ตอนที่ 315 แผนการของ เย่ ชิงเหม่ย กิจวัตรของผู้คนในเมืองนั้น ช่างลึกซึ้งจริงๆ

ระบบลงชื่อเข้าใช้ระดับพระเจ้า เริ่มต้นจาก 100 พันล้าน

ตอนที่ 315 แผนการของ เย่ ชิงเหม่ย กิจวัตรของผู้คนในเมืองนั้น ช่างลึกซึ้งจริงๆ

หลินฟาน จัดการกับเจ้าของศูนย์ฟิตเนสจนเขายอมเชื่อฟัง ซึ่งทําให้ เย่ ชิง เหม่ย อยากรู้อยากเห็นอย่างมาก ทั้งๆ ที่ หลินฟาน ก็ดูเหมือนเด็กยากจน

เย่ ชิงเหม่ย จึงอดไม่ได้ที่จะถามกับ เพิ่ง รั่วหลาน

เพิ่ง รั่วหลาน ถามเธอกลับมาว่า “เธอรู้จัก กลุ่ม หยงจิ๋ว ไหม?”

เย่ ซิงเหม่ย กล่าวว่า : “กลุ่ม หยงจิ่ว? ฉันรู้ แต่มันเกี่ยวข้องยังไงกับเขากัน?”

เพิ่ง รั่วหลาน ยิ้มเล็กน้อย และกล่าวว่า “ก็เพราะว่า เสี่ยวฟาน เป็นเจ้านายของ กลุ่ม หยงจิ๋ว”

ดวงตาของ เย่ ชิงเหม่ย เบิกกว้างด้วยความตกใจ : “อะไรนะ? เขาเป็นเจ้านาย ของ กลุ่ม หยงจิ่ง เพื่อนสาว เธอกําลังล้อฉันเล่นอยู่ใช่ไหม เจ้านายของ กลุ่ม ห ยงจิ่ว ตอนนี้ เขากลายเป็นคนที่ร่ํารวยที่สุดในหยุนเฉิง ไปแล้ว!”

เฟิง รั่วหลาน กล่าวว่า “ก็ตอนนี้.. คนที่ร่ํารวยที่สุดในหยุนเฉิง ก็อยู่ตรงหน้า เธอแล้วไง”

เย่ ชิงเหม่ย ตกตะลึง

เธอไม่เคยคิดว่า เพิ่ง รั่วหลาน จะพูดเรื่องตลกกับเธอ ดังนั้น หลินฟาน ที่อยู่ ต่อหน้าเธอในตอนนี้ คือชายที่ร่ํารวยที่สุดในหยุนเฉิง!

เธอเคยคิดว่า หลินฟาน เป็นคนจน แต่เขากลับกลายเป็นผู้ชายที่ร่ํารวยที่สุด ไปได้ ถ้า หลินฟาน ถูกเรียกว่าจน แล้วเธอล่ะ จะเป็นอะไร?

ครอบครัวเย่ ในหยุนเฉิง เป็นเพียงครอบครัวเล็ก ๆ และธุรกิจที่พวกเขาทําก็ไม่ ได๋ใหญ่ เย่ ชิงเหม่ย ออกมาเปิดร้านอาหารเพราะเธอไม่สนใจที่จะช่วยงานใน บริษัทของครอบครัว เธอปรารถนาที่จะทําให้ร้านนี้เป็นร้านอาหารชื่อดังใน อนาคต และเปิดแฟรนไชส์เพื่อสร้างแบรนด์ของร้านอาหาร แต่ในฐานะที่เป็น บุตรสาวคนโตของครอบครัวเย่ เธอยังขาดเงินทุน และครอบครัวก็ไม่สามารถ ช่วยเหลืออะไร เธอได้

เย่ ซิงเหม่ย อดไม่ได้ที่จะหน้าแดงเล็กน้อย เธอตัดสินผู้คนจากรูปร่างหน้าตา เมื่อเห็น หลินฟาน ที่แต่งตัวเรียบง่าย เธอก็คิดว่าเขาเป็นคนจน เธอมองคนแบบ ผิวเผิน จริงๆ

ต้องบอกว่า ตอนนี้ ผู้ชายที่ร่ํารวยที่สุด และผู้หญิงที่ร่ํารวยที่สุดในหยุนเฉิง อยู่ ในร้านของเธอแล้ว เย่ ชิงเหม่ย มีความคิดนี้ และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น ขึ้นมา

ภายในร้านอาหาร หวง เสี่ยวหยิง ให้การต้อนรับ หลินฟาน อย่างอบอุ่น และ ทั้งสองก็พูดคุย และหัวเราะกัน

หวง เสี่ยวหยิง และหลินฟาน เป็นเพื่อนบ้านกัน แต่เนื่องจาก หลินฟาน ได้ ช่วยเธอเอาไว้ในครั้งนี้ เธอจึงมีความสุขมาก และในขณะเดียวกันก็อยากรู้อยาก เห็น เกี่ยวกับเขาเช่นกัน

“พี่ฟาน กัว จื้อเซียง ทําไมเขาถึงดูกลัวพี่มาก แล้วพี่ยังบอกว่าจะเพิ่มค่าเช่า ของเขา มันยังไงกัน แล้วตอนนี้พี่ทํางานอะไร?” หวง เสี่ยวหยิง ถามออกมา

หลินฟาน ยิ้ม แล้วกล่าวว่า “บอกตามตรงนะ ตอนนี้พี่เป็นคนที่ร่ํารวยที่สุดใน หยุนเฉิงแล้ว

หวง เสี่ยวหยิง ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหัวเราะคิกคักออกมา เธอก็พูดว่า : “พี่ ฟาน คุณเป็นคนตลกมาก ฉันขอเดาว่า พี่ต้องทํางานเก็บค่าเช่า?”

หลินฟาน กําลังพูดความจริง แต่ หวง เสี่ยวหยิง จะเชื่อได้อย่างไร ทั่งเธอยัง เป็นเพื่อนที่บ้านเกิดของเขา และได้รู้มาในช่วงตรุษจีนปีนี้ เธอได้ยินมาว่า หลิน ฟาน ยังคงทํางานเป็นคนส่งอาหารอยู่เลย มันจะเป็นไปได้อย่างไร ที่เขาจะกลาย เป็นคนที่ร่ํารวยที่สุด แน่นอนว่ามันต้องเป็นเรื่องตลก

หลินฟาน พยักหน้า : “อืม.. แต่มันก็สามารถพูดได้ว่าฉันเก็บค่าเช่าอยู่”

ตึกเก่าทั้งหมดในถนนสายนั้นเป็นของเขา และเขาก็เป็นเจ้าของบ้านของทุกคนที่นั่น จริงๆ

“เสี่ยวหยิง ฉันได้ยินมาว่า เธอ กับเสี่ยวฟาน เป็นเพื่อนบ้านกัน?” เย่ ชิงเหม่ย และเพิ่ง รั่วหลาน เดินเข้ามา

หวง เสี่ยวหยิง กระพริบตาด้วยความสงสัยเล็กน้อย : “เจ้านาย คุณรู้จักพี่ฟาน ด้วย?”

เย่ ชิงเหม่ย กล่าวว่า “วันนี้ฉันเองก็เพิ่งเจอ เสี่ยวฟาน เสี่ยวฟาน มาที่นี่เพื่อจะ ทานข้าว กับพี่สาวของเขา ในวันนี้ ซึ่งเธอก็เป็นเพื่อนสาวที่ดีของฉันด้วย”

หวง เสี่ยวหยิง มองไปที่ เฟิง รั่วหลาน และตกตะลึง เฟิง รั่วหลาน สวยมาก ออร่ารอบตัวของเธอแข็งแกร่งมาก และแน่นอน คนส่วนใหญ่ไม่กล้ามองเธอโดยตรง

“พี่ฟาน พี่มีพี่สาวตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมเธอยังสวยมากด้วย” หวง เสี่ยวหยิง ถามหลินพ่าน ด้วยความประหลาดใจ

เพิ่ง รั่วหลาน ยิ้ม แล้วพูดว่า “สวัสดี เสี่ยวหยิง ฉันชื่อ เพิ่ง รั่วหลาน และฉันก็ เป็นพี่สาวของ เสี่ยวฟาน”

หวง เสี่ยวหยิง หน้าแดงเล็กน้อย และตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า : “สวัสดี”

เธอรู้สึกว่าชื่อของ เฟิง รั่วหลาน ดูคุ้นเคยเล็กน้อย แต่เธอจําไม่ได้ว่าเธอเคย ได้ยินชื่อนี้มาจากไหน

เย่ ชิงเหม่ย ดึง เฟิง รั่วหลาน ให้นั่งลง แล้วนําเมนูมากางตรงหน้า แล้วพูด ด้วยรอยยิ้มว่า “เพื่อนสาวคนดี เสี่ยวฟาน ดูสิ่งที่ต้องการจะกินก่อนไหม ฉันไม่ได้ อยากจะคุยโวหรอกนะ อาหารทุกจานที่ฉันมีที่นี่น่าลิ้มลองทั้งนั้น เสี่ยวหยิง เธอ มากับฉัน”

เย่ ชิงเหม่ย ดึง หวง เสี่ยวหยิง ไปทางด้านหลัง

“เสี่ยวหยิง เธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ หลินฟาน หรือไม่?” เย่ ชิงเหม่ย ถาม
ออกมา

หวง เสี่ยวหยิง กล่าวว่า “อืม.. ฉันอาศัยอยู่ในหมู่บ้านถัดจากเขา เมื่อตอนเรา ยังเด็ก เราไปโรงเรียนประถมด้วยกัน เราทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี เมื่อเรากลับไป ในช่วงปีใหม่ หรือในช่วงวันหยุด เราก็จะมารวมตัวกัน..”

เย่ ซิงเหม่ย โล่งใจ : “ดีแล้ว ดูเหมือนว่าครั้งนี้เราจะมีหวัง”

หวง เสี่ยวหยิง กล่าวว่า “เจ้านาย หมายถึงอะไร?”

เย่ ซิงเหม่ย กระแอมในลําคอ และกล่าวว่า “เสี่ยวหยิง เธอมาอยู่ในร้านของ ฉันหนึ่งเดือนแล้ว ใช่ไหม?”

หวง เสี่ยวหยิง กล่าวว่า “ค่ะ หากนับวันนี้ ก็หนึ่งเดือนพอดี”

เย่ ซิงเหม่ย กล่าวว่า “ฉันเห็นว่าความสามารถในการทํางานของเธอก็ดี และ ผลงานของคุณก็ดีมาก อืม.. ฉันพอใจมาก และตอนนี้เราก็ยังขาดผู้จัดการร้าน แล้วฉันก็ตัดสินใจว่าจะให้เธอเป็นผู้จัดการร้าน เธอคิดยังไง?”

หวง เสี่ยวหยิง ตกใจ และมีความสุขมากๆ แล้วน้ําเสียงของเธอก็สั่น : “เจ้า นาย คุณอยากจะเลื่อนตําแหน่งให้ฉันเป็นผู้จัดการจริง ๆ?”

เย่ ซิงเหม่ย กล่าวว่า “นี่เธอคิดวาฉันพูดเล่น?”

หวง เสี่ยวหยิง มีความสุขมาก : “ขอบคุณ เจ้านาย!”

เดิมที เธอโกรธเคืองบริษัทเก่าของเธอในวันนี้ แต่เธอไม่คิดว่ามันจะกลายเป็น โชคดีของเธอ อย่างแรก หลินฟาน ช่วยเธอจัดการกับบริษัทเก่าของเธอ แล้วมา ตอนนี้ เย่ ชิงเหม่ย ก็ยังเลื่อนให้เธอเป็นผู้จัดการร้าน แล้วมาในตอนนี้ เธอก็กลาย เป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก

เย่ ซิงเหม่ย กล่าวว่า “เป็นเรื่องดีที่น่ายินดี แต่วันนี้เรามีแขกผู้มีเกียรติสอง คนในร้านของเรา และเราต้องทําการต้อนรับพวกเขาให้เป็นอย่างดี”

หวง เสี่ยวหยิง กล่าวว่า “เจ้านาย หมายถึง พี่ฟาน และคุณเพิ่ง?”

เย่ ซิงเหม่ย กล่าวว่า “ถูกต้องแล้ว”

แล้วทั้งสองก็เดินออกมา

“เป็นยังไงบ้าง พวกคุณอยากกินอะไร?” เย่ ซิงเหม่ย ถามด้วยรอยยิ้ม

หลินฟาน และเพิ่ง รั่วหลาน ตัดสินใจได้แล้ว ทันทีที่พวกเขาสั่งอาหาร เย่ ชิง เหม่ย ขอให้ หวง เสี่ยวหยิง ไปจัดเตรียมมา แล้วเธอก็นั่งลง พูดคุยกับทั้งสองคน

เย่ ชิงเหม่ย ยิ้ม แล้วพูดว่า “เสี่ยวฟาน ฉันยังไม่ได้ขอบคุณคุณมากพอ ที่วันนี้ คุณได้ช่วย เสี่ยวหยิง ไป”

หลินฟาน กล่าวว่า “เสี่ยวหยิง กับผม เป็นเพื่อนที่บ้านเกิดของผม และผม สมควรที่จะต้องทําเช่นนั้น แต่ตอนนี้มันส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ พี่สาวเย่ ผมก็ หวังว่า พี่สาวเย่ จะไม่กล่าวโทษ เสี่ยวหยิง”

เย่ ซิงเหม่ย กล่าวว่า “ที่ไหนกัน เสี่ยวหยิง เด็กคนนี้หาได้ยากมาก เธอเพิ่งมา จะมาทํางานที่ร้านของเราได้เพียงเดือนเดียว และเธอก็ได้เป็นผู้จัดการของที่นี่แล้ว”

หลินฟาน อดส่งเสียง โอ้ ออกมาไม่ได้ เขาจึงอดที่จะหัวเราะไม่ได้ แล้วพูด ด้วยรอยยิ้มว่า “โอ้ จริงๆ แล้ว เสี่ยวหยิง ได้รับการดูแลจากพี่สาวเย่”

ไม่นานอาหารที่พวกเขาสั่ง ก็มาถึง

เย่ ซิงเหม่ย ยิ้ม และกล่าวว่า “ลองทานดู ในขณะที่มันยังร้อนๆ อยู่”

หลินฟาน และเพิ่ง รั่วหลาน ต่างก็ลองชิมอาหารที่นี่ และมันก็อร่อยมาก

“อร่อยมาก” เพิ่ง รั่วหลาน ยกนิ้วให้

เย่ ชิงเหม่ย ยิ้ม แล้วพูดว่า “แล้วคุณสองคนที่ร่ํารวยที่สุดล่ะ คุณคิดว่าอาหารภายในร้านของฉัน อร่อยไหม?”

เฟิง รั่วหลาน กล่าวว่า “อืม อร่อยมาก”

เย่ ชิงเหม่ย หันไปถาม หลินฟาน บ้าง “เสี่ยวฟาน เธอล่ะ?”

หลินฟาน พยักหน้า : “ผมก็คิดว่ามันดีมาก พี่สาวเย่ ควรเปิดสาขาเพิ่มอีกสัก สองสามสาขา เพื่อให้คนมากินมากขึ้น”

เย่ ซิงเหม่ย ถอนหายใจ และกล่าวว่า “ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่น่า เสียดายที่ฉันไม่มีทุนขนาดนั้น ฉันก็ลองมาหลายครั้งแล้ว พยายามที่จะหาคนมา ลงทุนแต่ก็ล้มเหลว แม้ว่าอาหารของเราจะอร่อย แต่คนในเมืองหลวงก็ไม่ได้มองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอาหารมากนัก”

เย่ ซิงเหม่ย เหลือบมองทั้งสองคน แล้วพูดด้วยน้ําเสียงติดตลกว่า “อืม… ถ้า คุณสองคนสนใจ และคุณทั้งสองก็เป็นคนที่ร่ํารวยที่สุดในหยุนเฉิง”

หลินฟาน และเพิ่ง รั่วหลาน มองหน้ากัน ไม่รู้ว่าทําไม เย่ ชิงเหม่ย ถึงได้มอง มาหาพวกเขา เพื่อให้พวกเขาลงทุนให้เธอ

ไม่น่าแปลกใจที่ เย่ ชิงเหม่ย เชิญ เจิ่ง รั่วหลาน ให้มาลองชิมอาหารของที่นี่ แต่ดูเหมือนว่าความตั้งใจของคนขี้เมาจะไม่ใช่อยู่ที่ไวน์ที่จะกิน และอาหารก็เป็น เพียงแค่จานรอง แต่การลงทุนนี่ล่ะ ที่เป็นจานหลัก

นอกจากนี้ หลินฟาน ได้พูดคุยกับ หวง เสี่ยวหยิง และได้เรียนรู้ว่า หวง เสี่ยว หยิง มาที่นี่เพื่อทํางานเป็นพนักงานเสิร์ฟได้เพียงไม่นานมานี้เอง และเธอก็เข้า มาทํางานตามปกติ ฉันเกรงว่านี่ไม่ใช่เพียงเพราะ เย่ ชิงเหม่ย ได้เลื่อนตําแหน่ง ให้กับ หวง เสี่ยวหยิง อย่างรวดเร็ว แต่เป็นเพราะ หวง เสี่ยวหยิง เป็นเพื่อนที่บ้าน เกิดของ หลินฟาน ดังนั้นเธอจึงต้องการใช้ความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อยื่นมือมาหาหลินฟาน?

กิจวัตรของผู้คนภายในเมืองนั้น… ช่างลึกซึ้ง จริงๆ…..