ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 1396 – ศิลาพระพุทธองค์ยกระดับ สองผู้ฝึกตนชั้นสูง

 

ชิงสุ่ยไม่แน่ใจว่ามันบังเอิญหรือไม่ที่ชายชรามองความคิดของเขาออก แต่เขาจี้ได้ตรงกับสิ่งที่ชิงสุ่ยคิด แต่เดิมมันเป็นเพียงความคิด แต่หลังจากสิ่งที่ชายชรากล่าว เขารู้สึกว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีอีกต่อไป เขาควรทำตามและไม่เคลื่อนไหว ด้วยวิธีนี้เขาจะทำให้อีกฝ่ายต้องระวังการกระทำของเขา ยิ่งนานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งดีสำหรับเขา

 

“ผู้อาวุโส สิ่งที่ท่านพูดเหมาะสมแล้ว ข้าจะรอและเฝ้าดู” ชิงสุ่ยกล่าวขณะหัวเราะ

 

ชายชรามองไปที่ชิงสุ่ยด้วยดวงตาที่ชื่นชม จากนั้นเขาก็จากไปพร้อมกับคู่ผัวเมียหยุน ชิงสุ่ยไม่ต้องการการปกป้องจากพวกเขา เมื่อชายชราคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็ได้แต่หัวเราะเท่านั้น

 

“น้องชาย ในเวลานี้ข้าไม่สามารถช่วยอะไรเจ้าได้ ข้าขอตัวกลับไปที่นิกายสักพัก” เทียนฮี่เรินโม่บอกชิงสุ่ยด้วยรอยยิ้ม

 

ชิงสุ่ยตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้ว่าพวกเขามีสิ่งที่ต้องดูแล ด้วยความสามารถในปัจจุบันของเขา เขาสามารถต่อกรกับเย่หลางวู่จี้ได้โดยไม่มีปัญหาใดๆ ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลเย่หลางจะไม่ไปยุ่งกับเทียนฮี่เรินโม่เมื่ออยู่ตามลำพัง จากเรื่องทั้งหมดพวกเขาได้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ของเขากับเทียนฮี่เรินโม่ ดังนั้นจึงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง

 

“เช่นนั้น พี่ชาย ท่านโปรดระวังตัว ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นโปรดบอกข้าด้วย” ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมเสียงหัวเราะ

 

……

 

หอคอยจักรพรรดิกลับสู่ความปกติ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันหอคอยจักรพรรดิไม่เหมือนกับที่เขาเคยมาถึงครั้งแรก ก่อนหน้านี้พวกตระกูลราชวงศ์ไม่เคยย่างกรายเข้ามาเลย แต่ตอนนี้พวกเขาไม่อาจรีรอที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีด้วยได้

 

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชิงสุ่ยมีความสุขคือ ในระหว่างการขัดเกลาสมบัติ ศิลาพระพุทธองค์ได้ก้าวไปอีกขั้น

 

ศิลาพระพุทธองค์!

 

ระดับ 1 : สามารถขัดเกลาด้วยพลังงานบริสุทธิ์ มีข้อจำกัดในการขัดเกลาต่อวัน

 

คุณสมบัติ : สามารถนำไปแช่ในน้ำ ยิ่งแช่นาน พลังวิญญาณก็จะบรรจุอยู่ในน้ำมากเท่านั้น นอกจากนี้พลังวิญญาณจะไม่สลายไป สำหรับระดับหนึ่งจะส่งผลต่อน้ำปริมาณหนึ่งเท่านั้น น้ำที่อยู่ใต้ศิลาพระพุทธองค์สามารถนำมาใช้ได้หลายรูปแบบเช่นการดื่ม การอาบ การผสมพันธุ์สัตว์……

 

ไม่จดจำเจ้าของ!

 

สามารถเพิ่มระดับได้!

 

เขาได้รับศิลาพระพุทธองค์นี่มาก่อนในมหาทวีปอู่เซียตะวันตก เขาใช้มันมาเรื่อยๆ แม้มันจะยังไม่มีระดับ แต่ผลของมันก็มีอยู่เล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าหลังจากช่วงเวลาทั้งหมดที่ผ่านมา ในที่สุดมันจะเข้าสู่ระดับ 1

 

แม้ว่าจะเป็นระดับ 1 แต่เนื่องจากเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์ การจะทะลวงผ่านขั้นเริ่มต้นจึงเป็นเรื่องยาก ส่วนการพัฒนาหลังจากนั้นจะง่ายขึ้นมาก มันทำให้ชิงสุ่ยมีความสุขมาก การบรรลุระดับ 1 หมายความว่าผลที่ได้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าก่อน ระดับ 1 ไม่ใช่แค่ของง่ายๆที่มากกว่า 0 เท่านั้น ความแตกต่างนั้นเหมือนผู้ที่ไม่มีภรรยากับผู้ที่ได้แต่งงานกับภรรยาที่ดี ความแตกต่างมันช่างราวฟ้ากับเหว

 

นี่เป็นสิ่งที่ดี ตอนนี้เขาสามารถใช้น้ำที่แช่ในศิลาพระพุทธองค์เพื่อเพาะปลูกพืชสมุนไพรได้ เขายังสามารถใช้มันเพื่อปรุงยาและอื่นๆ… แม้ว่าจะเป็นเพียงระดับ 1 มันก็เพียงพอแล้ว แน่นอนว่าคุณสมบัติของศิลาระดับสูงย่อมดีกว่า แต่เขาเข้าใจและพึงพอใจกับสิ่งที่มี มิฉะนั้นความคิดของเขาจะมัวติดอยู่กับผลที่จะได้จากระดับ 2 หรือระดับ 3 ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือการใช้ประโยชน์จากระดับปัจจุบันของศิลาพระพุทธองค์

 

มังกรไอยราเกล็ดทองคำยังคงปกติ แมงมุมอสูร 7 เศียรและอสูรอัสนีคลั่งอยู่ในภาวะขีดสุด พวกมันกำลังที่จะทะลวงผ่านขั้นต่อไป อย่างไรก็ตามก็มันเป็นเรื่องปกติหากต้องใช้เวลา 8-10 ปีก่อนที่พวกมันจะบรรลุ

 

วิหคเพลิงนรกานต์พักอยู่บนต้นอู้ทงยักษ์ ตั้งแต่ที่มันบรรลุ พลังของมันนั้นยังไม่เสถียร เมื่อพลังของวิหคเพลิงนรกานต์ค่อยๆคงที่ สายเลือดหงษ์เพลิงและความสามารถก็จะแข็งแกร่งขึ้น

 

หากไม่มีการต่อสู้ ชิงสุ่ยจะปล่อยให้วิหคเพลิงนรกานต์ฝึกฝนอยู่ภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ เมื่อเร็วๆนี้มันได้กลายเป็นวิหคเพลิงนรกานต์จึงจำเป็นต้องซึมซับและย่อยอาหาร

 

ชิงสุ่ยปรารถนาให้มังกรไอยราเกล็ดทองคำบรรลุ เมื่อถึงเวลานั้น เขารู้สึกว่าเขาสามารถปลดปล่อยความสามารถที่แท้จริงออกมาได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะสามารถแสดงพลังออกมาได้ แต่เขาก็รอคอยมานานและไม่อาจรอได้อีกต่อไป

 

3 วันผ่านไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามกลุ่มวิหคอัคคีร่ายรำไม่มีการเคลื่อนไหว ชิงสุ่ยยังไม่ได้ลงมือ จุดหมายของเขาคือการดูแลหอคอยจักรพรรดิ  3 วันนี้เขาได้แจกบัตรผ่านเข้าหอคอยมากมาย อย่างไรก็ตามมีกฎระเบียบมากมายที่แนบให้กับพวกเขา ตัวอย่างเช่นในแต่ละปีเขาจะรักษาพวกเขาเพียงครั้งเดียวไม่ว่าพวกเขาจะฟื้นตัวเต็มที่หรือไม่ก็ถือเป็นการใช้สิทธิ์

 

หลายคนที่มีบัตรจะหวงแหนโอกาสปีละครั้งนี้ พวกเขาจะไม่ใช้มันเพื่อพัฒนาการฝึกตนของพวกเขา แต่จะใช้มันเมื่อชีวิตของพวกเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย ผู้ฝึกตนไม่เคยห่างเหินจากการบาดเจ็บ การบาดเจ็บที่ไม่สามารถรักษาได้ โรคเรื้อรัง ฯลฯ …

 

ชิงสุ่ยได้เตือนพวกเขาไว้ก่อนแล้ว ถ้าพวกเขารักษาโอกาสนี้ไว้ เขาก็ไม่คิดที่จะปล่อยให้ตาย

 

เมื่อเวลาผ่านไปอิทธิพลของ ชิงสุ่ย ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ชื่อของเขาเป็นหมอปาฏิหาริย์เติบโตขึ้น

 

ไม่นานหลังจากที่เขาเปิดทำการ ชิงสุ่ยซึ่งอยู่ที่ชั้นบนสุดรู้สึกถึงลมปราณที่น่าเกรงขาม 2 จุด เขาคิดในใจ “บางทีกลุ่มวิหคอัคคีร่ายรำอาจจะเริ่มเคลื่อนไหว?”

 

อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยรีบขจัดความคิดของเขาออกไป จากลมปราณสองจุด เขารู้สึกว่าหนึ่งในนั้นจางหายไปอย่างกะทันหัน ด้วยการรับรู้ทางจิตวิญญาณของเขา ทั้งสองจุดนี้รู้สึกได้ถึงไฟแห่งชีวิต

 

น่ากลัวอะไรอย่างนี้!

 

ชิงสุ่ยเห็นสิ่งที่ดูโพล้เพล้เช่นเดียวกับพระอาทิตย์ตก

 

ช่วงชีวิตของเขากำลังจะหมดไป!

 

นี่เป็นสัญญาณว่าช่วงชีวิตกำลังจะจบลง!

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ชิงสุ่ยคิดว่าทั้งสองคนมาที่นี่เพื่อขอความช่วยเหลือ กลุ่มใดหรือพลังเหล่านี้มาจากใคร?

 

อารมณ์ของเขาซับซ้อน ชิงสุ่ยเดินออกมาตรงๆ!

 

“ผู้อาวุโสทั้งสอง พวกท่านต้องการความช่วยเหลืองั้นหรือ?” ชายหนุ่มที่ประตูพูดด้วยรอยยิ้ม

 

ชายชราทั้งสองแต่งตัวดูไม่ค่อยดี แต่เสื้อผ้าของพวกเขาสะอาดสะอ้าน เสื้อผ้าของพวกเขาธรรมดาและเหมือนชายชราทั่วไป

 

“มีข่าวลือว่ามีหมอเทวดายู่ที่นี่ บังเอิญพวกเราต้องการหมอในตอนนี้”

 

“ผู้อาวุโสทั้งสอง พวกท่านมีบัตรผ่านหรือไม่? ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว พวกท่านจะต้องรอคิวเข้าพบซึ่งอยู่ถัดไปอีก 3 วัน” ชายหนุ่มพูดอย่างสุภาพ

 

“บัตรผ่าน? น้องสอง พวกเราไปกันเถอะ ดูเหมือนว่าที่นี่จะหลอกลวง!”

 

ชายชราที่พูดน้ำเสียงดูมีอายุมากและเยือกเย็น มันไม่ได้มีสิ่งอื่นใด

 

“ท่านพี่ ข่าวลือบอกว่าสถานที่นี้ดีมาก พวกเรามาลองกันเถอะ ท่านก็ได้ยิน หมอเทวดาอยู่ที่นี่และเปิดรับการรักษาฟรีแก่ผู้ที่มาตัวเปล่า เขารักษาอาการเจ็บป่วยได้หลายอย่าง บัตรผ่านนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับคนยากจน เพราะการเข้ารักษาฟรีจะไม่อนุญาตให้คนร่ำรวยเข้าร่วม ถ้าหากพบว่าผู้ร่ำรวยเข้าร่วม พวกเราจะไม่ทำการรักษาให้อีกเลย เมื่อคนรวยต้องการที่จะรักษา พวกเขาจะต้องจ่ายในราคาที่สูงมาก”

 

“อย่างไรก็ตามคนยากจนไม่สามารถทนรอเท้าเปล่าได้เสมอ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาไม่สามารถรอได้?”

 

“โดยปกติผู้ที่ไม่สามารถรอจะได้รับการรักษาทันที ผู้อาวุโสโปรดเข้ามา”

 

ในขณะนั้นชิงสุ่ยเดินออกมาด้วยรอยยิ้มและกล่าว

 

“หมอเทวดา!”

 

ชายผู้ดูแลพูดอย่างเร่งรีบ

 

ชิงสุ่ยโบกมือให้สัญญาณว่าเขาจะรับช่วงต่อ

 

“หมอเทวดา? อายุยังน้อยอะไรเช่นนี้?” ชายชราหันไปมองชิงสุ่ยด้วยความไม่เชื่อ

 

พวกเขาได้ยินมาว่าหมอเทวดาเป็นชายหนุ่มที่น่าอัศจรรย์ แต่พวกเขาคิดไว้ว่าเขาเป็นชายวัยกลางคน ไม่เคยคิดเลยว่าเขาเป็นชายหนุ่มแบบนี้

 

“ข้าไม่จำเป็นต้องถาม อายุขัยของท่านกำลังจะหมดลง แต่มันสามารถช่วยเหลือได้” ชิงสุ่ยหัวเราะและนำพวกเขาขึ้นไปชั้นบน

 

ชายชราทั้งสองต่างก็ตกตะลึงอีกครั้ง พวกเขาจ้องมองชิงสุ่ยด้วยความไม่เชื่อ แต่ก็เดินตามเขาไปที่ชั้นบน

 

ครึ่งทางที่นั่น หยวนสู่ปรากฏตัว

 

“หยวนสู่ เจ้าตามข้ามาและช่วยตรวจอาการของเขาหน่อย ในอนาคตท่านจะต้องมีส่วนช่วยในการรักษาเช่นนี้ เฉพาะผู้ที่สามารถยืดอายุขัยได้จึงถือเป็นหมอที่มากความสามารถ”

 

“เจ้าช่วยยืดอายุขัยได้จริงๆงั้นหรือ?”

 

ชายชรายังคงไม่เชื่อ ถ้ามันเป็นเพียงการยืดอายุขัยเล็กน้อยนั้นมีหลายวิธี แต่เขาสงสัยว่าหมอเทวดาหนุ่มคนนี้จะรักษาเขาเป็นปกติได้หรือไม่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพาตัวเองเข้ามาในสถานการณ์แบบนี้

 

ชายชราได้ไปหาหมอและนักเล่นแร่แปรธาตุมาแล้วหลายคน นอกจากนี้เขาเข้าใจสถานการณ์ของเขาเองดีที่สุด ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจว่าไม่จำเป็นต้องแสวงหาความช่วยเหลือเพิ่มเติมใดๆอีก อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถโน้มน้าวน้องชายให้เปลี่ยนใจได้ ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่บนความหวังที่จะมีทางรอดต่อไป

 

“ผู้อาวุโสให้ข้าลองตรวจชีพจรของท่านหน่อย!”

 

เมื่อชายชราใจเย็นลงแล้ว เขาก็ยื่นมือไปหาชิงสุ่ย

 

การตรวจชีพจรของเขาเป็นเพียงวิธีทางการเท่านั้น ชิงสุ่ยไม่ได้ต้องการมันจริงๆ อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยตัดสินใจใช้เคล็ดวิชาเบิกเนตรสวรรค์ เขาต้องการที่จะการรับรู้ตรวจชีพจรเพื่อหยวนสู่

 

ทักษะรักษาห่วงวิญญาณเป็นสิ่งที่แข็งแกร่ง ชิงสุ่ยใช้เพื่อให้ตรวจสอบสภาพร่างกายภายในของชายชราได้อย่างเต็มที่

 

เมื่อผู้ฝึกตนอยู่ในเหตุการณ์เช่นนี้ พวกเขาจะสามารถแยกแยะได้ว่าบุคคลนั้นมีความรู้หรือไม่ ชายชรารู้สึกว่าหมอเทวดาช่างสง่างาม แต่เขาไม่เชื่อว่าจะสามารถยืดอายุขัยได้ เขาแค่อยากให้น้องชายปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป

 

“ผู้อาวุโส ถ้าข้าจะทำการรักษาท่านตอนนี้ ท่านติดขัดอะไรหรือไม่?” ชิงสุ่ยหยิบกล่องเข็มทองคำออกมา

 

“ไม่มี!”

 

ชายชราอีกคนพยักหน้า

 

“หยวนสู่ เจ้าช่วยข้าหน่อย ข้าจะทำการฝังเข็มข้างหน้าและเจ้าทำด้านหลัง ฝังเข็มเช่นเดียวกับการฝังปกติ” ชิงสุ่ยหัวเราะและส่งกล่องเข็มทองคำให้หยวนสู่

 

ชายชราสงบมาก แต่ชายชราอีกคนที่อยู่ข้างๆกำลังตื่นตระหนก “หยุด หยุดเถอะ ข้ารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างผิดปกติ เจ้าคงไม่ได้ใช้พี่ชายของข้าเป็นหนูลองยาสำหรับผู้หญิงของเจ้าใช่หรือไม่?”

 

“นี่เป็นครั้งแรกที่นางช่วยยืดอายุขัย ผู้อาวุโสโปรดอย่าตื่นตระหนกเกินไปเลย” ชิงสุ่ยหัวเราะและเริ่มฝังเข็ม หยวนสู่อยู่ที่ด้านหลังของชายชราและเริ่มฝังเข็ม

 

ชายชรานั้นไม่ได้สวมเสื้อ ร่างกายของเขาสูบผอม ชายชราอีกคนอยากที่จะหยุดการกระทำตรงหน้า

 

“น้องสอง เจ้าต้องเชื่อมั่นหมอผู้นี้” ชายชรากล่าวอย่างสงบในขณะที่ดวงตาของเขาปิดลง

 

ชายชราอีกคนขบริมฝีปากของเขาเล็กน้อย เขามีใบหน้าที่กังวล

 

“ท่านไม่ต้องกังวล เนื่องจากพี่ชายของท่านใกล้ที่จะหมดอายุขัย หากเกิดอะไรผิดพลาดขึ้น มันก็ไม่ถือว่าสูญเสีย แต่ในกรณีที่อายุขัยของเขาเพิ่มขึ้น นั่นถือว่าเป็นกำไร” ชิงสุ่ยกล่าวอย่างสงบ

 

“หมอเทวดา ท่านมีจุดประสงค์ใด” ชายชราที่ปิดตาพูดอย่างมีความสุข

 

“…….” ชายชราที่อยู่ข้างๆยังคงนิ่งเงียบ

 

ฝังเข็มเบญจธาตุ ยาฟื้นกายา กายาทองคำ 9 หยาง… เมื่อของเหลวกลิ่นฉุนเริ่มหยดออกมา ชายชราข้างๆก็ถือถ้วยชามตักหยดน้ำ

 

มันหยุดลงเมื่อเต็มครึ่งชาม ชายชราเดินไปล้างถ้วยด้วยตัวเอง ชิงสุ่ยโรยหอมผงหอมในห้อง จากนั้นก็เปิดหน้าต่าง ทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นหอมหวล

 

“ท่านพี่ ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง?” ชายชรากลับมาถามด้วยความตื่นเต้น

 

ชิงสุ่ยไม่ได้พูดอะไร เขารู้อยู่แล้วว่าไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ชายชราทั้งสองมีพลังที่น่าเกรงขาม ชิงสุ่ยตั้งใจที่จะรักษาพวกเขาเพื่อสร้างกรรมดี ในเวลาเดียวกันเขาต้องการที่จะให้สองผู้ฝึกตนที่น่าเกรงขามจากไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พวกเขาเป็นเหมือนอสูรเฒ่า หากพวกเขาขาดสติและตัดสินใจต่อสู้กับขิงสุ่ย เช่นนั้นมันก็จะเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก