กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 539
ในลานแสดงยุทธ์ เผ่าเพลิงฟ้านำโดยเหวินเส่าอี๋ และรองหัวหน้าเผ่าอาวุโสซือคง พาผู้คนทยอยกันมา

สีหน้าของผู้อาวุโสซือคงดูเคร่งขรึม นัยน์ตาคมกริบ และทั่วทั้งร่างกายของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น ดูจากท่าทางการเดินของเขาก็รู้ว่าเป็นยอดฝีมือ

เมื่อมองไปที่เหวินเส่าอี๋อีกครั้ง เสื้อผ้าสีขาวราวกับหิมะของเขา ทำให้เขาดูสง่างามและน่าเกรงขาม

เหวินเส่าอี๋สวมหน้ากากผีเสื้อ จึงมองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา แต่เขาเป็นคนที่ไม่ธรรมดา แม้ว่าจะยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน แต่เขาก็สามารถดึงดูดสายตาของผู้คนได้

เหวินเส่าอี๋อบอุ่นราวกับหยก มุมปากของเขามีรอยยิ้มจาง ๆ เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้น ผู้หญิงจำนวนมากที่มาร่วมงานต่างก็ถูกดึงดูด

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อต้อนรับ

“รองหัวหน้าเผ่าซือคง นายน้อยเหวิน ไม่ได้เจอกันนานเลย ไม่ทราบว่าช่วงนี้สบายดีหรือไม่?”

รองหัวหน้าเผ่าคงยิ้มเล็กน้อย และจ้องไปที่เยี่ยจิ่งหานด้วยสายตาที่ไร้ความปรานี “ขอบคุณผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลาน พวกเราสบายดี หากผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานไม่ได้เชิญใครบางคนมาร่วมด้วย เผ่าเพลิงฟ้าของเราก็คงจะสบายดีกว่านี้”

ใครก็ตามที่มีวิสัยทัศน์เพียงเล็กน้อยก็จะรู้ว่ารองหัวหน้าเผ่าซือคงกำลังมุ่งเป้าไปที่เยี่ยจิ่งหาน

ไม่รู้ว่าเผ่าเพลิงฟ้ามีความแค้นอะไรกับเยี่ยจิ่งหาน ทั้งสองฝ่ายถึงได้ฟาดฟันกันด้วยสายตาอยู่หลายครั้ง และทุกคนต่างก็รับรู้

พวกเขาเพียงแค่คิดว่าการมาเข้าร่วมการชุมนุมแบ่งปันยาอายุวัฒนะในครั้งนี้ นอกจากนายน้อยของเผ่าอื่น ๆ แล้ว ก็ยังมีรองหัวหน้าเผ่าซือคง

รองหัวหน้าเผ่าซือคงกระทำการอย่างไม่ไว้หน้าใครทั้งสิ้น และโหดเหี้ยมอำมหิต ทั่วทั้งใต้หล้าไม่มีใครไม่รู้

“นี่……” ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานปาดเหงื่อ

นี่มันเกิดอะไรขึ้น ความวัวยังไม่หาย ความควายเข้ามาแทรก

ดูเหมือนว่าต่อไปจะต้องเลือกเชิญคน

เยี่ยจิ่งหานยิ้มเยาะและกล่าวว่า “ข้าก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็เป็นรองหัวหน้าเผ่าซือคงและนายน้อย ครั้งก่อนที่พวกท่านหนีออกไปจากหุบเขาน่าหลาน ต้องยอมจ่ายค่าเสียหายไม่น้อย”

เมื่อผู้คนได้ยินก็ตกตะลึง

รอยยิ้มที่มุมปากของเหวินเส่าอี๋หยุดชะงัก

ใบหน้าของรองหัวหน้าเผ่าซือคงโหดเหี้ยมอำมหิตและเยือกเย็น เขากำมือแน่นดังเอี๊ยด ๆ

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดี และกลัวว่าพวกเขาจะทะเลาะกัน เขาจึงรีบกล่าวว่า “ทุกท่าน ๆ ครั้งนี้หุบเขาต้นหุยของเรากลั่นยาใหม่ ๆ มามากมาย พวกเรามาร่วมสนุกกันจะดีกว่า”

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานหมายความว่า ความบาดหมางส่วนตัวของพวกเจ้า สามารถพักไว้ก่อนได้หรือไม่?

รองหัวหน้าเผ่าซือคงปกปิดเจตนาฆ่าของเขา และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานกล่าวเช่นนี้ เช่นนั้นข้าก็จะไว้หน้าผู้นำแห่งหุบเขา”

ในขณะที่พูด คนของเผ่าเพลิงฟ้าก็เริ่มมองหาที่นั่ง

ตำแหน่งด้านบนจัดไว้สำหรับหุบเขาต้นหุย

ตำแหน่งด้านบนทางซ้ายคือเผ่าเพลิงฟ้า ตำแหน่งที่สองคือเผ่าน้ำแข็ง และตำแหน่งที่สามคือหออันดับหนึ่งในใต้หล้า

ตำแหน่งด้านบนทางขวาคือเผ่าหยก ตำแหน่งที่สองคือเยี่ยจิ่งหาน และตำแหน่งที่สามคือเผ่าปีศาจ

คนของเผ่าเพลิงฟ้านั่งลงทางซ้าย แต่จอมมารขวางทางเดินของพวกเขา

จอมมารกล่าวอย่างมีเจตนาแอบแฝง “ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลาน ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับจอมมารของเรา?”

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “ตันหุยกู่และเผ่าปีศาจไม่มีความแค้นต่อกัน ไม่ทราบว่าเผ่าปีศาจหมายความว่าอย่างไร?”

“ทำไมเยี่ยจิ่งหานถึงได้นั่งในตำแหน่งที่สอง และข้าได้นั่งในตำแหน่งที่สาม ยิ่งไปกว่านั้น เหตุใตต้องจัดที่นั่งนี้ให้ข้ากับเขานั่งด้วยกัน ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลาน เจ้าจงใจจะกลั่นแกล้งข้าใช่หรือไม่?”

เมื่อชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกร้อนท้อง

ในหัวของจอมมารมีแต่หลุมใช่หรือไม่ ถึงได้มุ่งเป้าไปที่นายท่าน

พวกเขาคารวะ “นายท่าน จอมมาร…”

เยี่ยจิ่งหานยื่นมือออกไป เพื่อบอกให้พวกเขาหุบปาก

เมื่อเทียบเผ่าปีศาจกับเผ่าเพลิงฟ้าแล้ว เผ่าเพลิงฟ้าต่างหากที่เป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา

หากเขาเผชิญหน้ากับเผ่าปีศาจในเวลานี้ เขาก็คงจะสิ้นเปลืองพละกำลังไปเปล่า ๆ

และพวกเขาจะต้องต่อสู้กับเผ่าเพลิงฟ้า

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานคิดไม่ถึงว่าจอมมารจะไม่พอใจเพียงเพราะตำแหน่งที่นั่ง ตำแหน่งทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา เป็นตำแหน่งของผู้ที่ทรงพลังและมีชื่อเสียง ไม่ว่าจะฝั่งไหนพวกเขาก็ไม่สามารถยั่วยุได้

ในตอนที่จัดที่นั่ง ไม่คิดเลยว่าจอมมารจะไม่พอใจที่ได้นั่งด้วยกันกับเย่จิงหานมากขนาดนี้

“เช่นนั้นจอมมารก็นั่งในตำแหน่งที่สามทางฝั่งซ้าย?”

“ในสายตาของท่าน ข้าอ่อนแอมากเช่นนั้นเลยหรือ ถึงได้เหมาะสมกับตำแหน่งที่สาม?”

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานปาดเหงื่อ

ก่อนตำแหน่งที่สามทางฝั่งซ้าย ตำแหน่งแรกคือเผ่าเพลิงฟ้า และตำแหน่งที่สองคืเผ่าน้ำแข็ง ทั้งเผ่าเพลิงฟ้าและเผ่าน้ำแข็งต่างก็มาแล้ว ในอนาคตผู้ที่จะเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้าอาจจเปลี่ยนกับจอมมารก็ได้

บังเอิญ……

ไป๋จิ่นยิ้มและกล่าวว่า “มันก็เป็นแค่ตำแหน่งที่นั่ง เผ่าน้ำแข็งเต็มใจที่จะนั่งในตำแหน่งที่สาม”

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานเหลือบมองไป๋จินอย่างประทับใจ

ใครจะไปรู้ว่าจอมมารจะยังไม่ยอมแพ้ “เผ่าปีศาจของเราด้อยกว่าเผ่าเพลิงฟ้ามากเลยหรือ?หรือว่าคู่ควรกับการเป็นที่สอง?”

เอ่อ……

เดิมทีเขาก็ต้องการตำแหน่งแรก นั่งในตำแหน่งแรกย่อมมีหน้ามีตา มีใครไม่รู้บ้างว่าในตำแหน่งต่าง ๆ ก็มีอำนาจและความแข็งแกร่งที่ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก และฝีมือก็พอ ๆ กัน

ในเมื่อจอมมารกล่าวเช่นนี้ จุดประสงค์ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

เผ่าน้ำแข็งเต็มใจ แต่เผ่าเพลิงฟ้าปฏิเสธ

รองหัวหน้าเผ่าซือคงยิ้มเยาะและกล่าวว่า “เผ่าเพลิงฟ้าของเราเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางไกล เชิญจอมมารดูแลตัวเองเถอะ”

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานกลัวว่าพวกเขาจะทะเลาะกัน เขาจึงทำได้เพียงกล่าวว่า “จอมมาร เช่นนั้นท่านก็มาที่นั่งที่ตำแหน่งด้านบนทางขวาเถิด”

จอมมารดูถูกเหยียดหยาม “ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลาน ท่านไม่เข้าใจสิ่งที่ข้าพูดหรือ ข้าไม่ต้องการที่จะนั่งข้าง ๆจากเยี่ยจิ่งหาน”

เยี่ยจิ่งหานหมุนขลุ่ยหยกขาวอย่างเกียจคร้านและกล่าวว่า “ข้าเหนื่อยแล้ว และไม่อยากจะย้ายที่นั่ง”

บรรยากาศเริ่มอึดอัดขึ้นมาในทันที

จอมมารไม่ยอมนั่งข้าง ๆจากเยี่ยจิ่งหาน และต้องการจะนั่งในตำแหน่งแรก

เยี่ยจิ่งหานไม่ยอมย้ายที่นั่ง

และเผ่าเพลิงฟ้าก็ไม่ยอมที่จะสละที่นั่งในตำแหน่งแรก

นี่……

นี่จะไม่เป็นการทำให้หุบเขาต้นหุยของพวกเขาต้องลำบากใจหรือ?

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานทนไม่ไหว และกล่าวอย่างฉุนเฉียวว่า “ที่นั่งตำแหน่งแรกทางฝั่งซ้าย ท่านจะยอมนั่งหรือไม่นั่ง?”

“ทำไม หุบเขาต้นหุยของพวกเจ้าถึงดูถูกข้าเช่นนี้” นัยน์ตาที่มีเสน่ห์ของจอมมารหรี่ลงในทันที และบรรยากาศในลานประลองยุทธิ์ก็ย่ำแย่ลง

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะกลัดกลุ้ม

จอมมาต้องการจะแตกหักกับหุบเขาต้นหุยงั้นหรือ?

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานกัดฟันและกล่าวว่า “จอมมาร ท่านไปนั่งบนแท่นสูงนั่นเถอะ จะได้นั่งอยู่ในระดับเดียวกับพวกเรา ดีหรือไม่?”

ที่นั่งหลักบนแท่นสูงมักจะเป็นที่นั่งของเจ้าบ้าน หากให้แขกไปนั่งบนที่นั่งหลัก ถือว่าเป้นการไม่ให่เกียรติอย่างยิ่ง

จอมมารพยักหน้าอย่างพอใจ

นั่งบนแท่นสูง เหนือกว่าเยี่ยจิ่งหาน นับว่าเป็นการดี

รองหัวหน้าเผ่าซือคงไม่พอใจ “ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลาน ท่านยอมให้จอมมารนั่งในตำแหน่งแรก ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเห็นด้วย การชุมนุมกลั่นยาในครั้งนี้ ให้เผ่าปีศาจมีอำนาจสูงสุดงั้นหรือ?”

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานตกตะลึง

ให้เผ่าปีศาจมีอำนาจสูงสุด?

ที่นี่คือที่ไหนกัน

เขาเพียงแค่ต้องการจะจัดการจอมมารให้ดี จะได้ไม่ต้องเลือกหลายครั้งหลายคราว

ในเวลานี้การชุมนุมแบ่งปันยาอายุวัฒนะได้มาถึงแล้ว

ยังคงมีคนพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง

“ใช่ ให้จอมมารนั่งในตำแหน่งแรก ไม่เท่ากับว่าให้ข้ายอมสวามิภักดิ์ต่อเผ่าปีศาจหรือ?”

“แม้ว่าเผ่าปีศาจจะแข็งแกร่ง แต่……ก็ไม่ได้……”

“ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลาน เช่นนั้น ท่านจัดเรียงตำแหน่งใหม่จะดีกว่า”

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานสับสนไปหมดแล้ว และแทบอยากจะยกเลิกการชุมนุมแบ่งปันยาอายุวัฒนะในครั้งนี้

เขาเพียงแค่ต้องการจะจัดการชุมนุม ทำไมถึงได้ยากเย็นขนาดนี้

ให้เขาจัด?

เขาจะจัดอย่างไร?

เยี่ยจิ่งหานปฏิเสธที่จะย้ายที่นั่ง จึงเป็นไปไม่ได้เลย

หากในครั้งนี้เผ่าเพลิงฟ้ามีเพียงเหวินเส่าอี๋คนเดียวที่มา เช่นนั้นก็จะตกลงกันได้ง่ายขึ้น

แต่รองหัวหน้าเผ่าซือคงก็มาด้วย

ใครไม่รู้บ้างว่ารองหัวหน้าเผ่าซือคงให้ความสำคัญกับลาภยศและชื่อเสียงมาโดยตลอด เขาต้องการเป็นที่หนึ่ง และเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่เขาจะยอมเสียที่หนึ่งไป