้อะไรมากมาย

แต่ความจริงก็คือเราสามารถมองเห็นบุคลิกและทัศนคติในการทำงานของอีกฝ่ายได้เมื่อบุคคลนั้นวางแผนวิธีการเล่นเกมของเขา

ตลอดสองสามเกมนั้น เชนสามารถบอกได้เลยว่าฮาร์วีย์เป็นคนที่มีระเบียบแบบแผน และเขาลงมือทำหลังจากวางแผนอย่างรอบคอบแล้วเท่านั้น ในสายตาของเขาชายคนนี้สมบูรณ์แบบที่สุด เขาไม่เข้าใจว่าทำไมฮาร์วีย์ถึงกลายเป็นลูกเขยที่ดูคลุมเครือของตระกูลซิมเมอร์

ในขณะนั้นเชนผลักกระดานหมากรุกออกไปเบา ๆ และถอนหายใจ “เรามาพักผ่อนกันเถอะ ไม่งั้นภาพลักษณ์ของฉันในฐานะคนแก่ก็จะหายไปหมด ฮาร์วีย์พรสวรรค์ในการเล่นหมากรุกของคุณดูเหมือนได้รับจากการฝึกขั้นพื้นฐานจากใครบางคน ใครเป็นคนสอนคุณ?”

ฮาร์วีย์หัวเราะ “นายท่านไนส์เวลล์ คุณยกย่องผมเกินไป ใครบอกว่าคุณว่าจะต้องมีคนสอนเล่นหมากรุก?”

เชนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับคำพูดของเขาและพูดว่า “ถ้าการเล่นหมากรุกเป็นเพียงสิ่งที่ไม่สำคัญอะไร แล้วอะไรที่ถือว่าสำคัญสำหรับคุณ?”

“การพัฒนาตนเอง ใส่ใจครอบครัว เป็นผู้นำที่ดีในการบริหาร และทำให้โลกมีความสงบสุข…” ฮาร์วีย์พูดอย่างเรียบง่าย “แต่แน่นอนว่าผู้ชายธรรมดา ๆ อย่างผมยังไม่ผ่านเกณฑ์การพัฒนาตนเองด้วยซ้ำในมุมมองของคนอื่น ๆ ”

เชนรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดของเขา ผู้ชายคนนี้ยังหนุ่ม แต่ทุกอย่างที่ออกมาจากปากของเขาฟังดูเป็นผู้ใหญ่มาก

“ไนส์เวลล์ ใครจะไปรู้ว่ามีวันนี้ที่คุณฟังการบรรยายจากคนอื่นด้วย”

ในขณะนั้นเองประตูก็ถูกผลักให้เปิดออก ตามด้วยชายชราศีรษะเต็มไปด้วยผมสีขาวบริสุทธิ์ดูภูมิฐาน โดยมีชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งติดตามอยู่ด้านหลัง