บทที่297 คร่าชีวิต
มองออกไปแล้ว นักเรียนของราชวิทยาลัยตกอยู่บนภูเขาแต่ละลูก

ไม่ไกลจากพวกเขามาก ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นอย่างตกตะลึง “คุณพระ หลี่เหิงได้ใบอู๋หยาเซียนเลยเหรอ ทำไมโชคดีแบบนี้นะ เพิ่งเข้ามาในภูเขาสืบมังกรก็ได้สมบัติล้ำค่าแล้ว น่าอิจฉาจริงๆ”

“นั่นน่ะสิ ใบอู๋หยาเซียนเป็นยาพิเศษของการหลอมยาเลยนะ ว่ากันว่าขอแค่มีใบอู๋หยาเซียน ก็สามารถหลอมยาให้เป็นยาขั้นเทพได้ มีคนมากมายที่ต้องการ เขาโชคดีจริงๆ”

“ไปกันเถอะ พวกเราก็รีบหาเร็วเข้า ดูว่ายังมีสมบัติล้ำค่าอะไรอีกไหม”

อวี่ฮุยพูดอย่างอิจฉาว่า “หลี่เหิงทำไมถึงโชคดีขนาดนี้ มาถึงก็ได้สมบัติล้ำค่าแล้ว”

หลิวเยว่อวี่ฮุยอยากไปค้นหาตรงสถานที่ที่หลี่เหิงเจอสมบัติอย่างละเอียด ดูว่าจะมีของตกค้างอะไรหรือเปล่า กู้ชูหน่วนจับตัวพวกเขาไว้ ลากพวกเขาไปซ่อนอยู่ใต้เนินเขา

เพิ่งซ่อนตัวเสร็จ ไม่ไกลมากก็มีฝ่ามือพิฆาตพุ่งตรงเข้ามา กระแทกเข้าใส่แผ่นหลังของหลี่เหิงที่กำลังได้ใจอยู่

“เอือก……”

เขากระอักเลือดออกมา มองดูคนร้ายตงฟางเจ๋ออย่างไม่อยากจะเชื่อ

“เจ้า……เจ้าจะทำอะไร?”

ตงฟางเจ๋อกับมู่หยงเฉินร่วมมือกัน ทั้งสองมองดูหลี่เหิงเหมือนกำลังมองคนตายอยู่

“ราษฎรเดิมไม่มีความผิด แต่เพราะมีหยกกับตัวจึงมีความผิด เจ้าคิดว่าพวกเราจะทำอะไรล่ะ”

ความหมายของคำนี้ชัดเจนมาก พวกเขาสองคนจะฆ่าคนแล้วปล้นของมา

หลี่เหิงกวาดตามองรอบด้าน ภูเขารอบๆนี้นอกจากพวกเขาสามคนแล้ว ก็ไม่มีคนอื่นอีกเลย เมื่อกี้พวกนักเรียนที่อยู่กับเขา แต่ละคนก็รีบแยกย้ายออกไปหาสมบัติกันแล้ว

เขาใจสั่น “อาจารย์บอกแล้ว ห้ามปล้นและฆ่าคน”

“อาจารย์พูดจริง แต่อาจารย์อยู่หากออกไปไกลเป็นพันเมตร หากเก่งจริง เจ้าก็เรียกให้อาจารย์มาช่วยเจ้าสิ”

ตงฟางเจ๋อแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ ไม่ให้โอกาสหลี่เหิงได้ร้องของความช่วยเหลือ กลางหัวกะโหลกของเขาก็ถูกฝ่ามือพิฆาตบดละเอียด เขาหยิบผ้าออกมาเช็ดมือที่สกปรกอย่างรังเกียจ ก็ถึงแย่งใบอู๋หยาเซียนมา

“เสียดาย มีใบอู๋หยาเซียนแค่ต้นเดียว สมบัติครั้งนี้ให้ข้า ต่อไปเป็นของเจ้า”

มู่หยงเฉินแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ “ได้ แต่ปล้นสมบัติพวกเราก็ต้องทำ ฆ่ากู้ชูหน่วนพวกเราก็ต้องลงมือเหมือนกัน”

“แน่นอนอยู่แล้ว ข้าจะฆ่าผู้หญิงคนนั้นเอง หากนางไม่ใช่พระชายา ข้าจะให้นางมีชีวิตจนถึงตอนนี้เหรอ”

“ไม่ว่ายังไง ฆ่านางอย่าทิ้งหลักฐานไว้เด็ดขาด เดี๋ยวจะเดือดร้อนกันหมด”

ตงฟางเจ๋อกับมู่หยงเฉินพูดแล้วเดินจากไป

หลิวเยว่อวี่ฮุยปิดปากไว้แน่น หัวใจเต้นตึกตักจนแทบกระเด็นออกมา

สีหน้าของเซียวอวี่เซวียนมืดมนลง จ้องมองแผ่นหลังของพวกเขาสองคนไม่ละสายตา

“ลูกพี่ พวกมันจะฆ่าลูกพี่”

“เห็นแล้ว” คิดไว้อยู่แล้ว ไม่มีอะไรให้น่าแปลกใจหรอก

“ลูกพี่ พวกเขาฆ่าหลี่เหิงแล้ว ยังไงหลี่เหิงก็เป็นลูกชายของขุนนางระดับหนึ่ง ทำไมพวกเขาถึงจองหองขนาดนี้”

“อาจารย์บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ที่นี่มีสัตว์ร้ายวนเวียนอยู่โดยรอบ ใครจะรู้ว่าหลี่เหิงตายยังไง ดูสิ แร้งบินมาแล้ว ขนาดศพของหลี่เหิงยังไม่เหลือเศษซากไว้เลย”

บนอากาศ มีแร้งบินวนอยู่บนนั้น ปากยาวของมันจิกกัดลงไปบนศพของหลี่เหิง กลิ่นเลือดอบอวลไปทั่ว ดึงดูดสัตว์ร้ายเข้ามาเยอะขึ้น แต่ละตัวกัดกินศพของหลี่เหิงอย่างหิวโหย ในนั้นยังมีสัตว์ร้ายมากมายที่พวกเขายังไม่เคยเห็นมาก่อน

กู้ชูหน่วนพูดเสียงเบาว่า “รีบไปกันเถอะ”

“ยัยขี้เหร่ ข้าว่าที่นี่อันตรายเกินไป มู่หยงเฉินกับตงฟางเจ๋อคิดจะฆ่าเจ้าอีกด้วย เจ้าดิ่งเส้นใต้ระฆังไหม ออกไปจากที่นี่ก่อน”

“ไม่ดึง”

ล้อเล่นอะไร

กว่าจะมีโอกาสเข้ามาร่วมงานชุมนุมสวินหลงไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย นางจะออกไปได้ยังไง

ชัยชนะจะตกอยู่ในมือใครยังไม่รู้เลย

ทันใดนั้นเอง กระดิ่งทลายวิญญาณสั่นขึ้น มีแสงแปลกประหลาดประกายออกมา