บทที่ 1061 ทรงผมแสกข้างเปิดตาข้างเดียวไมใช่รสนิยมส่วนตัวเสมอไป

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

พลั่ก!!

ซย่าเหยียบหัวชายหนุ่มที่ล้มลงไป แล้วถามขึ้นด้วยสีหน้ารังเกียจ “พี่หลิง หมอนี่ทำอะไรของเขาน่ะ? สภาพอย่างนี้ อย่าบอกนะว่าคิดจะเลียนแบบสไปเดอร์แมนน่ะ?”

“สไปเดอร์แมนที่ไหนน่าเกลียดขนาดนี้? คนดูได้อ้วกแตกคาโรงหนังน่ะสิ…” หลิงม่อกับพวกเย่เลี่ยนจัดการแมงมุมที่เหลือด้วยกันอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ชายหนุ่มล้มลง เหล่าแมงมุมตัวใหญ่ที่ดุร้ายที่สุดก็วิ่งวนไปวนมาเหมือนแมลงวันไร้หัว พวกหลิงม่อจึงจัดการได้อย่างง่ายดาย เหล่าแมงมุมตัวเล็กกลายเป็นแมลงกลายพันธุ์ที่โจมตีไม่เลือกหน้าอย่างบ้าคลั่ง แต่เพราะมีเหยื่อล่อที่แข็งแกร่งดั่งหินผาอย่างเสี่ยวป๋ายอยู่ พวกหลิงม่อจึงเก็บกวาดได้อย่างง่ายดาย

“แบ๊…”

เสี่ยวป๋ายที่ถูกเหล่าแมงมุมปกคลุมไปทั้งตัววิ่งชนกำแพงจนเป็นรูขนาดใหญ่ด้วยความเดือดดาล และจบฉากการต่อสู้ครั้งนี้ลงด้วยประการฉะนี้เอง

มันเดินออกมาจากกองอิฐที่ถล่มลงมาอย่างโซซัดโซเซ และเขย่าตัวอย่างแรงเพื่อสะบัดศพแมงมุมที่เกาะอยู่ตามขนของมันออก บางส่วนที่ยังไม่ตาย ก็ถูกอุ้งมือของมันตะปบตายคาที่ จากนั้นมันก็เริ่มตัวเล็กลงราวกับอากาศรั่วออกจากร่าง จนสุดท้ายก็กลับมามีขนาดตัวเท่าเดิม

“ขนาดนี้ก็ยังไม่ถูกกัด เก่งจริงๆ เลย…” พอเห็นเสี่ยวป๋ายรีบวิ่งเข้ามาออดอ้อนเอาความดี หลิงม่อก็รีบตรวจสอบตามร่างกายของมันทันที ปรากฏว่าอย่าว่าแต่มีเลือดไหลเลย แม้แต่รอยถลอกหรือจุดแดงๆ ซักจุดก็ยังไม่มี

“ขนของเสี่ยวป๋ายไม่ได้วิวัฒนาการเสียเปล่าหรอกนะ แม้แต่รูขุมขนก็แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า…ผิวหนังก็เหนียวแน่นขึ้นมาก โดยเฉพาะยิ่งตอนที่คลุ้มคลั่งด้วยแล้ว…” ซย่าน่าอธิบาย

“เอิ่ม รูขุมขนที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าคืออะไร…อีกอย่างการที่มันพองตัวใหญ่ขึ้นเรียกว่าอาการคลุ้มคลั่งหรอ? ฉันยังไม่เห็นมันคลั่งตอนไหนเลย…” หลิงม่อถามอย่างเอือม

หลี่ย่าหลินพูดต่อว่า “เพราะว่ายังอัพเกรดไม่สมบูรณ์แบบไงล่ะ ตอนนี้อย่างมากก็ถือได้ว่าเป็นแค่ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปเท่านั้น…”

“อีกอย่างถ้าพูดถึงเรื่องรูขุมขน…ถ้าหากเจาะเลือดในร่างกายของเสี่ยวป๋ายออกมาวิจัยล่ะก็ คงกลายเป็นข่าวประเสริฐสำหรับพวกลุงวัยกลางคนหลายคนเลยล่ะ” ซย่าน่าบอก

“ในโลกนี้ยังเหลือลุงวัยกลางคนที่เธอพูดถึงอีกเท่าไหร่กันเชียว…แต่ถ้าพูดถึงมนุษย์แมงมุมใกล้วัยกลางคนล่ะก็ ใต้เท้าเธอมีอยู่คนหนึ่ง”

หลิงม่อเดินไปข้างหน้า นั่งยองๆ พิจารณาอย่างละเอียด

พอมองใกล้ๆ บนใบหน้าของชายคนนี้มีริ้วรอยขึ้นไม่น้อยแล้ว เพียงแต่การอำพรางด้วยผิวซีดขาว ดวงตาดุร้าย และเส้นเลือดที่ปูดโปน รมถึงวิธีการพูด ทำให้ยากที่จะคาดเดาอายุจริงของเขาได้

นอกจากนี้ ไม่ใช่แค่แขนข้างนั้น แม้แต่ลำคอเขา ก็มีรูอยู่ด้วยมากมาย…

แค่คิดว่าแมงมุมเหล่านั้นไต่เข้าไต่ออกผ่านรูพวกนี้ หลิงม่อก็ขนลุกซู่ทันที

“แค่มีชีวิตรอดมาได้จนถึงตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว ทำไมต้องคิดปองร้ายพวกฉันด้วย…” เขาอดพึมพำกับตัวเองไม่ได้

ได้ยินหลิงม่อพูดอย่างนี้ เย่เลี่ยนที่เดินตามเขามายื่นมือตบไหล่เขาเบาๆ

เธอไม่รู้ว่าควรปลอบใจยังไง…แต่จากน้ำเสียงของหลิงม่อ เธอสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดบางอย่างจริงๆ

บางที เขาอาจทำใจเรื่องการตายของจางเส่อไม่ได้…

ไม่มีใครคาดคิดว่าจางเส่อจะตายไปทั้งอย่างนี้ แล้วยังตายอย่างน่าอนาถอีก

เขารอดจากซอมบี้มาได้ แต่กลับต้องมาตายด้วยน้ำมือมนุษย์…

“ใครจะไปรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่…แต่ว่านะพี่หลิง แต่ไหนแต่ไรมา คนเราสามารถทำเรื่องที่คนอื่นคาดไม่ถึงเพียงเพื่อมีชีวิตรอดไม่ใช่หรอ? ทำไมเขาต้องฆ่าพวกเรา เรื่องแบบนี้เราไม่จำเป็นต้องไปไขว่คว้าหาคำตอบหรอก ตอนนี้เขาแพ้แล้ว ถ้าอย่างนั้นเขาก็แค่ต้องตายในฐานะที่แพ้ มันก็เหมือนกับที่ซอมบี้อย่างพวกเราต้องเข่นฆ่ากันเอง เพียงเพื่ออยู่รอดยังไงล่ะ ผู้ชนะได้โอกาสในการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น ผู้แพ้ก็กลายเป็นหินผ่านทาง ความจริงมักโหดร้ายอย่างนี้เสมอ…ดังนั้นพี่หลิง ทำไมพี่ยังต้องให้ฉันตีเขาสลบล่ะ…” ซย่าน่าขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น

“เพราะว่ายังมีบางเรื่อง…ที่ฉํนยังไม่เข้าใจ…”

หลิงม่อพูดขึ้น แล้วอยู่ๆ ก็ยื่นมือไปทางมนุษย์แมงมุม

แต่ในเสี้ยววินาทีที่มือของเขาเข้าใกล่ศีรษะของมนุษย์แมงมุม ทันใดนั้น เงาดำเส้นหนึ่งพลันพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว

เงาดำเส้นนั้นรวดเร็วดั่งสายฟ้า จนแม้แต่ซย่าน่าที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ยังเห็นแค่เงารางๆ

ดวงตาของเย่เลี่ยนเพิ่งจะตอบสนอง เข้าสู่โหมดกล้องสลับลาย หากเธอจะหลบออกไปคนเดียวไม่ใช่เรื่องยาก แต่ถึงแม้เธอจะยื่นมือออกไปดึงตัวหลิงม่อหลบทันที มันก็ยังไม่ทันอยู่ดี…

“ฉึก!”

สามสาวซอมบี้ม่านตาหดเล็กลง พลันมองเห็นเงาดำเส้นนั้นถูกขวางอยู่ตรงหน้าหลิงม่อ

ถึงแม้มันมีพละกำลังโจมตีอันมหาศาล…แต่การจะทะลวงร่างของหุ่นเชิดดวงจิตไปได้ พลังของมันกลับยังไม่เพียงพอ…

และในเสี้ยววินาทีที่มันชะงัก ฝ่ามือของหุ่นเชิดก็พุ่งเข้าไป ตะปบร่างมันกับพื้นอย่างแรง

นี่คือวิธีใช้ที่หลิงม่อเพิ่งค้นพบใหม่…ทำให้บางส่วนของหุ่นเชิดกลายเป็นรูปสสาร

เนื่องจากพลังงานทางจิตที่ต้องใช้ในการสร้างหุ่นเชิดขึ้นมานั้นมากเกินไป ด้วยเหตุนี้อาศัยพลังของหลิงม่อในปัจจุบัน ยังเป็นเรื่องยากที่จะทำให้มันกลายเป็นสสารทั้งตัว…ถึงแม้เขาจะฝืนทำได้ แต่สุดท้ายหุ่นเชิดตัวนั้นก็จะกลายเป็นผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปที่มีแต่ช่องโหว่เต็มไปหมดเท่านั้น ตอนนี้มันยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง…

แม้ว่าเสี้ยววินาทีนั้นทำเอาทุกคนตกใจมาก แต่มันกลับเกิดขึ้นและจบลงในพริบตา…พอได้สติ สามสาวซอมบี้ก็หันไปมองบนพื้นพร้อมกัน

“นี่มัน…”

“แมงมุมตัวใหญ่มาก…”

สิ่งที่ถูกหุ่นเชิดตรึงร่างไว้กับพื้น กลับเป็นแมงมุมสีแดงที่มีขนาดเท่ากำปั้นเลยทีเดียว…แมงมุมตัวนี้แค่ขนาดตัวของมัน ก็ดูดุดันน่ากลัวมากแล้ว

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือจังหวะที่มันเลือกโจมตี…ถ้าหากว่าหลิงม่อไม่ได้เตรียมตัวตั้งแต่แรก ตอนนี้เขาคงตายไปแล้ว

นอกจากนี้ ภายใต้การโจมตีอย่างรุนแรงของหุ่นเชิด มันกลับยังมีชีวิตอยู่…

ใต้ฝ่ามือไร้รูปของหุ่นเชิด แมงมุมตัวนี้ยังคงดิ้นรนขัดขืนไม่หยุด

“เมื่อกี้มัน…ซ่อนอยู่ตรงไหน?” ซย่าน่าพลักนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ รีบหันไปมองมนุษย์แมงมุมทันที

หลี่ย่าหลินกลับถาม “หลิงม่อ นายรู้ได้ยังไงว่ายังมีอีกหนึ่งตัว?”

“เดาเอา” หลิงม่อตอบง่ายๆ อย่างผิดคาด…

“เพราะว่า…ในใจฉันยังมีเรื่องสงสัยอื่นอยู่อีก…”

หลิงม่อเดินผ่านแมงมุมตัวนั้นไป เขายื่นมือไปปัดผมยาวรุงรังของมนุษย์แมงมุมออก เผยให้เห็นดวงตาอีกข้างของเขา

ดวงตาข้างนั้นซ่อนอยู่ใต้เส้นผมเขาตลอดเวลา มองแวบแรกอาจเหมือนรสนิยมส่วนตัว…แต่ในเมื่อเป็นชายวัยกลางคนที่อายุสี่สิบกว่าปีแล้ว คงไม่ต้องการรสนิยมอย่างนี้แล้วล่ะมั้ง?

ที่สำคัญกว่าคือ อันตรายที่หลิงม่อสัมผัสได้จากมนุษย์แมงมุม ไม่ได้มาจากแขนข้างนั้นของเขา…

ตอนที่หนวดสัมผัสของหลิงม่อถูกแขนข้างนั้นต้านรับไว้ได้ เขาก็รู้สึกได้รางๆ ว่าตาข้างนั้นกำลังจ้องมาที่เขา…

และสายตาอย่างนั้น กลับต่างกับดวงตาอีกข้างของเขาโดยสิ้นเชิง

“กรี๊ดด…”

พอผมของเขาถูกปัดออก ซย่าน่าก็ร้องตกใจ

แต่เย่เลี่ยนกับหลี่ย่าหลินที่ไม่มีความรู้สึกของมนุษย์ กลับได้แต่ทำตาโตและจ้องมองด้วยความสงสัย

เบ้าตาที่เดิมควรมีลูกตาอยู่…ตอนนี้กลับเหลือเพียงหลุมกลวงโบ๋ลึกๆ และข้างหลุมลึก ก็ยังมีใยแมงมุมเหลืออยู่ให้เห็นไม่น้อย…

นี่มันไม่ใช่ดวงตาแล้ว นี่มันถ้ำแมงมุมชัดๆ…

“ไม่น่าล่ะแมงมุมตัวนี้ถึงได้ซ่อนตัวเองได้อย่างแนบเนียน แล้วยังโจมตีได้เร็วขนาดนี้อีก…” หลังจากเงียบไปหลายวินาที หลิงม่อก็พูดขึ้น

เขาอดทนต่อความสะอิดสะเอียดและใช้หนวดสัมผัสตรวจสอบรอบๆ หลุมลึกนั้น หลังจากมั่นใจว่าไม่มีแมงมุมตัวอื่นแล้ว ถึงได้ปล่อยผมของชายคนนั้นลง

ถูกหลุมลึกหลุมหนึ่ง “จ้อง” ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีนัก…

“ถ้าฉันเดาไม่ผิด แมงมุมตัวนี้น่าจะเป็นตัวที่สื่อสารกับหมอนี่จริงๆ” หลิงม่อครุ่นคิด แล้วพูดขึ้น

ซย่าน่าเองก็มองไปที่แมงมุมตัวนั้น บอกว่า “ไม่แน่ว่ามันอาจเป็นแมงมุมตัวเมียที่ให้กำเนิดแมงมุมตัวเล็กพวกนั้น และพวกตัวที่เล็กกว่าเมื่อกี้ ก็คือตัวผู้…”

“ไม่ ฉันไม่คิดอย่างนั้น…” หลิงม่อกลับส่ายหน้า

“หื้ม? ทำไมล่ะ? ปกติแล้ว แมงมุมตัวเมียจะมีตำแหน่งสูงกว่าไม่ใช่หรอ? ธรรมชาติของแมงมุมเป็นอย่างนั้นนี่นา ถึงแม้จะติดเชื้อไวรัส จนทำให้ลักษณะนิสัยเปลี่ยนไป แต่เรื่องนี้ก็ไม่น่าจะสลับกันได้ไม่ใช่หรอ? ก็เหมือนกับที่ซอมบี้ที่ไม่ได้สลับเพศกันโดยตรง…” ซย่าน่าวิเคราะห์

“เปล่า ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น” หลิงม่อชี้ไปที่มนุษย์แมงมุม บอกว่า “ดูไม่ออกหรอ? คนคนนี้…น่าจะเป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่หรอ?”

พอคำนี้หลุดออกไป สามสาวซอมบี้ก็เงียบไปชั่วขณะ…

คนธรรมดา? จะเป็นไปได้ไง…

ไม่ว่าลักษณะนิสัยของแมงมุมพวกนี้จะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่โดยธรรมชาติพวกมันก็ยังเป็นแมลงนักล่า แถมพฤติกรรมของพวกมันก็บ่งบอกเรื่องนี้ได้เป็นอย่างนี้…พวกมันดุร้ายกว่าแมงมุมปกติมาก…

คนธรรมดาน่ะหรอจะสามารถสร้างภาวะปรสิตแบบนี้ขึ้นมาได้? ไม่ว่าจะคิดยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้…

“เรื่องนี้ พวกเราคงต้องถามเขาเท่านั้น” หลิงม่อพูดเสียงเย็น

———————————