บทที่301 ผลึกเกล็ดหิมะพันปี
มู่หยงเฉินกับตงฟางเจ๋อตกตะลึง เสือดาวเยอะมาก แถมยังเป็นสัตว์ร้ายระดับหนึ่งด้วย ทำไมภูเขาสืบมังกรถึงมีสัตว์ร้ายเยอะขนาดนี้กัน?

ข้างหน้าเป็นหน้าผา กู้ชูหน่วนกล้ากระโดดลงไป พวกเขาไม่กล้ากระโดดหรอกนะ ทั้งสองมองหาโอกาสแล้วรีบวิ่งไปยังทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

พวกเขาวิ่งเร็วมาก แต่เสือดาววิ่งเร็วกว่า และที่ซวยไปกว่านั้นก็คือ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ก็มีเสือดาววิ่งมาเหมือนกัน สีหน้ามู่หยงเฉินเปลี่ยนไป เขารีบผลักตงฟางเจ๋อออกไปโดยจิตใต้สำนึก ตัวเองก็วิ่งไปทางทิศอื่นแทน

สงสารตงฟางเจ๋อที่ถูกมู่หยงเฉินผลักแบบนี้ อยากจะวิ่งหนีก็ไม่ทันเสียแล้ว เขาถูกสัตว์ร้ายพวกนั้นดึงทึ้งร่างกายและฉีกออกเป็นเสี่ยงๆ

“โครม……”

ฝูงเสือดาวหันไปวิ่งไล่มู่หยงเฉิน พื้นดินเหมือนสั่นสะเทือนเหมือนแผ่นดินไหว

ณ หน้าผ่าด้านล่างครึ่งภูเขา

กู้ชูหน่วนมือข้างหนึ่งจับเถาวัลย์ไว้ อีกข้างก็โอบเอวของเซี่ยวอวี่เซวียนไว้ มองดูด้านบนทะเลหมอกด้วยแววตาที่เย็นชา นัยน์ตานั้นประกายไปด้วยความเยือกเย็นและเย็นชา

หัวใจของเซียวอวี่เซวียนเต้นตึกตักจนแทบจะกระเด็นออกมา

ยอดฝีมือระดับหนึ่ง ต้องมาตายด้วยการถูกสัตว์ร้ายกัดกินอย่างง่ายดาย……

สถานการณ์ของมู่หยงเฉิน เกรงว่าคงจะไม่ดีเหมือนกัน

เป็นกลยุทธ์ยืมดาบฆ่าคนที่สุดยอดจริงๆ

“ยัยขี้เหร่ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าด้านล่างหน้าผามีเถาวัลย์ให้จับ แล้วรู้ได้ยังไงว่าจะมีสัตว์ร้ายพุ่งเข้ามามากมายขนาดนี้? เจ้าเคยมาที่นี่หรือไง?”

กู้ชูหน่วนส่ายหัวที่ปวดร้าว

นางก็สงสัยว่า เจ้าของร่างเดิมเป็นคุณหนูสามที่ไม่ได้รับการโปรดปรานในจวนเฉิงเซี่ยง แต่ในสมองของนางไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยกับที่นี่อย่างบอกไม่ถูก

เหมือนว่า……นางเคยมาที่นี่จริงๆ……

“ก็แค่การเดิมพันเท่านั้น ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าจะมีเถาวัลย์กับสัตว์ร้าย นี่ไง พวกเราเดิมพันถูกแล้วไง?”

“การเดิมพันงั้นเหรอ? เจ้านี่มันบ้าไปแล้วหรือไง ถ้าเดิมพันแพ้ขึ้นมาจะทำยังไง?”

“แพ้ก็ยังมีชายหนุ่มรูปงามขึ้นสวรรค์ไปกับข้า ข้าไม่เสียเปรียบสักหน่อย”

“……” ขึ้นสวรรค์อะไรกัน นางเจ้าชู้ขนาดนี้ ตกนรกน่ะสิไม่ว่า

แต่กลับเห็นกู้ชูหน่วนใช้แรงโอบเขาเข้ามาแล้วยกขึ้นไปบนยอดหน้าผาได้อย่างง่ายดาย

เซียวอวี่เซียวตะลึง

“เจ้าทะลุชีพจรยุทธ์ได้แล้วเหรอ? แถมยังทะลุถึงขั้นที่สองด้วย ยัยขี้เหร่ เจ้ายังมีเรื่องมากอะไรปิดบังข้าอีก?”

“เพิ่งทะลุได้เมื่อกี้ กำลังภายในยังควบคุมไม่ได้ ไปกันเถอะ พวกเราไปทางนี้กัน”

หุบเขาคดเคี้ยว สูงชันและลึก ภูเขาทั้งสองข้างเป็นเหมือนดาบที่สร้างขึ้นสูงตระหง่านในหมู่ก้อนเมฆ

พวกเขาเดินไปตามที่กระดิ่งทลายวิญญาณชี้นำ เดินอ้อมอยู่ในหุบเขาเป็นชั่วโมงกว่าก็ยังไม่ถึงที่หมาย

เซียวอวี่เซวียนปาดเหงื่อ แล้วถามว่า “กระดิ่งทลายวิญญาณนี่วิเศษจริงเหรอ? ทำไมเดินมานานขนาดนี้แล้ว ยังไม่เห็นสมบัติสักกะชิ้นเลย”

“ใครว่าไม่มีสมบัติกันล่ะ ดูนั่นสิ มีผลึกเกล็ดหิมะอยู่นั่นไง”

เซียวอวี่เซวียนเงยหน้ามองขึ้นไป อดไม่ได้ตื่นเต้นขึ้นมา “ผลึกเกล็ดหิมะใหญ่จังเลย น่าจะมีอย่างน้อยพักปีได้เลย นี่เป็นวัสดุหลอมอาวุธชั้นดีเลยนะ ข้าจะเอาไป”

“ช้าก่อน ตรงนั้นมีงูสองหัวนอนอยู่” กู้ชูหน่วนดึงตัวเขาไว้ แล้วชี้ไปยังทางขวาเงียบๆ

เซียวอวี่เซวียนตกใจรีบถอยหลังกลับมา มัวแต่สนใจผลึกเกล็ดหิมะ จนไม่ทันสังเกตเห็นว่ายังมีงูสองหัวนอนอยู่ตรงนั้น

“ยัยขี้เหร่ นี่เหมือนจะไม่ใช่งูธรรมดาเลยนะ นี่เป็นถึงราชางูสองหัวระดับสอง มีการโจมตีที่รุนแรงมากด้วย”

กู้ชูหน่วนหรี่ตา

อย่าว่าแต่ระดับสองเลย ถึงจะเป็นถึงสามหรือสี่ นางก็จะต้องเอาผลึกเกล็ดหิมะพันปีมาให้ได้

และ……

สถานที่ที่กระดิ่งทลายวิญญาณนำพามา ก็คือถ้ำที่งูสองหัวอยู่

เพราะครั้งก่อนที่โดนพวกงูและแมงป่องมีพิษรุมโจมตีจนเกือบตาย กู้ชูหน่วนก็เอาสงหวงไว้ในแหวนมิติไม่น้อย เพื่อระวังเอาไว้ก่อนล่วงหน้า

นางเปิดแหวนมิติออก แล้วเอาสงหวงปาดไว้บนร่างกายของตัวเองและเซียวอวี่เซวียน

“ใช้โอกาสตอนที่พวกมันยังหลับอยู่ ข้าจะแอบเอาผลึกเกล็ดหิมะออกมา ถ้ามันไม่รู้ตัว พวกเราก็อ้อมถ้ำภูเขาออกไป ถ้ามันจับได้ เจ้ารีบหนีเข้าไปในถ้ำทันที ค้นหาดูว่าในนั้นมีสมบัติอะไรหรือเปล่า”

“แล้วเจ้าล่ะ?”

“วางใจได้ ข้ามีวิธีจัดการอยู่แล้ว”

“ไม่ได้ เจ้าเพิ่งเปิดชีพจรยุทธ์ได้ งูสองหัวนี่เป็นถึงสัตว์ร้ายระดับสองเชียวนะ เจ้าจัดการไม่ได้หรอก”

กู้ชูหน่วนกอดอก มองเขาเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม สายตานั้นเหมือนกำลังหัวเราะประชด นางอ่อนหัดขนาดนั้นเลยเหรอ?

เซียวอวี่เซวียนชะงัก แล้วรีบพูดว่า “ข้าไปขโมยผลึกเกล็ดหิมะเอง เจ้าแอบเข้าไป เอาตามนี้แหละ”

“ก็ได้”

ได้?

เร็วขนาดนี้เลย?

หรือว่าไม่กลัวเขาจะเป็นอะไรเลยเหรอ?

เห็นสายตากู้ชูหน่วนที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

เซียวอวี่เซวียนอดทนไว้แล้วเดินย่องไปข้างหน้าเงียบๆ พยายามไม่ทำให้งูสองหัวตื่น

ห้าก้าว สี่ก้าว สามก้าว……เหลืออีกแค่สองก้าวเท่านั้นก็จะได้ผลึกเกล็ดหิมะแล้ว เซียวอวี่เซวียนดีใจ ในตอนที่กำลังจะหยิบผลึกเกล็ดหิมะได้แล้วนัน แสงสีฟ้าก็แวบผ่านไป มู่หยงเฉินที่บาดเจ็บสาหัสไม่รู้ว่ามาจากไหน วิ่งเข้ามาแย่งผลึกเกล็ดหิมะไปก่อน

และในขณะเดียวกัน กู้ชูหน่วนก็ผิวปากเสียงดัง

“ฟ่อ……”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลึกเกล็ดหิมะพันปีถูกขโมยไป หรือเป็นเพราะกู้ชูหน่วนผิวปาก งูที่กำลังขดตัวนอนอยู่นั้นก็ตื่นขึ้นมา อ้าปากกว้าง แลบลิ้นของมันออกมา แล้วจิกไปยังมู่หยงเฉิน

มู่หยงเฉินตกใจ รีบกระโดดหนีออกไป ถึงจะหลบจากงูสองหัวได้

งูสองหัวไม่พุ่งเข้าไปทันที แต่เคลื่อนที่เร็วมาก มันไล่ตามมู่หยงเฉินไม่หยุด พวกเขาเริ่มต่อสู้ขึ้นมา

มู่หยงเฉินเป็นแค่ยอดฝีมือระดับหนึ่ง แถมยังบาดเจ็บสาหัสอีก งูเป็นสัตว์ร้ายระดับสอง และยังถูกกระตุ้นอีก จึงแสดงความดุร้ายของงูทั้งหมดออกมา มู่หยงเฉินถูกบดขยี้แหลกเป็นชิ้นๆ

“โครม……”

มู่หยงเฉินถึงแม้จะไม่ถูกกัด แต่กลับถูกหางงูฟาดเข้าเต็มๆ ร่างกายกระแทกเข้ากับหินก้อนใหญ่อย่างแรง เกือบทำเอาหินก่อนใหญ่แตกร้าว

ไม่รอมู่หยงเฉินตั้งตัวได้ งูก็เข้าไปแย่งผลึกเกล็ดหิมะพันปีในมือเขาแล้ว งูตัวใหญ่ยักษ์รัดตัวมู่หยงเฉินไว้ แน่นขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนแค่ไหนก็หลุดออกมาไม่ได้อยู่ดี

กู้ชูหน่วนรีบลากเซียวอวี่เซวียนที่ตกตะลึงวิ่งเข้าไปในถ้ำอย่างรวดเร็ว “ยืนบื้ออะไรอยู่อีก อยากเป็นอาหารมื้อเที่ยงของงูหรือไง?”

ถ้ำลึกมาก กู้ชูหน่วนหยุดฝีเท้า แทบจะใช้แรงทั้งหมดในการวิ่งเข้ามาในถ้ำลึกนี้

“ยัยขี้เหร่ ยังไม่ได้ผลึกเกล็ดหิมะพันปีเลยนะ”

กู้ชูหน่วนวิ่งไปด้วยและแบฝ่ามือที่มีผลึกเกล็ดหิมะสองสามชิ้นไปด้วย กะพริบตาใสแจ๋วแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เมื่อกี้ตรงที่งูตัวนั้นนอนอยู่มีผลึกเกล็ดหิมะตกอยู่ ข้าใช้โอกาสตอนที่มันไปโจมตีมู่หยงเฉิน รีบเอาผลึกเกล็ดหิมะพันปีมา ได้มาสามชิ้น ทุกชิ้นใหญ่กว่าชิ้นเมื่อกี้อีก”

“งั้นมู่หยงเฉินก็เป็นแพะรับบาปน่ะสิ?” ให้ตายสิ ถ้ามู่หยงเฉินไม่เห็น แพะรับบาปคนนั้นก็คงไม่ใช่เขาแล้วล่ะ?

“งูสองหัวทำผลึกเกล็ดหิมะใหญ่หายไปสามชิ้น คงได้โกรธแล้วมาตามล่าพวกเราแน่”

กู้ชูหน่วนเพิ่งพูดจบ ด้านนอกก็มีเสียงกระแทกของถ้ำดังขึ้น ตามด้วยเสียงฟ่อๆของงู

ทั้งสองต่างก็รู้ดีแก่ใจ

งูสองหัวตัวนั้นตามมาแล้ว มันโกรธมาก ดังนั้นกำแพงหินในถ้ำดังลั่นไปด้วยเสียงกระแทกของมัน

“ไม่ได้การแล้ว มันคลานมาเร็วมาก พวกเราวิ่งไม่ทันมันแน่”