บทที่ 85 ไม่เสนอราคาอีกก็จะแพ้แล้วนะ
สองสามวันมานี้ฉินเอ้าตงใช้ชีวิตอย่างอนาถ
หลังจากที่ไม่กี่วันก่อนสร้างเรื่องหายนะไว้ เขาก็ถูกคุณลุงรองตีอย่างโหดหลายไปหนึ่งรอบ แถมยังต้องเจอกับการถูกกักบริเวณอีกด้วย
แต่ว่า ด้วยความรักในวัตถุโบราณและของจัดแสดงอย่างสุดขีดของเขา แล้วงานประมูลระดับนี้เขาจะพลาดไปได้ยังไง
ด้วยเหตุนี้ วันนี้เขาถึงได้พยายามหนีออกมาร่วมงานประมูล คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอเย่เฉินที่นี่อีก
เขาดูถูกเย่เฉินมาโดยตลอด สำหรับเขาแล้วคุณลุงรองถูกไอ้เด็กนี้หลอกอย่างสมบูรณ์
แต่เขาก็ไม่กล้ายั่วยุเย่เฉินแบบซึ่งหน้า พอเห็นว่าเย่เฉินจะประมูลสร้อยเส้นนี้ เขาก็รีบเสนอราคาต่อในทันที ถึงจะไม่มีประโยชน์อะไร แต่ทำให้เย่เฉินรู้สึกแย่สักหน่อยก็ดีเหมือนกัน
เย่เฉินมองเขาเล็กน้อย ก่อนหันกลับไปอย่างไม่แยแส แล้วเสนอราคาต่อ
“เจ็ดแสน!”
ฉินเอ้าตง “แปดแสน!”
เซียวฉางควนนั่งไม่ติด เขารีบร้อนพูดขึ้นว่า “เย่เฉิน เราไม่ประมูลแล้วช่างมันเถอะ อย่าไปแข่ง”
เย่เฉินยิ้มเล็กน้อยพร้อมพูดว่า “ดูว่าผมจะเล่นกับเขายังไง”
พูดจบก็ยกมือขึ้น “แปดล้าน”
คนในลานประมูลตะลึงกันหมด
คนอื่นเสนอแปดแสน คุณเสนอแปดล้าน? คุณล้อกันเล่นใช่หรือเปล่า?
ฉินเอ้าตงก็ตกตะลึงไปเหมือนกัน แม่งเอ้ย นายไม่ออกไพ่ตามอุบายล่ะ! ผมเสนอแปดแสน นายต้องเสนอเก้าแสนสิ มากสุดก็หนึ่งล้าน นายเสนอแปดล้านแบบนั้นหมายความว่าไงฮะ?
นายมีเงินเหลือใช้ หรือว่าสมองเบลอกันล่ะ?
เย่เฉินหยักคิ้วให้ฉินเอ้าตง ก่อนจะยิ้มแล้วพูดว่า “คุณชายฉิน ต่อสิครับ!”
ฉินเอ้าตงส่งเสียงเชอะ “ผมเป็นบ้าเหรอ? ซื้อไอ้ของเล่นขยะนั่นในราคาแปดล้าน? ช่างเถอะ ยกให้นายแล้วกัน”
แม้ว่าสีหน้าของฉินเอ้าตงจะแทบข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่ แต่เขาก็ไม่เต็มใจที่จะประมูลบนในราคาเริ่มต้นถึงแปดล้านแน่
มูลค่าของไข่มุกนี่เจ็ดแสนก็สูงเฉียดฟ้าแล้ว ตัวเขาจะซื้อมันในราคาแปดล้านกลับบ้านจะไม่โดนตีขาหักเหรอ?
มีเงินก็ไม่ได้ใช้กันแบบนี้นะ!
เย่เฉินมองดูฉินเอ้าตง แล้วพูดอย่างเหยียดหยามว่า “คุณชายฉิน เหี่ยวเร็วขนาดนี้เลยเหรอครับ? ดูท่าคุณจะไม่ไหวนะ”
ทุกคนต่างก็พากันหัวเราะ
ฉินเอ้าตงพูดไปด้วยสีหน้าแดงก่ำ “คุณยั่วยุผมให้มันน้อยๆหน่อยนะ ผมว่าคุณก็ซื้อมันไม่ไหวอยู่ดี เสนอราคามั่วซั่วบัดซบ อยากล่อให้ฉันติดกับเหรอ? ผมจะรอดูหน่อยว่าแกจะเงินแปดล้านยังไง!”
เย่เฉินแบะปาก “คุณเสนอไม่ไหวก็บอกตรงๆว่าไม่ไหว อธิบายมามากขนาดนั้นมีประโยชน์อะไรกันครับ?”
ตอนนั้นเอง ผู้จัดประมูลก็ลงค้อน
“แปดล้าน จบการประมูล ยินดีด้วยครับคุณชายเย่!”
หลังจากนั้น พนักงานหญิงประจำพิธีการก็ถือเครื่องรูดบัตรไร้สายมาที่ด้านหน้าเย่เฉินในทันที “คุณชายเย่ เชิญท่านรูดบัตรค่ะ”
ทุกคนต่างก็กำลังมองจ้องเย่เฉิน ฉินเอ้าตงหัวเราะเยาะพร้อมพูดว่า “เย่เฉิน ผมจะดูหน่อยว่าคุณจะรูดบัตรยังไง! คุณจ่ายแปดล้านไหวด้วยเหรอ?”
คนอื่นก็สงสัยเหมือนกัน ว่าเย่เฉินต่อราคาได้เป็นบ้าเป็นหลังขนาดนี้ จะจ่ายเงินมากขนาดนั้นไหวจริงๆหรือเปล่านะ
เย่เฉินยิ้มเล็กๆขึ้นมาทันที เขาหยิบแบล็กการ์ดของตระกูลฉินขึ้นมา เสียงดังฉึบดังขึ้น บัตรถูกรูดเสร็จแล้ว
แบล็กการ์ดไม่มีรหัส
รูดบัตรสำเร็จ!
พนักงานหญิงประจำพิธีการยื่นใบเสร็จให้เย่เฉิน แล้วพูดอย่างนอบน้อมว่า “คุณชายเย่ สมบัติที่ท่านประมูลแล้วจะถูกส่งมอบให้ท่านก่อนงานจบค่ะ!”
“ครับ!” เย่เฉินพยักหน้า
คนอื่นๆต่างก็ตกตะลึง!
ดูท่าเขาจะมีเงินจริงๆสินะ!
ดูจากที่ใช้แปดล้านซื้อสร้อยเส้นหนึ่งที่ราคาเจ็ดแสนแล้ว คนคนนี้ช่างมีความกล้าบ้าบิ่นเสียจริง!
ตอนนั้นเอง เย่เฉินมองฉินเอ้าตง ก่อนจะยิ้มพร้อมพูดว่า “คุณชายฉิน ครั้งนี้ยอมรับหรือยังครับ?”
คนรอบพากันหัวเราะ มีคนยั่วเย้าเขาว่า “คุณชายฉิน ล้มละลายแล้วเหรอครับ จ่ายไม่ไหวแล้วเหรอ?”
“ฮ่าๆ ผมว่านายน้อยฉินสังขารไม่ไหว ไปต่อไม่ได้แล้วมั้งครับ!”
“ฮ่าๆๆ”
ฉินเอ้าตงรู้สึกว่าใบหน้าของเขาร้อนฉ่า
บัดซบ ไอ้เด็กนี่มันจ่ายเงินมากขนาดนั้นไหวจริงๆ!
เสียหน้าครั้งนี้เป็นการเสียหน้าครั้งใหญ่สุดๆ!
ด้วยเหตุนี้ เขากัดฟันพูดว่า “เย่เฉิน อันต่อไปฉันไม่แพ้แกแน่!”
เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “ได้สิครับ ชิ้นต่อไปก็มาลองแข่งกันดู!”
ฉินเอ้าตงไม่รู้ว่าเย่เฉินมีความมั่นใจมากขนาดนี้มาจากไหน ยิ่งไม่รู้ว่าในมือของเย่เฉินมีบัตรของคุณลุงรองของเขาอยู่ใบหนึ่ง….
ของสะสมอีหลายชิ้นถูกประมูลไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาเป็นตัวอ่อนหยกธรรมชาติสีเหลืองกึ่งสำเร็จรูปก้อนหนึ่ง
ครึ่งหนึ่งของตัวอ่อนหยกนี้ถูกหุ้มไว้ด้วยหิน เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่ามันเกิดจากธรรมชาติ สนนราคาอยู่ที่แปดแสน
หยกตัวอ่อนที่เกิดตามธรรมชาติจะแอบแฝงเรกิที่แน่นอน เย่เฉินคิดในใจว่าของชิ้นนี้นำมาใช้ในการกลั่นวิญญาณชั่วร้ายให้ฉินกางได้พอดี เขาจึงยกป้าย
“เก้าแสน!”
แต่ในขณะที่เสียงของเขาเพิ่งจะลดลง เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“หนึ่งล้าน!”
เย่เฉินหันไปมองก็เห็นเข้ากับสายตายั่วยุของฉินเอ้าตง
เขายกป้ายขึ้นอย่างใจเย็น
“หนึ่งล้านหนึ่งแสน”
“หนึ่งล้านสองแสน”
หลายครั้งต่อมา ตัวอ่อนหยกธรรมชาติสีเหลืองนี้ก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว การเสนอราคาภายใต้เจตนาของฉินเอ้าตง พุ่งสูงถึงยี่สิบล้าน!
คนส่วนใหญ่ในลานประมูลก็ดูออกแล้วว่าฉินเอ้าตงตั้งใจเล็งเป้าเล่นงานเย่เฉิน
ทุกคนต่างก็กำลังรอดูการแสดงสนุกๆฉากหนึ่ง ดังนั้นจึงจับตาดูมือของเย่เฉิน
เย่เฉินค่อยๆยกป้ายพร้อมพูดว่า “ยี่สิบล้าน!”
แม่เจ้าเว้ย!
คนในงานแทบเป็นบ้า!
จากสองล้านก็เสนอไปถึงยี่สิบล้าน? เหมือนกับเมื่อกี้นี้อีกแล้ว เพิ่มราคาไปอีกสิบเท่าตัว!
ฉินเอ้าตงสีหน้าแย่ถึงที่สุด
เย่เฉินคนนี้จะตายเหรอ? ต่อให้นายรวย งั้นเงินนั้นก็ไม่ใช่เงินเหรอ? ล้างผลาญขนาดนี้เลยเหรอ?
ตัวเขาเป็นลูกจอมล้างผลาญที่สุดโด่งดังของเมืองจินหลิง แต่แม้จะเป็นตัวเขาเอง ก็ทำใจใช้เงินซื้อของชิ้นเดียวกันในราคาสิบเท่าตัวไม่ไหวนะ…..
ทันใดนั้นเขาก็ตกอยู่ในความลังเล
จะตามดีไหม?
ถ้าตาม งั้นก็เท่ากับโยนเงินทิ้งไปเลยกว่าสิบแปดล้านอย่างสูญเปล่า
ถ้าไม่ตาม กลัวว่าเย่เฉินคงจะเหน็บแนมตัวเขาจนตาย ส่วนคนพวกนี้ก็คงจะต้องหัวเราะเยาะเขาแน่
เมื่อกี้เสียหน้าไปครั้งหนึ่งแล้ว ถ้าหากครั้งนี้เขาถูกเย่เฉินเอาชนะไปได้อีก งั้นก็คงไม่มีหน้ามาร่วมด้วยแล้ว!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉินเอ้าตงพูดทั้งกัดฟันว่า “ผมเสนอยี่สิบล้านหนึ่งแสน!”
ผู้คนในงานต่างพากันตกตะลึง!
ฉินเอ้าตงเพิ่มราคาอีกหนึ่งแสน!
นี่คือการรับมือการโจมตีของข้าศึก!
ตอนนั้นเองเย่เฉินก็ยิ้มน้อยๆ แล้วยกมือขึ้นอีกครั้ง “ผมเสนอสามสิบล้าน!”
“แม่เจ้า!!!”
“นี่มันบ้าไปแล้วนะ!!!”
“นายคนนี้ก็แข็งเกินไปแล้ว!!!”
ราคาสองล้านเสนอไปถึงยี่สิบล้าน! ยี่สิบล้านหนึ่งแสนเสนอไปเป็นสามสิบล้าน การประพันธ์ราคานี้ของเย่เฉิน ทำเอาคนในงานตกใจกันไปหมด
ฉินเอ้าตงก็ตกขาดใจแล้ว!
เย่เฉินคนนี้ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่? เขามีเงินขนาดนั้นจริงๆเหรอ? สามสิบล้านนะ! ซื้อหยกแบบนี้ได้ถึงสิบห้าก้อนเลยนะ! ไม่ว่าจะเป็นใครที่ต่อราคานี้มา งั้นก็ต้องเป็นพวกใช้เงินเปล่าประโยชน์สุดๆไปเลย!
ตอนนั้นเอง เย่เฉินก็ถามฉินเอ้าตงขึ้นมาอีกว่า “คุณชายฉิน มาสิครับ ต่อเลย!”
ฉินเอ้าตงรู้สึกกลัว
ซื้อหยกก้อนหนึ่งในราคาสามสิบล้าน ถ้าหากให้ที่บ้านรู้เรื่องนี้ล่ะก็ เขาต้องตายแน่!
กลัวว่าพี่ฉินเอ้าเสวี่ยนคงจะต้องตีตัวเขาจนพิการทั้งร่างไปทั้งชีวิตแน่
แต่ว่า มีคนดูอยู่มากขนาดนี้…
จะทำยังไงดี?
สีหน้าของฉินเอ้าตงทั้งแดงก่ำทั้งขาวซีด
ผู้จัดประมูลเรียกราคา “สามสิบล้านครั้งที่หนึ่ง!”
“สามสิบล้านครั้งที่สอง!”
ผู้คนที่ครึกครื้นกันอยู่ในงานเริ่มตะโกนเสียงดัง “คุณชายฉินเสนอราคามาสิ!”
“คุณชายฉิน คุณต้องสู้ขึ้นมานะ!”
“คุณชายฉิน อย่าให้พวกเราดูถูกคุณสิครับ!”
“คุณชายฉิน หรือคุณจะเกิดขี้ขลาดขึ้นมาจริงๆซะแล้วครับ? เมื่อกี้คุณโม้มาขนาดนั้น ตอนนี้กลัวเหรอครับ?”
เย่เฉินกล่าวพร้อมปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้าว่า “คุณชายฉิน ถ้ายังไม่เสนอราคา คุณก็จะแพ้แล้วนะครับ!”