ในตรอก ณ จุดที่ไกลจากหลิงม่อไม่ถึงยี่สิบเมตร เงาร่างหนึ่งกำลังยืนก้มหน้าพิงกำแพง และสอดมือในกระเป๋ากางเกง
ได้ยินเสียงหลิงม่อทิ้งตัวลงพื้น คนคนนั้นกลับไม่ได้มีสีหน้าตกใจ ตรงกันข้าม เขาแค่นหัวเราะเย็นชา แล้วค่อยๆ หันหน้ามา ภายใต้เส้นผมยาวพะรุงพะรังเผยให้เห็นดวงตาเยือกเย็นข้างหนึ่ง “ไม่คิดเลย แกไม่หนีเอาตัวรอดก่อน แต่กลับตามมาจนถึงที่นี่จริงๆ…”
เขาดึงมือข้างหนึ่งออกมาและกางฝ่ามือ เผยให้เห็นเงาดำที่กำลังวิ่งวนไปมากลางฝ่ามือ “ทำไมล่ะ? เพราะสำนึกได้แล้วว่าไม่ว่าจะหนียังไง ในอำเภอหลีหมิงแห่งนี้พวกแกก็ไม่มีทางรอดงั้นหรอ? แต่แค่แกหาฉันเจอ ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว น่าเสียดายที่การทำอย่างนี้มีแต่จะทำให้ตัวเองต้องตายเท่านั้น…”
แต่ยังไม่ทันสิ้นเสียงพูด เงาดำในมือเขาพลันระเบิดทันที
ไม่รอให้ชายคนนั้นได้สติจากการตายอย่างกะทันหันของสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์ในมือ ร่างกายเขาคะมำไปข้างหน้า ราวกับสูญเสียการควบคุม และล้มลงบนพื้นอย่างแรง
“นี่มัน…อะไรกัน…”
ชายหนุ่มอึ้งงันไปชั่วขณะ…ความจริงแล้ว เงามายาขนาดใหญ่ที่ราวกับกำลังเปลวเพลิงยืนอยู่ข้างหลังเขา โดยที่เขามองไม่เห็นมัน เส้นเชือกในมือผูกติดกับจุดแสงที่อยู่ตามข้อต่อต่างๆ บนร่างกายของเขา…แน่นอนว่าเขาไม่รู้สึกถึงสิ่งนี้ เขารู้เพียงว่า อยู่ๆ แขนขาก็เคลื่อนไหวไม่ได้ดั่งใจ…
เกิดอะไรขึ้น…” เขาพยายามจะลุกขึ้น…เรื่องราวดูเหมือนจะผิดไปจากที่เขาคาดการณ์ไว้ ฟังจากคำพูดเย่อหยิ่งทะนงตนของเขาเมื่อกี้ก็รู้แล้ว เดิมทีเขาคิดว่าจะได้เห็นหลิงม่อคุกเข้าอ้อนวอนอยู่ตรงหน้าตัวเอง…แต่ไม่คิดเลยว่าเพิ่งจะพูดได้แค่สองประโยค สถานการณ์กลับตาลปัตรไปทันที…
และเวลานี้ หลิงม่อก็ได้ก้าวเข้ามาสองข้าว ยืนมองเขาอยู่ตรงหน้า โดยไม่รอช้า เขาถามด้วยสีหน้าเย็นชาทันที “จางเส่อ เขาเป็นหรือตาย?”
“จะ…จางเส่อ?”
เมื่อสองมือของเงามายาเคลื่อนไหว ศีรษะของชายหนุ่มก็ถูกกระชากขึ้นตามไปด้วย
สีหน้าเย็นชาและชั่วร้ายที่เขาเพิ่งแสดงออกมาเมื่อกี้ ตอนนี้กลับเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่เสียงพูดก็ไม่ได้เย่อหยิ่งหรือแฝงแววดูถูกเหมือนเดิมอีก เห็นชัดว่า วิธีโจมตีที่เด็ดขาดและประหลาดของหลิงม่อ ทำให้เขาได้สติทันที…ที่แท้หลิงม่อกล้ามาที่นี่ เพราะเขามีความมั่นใจนี่เอง!
ถึงแม้เขาจะลอบโจมตีหลิงม่อมาตลอด แต่ความจริง หลิงม่อเองก็ได้ติดระเบิดเวลาไว้ข้างตัวเขานานแล้วเหมือนกัน! เพียงแต่ในสถานการณ์ที่ยังไม่มั่นใจ เขายังไม่อยากใช้มันเท่านั้นเอง…พอคิดอย่างนี้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้พูดมาก อีกฝ่ายก็ยังสามารถจัดการเขาได้ทันทีเหมือนเดิม วัดกันเรื่องความเจ้าเล่ห์ เด็กหนุ่มที่ดูสดใสซื่อกว่าเขาหลายร้อยเท่าตรงหน้า…กลับไม่ได้ด้อยกว่าเขาเลย!
“อย่ามาทำเป็นไขสือ” หลิงม่อยกเท้าขึ้น และเหยียบลงบนหัวยุ่งๆ ของเขาเต็มแรง “ฉันถามถึงเพื่อนร่วมทีมของฉัน บอกมา เขาถูกพวกแกฆ่าแล้วใช่ไหม?”
“อย่า…อย่า…”
ชายหนุ่มยังคิดจะขยับตัว แต่เขาเพิ่งจะใช้ฝ่ามือยันพื้น เรี่ยวแรงมหาศาลกลุ่มหนึ่งพลันเหยียบลงมา
พอนิ้วมือถูกเหยียบอย่างแรง เขาก็อดร้องครวญครางออกมาไม่ได้ “อ๊ากก”
และท่ามกลางความเจ็บปวด เขายังค้นพบด้วยความตกตะลึง เด็กหนุ่มคนนี้ยังคงก้มหน้ามองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยเหมือนเดิม…อีกฝ่ายไม่ได้ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย!
“อ๊ากก…” ท่ามกลางเสียงโอดครวญ เขาเริ่มพูดตะกุตะกัก “คือ…”
พอเห็นสายตาของหลิงม่อ เขาก็รู้ทันที…ว่าคำตอบนี้ เป็นตัวชี้วัดชะตาชีวิตของเขา…
แต่ว่าคำตอบ…
“เรื่องนี้ ฟังฉันก่อนนะ…” เขาพูดติดอ่าง แต่อยู่ๆ เขาก็ร้อง “อ๊าก” ขึ้นมา จากนั้นก็ใช้มือข้างเดียวยันร่างตัวเองขึ้น
เสี้ยววินาทีที่เท้าของหลิงม่อถูกสะบัดออก เขาพลันกลิ้งตัวออกไป จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว
แต่ยังไม่ทันได้ยืนให้มั่นคง หนวดสัมผัสเส้นหนึ่งก็พุ่งตามไปโจมตีทันที
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้หลิงม่อขมวดคิ้วเบาๆ ก็คือ ชายคนนั้นกลับยกมือตัวเองขึ้นบัง…และหลังจากป้องกันได้ เขาไม่เพียงไม่กรีดร้อง แต่กลับหัวเราะเย็นชา
“หึหึ…เกือบไปแล้วจริงๆ เกือบตกอยู่ในเงื้อมมือของแกซะแล้ว เป็นอย่างที่คิด พอไม่ได้เจอคนนานๆ ก็เลยไม่ระวังตัวเหมือนเดิม…แต่เรื่องนี้ต้องโทษคนที่ชื่อจางเส่อนั่น ใครใช้ให้เขาตายง่ายขนาดนั้นกันล่ะ เลยพลอยทำให้ฉันคิดว่าพวกแกเป็นแค่พวกโง่ไร้สมองน่ะสิ…”
เขาพูด พลางเงยหน้ามองหลิงม่ออีกครั้ง ทว่าดูจากเหงื่อที่ไหลท่วมหน้าก็รู้แล้วว่าใจเขาไม่ได้ผ่อนคลายเหมือนที่ปากพูด จริงๆ แล้วใจเขารู้สึกยังไงกันแน่นั้น คงมีแค่เขาเท่านั้นที่รู้
“แม่เอ็ง…ไม่คิดเลยว่าจะบังคับให้ฉันต้องใช้สิ่งนี้…หมอนี่นอนสลบอยู่บนเตียงตลอดไม่ใข่หรอ! ถึงจู่ๆ จะฟื้นวันนี้ แต่ก็ไม่น่าจะจัดการยากขนาดนี้นี่!”
แขนข้างนั้นของเขาห้อยข้างลำตัว และกำลังสั่นเทาไม่หยุด บนแขนเสื้อยังมีรูแผลที่ถูกหลิงม่อโจมตีเมื่อกี้ปรากฏให้เห็น แต่ที่น่าแปลกคือ ตรงนั้นกลับไม่มีเลือดไหลออกมา
“อย่างนั้นหรอ…เขาตายแล้วสินะ…”
สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มใจคอไม่ดีคือ หลังจากที่หลิงม่อได้ยินคำพูดนี้ เขากลับไม่โมโห…เพียงแต่ในดวงตาเขา กลับเผยแววสับสนเลือนราง
“ใช่แล้ว เขาตายแล้ว! แกก็ต้องตายเหมือนกัน!” ชายคนนั้นขมวดคิ้ว แล้วหัวเราะเย็นชา
เขาพลันดึงแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นแขนซีดขาวที่มีแต่รูเต็มไปหมด “ตอนแรกก็คิดว่าแกเป็นคนที่จัดการง่ายที่สุด ไม่คิดเลยว่าแกกลับรับมือยากขนาดนี้…ก็ดี ถ้าเป็นอย่างนี้ หลังจากฆ่าแก คนพวกนั้นก็ยิ่งจัดการได้ง่ายขึ้น…”
พูดไป อยู่ๆ แขนของเขาพลันมีก้อนเนื้อก้อนหนึ่งปูดขึ้นมา และมันก็เริ่มเคลื่อนไหวอยู่ใต้ผิวหนังเขา…จากนั้นท่ามกลางสายตาของหลิงม่อ เงาดำตัวหนึ่งก็มุดออกมาจากรูแผลที่เพิ่งได้มา…ไม่นานจากนั้น เงาดำนับร้อยตัวพรั่งพรูออกมาจากรูเหล่านั้น และปกคลุมแขนของชายหนุ่มจนกลายเป็นสีดำไปทั้งแถบ
แต่ชายหนุ่มไม่เพียงไม่แสดงอาการเจ็บปวด ตรงกันข้าม กลับตัวสั่นเทิ้มด้วยความตื่นเต้น
“ตอนแรกก็ไม่คิดหรอกนะว่าต้องใช้เจ้าเปี๊ยกพวกนี้มาจัดการแก…แต่ก็ดีเหมือนกัน ให้พวกมันได้กินอิ่มก่อน จะได้ทำงานเต็มที่กว่าเดิม”
เงาดำพวกนั้นดูไม่เหมือนเงาดำทั่วไป ไม่เพียงมีขนาดใหญ่ แต่เปลือกนอกยังเป็นสีแดงอีกด้วย…และตอนนี้เอง ที่หลิงม่อได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของพวกมัน…
นั่นมัน…แมงมุมสีดำ…
ไม่น่าล่ะตอนที่จางเส่อตายถึงได้ไม่มีเสียงอะไรเลย…แมงมุมพวกนี้ มีพิษ
บนหลังของพวกมันมีรอยสีแดงมืดเป็นเส้นๆ เพียงแต่เวลาพวกมันเคลื่อนไหวด้วยความเร็ว ก็จะกลายเป็นเพียงเงาสีดำที่ไม่สามารถมองเห็นให้ชัดด้วยตาเปล่าได้…
ยากที่จินตนาการจริงๆ แมงมุมพิษพวกนี้ไปอยู่ในตัวผู้ชายคนนั้นได้ยังไง…
“เป็นไงล่ะ? ฉันทำให้แกกระจ่างอะไรได้บ้างหรือเปล่า…” ชายหนุ่มหัวเราะ
และเวลานี้ รอบๆ ถนนเส้นที่พวกเขายืนอยู่ ก็มีเงาดำจำนวนมหาศาลปรากฏขึ้น…
“วางใจ พวกของแก ฉันจะทำให้พวกเขาไล่ตามมาไม่ทันเอง…”
—————————————————————————–