เมื่อเยี่ยโยวเหยากับพวกจากไปแล้ว จิ้งจอกน้อยที่ถูกทำให้ตกใจกลัวจนตัวสั่นเทาก็ออกมาจากแขนเสื้อของจิ่วหรงอย่างระมัดระวัง มันปีนป่ายขึ้นไปบนหัวไหล่ของจิ่วหรง หันไปทางที่เยี่ยโยวเหยาจากไปพลางคำรามอย่างต่อเนื่อง
ราวกับจะบอกว่า ‘อย่าปล่อยเขาไป อย่าปล่อยเขาไป’
คนผู้นั้นช่างน่ากลัวเสียจริง!
จิ้งจอกน้อยติดตามจิ่วหรงมานาน จิ่วหรงเป็นคนอ่อนโยน แม้บางเวลาจะดูเย็นชาไปบ้าง ทว่าจิ้งจอกน้อยไม่กลัวเขาแม้แต่น้อย
แต่เมื่อครู่ คนผู้นั้นน่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจในนรกเสียอีก ในโลกนี้มีคนที่น่ากลัวเช่นนั้นได้อย่างไร?
ร่างกายของเขาเหมือนเกิดมาพร้อมกับวิญญาณชั่วร้าย
“พอแล้ว! ”
จิ่วหรงยื่นมือออกมาลูบศีรษะจิ้งจอกน้อยอย่างอ่อนโยน เพื่อปลอบโยนมัน
จิ้งจอกน้อยจึงสงบลง ภายใต้ความอ่อนโยนของจิ่วหรง มันเพลิดเพลินไปกับการใช้ศีรษะถูไถไปที่ลำคอของเขา
อืม…
คุณชายดีที่สุด!
ไม่เพียงหน้าตาดี นิสัยยังอ่อนโยนอีกด้วย
ที่สำคัญก็คือ…
มันสามารถฉวยโอกาสลวนลามคุณชายได้ตามใจชอบ…
ฮ่า ฮ่า ฮ่า แฮ่ แฮ่ แฮ่…
ในใจของจิ้งจอกน้อยมีความสุขอย่างมาก
ทว่าไม่รู้เพราะเหตุใด จู่ๆ ในความคิดของจิ้งจอกน้อยก็ปรากฏใบหน้าขึงขังเย็นชาของเยี่ยโยวเหยา ราวกับเขาจ้องมาที่มันด้วยสายตาอาฆาตพยายาท
จิ้งจอกน้อยร้อง ‘จี๊ด’ ขึ้นมาทันที และรีบซุกตัวเข้าไปในแขนเสื้อกว้างของจิ่วหรง
จิ่วหรงอดส่ายศีรษะไม่ได้
“คุณชาย! ”
ทันใดนั้น ร่างในชุดสีขาวทั้งสี่ก็ปรากฏขึ้นที่ข้างกายของจิ่วหรง และทำความเคารพเขา
จิ่วหรงมองจงเหมยจวงด้วยใบหน้าสงบ ทว่าน้ำเสียงกลับเย็นชา “นำตัวกลับไป”
“ขอรับ! ” ทั้งสี่คนตอบรับอย่างสุภาพ เมื่อพวกเขาหันศีรษะกลับไป จิ่วหรงก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือไว้เพียงหิมะที่กำลังโปรยปราย และสายลมเย็นยะเยือกพัดผ่าน
แม้จอมวายร้ายไป๋เฉ่ากับมู่หรงฉีจะล่วงหน้าไปก่อน แต่ขณะที่พวกเขามาถึงหุบผาราชันพิษ เยี่ยโยวเหยาก็มาถึงแล้วเช่นกัน
เมื่อเยี่ยโยวเหยาเห็นพวกเขาทั้งสอง ภายในใจก็รู้สึกไม่เข้าใจเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้ที่ค้นหาหุบผาราชันพิษ เยี่ยโยวเหยาต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ทว่าพวกเขาทั้งสองรู้จักสถานที่นี้ได้อย่างไร?
จอมวายร้ายไป๋เฉ่ามีนิสัยหยาบกระด้าง คาดว่าคงไม่มีความสามารถอันใด มีเพียงมู่หรงฉีที่มีความสามารถพอที่จะหาสถานที่แห่งนี้พบ อีกทั้งเขาคงรู้จักที่แห่งนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว
แคว้นหนานหลีลือกันว่า ฉีอ๋องมีอำนาจ ทั้งมีความสามารถเกี่ยวกับการค้า การบริหาร และด้านอื่นๆ อีกมากมาย ช่างสมคำร่ำลือจริงๆ
มู่หรงฉีราวกับรับรู้ถึงสายตาของเยี่ยโยวเหยาที่มองมาทางเขา จึงหันไปพยักหน้าให้เยี่ยโยวเหยาเล็กน้อย เพื่อแสดงถึงมารยาท
ทว่าจอมวายร้ายไป๋เฉ่าไม่ได้มีความสุภาพเช่นนั้น “ที่นี่ก็แค่รังโจร ได้ยินว่าโยวอ๋องไม่เป็นวิชาพิษ ข้าขอเตือนว่าท่านอย่าลงไปจะดีกว่า เพื่อไม่ให้จบชีวิตอย่างไร้ค่า อย่างไรเสียท่านก็เป็นบุคคลสำคัญอันดับต้นๆ หากมาตายอยู่ที่นี่คงน่าเสียดาย ให้ข้าและเจ้าฉีลงไปช่วยแม่นางพิษน้อยเถิด! รอช่วยคนออกมาได้แล้ว แม่นางพิษน้อยก็จะเป็นคนของข้า อย่างไรก็ตาม ระหว่างท่านกับนางก็มีความชอบที่แตกต่างกัน อยู่ร่วมกันไปก็เปล่าประโยชน์”
เยี่ยโยวเหยามองจอมวายร้ายไป๋เฉ่าด้วยสายตาเย็นชา เขาไม่พูดอันใด ทำเพียงชักกระบี่ออกมาและตรงไปยังจอมวายร้ายไป๋เฉ่าเพื่อสังหาร
“วันนี้ข้าขอสังหารเจ้า จะได้ไม่ระคายหู”
มู่หรงฉีรีบเข้าไปขัดขวางทางกระบี่ของเยี่ยโยวเหยา “โยวอ๋อง จอมวายร้ายผู้นี้อารมณ์ฉุนเฉียว ปากไม่มีหูรูด เห็นแก่ข้า ท่านปล่อยเขาไปสักครั้งเป็นไร? ”
“ไสหัวไป! ”
หากพูดจาลบหลู่เขา เขายังสามารถเห็นแก่ข้อตกลงที่มีและไว้ชีวิตจอมวายร้ายไป๋เฉ่าได้ชั่วคราว แต่หากพูดจาอวดดี ดูถูกซูจิ่นซี มีเพียงโทษตายสถานเดียว
เยี่ยโยวเหยายังคงมุ่งโจมตี ทว่ากลับถูกมู่หรงฉีเสี่ยงชีวิตเข้าขัดขวางไว้ได้ทัน มู่หรงฉีกับเยี่ยโยวเหยาจึงต้องต่อสู้กันอย่างจำใจ
จอมวายร้ายไป๋เฉ่ากระโดดไปอีกด้านหนึ่ง สองมือเท้าเอว พูดว่า “เข้ามา! เข้ามา! เยี่ยโยวเหยา หากมีความสามารถก็เข้ามาสังหารฆ่า! วันนี้หากเจ้ากล้าแตะต้องข้าเพียงปลายนิ้ว ข้าจะเปิดโปงเรื่องของเจ้าทั้งหมด เรื่องที่เจ้าปิดบังแม่นางพิษน้อยและจับตัวจงเหมยจวง ยังมีเรื่องที่เจ้าใช้ให้ข้าตามหายาถอนพิษหมุดกร่อนรัก เจ้าคงปิดบังเรื่องพวกนี้กับแม่นางพิษน้อยอยู่ใช่หรือไม่? ดูสิว่า หากนางรู้แล้ว นางยังจะยอมอยู่กับเจ้าอีกหรือไม่”
“คนตายไม่สามารถเปิดเผยอันใดได้อีก! ” เยี่ยโยวเหยาพูดเสียงเย็นชา พลางรับมือมู่หรงฉีหนึ่งกระบวนท่า
“หากวันนี้ข้าตายในมือของเจ้า ก่อนพระอาทิตย์ฉายแสงในวันพรุ่งนี้ ทั้งสองเรื่องนี้จะถูกประกาศไปทั่วอาณาจักรเทียนเหอ เจ้าคนบัดซบ หากมีความสามารถ เจ้าก็สังหารศิษย์ทั้งหมดในหุบเขาเทพโอสถของข้าภายในคืนเดียวสิ! ”
แม้หุบเขาเทพโอสถไม่ได้มีกำลังและอำนาจมากเท่าสำนักแพทย์เทียนอีเหมิน ทว่าพวกเขามีศิษย์อยู่ทั่วทุกหนแห่ง และมีกองกำลังที่เกี่ยวข้องกันในแต่ละแคว้น เวลาเพียงหนึ่งคืน หากคิดจะสังหารทุกชีวิตในหุบเขาเทพโอสถ เยี่ยโยวเหยาย่อมไม่อาจทำได้อย่างแน่นอน
“โยวอ๋อง ท่านโปรดฟังคำแนะนำของข้า ความแค้นส่วนตัวไว้ค่อยจัดการในภายหลัง วันนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการช่วยเหลือพระชายา” มู่หรงฉีพูดเกลี้ยกล่อม
ทว่าคำพูดของมู่หรงฉี ไม่มีผลต่อเยี่ยโยวเหยาแม้แต่น้อย หลังสิ้นเสียงคำพูดของมู่หรงฉี เยี่ยโยวเหยาก็สลัดตัวออกจากเขา กระบี่ยาวในมือของเยี่ยโยวเหยาแทงไปที่หน้าอกของจอมวายร้ายไป๋เฉ่าทันที
จอมวายร้ายไป๋เฉ่าไม่คิดว่าเยี่ยโยวเหยาจะเอาจริง และไม่คิดว่ามู่หรงฉีจะไม่สามารถขัดขวางเยี่ยโยวเหยาไว้ได้ เขาจึงไม่ได้เตรียมการป้องกันไว้ รอจนเขาไหวตัว คิดโต้ตอบก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว กระบี่ของเยี่ยโยวเหยาได้แทงเข้าที่หน้าอกของเขาแล้ว
“บัดซบ! เจ้ากล้าสังหารข้าหรือ”
“กระบี่ในวันนี้เป็นเพียงการตักเตือน หากวันหน้าเจ้ายังกล้าพูดจาหยาบคายต่อพระชายาของข้า ข้าจะสังหารพวกเจ้าทั้งหมด จำไว้ ก่อนที่เจ้าจะหาสิ่งที่ข้าต้องการเจอ ข้าจะไม่ฆ่าเจ้า แต่ก็จะไม่ปล่อยเจ้าไว้เช่นกัน”
กระบี่เล่มนั้นของเยี่ยโยวเหยาแม่นยำมาก แม้จะแทงถูกหน้าอกของจอมวายร้ายไป๋เฉ่า ทว่าก็เอียงไปด้านข้างเล็กน้อย ไม่ทำให้ถึงตาย แต่บาดแผลนั้นก็ทำให้จอมวายร้ายไป๋เฉ่าได้รับความเจ็บปวดชั่วขณะ
“บัดซบ… ” จอมวายร้ายไป๋เฉ่าคิดจะพูดบางอย่าง ทว่ามู่หรงฉีรีบพุ่งตัวไปด้านหน้า ปิดปากเขาไว้ “เจ้าพูดให้น้อยๆ หน่อยเถิด! ปากไม่มีหูรูด อย่างไรตอนนี้เจ้าก็สู้เขาไม่ชนะ”
จอมวายร้ายไป๋เฉ่ามองเยี่ยโยวเหยาที่ยืนเอามือไพล่หลังอยู่บนหน้าผาด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย ภายในใจยังคงไม่ยอมรับ ทว่าก็อับจนหนทาง เขาสู้เยี่ยโยวเหยาไม่ได้จริงๆ
“เยี่ยโยวเหยา เพื่อแม่นางพิษน้อย วันนี้ข้าไม่ต้องการโต้เถียงกับเจ้า แต่ข้าก็ไม่ยอมแพ้เจ้าเช่นกัน! ”
แววตาของเยี่ยโยวเหยาปรากฏความเฉยเมยเย็นชา เขาไม่ชายตามองจอมวายร้ายไป๋เฉ่าแม้แต่น้อย ทำเพียงกระโดดลงไปด้านล่างหน้าผาทันที
จอมวายร้ายไป๋เฉ่ารีบห้ามเลือดให้ตนเอง และรับประทานยาเพื่อรักษาบาดแผล แม้พลังของเขาจะอ่อนแอไปบ้าง ทว่าเขาเป็นหมอยา และการใช้ยารักษาก็ให้ผลลัพธ์ที่ดี นอกจากนั้น หลายปีมานี้ เขายังใช้ยาจำนวนมาก ภูมิต้านทานนับว่าพอใช้ เขาจึงสามารถยืนหยัดอยู่ได้
หลังจากที่เยี่ยโยวเหยากระโดดลงไปแล้ว จอมวายร้ายไป๋เฉ่าก็กระโดดลงหน้าผาพร้อมกับมู่หรงฉี
ก่อนหน้านี้เยี่ยโยวเหยาและซูจิ่นซีเคยมาที่นี่แล้ว บนตัวของเยี่ยโยวเหยายังมียาถอนพิษบางส่วนที่ซูจิ่นซีให้ไว้ กอปรกับวิธีการใช้พิษที่เห็นเป็นประจำและคุ้นเคยเป็นอย่างดี เขาจึงสามารถหลบด่านพิษส่วนใหญ่ไปได้
ทว่ากูสือซานย่อมไม่ใช้วิธีการเดิมในการป้องกันหุบผาราชันพิษ ดังนั้นเมื่อเยี่ยโยวเหยาลงมาถึงก้นหุบเขา ร่างกายของเขาก็ได้รับพิษเรียบร้อย