Ch.345 – บอกว่าจะฆ่าก็ฆ่าสิวะ

Provider : Muntra

 

 

*บางวันผมก็ลืมว่าต้องลงนะครับ ถ้าวันไหนช้าไปทวงไปเพจได้เลยครับผม

 

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.345 – บอกว่าจะฆ่าก็ฆ่าสิวะ

 

ในเวลานี้ 

 

ท่ามกลางสนามรบ แสงสีทองสว่างวาบขึ้นทันใด

 

“อ๊ากกก!!” ผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล D คนหนึ่งยกมือขึ้นกุมหน้าอกตนเอง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น

 

แต่คนอื่นๆเห็นฉากนี้ได้อย่างชัดเจน!

 

ว่าหน้าอกของคนๆนั้น ถูกทะลวงเป็นรูโบ๋ โดยหนอนสีทองตัวเล็กมากๆตัวหนึ่ง

 

พรวดดด!

 

เลเวล D คนนั้นแม้แข็งแกร่ง แต่ก็ไม่สามารถแก้สถานการณ์ได้ ปราณกำลังภายในของเขาแตกสลาย กระจายไปในอากาศ กายสูญสิ้นการควบคุม ล้มทั้งยืนเสียงดังตึง!

 

“ทุกคนระวัง!”

 

ผู้คนโดยรอบได้สติกลับคืน

 

แม่พันธุ์หนอนทรายทอง มิได้หดขนาดเล็กลงเพียงเพราะต้องการหลบหนี จริงๆแล้วมันคิดจะลอบโจมตี!

 

และเมื่อมีขนาดเล็ก มันกลับว่องไวมาก ไวอย่างไม่น่าเชื่อ!

 

ลำแสงสีทอง โดดไปโดดมาทั่วสนามรบ

 

“ก้าวมังกร!”

 

ฉินเฟิงกระตุ้นกำลังภายใน กระจายไปทั่วร่างกายเขา เร่งเร้าความเร็วพุ่งสูงขึ้น

 

ช่วงเวลานี้ ทั้งร่างของเขา ยามโฉบผ่านผืนทราย ก็กลายเป็นแสงสีทองไม่ต่างกัน

 

เกาลี่ที่อยู่ในแนวหน้า จู่ๆวิสัยทัศน์พลันพร่ามัวไปด้วยแสงจรัสสีทอง ความคิดหนึ่งวาบขึ้นมาในหัวเขา

 

‘ซวยล่ะ แม่พันธุ์หนอนทรายทอง!’

 

เกาลี่ปรารถนาจะหมุนตัวหลบหนี แต่ตอนนี้คงสายไปเสียแล้ว!

 

แม่พันธุ์หนอนทรายทอง เร็วมากเกินไป!

 

ชั่วขณะที่เงื้อมมือมัจจุราชกำลังเงื้อมเข้าใส่เกาลี่ ภาพทุกอย่างเบื้องหน้าราวกับเชื่องช้าลง และในตอนนั้นเอง แสงสีทองอีกเส้นที่เร็วยิ่งกว่าพลันโฉบเข้ามา

 

ตูม!

 

ทั้งสองปะทะเข้าหากัน

 

สองเส้นแสงสีทองหยุดกึกในเวลาเดียวกัน ร่างของแม่พันธุ์หนอนทรายทองและฉินเฟิงปรากฏออกมา

 

“ตายซะ!”

 

ฉินเฟิงกระแทกฝ่ามือ ตบเข้าใส่แม่พันธุ์หนอนทรายทอง

 

ปงงงง!

 

กำลังภายในทั้งหมดระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง ด้วยบาดเจ็บสาหัสอยู่ก่อนแล้ว ภายใต้ฝ่ามือนี้ แม่พันธุ์หนอนทรายทองมิอาจทานทนได้อีกต่อไป ทั้งตัวของมันแตกโผล๊ะ!ในเสี้ยวพริบตา

 

เทคนิคเปลี่ยนรูปของแม่พันธุ์หยุดทำงาน กายที่หดเล็กลงเริ่มบวมใหญ่ขึ้น

 

ท่ามกลางความอลหม่าน แก่นพลังงานของราชันย์สัตว์ร้ายเปล่งประกายภายใต้แสงอาทิตย์ ดวงตาของผู้คนตกลงบนมันอย่างรวดเร็ว

 

ฉินเฟิงยื่นมือคว้าออกไป

 

แต่ขณะเดียวกัน อีมือหนึ่งก็ฉกเข้ามาคว้ามันเช่นกัน

 

เป็นเล่ยชาง!

 

เล่ยชางเฝ้ารอจังหวะนี้มานานมากแล้ว! 

 

แต่เขาไม่คิดเลย ว่าตนจะช้ากว่าฉินเฟิงไปหนึ่งก้าว

 

ใบมีดยาวในมือเขา ตัดเข้าใส่แขนที่ยื่นออกมาของฉินเฟิงทันที

 

กึ้งงงง!

 

กำลังภายในที่ห่อหุ้มใบมีดโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง กระแทกเข้ากับปราณกำลังภายในของฉินเฟิง เชือดเฉือนกันและกัน

 

“เสร็จฉันล่ะ!”

 

ฉินเฟิงคว้าแก่นพลังงานแม่พันธุ์ และรวบมันหายเข้าไปในอุปกรณ์รูนมิติทันที 

 

ยามเบนสายตากลับมายังเล่ยชาง ในแววตาของฉินเฟิงฟุ้งไปด้วยเจตนาฆ่า

 

พรึ่บ!

 

มีดกษัตริย์ครามในพื้นที่มิติถูกเรียกออกมา เปลวเพลิงที่ลุกไหม้ถูกกระตุ้นโดยกำลังภายใน โหมกระพือน่าหวั่นเกรง

 

“แส่หาที่ตาย!”

 

“มีดเปลวเพลิง!”

 

“มีดสายฟ้า!”

 

เล่ยชางร้องคำรามเกรี้ยวกราด ถึงเวลานี้แล้วมีหรือเขาจะยอมน้อยหน้า มุ่งปะทะกับฉินเฟิงอย่างเด็ดขาด

 

ตูม!

 

กำลังภายในของทั้งสองระเบิดเข้าใส่กัน

 

เปลวไฟและสายฟ้าพลันระเบิดออก แสงสีฟ้าและม่วงกระพริบไหวไปด้วยกัน ดูละลานตา แต่เพียงเสี้ยววินาที เปลวไฟสีฟ้าก็กลืนกินสายฟ้าสีม่วงลง

 

ผลการต่อสู้เป็นที่ประจักษ์

 

เล่ยชางมิใช่คู่ต่อสู้ของฉินเฟิงโดยสิ้นเชิง

 

สองอาวุธ หลังจากห้ำหั่นกันด้วยกำลังภายในไปยกหนึ่งแล้ว พวกมันก็ปะทะคมกล้าจริงๆเข้าใส่กัน 

 

ดวงตาอันโหดเหี้ยมของเล่ยชางพลันสั่นไหว เขาไม่เชื่อ มิอาจทำใจเชื่อได้ ยามเมื่อออกทำภารกิจของกลุ่ม อาวุธและเทคนิคของเขา ไหนเลยจะเคยพ่ายแพ้อย่างหมดรูปเช่นนี้

 

ช่วงเวลาถัดมา บางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นก็ทำให้เล่ยชางต้องตกตะลึง

 

เคร้ง!

 

สองอาวุธคมกล้าฟันเข้าใส่กัน แต่เพียงวินาทีเดียว มีดที่เขาแสนภาคภูมิก็ถูกสะบั้นแยกเป็นสองส่วน คมมีดกษัตริย์ครามในมือฉินเฟิง โฉบเข้าหาคอของเล่ยชางทันที

 

–และวาดผ่านไป!

 

“อา … ” เล่ยชางต้องการจะเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่เจ้าตัวกลับพบว่าเรี่ยวแรงทั้งกายเหือดหายไป วิสัยทัศน์ก็เริ่มพร่ามัวลง ราวกับช่วงเวลาหยุดนิ่ง 

 

ศีรษะของเขา ลอยหลุดแยกออกจากร่างกายโดยสมบูรณ์

 

เล่ยชางไร้ซึ่งกำลังจะต่อกรกับฉินเฟิงแม้สักการโจมตีเดียว เขาถูกตัดหัวโดยฉินเฟิง

 

ปลิดชีพในคราวเดียว!

 

กำลังภายในของฉินเฟิงถูกส่งออกมาอย่างเงียบๆ ทำการดูดซับกำลังภายในที่กระจายออกมาจากตันเถียนของเล่ยชาง แม้เทียบกับการสัมผัสกายโดยตรงแล้วจะมีประสิทธิภาพน้อยกว่า แต่ก็ยังสามารถดูดซับได้มากถึง 8 ใน 10 ส่วน

 

ช่วงเวลานี้ ผู้ใช้พลังคนอื่นๆที่แต่เดิมรุมล้อมอยู่รอบๆ และกำลังคว้าชิ้นเนื้อของหนอนทรายทอง ทั้งหมดจ้องค้างไปยังฉินเฟิง สภาพที่ราวกับหมาป่าหิวโหยนิ่งงันไป 

 

แลไปยังศพของเล่ยชางที่นอนกองอยู่กับพื้น มันทำให้พวกเขาตะลึงงัน

 

เพียงชั่วเวลาสั้นๆ มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่?

 

นี่เล่ยชาง … ตายไปแล้วจริงๆน่ะหรอ?

 

“หัวหน้า!” หลินชิร้องร่ำ ทั้งร่างสั่นเทิ้ม เขาไม่เคยคาดคิดเลย ว่าเล่ยชางจะจบชีวิตลงแบบนี้ 

 

สายตาของเขา ตรึงลงบนร่างของฉินเฟิงทันที

 

“แก .. แกฆ่าหัวหน้าของพวกเรา!” หลินชิคำรามโกรธเกรี้ยว

 

ฉินเฟิงกล่าวผ่านกำลังภายใน ส่งเสียงออกไปเป็นวงกว้าง

 

“แล้วทำไมฉันต้องไม่ฆ่ามันด้วยเล่า?” ฉินเฟิงตะโกนดุดัน “ฉันต่อสู้อย่างหนัก ฉะนั้นย่อมไม่คิดให้ถูกเอาเปรียบ ตอนนี้ ทุกคน ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดชิงหรือถือเนื้อแม่พันธุ์หนอนอยู่ ทั้งหมดจงวางมันลงให้ฉัน! จบการต่อสู้แล้วต้องแบ่งปันสินสงครามกันตามความเหมาะสม ถ้าใครยังมุบมิบเก็บไว้คนเดียว ฉันจะอัดมันจมกองเลือดซะเดี๋ยวนี้เลย และเชื่อไหมว่าฉันจะทำอย่างที่พูดจริงๆ!”

 

ฝูงชนโดยรอบสั่นสะท้าน

 

“ฉันเห็นด้วยกับมิสเตอร์ฉิน!”

 

เกาลี่คือคนแรกที่ก้าวออกมายืนข้างหน้า ในช่วงเวลานั้นเกาลี่อยู่ใกล้กับแม่พันธุ์หนอนทรายทองมากที่สุด ฉินเฟิงเป็นคนช่วยชีวิตเกาลี่ไว้ เมื่อแม่พันธุ์ตัวแตกระเบิดตาย หลังจากเนื้อนขยายขนาด เกาลี่ก็ได้ก้อนใหญ่มาชิ้นหนึ่ง

 

แก่นพลังงานของหนอนทรายทองมีมูลค่าเกือบ 5,000 ล้านเหรียญก็จริง แต่เลือดและเนื้อของมันก็มีคุณค่าเช่นกัน ทั้งตัวอาจมีมูลค่ามากถึง 15,000 ล้านเหรียญ ต่อให้หยิบสุ่มมาสักชิ้น ก็น่าจะมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้าน!

 

เกาลี่เต็มใจรับฟังและปฏิบัติตามเป็นอย่างยิ่ง แน่นอน นั่นเพราะเขารู้ ว่าฉินเฟิงจะไม่มีทางปฏิบัติต่อพวกเขาเลวร้ายจนเกินไป

 

เมื่อสหายคนแรกเปิด คนอื่นๆจากพันธมิตรอิสระก็เริ่มตาม พวกเขาเชื่อใจฉินเฟิง

 

คนแล้วคนเล่าทยอยกันหยิบวัตถุดิบออกมาคืน

 

ฉินเฟิงยกมีดในมือ ชี้เป้าไปทางคนของกลุ่มเล่ยถัง

 

“แล้วพวกแกล่ะ สนใจไปเมืองผีพร้อมๆกับหัวหน้าไหม?”

 

คนจากกลุ่มเล่ยถัง พลันหลั่งไปด้วยเหงื่อเย็น

 

แรงกดดันของฉินเฟิง ทรงพลังมากเกินไป!

 

แม้จะอยู่ในเลเวลเดียวกัน แต่พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินเฟิงอย่างสิ้นเชิง

 

แม้จะไม่เต็มใจคืน แต่พวกเขาตระหนักดี ว่าฉินเฟิงคิดทำดั่งลั่นวาจาจริงๆ 

 

ขนาดหัวหน้ายังถูกฆ่าตาย แล้วลูกน้องอย่างพวกเขาจะไปเหลือหรอ?

 

ปัจจุบัน หลินชิเองก็ไม่กล้าโต้แย้งใดๆ

 

ทุกคนเริ่มวางวัตถุดิบแม่พันธุ์หนอนลง ไป๋หลีเก็บพวกมัน ยุติความวุ่นวาย

 

“ตอนนี้ก็ทำภารกิจปิดล้อมกันต่อเถอะ สังหารฝูงหนอนทรายทองให้หมด”

 

ฉินเฟิงประกาศ

 

ฝูงชนไม่มีผู้ใดขัดข้อง และเนื่องจากถูกกดดันโดยฉินเฟิง รู้สึกราวกับขาดอากาศหายใจคล้ายมีมือที่มองไม่เห็นบีบคอ ช่วงเวลานี้ทุกคนจึงปลดปล่อยความโกรธที่มี ไปลงกับหนอนทรายทอง

 

กองทัพหนอนเมื่อไร้ซึ่งผู้นำ ที่เหลืออยู่หลายพันหลายหมื่นตัวก็พากัน แต่สุดท้ายก็ถูกสังหารเก็บกวาดไปอย่างรวดเร็ว

 

แม้ว่าจะมีหลายตัวที่หลุดรอดไปได้ แต่ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ มันไม่สามารถสร้างอาณานิคมของตนขึ้นมาได้อย่างแน่นอน

 

อาจกล่าวได้ว่าภารกิจนี้ ประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่!

 

กว่าสงครามจะจบลง พระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว การต่อสู้ครัง้นี้กินเวลายาวนานกว่า 10 ชั่วโมง ทุกคนต่างเหนื่อยล้าหมดแรง

 

อย่างไรก็ตาม ผู้คนก็ยังไม่จากไป ทั้งหมดมองไปทางฉินเฟิง

 

ดูเหมือนว่าทุกคนกำลังรอ … รอคำสั่งจากฉินเฟิง

 

สงครามในครั้งนี้ มีเลเวล D ตายไปทั้งสิ้น 10 คน ปัจจุบัน ณ ที่แห่งนี้มีคนอยู่กว่า 150 คน แต่ส่วนใหญ่ไม่ใช่พันธมิตรอิสระ

 

หูเหลียงกับหยานฟางเดินเข้ามา

 

ฉินเฟิงรู้ว่าพวกเขาต้องการจะเอ่ยอะไร ทว่าฉินเฟิงไม่คิดสนทนาปรึกษากับพวกเขา

 

เจ้าตัวไม่ต้องการเอนอ่อนไปทางฝั่งซ้ายหรือขวา

 

สายตาของฉินเฟิงกวาดมองไปรอบๆ และกล่าวขึ้น “สถานการณ์ไม่คาดฝันนี้ ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นได้เพราะฉันและผู้ใช้พลังกว่า 40 ของพันธมิตรอิสระทุ่มเททำงานอย่างหนักตั้งแต่เมื่อ 7-8 วันก่อนหน้านี้ สามารถกำจัดหนอนทรายทองได้มากกว่า 100,000 ตัว เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ พวกคุณน่าจะเคยได้ยินมันมาบ้างแล้วใช่ไหม?”