เมื่อเห็นผู้อาวุโสเหยาและเหล่าศิษย์ก้มหัวลง ผู้อาวุโสซวนจึงพูดโดยไม่เปิดเผยตัวตนว่า

“ถ้าเจ้าคิดว่าการก้มหัวของเจ้าจะช่วยแก้ปัญหาทุกอย่างได้ โลกนี้จะไม่วุ่นวายและอันตรายงั้นหรอ”

“โปรดยกโทษให้พวกเราด้วยผู้อาวุโสใหญ่พวกเราคิดผิด! พวกเราไม่รู้ว่าศิษย์ชั้นนอกคนนี้ได้รับมอบหมายให้มาที่นี่โดยท่าน!” เฉียวคังก็พูดขึ้น

“ข้าได้ถามความเห็นของเจ้าหรือยัง” ผู้อาวุโสซวนตอบด้วยน้ำเสียงเฉยเมย

ครู่หนึ่งผู้อาวุโสซวนกล่าวต่อ

“ศิษย์ทุกคนที่นี่จะถูกลงโทษด้วยการกักขัง 1 เดือนภายในถ้ำแห่งการสำนึกผิด”

“สำหรับเจ้าผู้อาวุโสเหยา…เนื่องจากเจ้าอยู่ในห้องโถงวินัย ข้าจะปล่อยให้หัวหน้าของเจ้าตัดสินลงโทษเจ้า และก่อนที่เจ้าจะจากไป ข้าอยากให้เจ้าจำสิ่งที่ออกมาจากปากของข้าต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ในวันนี้ไม่ได้เกิดขึ้น เจ้าเข้าใจข้าไหม ข้าไม่เคยมาที่นี่และเจ้าไม่เคยพบกับศิษย์ชั้นนอกคนนี้ด้วย”

“ถ้าข้าได้ยินแม้แต่ศิษย์คนเดียวที่ไม่ได้อยู่ในที่นี่ตอนนี้พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ เจ้าสามารถคาดหวังการไปเยี่ยมอีกครั้งจากข้า และข้าจะไปที่นั่นด้วยตัวเองเมื่อเวลานั้นมาถึง”

“พวกเราเข้าใจแล้วครับท่านผู้อาวุโสใหญ่! พวกเราจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้!”

ผู้อาวุโสเหยาและเหล่าศิษย์ที่ก้มหัวอยู่ที่นั่นตอบด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว

“ดี ออกไปให้พ้นสายตาของข้า!” เสียงของผู้อาวุโสซวนดังขึ้นภายในหัวของศิษย์และผู้อาวุโสเหยาเกือบทำให้พวกเขาหมดสติด้วยน้ำเสียงอันทรงพลังของเขา

วินาทีถัดมาเมื่อพวกเขาสามารถยืนได้อีกครั้ง พวกศิษย์และผู้อาวุโสเหยาก็วิ่งหนีเหมือนฝูงกระต่ายที่หวาดกลัวต่อหน้าเสือ

เมื่อพวกเขาหายไปหมดแล้ว ผู้อาวุโสซวนก็พูดอีกครั้ง

“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหมศิษย์หยวน ข้าขอโทษสำหรับเรื่องในตอนนี้ แม้ว่าศิษย์จะโต้เถียงกันเป็นเรื่องปกติ แต่มันควรเป็นเรื่องปกติที่ผู้อาวุโสในนิกายจะกลั่นแกล้งศิษย์ไม่ได้”

“อย่ากังวลไปเลยผู้อาวุโสซวนมันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีแอปเปิ้ลที่ไม่ดีสองสามผลไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม” หยวนกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มที่สงบบนใบหน้าของเขา

“เจ้ารับมือกับสถานการณ์นี้ได้ดีกว่าที่ข้า ตอนที่ข้ายังเป็นศิษย์อยู่ซะอีกและข้าขอขอบคุณเจ้าสำหรับสิ่งนั้น คนส่วนใหญ่ส่งผลให้เกิดความรุนแรงอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาเกิดความไม่ลงรอยกันและนั่นเป็นลักษณะที่ผู้ฝึกฝนจำนวนมากมี อย่างไรก็ตามตอนนี้ข้าต้องกลับไปทำธุรกิจของตัวเองแล้ว ถ้าเจ้าเจอสถานการณ์ที่คล้ายกันอีกก็สามารถทำให้พวกเขาตกใจเล็กน้อยด้วยพลังของเจ้า ตราบเท่าที่เจ้าไม่ฆ่าพวกเขา นี่เป็นเพียงวิธีการของโลกแห่งการฝึกฝน เนื่องจากการข่มขู่ได้ผลดีกว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นจริงในกรณีส่วนใหญ่ “

“แต่หากผู้อาวุโสของนิกายมีส่วนเกี่ยวข้องเช่นวันนี้ จะเป็นการดีที่สุดหากเจ้าติดต่อพวกเราคนใดคนหนึ่งทันทีเพื่อช่วยเหลือเจ้า แม้ว่าเราจะไม่แสดงตัวแต่เราจะทำให้เจ้าปลอดภัยอย่างแน่นอน”

“การข่มขู่ด้วยความรุนแรง…ข้าจะจำไว้เสมอผู้อาวุโสซวน ขอบคุณท่านมากที่ช่วยข้าในวันนี้ หยวนก้มหน้าคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้าอีกครั้งเขารู้สึกราวกับว่าวันนี้เขาได้เรียนรู้บางสิ่งที่สำคัญ

“ไม่เป็นไรๆ…. ฮ่าฮ่าฮ่า…” เสียงของผู้อาวุโสซวนฟังราวกับว่ามันกำลังจะห่างออกไปมากขึ้นทำให้หยวนตกตะลึง

เมื่อหยวนไม่สามารถได้ยินเสียงหัวเราะของผู้อาวุโสซวนได้อีกต่อไป หยวนก็กลับไปที่ห้องของเขาและนั่งลงบนเตียงขนาดใหญ่ที่นุ่มสบายก่อนจะหยิบหนังสือคู่มือออกมา และอ่านมันในขณะที่เขากำลังทำอยู่ก่อนจะถูกขัดจังหวะโดยผู้อาวุโสเหยาและคนอื่นๆ

ในขณะเดียวกันภายในห้องของนางฟ้าหมินหญิงสาวที่สวยงามยังคงยืนอยู่ข้างหน้าต่างพร้อมกับทำหน้ามึนงง

“ศิษย์หยวนงั้นหรอ ข้าจำชื่อนี้ไม่ได้เลยเขาเป็นใครเขามาจากตระกูลไหน? และเขามีความเกี่ยวพันกับผู้อาวุโสใหญ่เช่นไร แม้ว่าผู้อาวุโสใหญ่จะบอกว่าศิษย์ชั้นนอกคนนั้นคือ เพื่อนของหลานสาวของเขา แต่บทสนทนาของพวกเขาฟังดูเหมือนเป็นเพื่อนสนิทจริงๆ! ” หมินลี่พึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงที่งงงวยเธอรู้สึกว่าเธอสนใจเขาเล็กน้อย

ในเวลาต่อมาที่ห้องโถงวินัยผู้อาวุโสเหยาเข้าไปในห้องของไป๋หลิงหลังจากที่เขาถูกเรียกตัว

“สวัสดีครับท่านผู้อาวุโสไป๋!” ผู้อาวุโสเหยาโค้งคำนับเขาด้วยความเคารพและหลังของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ

“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงเรียกเจ้ามาที่นี่” ไป๋หลิงไม่สนใจคำทักทายของเขาและถามเขาด้วยน้ำเสียงที่สงบ

“ใช่ข้ารู้!” ผู้อาวุโสเหยาตอบหลังจากเงียบไปชั่วครู่

“ดีแล้วนี่จะทำให้เราทั้งสองคนคุยกันง่ายขึ้นมาก” ไป๋หลิงลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปที่หน้าต่างก่อนที่จะจ้องมองไปข้างนอกด้วยสีหน้างุนงง

“วันนี้เจ้ามีความคิดว่าเจ้าทำอะไรผิดไปบ้างไหมผู้อาวุโสเหยา” ไป๋หลิงถามเขาครู่ต่อมา

“ใช่ ข้าผิดไปแล้ว!” ผู้อาวุโสเหยารีบตอบ

“อย่างน้อยเจ้าก็ซื่อสัตย์ละนะ” ไป๋หลิงพยักหน้าและพูดต่อ

“ศิษย์ชั้นนอกคนนั้น…ตอนนี้เจ้าอาจยังไม่รู้จักเขา แต่ข้ารับรองได้ว่าเจ้าจะรู้จักเขาในอนาคตอันใกล้นี้ และข้ายินดีที่จะเดิมพันตำแหน่งของข้าในฐานะผู้นำของห้องโถงวินัยว่าเจ้าจะต้องเสียใจกับสิ่งที่เจ้าทำในวันนี้”

ผู้อาวุโสเหยามองเขาด้วยสายตาประหลาดใจและเขากล่าวว่า

“โปรดให้ความกระจ่างแก่คนที่โง่เขลาคนนี้ด้วยเถิดท่านผู้นำไป๋! ศิษย์ของนิกายชั้นนอกคนนั้นเป็นใครกัน และทำไมผู้อาวุโสใหญ่ซวนถึงปกป้องเขา?”

“…”

อย่างไรก็ตามไป๋หลิงไม่ตอบคำถามของเขาและยังคงพูดต่อไปราวกับว่าเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน

“ข้าจะให้เจ้าสองทางเลือกผู้อาวุโสเหยาสำหรับความผิดของเจ้าในวันนี้ ข้าสามารถแจ้งให้หัวหน้านิกายทราบเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ เพื่อให้เขาสามารถลงโทษตัวเจ้าเอง หรือเจ้าสามารถไปที่สถานที่การบรรยายให้ศิษย์ และกินรองเท้าของเจ้าต่อหน้าศิษย์ทุกคนที่นั่น มันเป็นการตัดสินใจของเจ้า”

“ท่านพูดอะไรน่ะ?!” ผู้อาวุโสเหยาร้องเสียงดังด้วยความไม่เชื่อบนใบหน้าของเขา

เหตุใดผู้อาวุโสไป๋หลิงจึงต้องนำผู้นำนิกายมาเกี่ยวข้องกับศิษย์ชั้นนอกเพียงคนเดียวนี้! ไม่ใช่ว่าเขาจะฆ่าศิษย์คนนี้! นี่มันไร้สาระ! พวกเขาจะปฏิบัติอย่างงี้ต่อผู้อาวุโสในนิกายอย่างเขาได้อย่างไร เพราะศิษย์ชั้นนอกคนนั้นเพียงคนเดียวงั้นหรือ?! สิ่งนี้มันไม่สมเหตุสมผลเลย!