บทที่ 75 เจอราคาสูง

รักหวานอมเปรี้ยว

มายมิ้นท์คิดอยู่ครู่หนึ่ง “เอางี้ เธอไปต่อรองกับประธานธนาคารพวกนี้อีกครั้ง ดูว่าพวกเขาเปลี่ยนใจหรือเปล่า ลองถามด้วยว่าเป็นฝีมือของเยี่ยมบุญ ที่ต้องการเล่นงานเราหรือเปล่า”

“ได้ค่ะ” เลขาซินดี้ตอบรับ จากนั้นเหมือนเธอคิดอะไรได้ จึงถามขึ้น “เรื่องนี้ จะบอกประธานลาเต้ไหมคะ”

“ไม่ต้อง” มายมิ้นท์ส่ายหน้า “ช่วงนี้ลาเต้ต้องดูแลบริษัทของตัวเอง ฉันไม่อยากกวนเขา”

“ค่ะ”

หลังจากเลขาซินดี้ออกไปไม่นาน ชาหวาน พนักงานฝ่ายบัญชีก็เดินเข้ามา

“ประธานคะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ เมื่อกี้ฉันได้รับสายจากธนาคาร พวกเขาเอาแต่ทวงให้เราคืนเงิน เราเพิ่งกู้เงินนี้มาไม่นานไม่ใช่เหรอคะ ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องคืนเลย ทำไมถึงให้เราคืนแล้ว” ชาหวานเดินมาหน้าโต๊ะทำงานมายมิ้นท์ และถามขึ้น

มายมิ้นท์จับสันจมูก “ดูไม่ออกเหรอ เราโดนเล่นงานแล้วน่ะสิ”

“ใครกันคะ” ชาหวานทุบฝ่ามือลงบนโต๊ะ

สายตาของมายมิ้นท์ฉายแววเย็นชา “ตอนนี้กำลังสงสัยเยี่ยมบุญ แต่ยังไม่มีหลักฐาน”

“เรื่องหาหลักฐานยังไม่ต้องรีบ ตอนนี้ต้องรีบแก้ปัญหาเงินทุนก่อน เงินทุนที่ใช้หมุนเวียนเทนเดอร์กรุ๊ปในตอนนี้ เป็นเงินที่กู้มาจากธนาคารพวกนั้น ถ้าเราคืนเงินไป เทนเดอร์กรุ๊ปต้องล้มละลายแน่นอน” ชาหวานพูดอย่างกลุ้มใจ

มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแดง

มีหรือที่เธอจะไม่รู้ว่าสถานการณ์มันรุนแรงแล้ว

“ประธานมายมิ้นท์” เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง

มายมิ้นท์ช้อนตามอง

ซินดี้ยืนอยู่หน้าประตู สีหน้าของเธอดูหดหู่ “ฉันเจรจากับประธานธนาคารพวกนั้นแล้วค่ะ ธนาคารที่ยังไม่ทันได้กู้ ไม่ว่าจะพูดยังไง พวกเขาก็ไม่ให้เรากู้ค่ะ ส่วนธนาคารที่เรากู้เงินมาแล้ว ก็ดึงดันจะให้เราคืนเงิน เราจะทำยังไงกันดีคะ ประธาน”

มายมิ้นท์กำหมัด เธอย้อนถามว่า “พวกเขาได้พูดหรือเปล่า ว่าเป็นฝีมือของเยี่ยมบุญ”

“ไม่ค่ะ ฉันถามแล้ว พวกเขาปฏิเสธแบบข้างๆ คูๆ เหมือนกลัวอะไรสักอย่าง” เลขาซินดี้ตอบ

“ไม่ว่ายังไง ธนาคารก็อยู่ในความดูแลของประเทศ คนที่เป็นประธานอย่างพวกเขา จะกลัวเจ้าของบริษัทเอกชนเพียงแห่งเดียวได้ยังไง” ชาหวานขมวดคิ้ว

มายมิ้นท์หรี่ตาลง “นอกจากว่าคนที่สั่งพวกเขา จะไม่ใช่เยี่ยมบุญ แต่เป็นคนของทางการ”

“ประธานไปมีเรื่องกับคนของทางการตอนไหน” ชาหวานถามอย่างจริงจัง

มายมิ้นท์ส่ายหน้าอย่างสับสน “ฉันไม่รู้”

ช่วงนี้เพราะเรื่องที่ดิน ทำให้เธอติดต่อกับหน่วยงานราชการเพียงครั้งเดียว

แต่ครั้งนั้น เธอไม่ได้ล่วงเกินอะไรเลยนี่นา

“ช่างเถอะๆ เรื่องพวกนี้ เอาไว้ค่อยคิด ประธาน ยังไงต้องรีบจัดการเรื่องเงินทุนก่อน” ชาหวานพูดเตือน

มายมิ้นท์หลับตาอย่างอ่อนล้า “เลขาซินดี้ เธอติดต่อประธานธนาคารที่ให้เรากู้อีกที บอกพวกเขาว่าฉันเชิญไปทานข้าวที่ โรงแรมวันเวิลด์”

ส่วนธนาคารที่ยังไม่ได้ให้กู้ ก็ปล่อยไป

แต่ธนาคารที่ให้กู้แล้ว เธอต้องทำให้พวกเขาล้มเลิกความคิดที่จะทวงเงินคืน ไม่งั้นเทนเดอร์กรุ๊ปแย่แน่

“ได้ค่ะ” เลขาซินดี้พยักหน้า

มายมิ้นท์มองชาหวาน “เธอไปจัดการเอกสารการกู้เงิน แล้วไปกับฉัน”

“ค่ะ” ชาหวานตอบรับ

หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ทั้งสองมาถึง โรงแรมวันเวิลด์

ที่นี่เป็นโรงแรมเจ็ดดาว หนึ่งเดียวในเมืองเดอะซี เป็นโรงแรมภายใต้การดูแลของบริษัทตระกูลนวบดินทร์

การมากินข้าวที่นี่เพียงมื้อเดียว สำหรับครอบครัวคนทั่วไป อาจจะต้องใช้เงินเดือนทั้งปี

ยิ่งไปกว่านั้น มายมิ้นท์ยังจองห้องอาหารเอาไว้ห้องหนึ่ง สั่งอาหารหรูหราจำนวนมาก ไว้ต้อนรับเหล่าประธาน เรียกได้ว่าเป็นการแสดงความจริงใจอย่างเต็มเปี่ยม

เหล่าประธานพวกนี้ ได้รับการต้อนรับอย่างดีเลิศเช่นนี้ จะไม่พูดอะไรก็ไม่ได้ สุดท้ายจึงบอกว่า คนที่เล่นงานเธอ คือคนในตระกูลเสนาประกร

“ประธานมายมิ้นท์ จากที่ฉันรู้ คนที่มีอำนาจเช่นนี้ มีเพียงตระกูลเดียว นั่นก็คือตระกูลเสนาประกรแห่งเมืองน้ำรุ้ง” ชาหวานเอียงตัวเล็กน้อย และกระซิบข้างหูมายมิ้นท์

มายมิ้นท์กำแก้วไวน์ในมือ ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความเยือกเย็น “ต้องเป็นเกศวดี”

เธอไม่ได้มีความขัดแย้งกับตระกูลเสนาประกร

แค่มีเรื่องผิดใจเล็กๆ น้อยๆ กับเกศวดีเท่านั้น

“ฉันเดาว่าต้องเป็นเธอ แต่ทำไมเธอถึงทำแบบนี้ หรือเพราะเรื่องเล่นไพ่นกกระจอกครั้งก่อน” ชาหวานพูดเดา

มายมิ้นท์จิบไวน์ เดาสีหน้าของเธอไม่ออก “คงจะใช่”

“ถ้าเป็นอย่างนี้จริงๆ ก็ใจแคบเกินไปหน่อยมั้ง” ชาหวานแสยะยิ้ม “อีกทั้งเกศวดียังก้าวก่ายมากเกินไปแล้ว เธออำนาจและร่ำรวยในเมืองน้ำรุ้ง คิดไม่ถึงว่าจะเข้ามาก้าวก่ายเรื่องในเมืองเดอะซี ใครทำให้เธอกล้าดีเช่นนี้ ประธาน ฉันขอตัวไปโทรศัพท์ก่อนนะคะ”

“อืม” มายมิ้นท์พยักหน้าอนุญาต

ชาหวานยืนขึ้น และเดินออกจากห้องอาหาร เธอหาที่เงียบๆ เพื่อคุยโทรศัพท์

“มีอะไรก็รีบพูดมา!” เสียงแหบพร่าและก้าวร้าวดังออกมา

ชาหวานเหลือบตามองบน “ตาเฒ่า ฉันได้ยินมาว่าสองสามปีมานี้ ตระกูลเสนาประกรยโสโอหัง เพราะฉะนั้นเบื้องบนจึงอยากให้ตระกูลอัคคเดชโภคินกดขี่พวกเขา แต่เพราะไม่มีข้ออ้างที่เหมาะสม จึงไม่สามารถทำอะไรได้ เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า”

“ถามทำไม” ชายปลายสายมีสีหน้าหงุดหงิด

“ดูเหมือนว่าจะจริง” ชาหวานหยิบบุหรี่ออกมาสูบ เธอสูดควันเข้าไป “ฉันก็มาบอกข่าวดีน่ะสิ เกศวดี หลานสาวของนายท่านตระกูลเสนาประกร อยู่ที่เมืองเดอะซี อีกทั้งเธอยังใช้อำนาจของตระกูล เข้ามาแทรกแซงกิจการธนาคารในเมืองเดอะซี ข่มเหงเจ้านายของฉัน ใช้ข้ออ้างนี้จัดการตระกูลเสนาประกรดีหรือเปล่า”

ตาของชายคนนั้นเป็นประกาย “จริงๆ ก็เป็นข่าวดี ถ้านายท่านตระกูลเสนาประกร ยังไม่ลงจากตำแหน่ง ก็ไม่สามารถแทรกแซงงานด้านบริหารของรัฐบาลได้ หลานสาวของเขาเก่งดีนี่ ถึงกล้าละเมิดข้อห้าม”

“ก็ใช่นะสิ โง่จนทำให้เราหาช่องโหว่ และเอามาเล่นงานได้” ชาหวานพ่นควันออกมา จากนั้นก็พูดเยาะเย้ย

เล่นไพ่นกกระจอกครั้งที่แล้ว เกศวดีล่วงเกินเธอ เธอจึงใช้ข้อมูลของตระกูลเสนาประกร ลอบกัดตระกูลนี้สักหน่อย

ครั้งนี้เกศวดีหาเรื่องใส่ตัว เดิมพันด้วยตระกูลเสนาประกร

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ชาหวานอดหัวเราะไม่ได้

ชายปลายสายขมวดคิ้ว “นังเด็กนี่ หัวเราะอะไร สืบเรื่องของคุณชายน้อยไปถึงไหนแล้ว”

ชาหวานหุบยิ้ม และพูดว่า “ยังมาพูดอีก ครั้งก่อนบอกว่าคุณชายน้อย อยู่เมืองน้ำรุ้ง แต่พอฉันไป ก็ไม่เจอเบาะแสของคุณชายน้อยสักนิด จะหายังไงล่ะ”

ชายคนนั้นเงียบไป “พอแล้วๆ จะเสียงดังทำไม สรุปแล้วแกรีบหาตัวคุณชายน้อย นายท่านคงทนได้อีกไม่นานแล้ว”

“เข้าใจแล้ว” ชาหวานรับปากอย่างไม่ค่อยเต็มใจ

เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จ เธอจัดการก้นบุหรี่ และเดินกลับเข้าไปในห้องอาหาร

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู ก็เห็นพวกประธานธนาคารเดินออกมา

มายมิ้นท์เดินตามหลังพวกเขามา เธอส่งพวกเขากลับพร้อมรอยยิ้ม

แต่ชาหวานมองออก รอยยิ้มของเธอดูฝืน และแฝงไปด้วยความเศร้า

“ประธานมายมิ้นท์” เมื่อประธานพวกนั้นกลับไป ชาหวานจึงเอ่ยถาม “คุยเป็นยังไงบ้างคะ”

มายมิ้นท์เดินกลับเข้าไปนั่งในห้องอาหาร “ไม่ได้ผล พวกเขาไม่ยอม แต่ฉันขอเวลาไว้สามวัน พวกเขาให้เทนเดอร์กรุ๊ป คืนเงินทั้งหมดภายในเวลาสามวัน”

“สามวัน……” ชาหวานยกยิ้มมุมปาก “เพียงพอแล้ว!”

“หมายความว่ายังไง” มายมิ้นท์มองเธอด้วยสีหน้าสงสัย

ชาหวานยิ้มและพูดว่า “วางใจเถอะประธาน ฉันรับรองว่าหลังจากสามวัน ธนาคารพวกนี้จะไม่ทวงเงินอีก ส่วนพวกธนาคารที่ไม่ยอมให้กู้ ก็จะเปลี่ยนใจให้เรากู้ เพราะตระกูลเสนาประกรประสบปัญหา”

เมื่อเห็นสีหน้าแน่วแน่ของเธอ เหมือนมายมิ้นท์รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง “เธอไปทำอะไรมาหรือเปล่า”

ชาหวานยิ้ม และไม่ได้พูดอะไร

มายมิ้นท์แน่ใจแล้วว่าฐานะของชาหวานไม่ธรรมดา

เมื่อกี้เธอคงออกไปคุยเรื่องสำคัญ

เมื่อคิดได้เช่นนี้ มายมิ้นท์ลุกขึ้น และโค้งให้ชาหวาน

ชาหวานตกใจจนสะดุ้ง และรีบลุกขึ้นเช่นกัน “ประธานทำอะไรคะเนี่ย”