“พวกแกนี่หมกมุ่นกับฉันจริงๆ เลยนะ…” เงาดำค่อยๆ ไล่บี้เข้ามา หลิงม่อถอยจนหลังแนบติดผนัง พลางคิดหาทางรับมืออย่างเร่งด่วน สติปัญญาที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้แสดงให้เห็น ไม่เข้ากับรูปร่างของพวกมันเลยซักนิด โดยเฉพาะ…การเลือกเหยื่อ
นอกจากนี้ ความเร็วในการตอบสนองของพวกมัน ก็น่าน่าตกใจมากจริงๆ…
“แบ๊!”
เสี่ยวป๋ายเห็นหลิงม่อติดอยู่ในวงล้อม กลับเหมือนว่ามันเป็นคนทำให้หลิงม่อตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายเสียเอง จึงส่งเสียงคำรามร้อนใจ แต่ในตอนที่มันไขว้เขวเพียงเสี้ยววินาที เงาดำมากมายพลันเกาะเต็มขา และคืบคลานขึ้นไปบนตัวอย่างรวดเร็ว เสี่ยวป๋ายที่หมายจะเข้ามาช่วยหลิงม่อทำได้เพียงกลิ้งตัวไปมาอยู่ที่เดิม และกระทืบมือกระทืบเท้ากับพื้นอย่างบ้าคลั่ง
“โครม โครม!”
พวกเย่เลี่ยนเองก็สังเกตเห็นแล้วว่าหลิงม่อมีอันตราย แต่ถึงแม้พวกเธอจะพลิกซากรถทั้งหมดไปฝั่งหนึ่ง ก็ไม่สามารถยับยั้งเงาดำที่พรั่งพรูเข้ามาพวกนั้นไว้ได้
นอกจากความสามารถในการตอบสนอง สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ยังเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มได้อย่างทรงพลัง…
“จะแยกฉันออกจากพวกสินะ…ถ้าอย่างนั้น พวกแกต้องกินฉันแน่นอนสินะ? แต่ว่า…” พอเห็นว่าเงาดำพวกนั้นกรูกันเข้ามาจนถึงปลายเท้าแล้ว หลิงม่อกลับกระโดดขึ้นกลางอากาศ จากนั้นก็พุ่งตัวออกไปในขณะที่อยู่เหนือพื้นไม่ถึงเมตร
“อย่าดูถูกมนุษย์ให้มันมากนัก!”
เมื่อเสียงป้ายไฟด้านบนหักดัง “เคร้ง” หลิงม่อก็ลอยตัวผ่านเงาดำมากมายที่กำลังกระโจนเข้ามา และทิ้งตัวลงหน้าประตูร้านค้าร้านนั้นอย่างเฉียดฉิว พลันรีบแทรกตัวเข้าไปข้างในทันที
“เชี่ยยย ป้ายไฟบ้านั่นคุณภาพแย่สุดๆ…เกือบไปแล้วไง เกือบไปแล้ว…”
หลิงม่อวิ่งตรงเข้าไปในห้องซึ่งอยู่หลังร้านอย่างรวดเร็ว และเสี้ยววินาทีหลังจากที่วิ่งเข้าไป หนวดสัมผัสที่เกี่ยวประตูไว้ ก็ดึงประตูปิดดัง “ปัง” ตามหลังเขาทันที
“โครมๆๆ…”
เสียงกระแทกประตูดังรัวๆ หลิงม่อใช้สองมือยันประตูสุดแรง เขาสัมผัสได้ถึงแรงสะเทือนที่ส่งผ่านบานประตูมาอย่างชัดเจน
“เชี่ย พวกแกจะมากเกินไปแล้วนะ!”
เขาปล่อยหนวดสัมผัสหลายสิบเส้นพุ่งออกไปที่ประตูห้อง หนวดสัมผัสที่เดิมเป็นพลังงานไร้รูป หลังทะลุผ่านบานประตูไป ก็กลายเป็นรูปสสารทันใด
“ฉึก! ฉึก!
หลังเสียงโจมตีดังเบาๆ เสียงกระแทกประตูโครมครามพลันน้อยลงทันที แต่หลิงม่อยังไม่ทันผ่อนคลาย เสียงเคี้ยวอาหารชวนอ้วกก็ดังขึ้น และไม่นานเสียงกระแทกประตูก็ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่งราวกับฟ้าถล่มดินทลายอีกครั้ง
“เชี่ย…”
หลิงม่ออดสบถด่าไม่ได้ เขาหันไปมองในห้อง
เห็นชัดว่าการยื้อยุดกับพวกมันไปเรื่อยๆ อย่างนี้ไม่ใช่วิธีที่ดีนัก…เพราะในเวลาเพียงสองสามวินาทีที่ผ่านมา ประตูนิรภัยบานนี้กลับมีรอยบุบเล็กใหญ่เกิดขึ้นมากมาย…เกรงว่าอีกไม่นาน ประตูบานนี้ต้องะถูกพวกมันทุบจนพรุนเป็นกระชอนแน่
“สถานที่แบบนี้น่าจะมีประตูหลังหรือไม่ก็หน้าต่างอยู่…ถ้าหากไม่ได้การจริงๆ ก็พังช่องระบายอากาศออกไปก็ได้…ถึงจะไม่ใช่แผนที่ดีนัก แต่อย่างน้อยก็น่าจะยืนหยัดไปได้จนกว่าพวกเย่เลี่ยนจะมา…”
บทบาทที่สำคัญที่สุดของห้องนี้ ก็คือกันหลิงม่อออกจากสัตว์ประหลาดพวกนั้น มีเพียงต้องทำอย่างนี้ ฝ่ายเขาจึงจะมีโอกาสพลิกสถานการณ์
เมื่อกี้ทำได้แต่เอาตัวรอด หลิงม่อกระทั่งไม่มีเวลาสังเกตว่าร้านค้าแห่งนี้เป็นร้านอะไร เวลานี้พอเห็นสินค้าที่กองเต็มอยู่ที่นี่ เขาถึงเพิ่งค้นพบอย่างไม่คาดคิด ที่นี่เป็นร้านขายบุหรี่และสุราโดยเฉพาะ
“อื่ม…ถ้าหากไม่ใช่ว่าข้างนอกมีพวกตัวอันตรายดักล้อมอยู่ ตอนนี้ฉันคงจะดื่มสุราเคล้าเมียคนสวยอย่างสำราญใจไปแล้ว…”
หลิงม่อหยิบกล่องบุหรี่กล่องหนึ่งขึ้นมาดู พลางรำพึงรำพัน
แต่ในขณะที่เขากำลังจะโยนมันทิ้ง อยู่ๆ เขากลับเผยสีหน้าประหลาดออกมา
“นี่มันไม่ปกติ…”
เขาค่อยๆ พลิกกล่องบุหรี่ดู แล้ววินาทีถัดมาก็ขมวดคิ้วมุ่น “กล่องเปล่า?”
ถึงแม้จะไม่ตัดความเป็นไปได้ที่เจ้าของร้านอาจเก็บกล่องบุหรี่เปล่าไว้ในโกดัง แต่หลิงม่อก็ยังสัมผัสได้ถึงความผิดปกติอย่างว่องไว
เขาโยนกล่องบุหรี่ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็หยิบกล่องอื่นขึ้นมาดูอีกหลายกล่อง รวมถึงกล่องใส่สุราด้วย
ทว่ากล่องเหล่านี้ล้วนไม่ต่างกัน…พวกมันล้วนเป็นกล่องเปล่า…
“ไม่สิ…มันไม่ควรเป็นแบบนี้นี่…”
ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ สิ่งที่กลืนกินอำเภอแห่งนี้จนราบคาบ ต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่นอกประตูพวกนั้นแน่นอน…ดังนั้นนอกจากพวกมัน เกรงว่าคงไม่มีใครสามารถเข้าใกล้เหล้าบุหรี่พวกนี้ได้แล้ว เพราะพวกมันคือเจ้าถิ่นของที่นี่…
“สิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ที่ดื่มเหล้างั้นหรอ…จิ๊ ไม่ว่าจะคิดยังไงมันก็ไม่น่าเป็นไปได้ ถึงแม้พวกมันจะโหดร้ายมากอย่างที่เห็นจริงๆ แต่พวกมันก็ไม่น่าจะมีความสามารถถึงขนาดแกะกล่องได้อย่างเรียบร้อย และไม่เหลือรอยเท้าหรือร่องรอยการกินอาหารทิ้งไว้นี่นา ถ้าอย่างนั้นปัญหาก็มาแล้วล่ะ…”
หลิงม่อจ้องกล่องเปล่าที่มีอยู่เต็มห้อง พลางบีบคางครุ่นคิด “ของพวกนี้ ถูกใครขนไปกันแน่?”
วิธีที่เหลือทิ้งไว้แค่กล่องอย่างนี้ เหมือนวิธีที่เขาแบกกระเป๋าเป้ออกมาหาเสบียงอาหารข้างนอกมาก…เพราะมีเพียงต้องทำอย่างนี้ ถึงจะสามารถบรรจุของในกระเป๋าเป้ได้มากขึ้น และเอาของกลับมาให้ได้มากที่สุด…ถึงแม้ว่าเหล่าผู้รอดชีวิตอาจเหมือนปลาตัวเล็กๆ ที่กระจายตัวกันอยู่ทั่วท้องทะเล และไม่มีการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน แต่วิธีแก้ปัญหาพื้นฐานอย่างนี้ เดาว่าทุกคนคงมีความคิดเหมือนกัน…
“ซย่าน่า ตอนนี้ฉันหลุดพ้นจากอันตรายชั่วคราวแล้ว พวกเธอหาทางสลัดพวกมันให้ได้ จากนั้นก็อ้อมมารวมตัวกับฉันที่นี่ สิ่งมีชีวิตพวกนั้นจงใจเล่นงานฉัน ถ้าพวกเธอจะไป พวกมันไม่น่าจะรั้งไว้” หลิงม่อเดินลึกเข้าไปในโกดัง พลางพูดขึ้นในสมอง
“เข้าใจแล้ว…พี่ระวังตัวด้วย” ร่างดวงจิตน่าน่าผุดออกมาจากดวงแสงแห่งจิตของซย่าน่า และตอบเขาทันที
“อื่ม รู้แล้ว…เรื่องนี้เอาไว้ก่อน…ดูเหมือนว่าฉันจะค้นพบอะไรบางอย่างที่น่าสนใจในนี้ด้วยล่ะ…” หลิงม่อพูดกลั้วเสียงหัวเราะเย็นชา
“ค้นพบอะไรน่าสนใจ? เหอะ…พี่เจอกางเกงในจีสตริงกองใหญ่หรือไง?” ซย่าน่าถาม
“…ไม่ใช่อยู่แล้ว! ทำไมในสถานการณ์อย่างนี้ถึงได้พูดเรื่องกางเกงในจีสตริงขึ้นมาล่ะ! แล้วอีกอย่าง พูดก็พูดเถอะฉันยังไม่เคยขอให้พวกเธอใส่มันเลยนะ…” หลิงม่อบอก
“อื้มม พี่ไม่เคยขอจริงๆ นั่นแหละ…แต่พี่แค่แอบใส่ให้พวกฉันเงียบๆ เท่านั้นเอง…”
“พอรู้ว่าฉันยังไม่ตายง่ายๆ ก็เริ่มพูดจาแขวะกันเลยนะ…เดี๋ยวก่อน เหมือนฉันจะหาทางออกเจอแล้ว”
หลิงม่อพูดในใจ พลางสะบัดมือไปมา ใช้หนวดสัมผัสโยนกล่องเปล่ากองใหญ่ออกไปอีกทาง
แต่ในขณะที่เขามองไปยังหน้าต่างที่เพิ่งเผยออกมาให้เห็น อยู่ๆ เสียงประหลาดหนึ่งก็ดังมาจากในห้อง
หลิงม่อหน้าเปลี่ยนสี พลันหันหน้ามองไปตามเสียง และเห็นท่อระบายน้ำที่อยู่ตรงมุมห้อง…
“แจ๊บๆๆ…”
พอเห็นท่อระบายทะลุจนเกิเป็นดรูเล็กๆ อย่างรวดเร็ว หลิงม่อรีบหันไปปีนขึ้นหน้าต่าง และพุ่งตัวกระแทกหน้าต่างออกไปข้างนอกพร้อมกับเศษกระจกมากมาย : “เพล้ง!”…
แต่ในเสี้ยววินาทีที่เขากระโดดออกไป รูเล็กๆ บนท่อระบายน้ำนั่น พลันมีเงาดำมากมายหลั่งไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก
—————————————-