หลายคนต่างประหลาดใจที่ได้เห็นท่าทางของพลตรีหนุ่มที่มีตำแหน่งเท่ากันกับพลตรีสิงโต จากนั้นทุกคนก็เบนสายตาไปที่ชูฮันที่ยังคงเหยียบเท้าคาไว้ที่หน้าของพลตรีสิงโตอยู่เหมือนเดิม และทันใดนั้นทุกคนก็อึ้ง

 

สองคนนี้รู้จักกันงั้นเหรอ?

 

พลตรีสิงโตที่เกรี้ยวกราดหัวใจแทบหลุดออกมาจากอก แต่ไม่นานพลตรีสิงโตก็หันไปมองหลิวยู่ติงพร้อมกับท่าทางโล่งอก “แกไม่เห็นว่าฉันโดนทำร้ายอยู่เหรอไง? ยังไม่ฆ่ามันอีก!”

 

ถึงจะมีตำแหน่งระดับเดียวกัน แต่พลตรีสิงโตไม่คิดว่าหลิวยู่ติงแข็งแกร่งกว่าเขา นอกเหนือจากคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าเขา หรือมีระยะวิวัฒนาการสูงกว่า ไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่กลัวเกรงใครทั้งนั้น

 

หลิงยู่ติงได้สติกลับมาด้วยเสียงตะคอกของพลตรีสิงโต แต่เขาก็ยังลังเลว่าจะทำอย่างไรดีพลางมองไปที่ริมฝีปากของชูฮัน

 

สายตาของชูฮันเต็มไปด้วยคำถาม…ผู้ชายตรงหน้าเขาคนนี้คือใครกัน?

 

“รอห่าอะไรล่ะ?” พลตรีสิงโตตะคอกขึ้นมาอีกคร้ัง ดิ้นรนอย่างน่าสมเพช “มัวแต่เสียเวลาอยู่ได้ พลตรีถูกทำร้ายแต่แกกลับนิ่งเฉย? เร็วเข้า ฆ่าไอ้เวรนี่ทิ้งซะ!”

 

ทหารหลายนายที่ยืนอยู่ถัดจากหลิวยู่ติงนิ่วหน้า และหนึ่งในพันเอกที่อายุประมาณ 30 ปีก็ส่งเสียงกระซิบ “ท่านพลตรี ศัตรูคือ?…”

 

นายพันเอกตัดสินใจที่จะปล่อยเรื่องชูฮันไว้ก่อนและจ้องไปที่พลตรีสิงโตข้างหน้า “ท่านสิงโตเป็นพลตรี แล้วข้าศึกล่ะคือใครครับ?”

 

นอกเหนือจากนี้ชูฮันยังเป็นคนนอกอีกต่างหาก เพราะคนอื่นๆได้ลงทะเบียนเข้าร่วมกับกองทัพเรียบร้อยแล้ว มันไม่การขยับเขยื้อนใดๆ ไม่มีความวุ่นวาย แต่ประเด็นเรื่องข้าศึกบุกนั้นได้ถูกป่าวประกาศไปแล้ว ตอนนี้เจ้าหน้าที่ทั่วทั้งค่ายรับรู้เรื่องกันหมดแล้ว แต่ไหนล่ะข้าศึก?

 

“พวกแกตายกันหมดแล้วเหรอไง?” พลตรีสิงโตตาถลนใส่หลิงยู่จิงอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “ไอ้เด็กนี้คือข้าศึก มันทำร้ายพลตรี มันไม่ใช่ข้าศึกเหรอไง?”

 

ทหารหลายนายถึงกับงงงวย พวกเขาได้รับแจ้งว่ามีข้าศึกโจมตี

 

หลิวยู่ติงแทบจะกระอักเลือด เขาได้แต่เลียริมฝีปากและตะโกนอย่างรุนแรง “พลตรี คุณรู้หรือไม่ว่าข้อมูลผิดพลาดนี้ได้แพร่สะพัดไปทั้งเมือง มันวุ่นวายกันไปใหญ่โตแล้ว”

 

ความไม่พอใจอัดแน่นอยู่ในอกของพลตรีสิงโต เท้าของชูฮันเหยียบอยู่บนหน้าเขามานานเป็น 10 นาทีแล้ว แล้วไอ้พวกทหารที่แห่วิ่งกันมาก็ยังนิ่งเฉย ไม่แม้แต่จะทำอะไรสักอย่าง

 

“เร็วเข้าสิ เอาไอ้เด็กนี่ออกไป! เห็นได้ชัดว่ามันผิดกฏหมายทหาร ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ระดับพลตรี!” พลตรีสิงโตที่บ้าคลั่งกระอักเลือดออกมาขณะตะโกนเร่งให้คนเข้ามาช่วย “เร็วสิวะ! ไอ้เด็กไม่รู้จักโตนี่มันฝ่าฝืนกฏหมายทหาร ยังไม่ทำอะไรอีกเหรอวะ!”

 

“เอาล่ะ!” หลิวยู่ติงรับคำพลตรีสิงโต จากนั้นก็บอกทหารรอบๆตัว “เร็วเข้า รีบส่งข่าวกลับไป มันไม่มีข้าศึกโจมตี”

 

“ครับ!” ทหารนายหนึ่งรีบหยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมารายงานสถานการณ์

 

หน่วยทหารขนาดใหญ่ในตัวเมืองที่พึ่งถูกเรียกรวมตัว สลายตัวกันทันที หลายคนไม่พอใจและหลายคนในนั้นก็มีตั้งแต่ตำแหน่งระดับนายพลและร้อยโท หลายคนที่รู้ว่ามันเป็นข่าวผิดพลาดต่างโมโหพลตรีสิงโตที่แจ้งข่าวผิดๆ และวิ่งไปที่ห้องประชุมเพื่อต่อว่าประณามอย่างไม่พอใจ

 

ขณะนี้ ในห้องประชุมอัดแน่นไปด้วยผู้คนที่มาประชุมฉุกเฉินกันเต็มไปหมด การประชุมยังไม่ทันได้เริ่มก็ได้รับข่าวแล้วว่าเรื่องข้าศึกบุกโจมตีเป็นข่าวผิด ผู้คนมากมายที่เข้าร่วมประชุมเริ่มมีสีหน้าครึ้ม พวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะได้จัดการลอกหนังพลตรีสิงโตกัน

 

เป็นถึงระดับนายพล แต่แค่เรื่องแบบนี้ยังแยกแยะไม่ได้!

 

ในเวลาเดียวกัน พลตรีสิงโตที่อยู่ด้านนอกทางเข้าของเมืองชั้นในก็มองมาที่หลิวยู่ติงด้วยสายไม่อยากจะเชื่อ “แกเป็นบ้าเหรอไง? ฟันหน้ากูหลุด และกูก็โดนซ้อม ทำไมแกถึงทำให้เรื่องเงียบลง ต้องเอาเรื่องมันสิวะ?”

 

หลิวยู่ติงถอนหายใจและเดินก้าวมาไม่กี่ก้าวเพื่อดูภาพพลตรีสิงโตที่นอนอย่างน่าสมเพชอยู่ที่พื้น จากนั้นก็เอ่ยปาก “พลตรี คุณอยู่ในกองทัพมานานแค่ไหนแล้ว? คุณได้เข้าร่วมการฝึกหรือเปล่า? คุณรู้ความหมายของคำว่า ‘ข้าศึกโจมตี’ หรือเปล่า?”

 

คำถามติดต่อกันสามคำถามถูกถามพลตรีสิงโตออกมาทันที พลตรีสิงโตไม่ใช่นายทหารเก่าก่อนที่จะเกิดการปะทุ แต่เป็นพลตรีที่ควบคุมทีมวิวัฒนาการ เนื่องจากพลตรีสิงโตเป็นคนแรกที่กลายเป็นวิวัฒนาการระยะ 3 เขาจึงเป็นข้อยกเว้น…

 

ทว่า เมื่อเปรียบเทียบกับหลิวยู่ติงที่เรียนจบมาจากโรงเรียนทหารโดยเฉพาะ เขาจะสนใจเฉพาะระเบียบกฏที่ถูกต้องตามกฏระเบียบทหารเท่านั้น ไม่สนใจผลประโยชน์ส่วนตัว

 

ชูฮันมองไปที่นายพลตรีหนุ่มที่ทำลายแผนการของพลตรีสิงโต แต่เท้าของเขาก็ยังคงคาอยู่ที่หน้าของพลตรีสิงโตอยู่เหมือนเดิม แล้วพลตรีหนุ่มนี้จะทำอย่างไรต่อ?

 

มากไปกว่านั้น พลตรีหนุ่มคนนี้รู้จักเขางั้นเหรอ?

 

แต่ฉันไม่รู้จักเขา!

 

“แล้วมันล่ะ?” พลตรีสิงโตตัดสินใจที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาที่ตัวเองก่อไว้ และชี้นิ้วไปที่ชูฮันขณะหันไปตะคอกใส่หลิวยู่ติง “มันทำร้ายพลตรี!”

 

ทหารรอบๆที่เดินทางมาพร้อมกับหลิวยู่ติงต่างก็มีความสงสัยในแววตาเช่นกัน ข่าวลือของพลตรีสิงโตได้สร้างความตื่นตระหนกไปทั่ว

 

“นายช่วยรีบยกเท้าออกเร็วๆที” หลิวยู่ติงพูดกับชูฮันอย่างงุ่มง่าม น้ำเสียงและสายตาที่มองมาดูเหมือนคุ้นเคยกับชูฮันดี

 

ชูฮันเหลือบตามอง จากนั้นเขาก็ยกเท้าออกและเดินไปยืนอีกฝั่งหนึ่ง ชูฮันตัดสินใจที่จะดูสถานการณ์ต่อไปก่อน

 

แต่ใครคือพลตรีหนุ่มนี้กัน? เขาไม่เคยเจอผู้ชายคนนี้มาก่อน

 

แต่ผู้ชายคนนี้รู้ว่าเขาคือใครเหรอ?

 

แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ ถ้าอีกฝ่ายรู้เขากำลัจะรับตำแหน่งนายพลเรือเอก อีกฝ่ายไม่น่าจะใช้น้ำเสียงแบบนี้คุยกับใคร มันดูเหมือนน้ำเสียงที่ใช้คุยกับเพื่อนเก่ามากกว่า นี่มันอะไรกันแน่?

 

ทันทีที่เท้าของชูฮันชักออกไปจากหน้าของพลตรีสิงโต พลตรีสิงโตก็รีบผุดลุกขึ้นยืนทันทีโดยไม่สนใจรอยเท้าที่ขึ้นรอยชัดบนหน้าตัวเอง “ฉันถามว่า แกจะจัดการไอ้เด็กนี่มั้ย? มันทำร้ายพลตรี คนมากมายก็เห็น แกไม่เห็นเหรอไง?”

 

เขาถูกทำให้อับอายต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ เขาไม่มีทางยอมเด็ดขาดถ้าเขาไม่ได้ฆ่าไอ้เวรนี่!

 

หลิวยู่ติงเหลือบมองชูฮัน และความหมายในสายตาที่มองมาทำให้ชูฮันประหลาดใจมาก

 

“พลตรีสิงโต คนคนนี้คือเพื่อนเก่าผมเอง” หลิวยู่ติงยิ้มและพูดกับพลตรีสิงโต คริสตัลของซอมบี้ระยะ 4 ยังคงอยู่ในมือชูฮัน

 

ชูฮันตกใจ…นี่มันอะไรกัน?

 

“ไม่!”

วินาทีต่อมา ชูฮันและพลตรีสิงโตตะโกนประสานเสียงขึ้นมาพร้อมกัน ทว่าจุดประสงค์ของทั้งฝ่ายนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง